เกาะติดชีวิตสร้างแรงบันดาลใจของแชมป์เหรียญทอง Tom Daley

45 8
การคว้าเหรียญทองในมหกรรมกีฬา Olympics คือเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับผู้คนมากมาย   ไม่ว่าจะประเทศไหน  ทุกเหรียญทอง (และเหรียญอื่น)คือเครื่องยืนยันความทุ่มเทของนักกีฬาและผู้ที่อยู่เบื้องหลัง     ซึ่วกว่าจะก้าวมาประสบความสำเร็จในระดับนี้ พวกเค้าต่างพิสูจน์ความสามารถที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นยอดมนุษย์

แต่กระแสตอบรับอื้ออึงหลังจาก Tom Daley นักกระโดดน้ำวัย 27 ได้คว้าเหรียญทองในการแข่งขันกระโดดน้ำชายคู่แพลทฟอร์ม 10 เมตรให้กับสหราชอาณาจักร อาจจะทำให้แฟนกีฬาบางคนตั้งคำถามว่า เหตุใด สื่อจึงได้แสดงความตื่นเต้นยินดีเป็นพิเศษ

คำตอบของเรื่องนี้เป็นเช่นไร
เราจะมาเจาะเส้นทางที่สร้างแรงบันดาลใจของหนุ่มคนนี้กันค่ะ


มีนักกีฬาไม่มากนักทีคว้าโอกาสลุ้นชัยชนะใน Olympics ได้สี่ครั้งติดต่อกัน เนื่องจากการแข่งขันกีฬาหลายประเภทนั้นยังตั้งอยู่บนข้อจำกัดเรื่องร่างกายของนักกีฬาที่จะเสื่อมถอยลงไปตามวัย ทั้งยังเป็นวงการที่มีการแข่งขันสูงลิบลิ่วจากการเฟ้นหาดาวเด่นดวงใหม่เพื่อเป็นทีมชาติอยู่เสมอ สำหรับ Tom ที่เข้าสู่วัยยี่สิบตอนปลายแล้ว เขายอมรับว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการคว้าเหรียญทอง

" ผมก็เหมือนกับเป็นคุณปู่ในวงการนี้ครับ สำหรับกีฬากระโดดน้ำ ผมก็เข้าวัยชราเลย  ผมยังรู้สึกหวาดๆทุกครั้งในการกระโดด เพราะการกระโดดน้ำจากแพลทฟอร์มสิบเมตรไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์ปกติเค้าทำกัน"

Tomที่มีอายุมากที่สุดในทีมนักกระโดดน้ำของ GBได้ยืนยันว่า ตราบใดที่ร่างกายยังไหว เขาจะมุ่งมั่นไปให้ถึงที่สุด

และเมื่อเขาได้จับคู่กับ Matty Lee    partner นักกระโดดน้ำรุ่นน้องที่เคยเป็นแฟนตัวยงของเขามาตั้งแต่เด็ก ก็ได้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมจนคว้าเหรียญทองOlympics ได้เป็นครั้งแรก  สำหรับเราที่ได้เห็นความเป๊ะของคู่หูแล้ว  ก็ต้องใจเต้นตอนรอผลคะแนนของคู่แข่งจากจีนไปด้วย  เพราะนักกระโดดน้ำจีนคือเต็งหนึ่งที่ต่างก็เคยคว้าเหรียญทอง Olympics ทั้งยังเป็นเคยเป็นแชมป์โลกมาแล้ว





ภาพของเด็กชายที่เคยถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะที่คว้าใจผู้คนได้อย่างรวดเร็ว

แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า  ไม่น่าแปลกใจที่สื่ออังกฤษจะโฟกัสที่ความสำเร็จของ Tom Daley มากกว่านักกระโดดน้ำคนอื่น  เพราะนอกจากจะโลดแล่นในวงการกีฬา เขายังสร้างชื่อเสียงในฐานะ  television personality   เรียกว่าโด่งดังไม่ใช่ย่อย  บางคนก็เชื่อว่า เพราะเขามีรูปลักษณ์ที่หล่อน่ารักมีเสน่ห์จนทำให้แฟนๆทุ่มเทให้ความสนใจ     แต่เรากลับมองว่า ชาวอังกฤษรู้สึกผูกพันกับ Tom  จากที่ได้เห็นเขาค่อยๆเติบโตจากนักกีฬาเยาวชนอนาคตของ Team GB มาติดทีมชาติถึงสี่ครั้งติดต่อกัน    เรียกได้ว่า  ติดตามมาตั้งแต่เป็นเด็กชายใสแบ๊วจนเติบใหญ่เป็นพ่อคน  
 Tom เผยว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงวัยเยาว์ ที่ตัวเองมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ถึงขั้นไม่ยอมปล่อยวางก็ทำให้ประหลาดใจมากเหมือนกัน  และถ้าลูกของเขาเริ่มแสดงท่าทีพูดจาแบบเดียวกันกับที่เขาเคยทำ  ก็จะคอยเตือนให้ลูกผ่อนคลายบ้าง และแนะนำให้ใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป  รู้จักหาความสนุกใส่ตัว    แต่ก็ยอมรับว่า   ภายในตัวของเขามีความกระหายบางอย่างที่จะก้าวสู่ชัยชนะ


( พ่อของ Tom ไม่ได้อยู่ชมความสำเร็จของเขา  เพราะเพียงไม่นานหลังจากที่สื่อยกให้เขาเป็นปรากฏการณ์ของวงการกีฬากระโดดน้ำ พ่อก็เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง) 




สร้างความฮือฮาจากสื่ออังกฤษด้วยการติดทีมชาติเป็นตัวแทน The UK ใน Beijing Games 2008 ในวัยเพียง 14
ดวงตาที่ส่องประกายความมุ่งมั่นของ Tom ที่ยังเป็นเด็กชายวัย 14 ในการแข่งขัน Olympics ปี 2008 อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความโด่งดัง  แม้แต่คนที่ไม่สนใจกีฬานี้ก็จดจำเขาได้   ด้วยส่วนสูงราวๆ 155 cm และน้ำหนัก 47 kg แตกต่างจากเด็กวัยทีนตะวันตกหลายคนที่ดูโตกว่าวัยส่งผลให้ได้รับฉายา Baby Daley  มีแฟนๆที่คอยเชียร์ด้วยความเอ็นดูและความอยากรู้อยากเห็นว่า นักกระโดดน้ำหนุ่มน้อยผู้นี้จะเบียดรุ่นพี่ที่เจนจัดประสบการณ์ไปคว้าเหรียญรางวัลได้หรือไม่    ว่ากันว่า  เขาคือนักกีฬาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดใน Beijing Games   เด่นกว่านักกีฬาเหรียญทองชื่อดังซะอีก



แบกรับความกดดัน เมื่อถูกรุ่นพี่โทษว่าเป็นต้นเหตุแห่งความพ่ายแพ้
เพราะเป็นนักกระโดดน้ำที่เด็กที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ ผลงานการกระโดดคู่แพลทฟอร์ม 10 เมตรที่จบลงที่อันดับ 8 และลำดับ  7 การกระโดดเดี่ยวจึงไม่ทำให้ผู้ชมประหลาดใจนัก   ด้วยความรู็สึกชื่นชมต่อเด็กชายที่เปรียบเป็นความหวังใหม่ของกีฬากระโดดน้ำของ Team GB  เขายังมีเวลาในการเตรียมตัวและฝึกฝนเพิ่มประสบการณ์ในการแข่งขันครั้งต่อไป


