ทำไม Tokyo 2020 ถึงเป็นโอลิมปิกส์ที่คนประทับใจมากที่สุด

เพิ่งจบกันไปเมื่อวานเลย สำหรับงานปิดการแข่งขัน Olympic Games 2020 ที่ปีนี้จัดที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แม้จะถูกเลื่อนมาหนึ่งปีเพราะโควิด-19 หลายๆ อย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงไป แม้ตอนนี้ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการแข่งขันโอลิมปิกในอีกสามปีข้างหน้า #Paris2024 ที่ปารีส ฝรั่งเศส

เรามาย้อนดูกันก่อนดีกว่าว่าทำไมโอลิมปิก Tokyo2020 เป็นการแข่งขันครั้งแรกที่ไม่มีผู้ชมในสนาม แต่กลับเป็นการแข่งขันที่สร้างความประทับใจให้กับคนทั่วโลกมากที่สุดเลยก็ว่าได้

1. การจัดงานแบบญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น

เมื่อได้ดูการจัดการแข่งขันและการจัดงานที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพแล้ว สอดแทรกดีเทลเล็กๆ ที่ใครมองก็ต้องคิดเหมือนกันว่า "นี่มันญี่ปุ๊นญุ่ปุ่น" ความยูนีคและเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้แหละ ที่ดูแล้วเออ ญี่ปุ่นมันญี่ปุ่นจริงๆ

ไม่หวั่นต่ออุปสรรค

เจ้าภาพโอลิมปิกปีนี้เจอศึกหนักจริงๆ ทั้งจากโรคระบาดโควิดทำให้ไม่สามารถขายตั๋ว ให้คนทั่วไปเข้าชมการแข่งขันได้  แถมยังมีม็อบประท้วงจากคนญี่ปุ่นเอง ที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดงาน เพราะโควิดในญี่ปุ่นยังระบาดอยู่ คนฉีดวัคซีนไม่เยอะ

แม้จะมีวัคซีน mRNA อย่างไฟเซอร์และโมเดอร์นา ก็มีคนไปฉีดน้อย ส่วนใหญ่อยากได้วัคซีนที่ญี่ปุ่นผลิตเองมากกว่า เพราะคนญี่ปุ่นแพ้ง่ายมากๆ ถ้าแพ้อาการแพ้ก็เลยรุนแรงกว่าชาติอื่น
แม้จะเจอกระแสกดดันจากหลายทาง ขายตั๋วไม่ได้สักใบ คนในประเทศก็ประท้วง ญี่ปุ่นแต่ก็ยังแสดงสปิริตยืนหยัดที่จะจัดต่อไป ถเพราะงานโอลิมปิก 4 ปีมีครั้ง และไม่ได้จะเป็นเจ้าภาพกันได้ง่ายๆ และแน่นอนว่าถ้ายกเลิกขึ้นมา โดนปรับเยอะมากๆ เช่นกัน

เผยแพร่ Pop Culture

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องมังงะและอะนิเมะมาก เรียกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ใครๆ ก็รู้จักญี่ปุ่น และอยากมาประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น เพลงอะนิเมะหลายเพลงก็ถูกเปิดระหว่างการแข่งขันรวมถึงในงานเปิดโอลิมปิก พอได้ยินปุ๊บก็รู้เลยว่ามาจากเรื่องไหน เช่นเพลงจากการ์ตูนเรื่อง Dragon Quest, Final Fantasy, Monster Hunter, Kingdom Hearts ก็ถูกเปิดในช่วงเปิดพิธีโอลิมปิก
และเพลงระหว่างการแข่งขัน เช่น ระหว่างการแข่งบาสเก็ตบอล เปิดเพลง Kimi ga Suki da to Sakebitai ซึ่งเป็นเพลงจากอะนิเมะเรื่องดังอย่าง Slam Dunk ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเล่นบาสเช่นกัน

ระหว่างการแข่งยิงธนู ก็เปิดเพลง Guren no Yumiya จากเรื่อง Attack on Titan เป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกเรื่องของญี่ปุ่น