แต่ก็มีดราม่าตามมาเมื่อ Blake Aldridge partner กระโดดคู่ที่อายุมากกว่าถึง 12 ปี ได้โทษว่า Tom กดดันตัวเองมาก ทั้งๆที่ตามปกติแล้ว Tom จะมีผลงานที่โดดเด่นกว่าเขา แต่ในการแข่งครั้งสำคัญนี้ เขากลับเป็นฝ่ายที่มีผลงานเข้ารูปเข้ารอยมากกว่า และ Tomแสดงท่าทีวิตกกังวลหนัก ทำให้ยากที่จะทำให้เขาใจเย็นลงได้ ในการกระโดดครั้งสุดท้าย Tom ยังเหวี่ยงใส่เขาที่คุยโทรศัพท์กับแม่ว่า ไม่จดจ่อกับการแข่งขัน แต่เขากลับมองว่า รุ่นน้องไม่ควรใส่ใจเรื่องของเขา แต่กลับวิตกจริตไปซะทุกเรื่องจนทำให้เกิดความผิดพลาดในการแข่งขัน




สี่ปีต่อมาที่ Tom ที่ได้เป็นตัวแทน Team GB ลงแข่งขันใน London Games ได้เผยถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า


"Blake พลาดเอาหลังลงน้ำ แล้วเขาก็เริ่มอารมณ์เสียครับ เขาถามว่า ให้ตายเหอะ ทำไมเราถึงทำผลงานดีๆไม่ได้ ผมจึงใส่หูฟังแล้วทำใจจดจ่อ ผมมักจะฟังเพลงจังหวะสนุกๆเพื่อปลุกกำลังใจตัวเอง แล้วผมก็เห็นเขาคุยโทรศัพท์ พูดตรงๆ มันประหลาดนะที่มาคุยโทรศัพท์เอาในเวลานั้น   มันเป็นการแข่ง Olympic รอบสุดท้าย ผมว่าจะไม่พูดอะไรแล้วล่ะ แต่พอเอาหูฟังออกก็ได้ยินเขาพูดขอโทษแม่ว่าทำได้ไม่ดี และยังฟ้องแม่ว่า ผมทำอารมณ์เสียใส่ ผมจึงเตือนไปว่า วางโทรศัพท์ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ อย่าเพิ่งขอโทษแม่เลย เรามีการแข่งรออยู่และต้องโชว์ให้ทกคนได้เห็นความสามารถของเรา เขาก็ฟาดกลับมาว่า อย่ามาสั่งเขา เขาจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ผมได้แต่มองและเอาหูฟังเสียบหูเหมือนเดิม ในใจก็คิดว่า หัดโตสักทีเหอะ Blake"

Tom ยืนยันว่า เขาได้ยินในสิ่งที่ partner กล่าวโทษว่าผลงานแย่เพราะความผิดของเขาฝ่ายเดียว แม้จะรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมามันกลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ของทุกสื่อในอังกฤษ จนทำให้พวกเขาต้องช่วยกันให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่มันก็กลายเป็นเรื่องฉาวที่ย่ำแย่เกินแก้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทั้งสื่อและสาธารณชนจะเข้าข้างนักกระโดดน้ำรุ่นเยาว์ เพราะนอกจากดราม่าการใช้โทรศัพท์ก่อนแข่งกีฬาที่ต้องใช้สมาธิสูงนั้น หลายคนยังมองว่า การโทษ partner ออกสื่อ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเอาซะเลย




โด่งดังฉุดไม่อยู่จากภาพ shower ที่กลายเป็น viral


จาก  Baby Daley  กลายมาเป็น  Baby No More!        สี่ปีหลังจากที่ทำผลงานได้ไม่ดีใน  Beijing Games   ชื่อของ Tom Daley ก็ยิ่งดังกระหึ่มกว่าเดิมในการร่วมแข่ง Olympics ที่บ้านเกิด  หลังจากแฟนๆกีฬาต่างโจษจันในภาพการแข่งขันกระโดดน้ำทาง TV ที่แถบรายงานข้อมูลนักกีฬามาปิดทับจุดยุทธศาสตร์จนทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังยืนเปลือยเปล่าใต้ shower  รวมถึงสีหน้าสุดฟินที่ทำให้แฟนๆยิ่งกิ๊วก๊าว     เด็กน้อยตัวจิ๋วในวันนั้นกลายเป็นหนุ่มซะแล้ว    และนั่นทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างข้ามไปหลายประเทศทั่วโลก
Tomไม่ได้สร้างความฮือฮาใน social media เท่านั้น  ช่วงเวลาสี่ปีที่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การแข่งขันและฝึกซ้อมอย่างมุ่งมั่น   ความคาดหวังของผู้คนต่อนักกีฬาที่ถูกมองว่าเป็นเซเลบก็พุ่งสูงตามไปด้วย    ส่งผลให้การการแข่งขันก็มีดราม่า  เมื่อเขาตกในฐานะลำบาก เมื่อได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากสื่อ และสาดแฟลชถ่ายรูปเขาไม่ยอมหยุดจนทำให้เสียสมาธิ เขาใช้สิทธิ์ประท้วงเพื่อกระโดดอีกครั้ง    และแม้ว่าจะได้รับความยินยอมจากกรรมการจนได้โชว์การกระโดดที่สวยงาม แต่คะแนนรวมจากการกระโดดทุกรอบก็ไม่สามารถตีตื้นคู่แข่งและไปได้ถึงเหรียญทองแดง  ส่วนการกระโดดประเภทชายคู่ก็จบด้วยลำดับสี่

แต่เหรียญทองแดงของ Tom กลับสร้างบาดแผลบาดลึกในจิตใจ ทั้งๆที่เขาตื่นเต้นดีใจสุดขีดที่มาได้ไกลถึงเพียงนี้ในการแข่งขัน Olympic ครั้งที่ 2 แต่สำหรับคนบางคน นี่ไม่ใช่ผลงานที่ยอมรับได้และระบายความไม่พอใจใส่นักกีฬาดัง Tom ถูกชาวเน็ทรายหนึ่งคุกคามด้วยการส่งข้อความรุนแรงจนรู้สึกเครียดหนัก ผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งกล่าวหาว่า เพราะ Tomไม่ทุ่มเทเต็มที่จึงผิดพลาดใน Olympic ทำให้พ่อผู้ล่วงลับของเขารงมถึงคนทั้งประเทศต้องผิดหวัง และจิกกัดว่าเขาเป็นเด็กน้อยที่ริอาจจะมาแข่งขันกับผู้ใหญ่ นำไปสู่การลงรายชื่อนับหมื่นเพื่อแบน user นี้จาก Twitter


แต่เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นั้น...

แม้ว่าจะประสบความสำเร็จจนคว้าเหรียญทองแดง Olympic ได้ในวัยเพียง 18 แต่ความกดดันที่เกิดจากการเข้าแข่งขันส่งผลกระทบอย่างหนักจนทำให้ป่วยเป็น PTSD (สภาวะป่วยทางจิตใจหลังจากต้องเผชิญกับเหตุการณ์กระทบกระเทือนใจอย่างรุนแรง ) จากความฝังใจที่ต้องกระโดดซ้ำในการแข่งขันอันแสนกดดัน เขาบรรยายว่า แม้กรรมการจะบอกให้กระโดดได้อีกครั้ง แต่ความหวาดกลัวความผิดพลาดซ้ำสองต่อหน้าผู้คนมากมายก็ฝังแน่นในจิตใจ หลังจากนั้นก็เอาแต่เห็นแสงแฟลชในหัวจนไม่สามารถดึงตัวเองให้ฝึกซ้อมกระโดดน้ำได้ เริ่มคิดว่าอาจจะไม่เข้าร่วม Olympics ครั้งต่อไปและใช้ชีวิตแบเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ เขาต้องพบจิตแพทย์นักกีฬาหลังจากเหตุการณ์นั้น แต่อาการก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆจนโค้ชบอกให้หยุดพักไปท่องเที่ยวแปดอาทิตย์ ซึ่งมันกลายเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่เคยทำมา