พิธีเปิด-ปิดสุดอลัง

1.พิธีเปิดก็เรียกเสียงฮือฮาได้จนกลายเป็น Viral ทั่วโลก ในเรื่องการออกแบบโชว์ต้องยกให้ Pictogram ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ทั่วโลก
Pictogram นอกจากจะออกมาในรูปไอคอนแสดงถึงกีฬาทั้ง 50 ประเภทที่มีการแข่งขันในปีนี้แล้ว ยังมีการแสดงสดแบบ Long Take ที่ใช้คนจริงๆ ในการแสดงท่าทางสัญลักษณ์ของทั้ง 50 กีฬา ได้ใจผู้ชมไปทั่วโลก จนกลายเป็น Talk of th Town เลย
2. พิธีปิดก็อลังไม่แพ้กัน
ใช้เทคนิค CGI เนรมิตพิธีจบได้อย่างอลังการประหนึ่งมีเวทมนตร์ แม้คนในสนามจะไม่ได้เห็น แต่ผู้ชมทางบ้านทั่วโลกต่างได้เห็นความอลังการนี้

2. นักกีฬา

ไฮไลต์เด็ดที่สุดของการแข่งขันโอลิมปิกส์ Tokyo 2020 ก็คงต้องยกให้กับเหล่านักกีฬาสุดเก่ง ที่ได้ฝึกซ้อม โชว์ความสามารถในการแข่งขันกันทุกคน มีหลายคนแจ้งเกิดจากการแข่งขันครั้งนี้ และหลายๆ แมตช์ก็กลายเป็นแมตช์ประวัติศาสตร์สุดประทับใจ

ความสามารถ

นักกีฬาที่ได้มาแข่งโอลิมปิกส์ล้วนมีความสามารถ และเก่งกันทุกคนอยู่แล้ว เราหยิบบางส่วนที่ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ และโมเมนต์ดีๆ ให้กับทุกคนกัน
1. เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาไทยคนแรก ที่สามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันเทควันโดได้
2. โมมิจิ นิชิยะ สาวน้อยวัย 13 ปี ที่คว้าแชมป์สเก็ตบอร์ดหญิงมาครองได้สำเร็จเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์
3. Dr. Anna Kiesenhofer จากนักวิจัยชาวออสเตรีย สู่นักกีฬาจักรยานสมัครเล่น ด้วยใจรักในการปั่นจักรยนาน  จนได้เหรียญทองมาครอบครองในประเภทสตรีทหญิง
4. An San นักยิงธนูชาวเกาหลีใต้ ที่ได้สามเหรียญทองไปนอนกอดเป็นคนแรก ในการแข่งขันโอลิมปิกส์ และทุบสถิติคะแนนโอลิมปิกส์ แม้จะถูกโจมตีจากกระแส Anti-Feminist ในเกาหลีใต้ ก็กลับได้กำลังใจอย่างล้นหลาม
5. สุนิสา ลี ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก ที่สามารถได้เหรียญทองจากการแข่งขันยิมนาสติกประเภทอุปกรณ์รวม ไปครองได้สำเร็จ แม้จะต้องแบกรับความกดดัน แข่งแทน Simone Biles ที่ขอลาออกจากการแข่งขัน
6. แต้ว สุดาพร สีสอนดี นักมวยสากลหญิงคนแรกของไทย ที่สามารถคว้าเหรียญในการแข่งขันมาครองได้ แม้จะเป็นเหรียญทองแดง แต่ทั่วโลกต่างก็ได้รับรู้ถึงความสามารถ จากการตัดสินที่ค้านสายตา
7. Sydney McLaughlin นักวิ่งจากทีมชาติ USA ที่ชนะการวิ่งกระโดดข้ามรั้วหญิง ชนะยังไม่พอ แถมทำลายสถิติโลกทีตัวเองทำไว้ไปอีกกก