ปัญหา mental health ในหมู่นักกีฬานั้นยังถูกละเลยจากบางกลุ่มในสังคม ดังกรณีของ Simone Biles หรือ Naomi Osaka ที่ถูกนักข่าวปากดี Piers Morgan โจมตีว่าพวกเธอสำออยไม่เข้าเรื่องและเห็นแก่ตัวจนทำให้คนอื่นผิดหวัง ซึ่งผู้ที่ใช้คำพูดไร้ความเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์เช่นนี้เลือกจะเพิกเฉยความจริงที่ว่า มีนักกีฬาหลายคนที่แบกรับกับความคาดหวังและเกิดความหวาดกลัวที่จะเกิดอันตรายในการฝึกและการแข่งขันหากร่างกายจิตใจไม่พร้อม และคนเหล่านี้คงไม่แยแสเลยว่า นักกีฬาที่ประสบความสำเร็จระดับ top อย่าง Michael Phelps ต้องเจ็บป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว ซึ่งอาการเริ่มปรากฏและย่ำแย่ลงเมื่อเข้าแข่งขัน Olympic นั่นเอง






Rio Games  สุดช็อคเมื่อไม่ผ่านเข้าไปชิงเหรียญในรอบสิบคนสุดท้ายในการแข่งขันประเภทเดี่ยว

แม้ในปี 2016 ในการกระโดดประเภทคู่จะทำให้ Tom คว้าเหรียญทองแดง Olympics มาครอบครอง แต่สำหรับการฉายเดี่ยวก็เกิดเรื่องพลิกล็อค หลังจากที่เขาทำคะแนนสูงนำมาเป็นที่หนึ่งในรอบคัดเลือกถึงขั้นที่ทำลายสถิติ Olympics ซะด้วยซ้ำ แต่ในวันต่อมา เขากับต้องพบกับความผิดพลาดในรอบรองชนะเลิศจนไม่ผ่านเข้าสู่รอบสิบคนสุดท้าย ผลงานที่ห่างไกลจากฟอร์มวันวันแรกทำให้เขาสับสนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น Tom เชื่อว่าทั้งการซ้อม ร่างกาย และจิตใจนั้นพร้อมเต็มที่ และมั่นใจได้ว่าจะทำคะแนนได้เพียงพอที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้าย แน่นอนว่า เจ้าตัวต้องโศกสลดกับผลการแข่งขัน

"เมื่อคิดถึงการทุ่มเททั้งสี่ปีที่ผ่านมา  มันยากที่จะทำใจยอมรับครับ"

"ใจของผมแหลกสลายไม่มีชิ้นดีเพราะผมเชื่อว่าในตอนนี้สภาพร่างกายของผมพร้อมในระดับสูงสุดและผมมีโอกาสคว้าชัยชนะได้"

Tom ยอมรับว่า นี่คือจุดที่อยู่ต่ำสุดสุดชีวิตนักกีฬา    แม้จะมีเหรียญทองแดงจากการกระโดดประเภทคู่ที่การันตีความสามารถ  แต่แทบไม่มีใครคาดมาก่อนว่า เขาจะตกรอบทั้งๆที่ทำคะแนนสูงลิบลิ่วมาก่อน   ส่วนผู้ที่สะเทือนใจมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นตัวเขาเอง เพราะต้องรับมือกับความทุกข์ที่โอกาสที่จะเอาชนะคู่ปรับจากจีนหลุดลอยไป  ทั้งๆที่เหรียญทองอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว



การเตรียมตัวสู่ 2020  Olympics   มุ่งเรียนรู้จากความล้มเหลว

สามเดือนหลังจากพลาดหวังใน Rio Tom ได้ประกาศว่า เขาพร้อมกลับมาสู้ใหม่ด้วยยุทธวิธีเพื่อก้าวไปสู่เหรียญทอง Olympic ครั้งต่อไป


" ผมเป็นคนประเภทที่กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาดด้วยการกลับมาตั้งต้นใหม่ทันที สำหรับผมแล้ว มีบทเรียนมากมายที่ต้องเรียนรู้ เพราะครั้งหนึ่งผมเคยผ่านการทำลายสถิติOlympic แต่วันต่อมามันก็ไร้ความหมายเพราะตกรอบซะงั้น"

"เราจะต้องกลับมาสู้ใหม่และแข็งแกร่งกว่าเดิม ผมรู้จักร่างกายของตัวเองดี และตอนนี้ก็รู้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง สิ่งสำคัญคือค่อยๆสร้างเสริมตัวเองโดยไม่เร่งร้อน เหรียญทองOlympicคือเป้าหมายที่ผลักดันผมอยู่ทุกๆวัน ผมจะมุ่งมั่นทุ่มเทเต็มที่จนกว่าจะได้เป็นแชมป์ Olympic ครับ"






2018  จับคู่กับ Matty Lee  อดีตแฟนรุ่นเยาว์ที่เคยเข้ามาขอลายเซ็น

สำหรับ Matty นี่คงเป็นเหมือนกับฝันที่เป็นจริง เมื่อได้กลายมาเป็น partner เข้าร่วมการแข่งขันกระโดดน้ำกับนักกีฬาที่เขาชื่นชม ช่วงที่ Tom ดังเปรี้ยงจาก Beijing Games เขาก็ได้มีโอกาสเข้าไปขอถ่ายรูปและลายเซ็นและอาจจะไม่คิดว่า จะมีวันที่ได้เข้าแข่งขัน Olympic ด้วยกัน Matty ใช้เวลาฝึกฝนความสามารถทางกีฬากระโดดน้ำจนก้าวมาเคียงบ่าเคียงไหล่กับไอดอลของเขาในปี 2018

และในที่สุด...


เหรียญทองมาแล้ว!

"ผมกระโดดน้ำมามากกว่ายี่สิบปี  ในที่สุดก็ได้คล้องเจ้านี่ที่คอครับ"

เส้นทางของ Tom เพื่อโลดแล่นสู่แชมป์ Olympic ที่เหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะนี้ทำให้หลายฝ่ายจับตามองการแข่งขันที่ญี่ปุ่น คู่แข่งของพวกเค้ามีความสามารถฉกาจฉกรรจ์และครองเหรียญทอง Olympic ที่ Tom ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่เมื่อคู่หูได้โชว์ผลงานสุดเป๊ะในการกระโดดครั้งสุดท้าย ทั้งโค้ชของพวกเค้าก็แสดงความตื่นเต้นดีใจที่แสดงออกถึงความเชื่อมั้นว่า Tom และ Matty จะเป็นผู้ชนะ แม้จะยังไม่เห็นผลงานและคะแนนของนักกระโดดน้ำจีนที่เบียดอย่างสูสีแบบหายใจรดต้นคอ

และสัญชาติญาณของโค้ชก็แม่นจริงๆ  พวกเค้าเอาชนะคู่แข่งที่น่าสะพรึงจากชาติมหาอำนาจในกีฬานี้มาได้   นี่คือเหรียญทองOlympic ครั้งแรกของทั้งคู่  แต่สำหรับ Tom ที่เข้าแข่งขันมาถึงสี่ครั้ง และรับมือกับความผิดหวังจนกระทั่งนี่อาจจะกลายเป็นโอกาสสุดท้ายในการทำความฝันที่จะเป็นแชมป์ Olympic ให้เป็นจริง  นี่คือสิ่งที่เขารอมานานเหลือเกิน


ชีวิตส่วนตัวที่ผู้คนอยากรู้อยากเห็น -  จากหนุ่มวัยทีนที่สร้างปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้กับการตัดสินใจเปิดเผยชีวิตรักกับผู้ชายด้วยกัน