น้ำใจนักกีฬา

โมเมนต์ที่สร้างความประทับใจให้คนทั้งโลก และถือเป็นแมตช์ประวัติศาสตร์ ก็คือการแข่งกระโดดสูงชายรอบตัดสิน Barshim ทีมชาติกาตาร์ และ Tamberi จากทีมชาติอิตาลี กระโดดได้ที่ความสูง 2.37m เสมอกันอยู่ เมื่อทั้งคู่แข่งกันที่ความสูง 2.39m ไม่ผ่านโดยที่ Barshim กระโดดไม่ผ่านทั้งสามครั้ง ต่อมา Tamberi กระโดดต่อรอบที่สามก็ไม่ผ่านเช่นกัน 
กรรมการเลยเข้ามาคุยกับทั้งสองคนว่าจะแข่งต่อไปเรื่อยๆ เพื่อหาผู้ชนะก็ได้นะ Barshim ทีมชาติกาตาร์ เลยถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะได้เหรียญทองทั้งสองคน กรรมการก็บอกว่าเป็นไปได้ อยู่ที่การตัดสินใจของทั้งคู่ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็จับมือกอดกันดีใจ จนร้องไห้ออกมาที่ได้แชร์เหรียญทองร่วมกัน ซึ่งถือป็นครั้งแรกในรอบร้อยกว่าปีที่มีการแชร์เหรียญทองกัน (ครั้งล่าสุดคือปี ค.ศ.1912)
ความจริงแล้วทั้งสองคนก็รู้จักกันอยูแล้วจากการแข่งขันหลายแมตช์ทั่วโลก เรียกว่าก็เป็นคู่แข่งกันมานั่นแหละ สลับกันแพ้และชนะ จากสถิติ Barshim จะชนะมากกว่า และเคยทำสถิติกระโดดได้สูงถึง 2.4m ส่วน Tamberi ก็เคยผ่าตัดที่ขา เพิ่งกลับมาเล่นกีฬาอีกครั้งได้ไม่นาน เมื่อตัดสินใจแชร์เหรียญทองกัน ทั้งคู่ก็เลยดีใจมากๆ นั่นเอง

Mental Health ได้รับความสนใจ

หลายครั้งที่ปัญหาสุขภาพจิตถูกละเลยไป รวมถึงสุขภาพจิตของนักกีฬาด้วยเช่นกัน ต้องซ้อมหนักตั้งแต่ยังเด็ก แบกรับความกดดันความคาดหวังของทั้งประเทศ จนหนะกเกินกว่าจะรับไหว ก็ได้ทำให้ Simone Biles นักยิมนาสติกดาวเด่นจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักยิมนาสติกที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ ขอถอนตัวจากการแข่งขันกลางคัน
แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้แฟนๆ ช็อกไปตามๆ กัน แต่ทุกคนรวมถึงโค้ชและเพื่อนร่วมทีมก็เข้าใจ และเคารพการตัดสินใจของซีโมนส์ และทำให้ทุกคนหันมาสนใจปัญหาสุขภาพจิตของนักกีฬามากขึ้น Taylor Swift ก็ได้ทวีตชื่นชมความกล้าหาญของซีโมนส์เช่นกัน
และเทนนิสเอง ก็ได้ขอบคุณนักจิตวิยา คนที่ปิดทองหลังพระตัวจริง ที่มีส่วนช่วยให้เธอทำตามความฝันได้สำเร็จ ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่บ้านเราจะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับจิตใจของนักกีฬา รวมถึงคนทั่วไป

3. เข้าถึงการแข่งขันมากขึ้น

ในยุคนี้โซเชียลมีเดียก็ช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น จากแต่ก่อนที่ต้องรอดูหน้าจอทีวีเท่านั้น ตอนนี้ก็สามารถดูผ่านแอปพลิเคชั่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีทีวี และยังมีคลิปและรูปมากมายจากโซเชียลมีเดียของนักกีฬาเอง ช่วยให้เราเห็นเบื้องหลังของนักกีฬาและการแข่งขันมากขึ้น สามารถติดตามการแข่งขันได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องพึ่งสื่อหลัก 
ได้ทำให้เรารู้จักตัวตนและเห็นมุมอื่นๆ ของนักกีฬาได้ง่ายขึ้น เช่น Tom Daley นักกระโดดน้ำจากอังกฤษ ที่มีความสามารถพิเศษในการถักนิตติ้ง ทอมใช้เวลาในการรอแข่งถักนิตติ้ง ถือเป็นการช่วยเพิ่มสมาธิให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี และยังถักกระเป๋าใส่เหรียญทองของตัวเองด้วย

4. ความสุขในช่วงโควิด

สิ่งสำคัญที่การแข่งโอลิมปิกส์ให้กับพวกเรา ก็คือความบันเทิง ผ่อนคลายในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ และยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทุกเพศทุกวัย กว่านักกีฬาจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ผ่านความพยายามและการฝึกซ้อมอย่างหนัก อายุหรือเพศสภาพไม่ใช่อุปสรรค ถ้าเรามีใจรักและมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ 
ไหนจะนักกีฬาอีกหลายคนที่เป็นแฟนมังงะตัวยง "โอตะลิมปิก" ทำท่าตามตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบตอนแข่ง เช่น ท่าปล่อยพลังแบบดราก้อนบอลสุดฮิต ทำเอาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แฟนๆ ได้เป็นอย่างดี :)

Discussion (16)

ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