ทั้งความสามารถและรูปร่างหน้าที่มีเสน่ห์มัดใจแฟนๆ ก็คงไม่น่าแปลกใจที่เขาได้ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นและปรากฏตัวทาง TVอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังรุ่งจากบทบาทของ internet influencer แต่การตัดสินใจของ Tom ในวัย 19 ปีที่เคยเดทกับสาวๆมาก่อน ได้เปิดเผยว่ากำลังคบหากับแฟนหนุ่มก็กลายเป็นข่าวใหญ่ประจำปี แม้แต่ครอบครัวของเขาก็คิดไม่ถึง มันอยู่ในช่วงเวลาที่เขากำลังเนื้อหอมสุดๆ แฟนหลายคนมองเขาไม่ต่างจาก pop star แต่สถานะคนดังไม่ได้หยุดยั้งให้เขาเก็บงำเรื่องรสนิยมทางเพศไว้เป็นความลับ Tom ประกาศว่าพบกับคนที่ใช่ที่เป็นเพศเดียวกัน และอธิบายว่า ยังชอบผู้หญิง แม้ตัวเองก็ประหลาดใจที่ตกหลุมรักกับผู้ชาย แต่ก็มีความสุขเป็นที่สุด

การพูดเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันอย่างตรงไปตรงมานั้นเรียกเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลาม แต่ก็ยังมีเพืื่อนฝูงคนใกล้ตัวที่เตือนให้เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยความเป็นห่วง นั่นเป็นเพราะว่า ในสังคมยังมีพวกเหยียดเพศทางเลือกอยู่นั่นเอง

"ผมเป็น Tom คนเดิม  ผมยังต้องการจะคว้าเหรียญทอง Olympicเพื่อสหราชอาณาจักร  ยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ และมันคงจะเยี่ยมมากหากมีพวกคุณร่วมเป็นกำลังใจในเส้นทางนี้ด้วย"


เมื่อสามปีก่อน  Tom ได้ใช้คำว่า Queer ระบุรสนิยมทางเพศในการให้สัมภาษณ์สื่อ  และล่าสุด เมื่อทำความฝันในการคว้าเหรียญทองOlympic ให้เป็นจริง  เขาก็ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงภาคภูมิใจที่เป็นgay



Tomเข้าพิธีวิวาห์กับ Dustin Lance Black เมื่ออายุ 23 ปี บางคนได้ตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับอายุของสามีนักเขียนบทหนังรางวัล Oscarที่มากกว่าTom ถึง 20 ปี แต่นับตั้งแต่ที่ได้รักกันมา เขาก็เรียนรู้ในการปล่อยวางเสียงวิจารณ์ของคนอื่นที่คิดกันไปได้สารพัด และเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องอายุที่แตกต่างกันแม้แต่น้อย

หลังจากที่ใช้ชีวิตคู่ได้กันราวๆหนึ่งปี พวกเค้าก็ตัดสินใจมีลูกด้วยกันจากวิธีอุ้มบุญ และตัดสินใจไม่เปิดเผยใบหน้าของน้อง "Robbie" Robert Ray Black-Daley ในโลกออนไลน์ แต่ก็เผยภาพสายใยครอบครัวที่อบอุ่นอยู่เสมอ
( Tom ตั้งชื่อลูกชายเพื่อเป็นการระลึกถึงพ่อสุดที่รักที่จากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร)


น้ำตาแห่งความภาคภูมิใจในการรับเหรียญทองนี้น่าจะอธิบายความรู้สึกทุกอย่างของผู้ชายที่ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อไล่ตามความฝัน แน่นอนว่า หนทางจะไม่ได้ราบรื่น และเกือบถอดใจเมื่อพบอุปสรรคหนักหน่วง ไม่เพียงแต่มีความสามารถโดดเด่นในระดับโลก แต่ยังต้องก้าวผ่านความท้าทายที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ รวมถึงแรงกดดันที่รุมเร้าจากภายนอก

แฟนๆเอาใจช่วยกันมานานขนาดข้ามทศวรรษ  จากความสำเร็จครั้งนี้ เชื่อมั่นว่า Tom คง complete แล้วจริงๆ


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE