เส้นทางคว้าเหรียญทองของนักกีฬาหญิง Olympics Tokyo 2020

45 9
ช่วงนี้การแข่งโอลิมปิกกำลังเป็นไปอย่างคึกคัก ถึงแม้จะมีอุปสรรคเป็นโรคโควิด-19 ก็ไม่ได้ทำให้การแข่งขันหยุดชะงักลงไป (แค่ถูกเลื่อนมาหนึ่งปี) เหล่านักกีฬาก็ก็เตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะคว้าชัยในสนามนี้

และในปีนี้เอง Olympic Tokyo 2020 ก็มีหลายประเด็นที่น่าประทับใจ นักกีฬาหลายคนก็สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเราได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักกีฬาหญิง ที่ปีนี้ปังกันหลายคนจริงๆ มาดูไฮไลท์เด็ดของเรากัน

1. เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

เราจะไม่พูดถึงคนนี้ไม่ได้เลย นั่นก็คือ "น้องเทนนิส" ของทุกคนนั่นเอง! เทนนิสคว้าเหรียญทองเหรียญแรกให้กับประเทศไทยในการแข่งขัน Olympics Tokyo 2020 และนับเป็นเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ไทย จากการแข่งขันโอลิมปิกอีกด้วย นับเป็นเหรียญทองที่ 10 ของไทยพอดิบพอดี ปังปุริเย่มากก! 
ถ้าใครได้ติดตามดูก็จะรู้สึกลุ้นมากก เพราะเทนนิสในวัย 24 ปี สามารถพลิกล็อคเอาชนะคู่แข่งจากสเปน อาเดรียนา เซเรโซ อิกเลซิอาส ในวัย 17 ปี ในช่วง 7 วิทนาทีสุดท้ายก่อนจบการแข่งขัน ด้วยคะแนน 11-10 เรียกได้ว่าฉิวเฉียด ลุ้นกันตัวโก่งมากก
ย้อนกลับไปสู่เส้นทางการเป็นนักเตะของเทนนิส เทนนิสในวัย 13 ปีได้ไปแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 27 ณ จังหวัดอุตรดิตถ์ ก็ได้ที่หนึ่งมาครอง ฝีมือก็ไปเตะตาโค้ชเชพอดี ทำให้ได้มาฝึกและเก็บตัวกับทีมชาติตั้งแต่ตอนนั้น
เมื่อก้าวเข้ามาสู่ทีมชาติไทยแล้ว ก็ได้ลงแข่งรายการต่างๆ มากมาย แต่รายการที่เทนนิสอยากได้เหรียญทองมาครอบครองมากที่สุดก็คือ "โอลิมปิกเกมส์" การแข่งขันโอลิมปิกในปี 2015 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เทนนิสก็พ่ายแพ้แก่ คิม โซ-ฮุย นักกีฬาชาวเกาหลีใต้ ทำให้ได้เหรียญทองแดงมาแทน ผ่านมา 5 ปี เทนนิสก็ได้ตั้งใจฝึกและพยายามอย่างหนัก จนในที่สุดวันนี้ความฝันของเทนนิสก็สำเร็จ แถมยังนำความสุขมาให้แก่คนไทยอีกด้วย

2. โมมิจิ นิชิยะ

โมมิจิ นิชิยะ สาวน้อยวัย 13 ปี 330 วัน จากญี่ปุ่น สามารถคว้าเหรียญทองแรกจากการแข่งขันสเก็ตบอร์ดหญิง ประเภทสตรีทไปครองด้วยคะแนน 15.26 เป็นกีฬาที่เพิ่งถูกจัดแข่งขันครั้งแรกในโอลิมปิก น้องนิชิยะถือเป็นแชมป์อายุน้อยที่สุดอีกคนในประวัติศาสตร์โอลิมปิก! (แชมป์เหรียญทองที่อายุน้อยที่สุดคือ มาร์จอรี เกสตรินเกรเมนส์ นักกระโดดน้ำจากสหรัฐอเมริกาในปี 1936 ด้วยวัย 13 ปี 268 วัน)
การแข่งขันสเก็ตบอร์ดไม่ได้มีกฎจำกัดมากและค่อนข้างอิสระกว่ากีฬาประเภทอื่นๆ ผู้เล่นจะอายุ น้ำหนัก ส่วนสูงเท่าไหร่ก็ได้ แม้นิชิยะจะพลาดในสองรอบแรก แต่ก็สามารถทำคะแนนนำ เรสซา เลอัล อายุ 13 ปีเท่ากัน จากบราซิล ที่ได้ที่สองไปครองได้ (ถ้าน้องเรสซาชนะก็จะกลายเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก)
นิชิยะเริ่มเล่นสเก็ตบอร์ดตั้งแต่ 6-7 ขวบ ด้วยใจรักและแรงสนับสนุนจากพ่อแม่ ทำให้นิชิยะได้ก้าวเข้ามาสู่วงการสเก็ตบอร์ดมืออาชีพตั้งแต่อายุยังน้อย ถ้าตามดูในไอจีส่วนตัวของน้อง momiji_nishiya830 จะเห็นพัฒนาการและความเก่งกาจตั้งแต่ยังเด็ก เรียกได้ว่าเทพมาก! อนาคตยาวไกลแน่นอน

3. Dr. Anna Kiesenhofer

ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ปีนี้ เหรียญทองที่ทำให้คนเซอร์ไพรส์มากที่สุด ต้องยกให้กับ การแข่งขันจักรยานประเภทสตรีทหญิง ที่ดร.แอนนา วัย 30 ปี คว้ามาครอบครองได้สำเร็จ นักปั่นมือสมัครเล่นนอกสายตาทุกคนนี่แหละ ที่ได้รางวัลชนะเลิศไป และที่สำคัญเธอมาแข่งคนเดียว แบบไม่มีโค้ช ไม่มีกองเชียร์ใดๆ
ดร.แอนนา เป็น "มือสมัครเล่น" ไม่ได้ดูถูกแต่อย่างใดน้า ทุกสื่อเรียกแบบนี้จริงๆ เพราะอาชีพหลักของเธอก็คือนักวิจัย ที่จบด้านคณิตศาสตร์มาโดยตรง แต่มีใจรักในการปั่นจักรยานมาก เริ่มแข่งจักรยานที่สเปนตอนปี 2016 ผลงานดีเลยได้ทาบทามมาสังกัดทีมอาชีพ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก จึงหันเหกลับมาเป็นนักวิจัยแทน
ถึงจะวางมือจากจักรยานไปพักหนึ่ง แต่ในหัวก็ยังคิดถึงเรื่องจักรยานอยู่เสมอ ดร.แอนนาเลยตัดสินใจฟังเสียงหัวใจของตัวเองอีกครั้ง ลงแข่งอีกสักหน และใช้ความเป็นนักคณิตศาสตร์ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ ด้วยการการแก้ทุกปัญหาด้วยตัวเอง นักปั่นส่วนใหญ่ต้องคอยมีคนวางแผนทุกอย่างให้ทั้ง เทรนเนอร์ นักโภชนาการ มีคนวางแผนการขี่ แต่ดร.แอนนาทำทั้งหมดนั้นด้วยตัวเอง!
ในการแข่งปั่นจักรยานครั้งนี้(และปกติ) นักแข่งส่วนใหญ่รวมถึงตัวเต็งแชมป์อย่างเนเธอร์แลนด์และอิตาลี ก็จะออกตัวแบบช้าๆ แล้วออมแรงแซงทีหลัง แต่ไม่ใช่กับดร.แอนนา เธอเลือกที่จะปั่นสปีดเร็วนำทุกคนไปก่อน มีอยู่ห้าคนที่เลือกทำแบบนี้ และพอปั่นไปเรื่อยๆ แต่ละคนก็เริ่มหมดแรง 
ทำให้แอนนา ฟาน เดอร์ เบรกเกน จากเนเธอร์แลนด์ (ผู้ได้ที่สอง) ปั่นแซงมาเรื่อยๆ จนคิดว่าแซงมาครบทุกคนแล้ว ก็เลยชิลไม่เร่งสปีดอีกต่อไป (ในการแข่งโอลิมปิกไม่มีวิทยุสื่อสารแบบสนามอื่น) แต่ที่ไหนได้ยังมีดร.แอนนานำลิ่วอยู่ และเข้าเส้นชัยไปก่อน 75 วินาที!  นักแข่งจากเนเธอร์แลนด์พอเข้าเส้นชัยก็เลยนึกว่าตัวเองได้ที่หนึ่งอยู่ จนประกาศชื่อคนชนะนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่ายังมีคนเข้าเส้นชัยมาก่อน อึ้งกันทั้งสนามไปเลย!

4. An San

ถ้าใครที่ตามวงการไอดอลเคป๊อบ ก็มักจะเห็นเหล่าไอดอลยิงธนูกันเก่งมากก ไอดอลเก่งขนาดนั้นแล้วนักกีฬาจริงๆ จะเก่งขนาดไหน? คำตอบก็คือคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์กันไปรัวๆ ตั้งแต่อดีต เรื่องยิงธนูต้องยกให้เกาหลีใต้เลยจริงๆ

ที่น่าสนใจคือ "อันซาน" นักกีฬายิงธนูวัย 20 ปี จากเกาหลีใต้ สามารถคว้าเหรียญทองไปครองได้มากที่สุดในการแข่งขันโอลิมปิกปีนี้! 
อันซานเริ่มมีชื่อเสียงในวงการกีฬายิงธนูเมื่อปี 2017 เมื่อเธอสามารถคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันชิงแชมป์ยิงธนูเยาวชนแห่งโลก มาครองได้ ซึ่งนั่นก็เป็นสนามนานาชาติครั้งแรกของอันซานด้วย

ในปี 2019 อันซานก็คว้าเหรียญทองมาครองจากการแข่งขันในสนามนานาชาติ Hyundai Archery World Cup 2019 และด้วยความที่เกาหลีขึ้นชื่อเรื่องการยิงธนูมาตั้งแต่อดีต ก็ยิ่งทำให้ทีมชาติเกาหลีแบกรับความกดดันไว้มากมาย แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการคว้าชัยชนะในสนามโอลิมปิกครั้งแรกของอันซาน
ในวันที่ 23 ก.ค. อันซานได้ทำลายสถิติโอลิมปิกในการแข่งขันยิงธนู ด้วยการทำคะแนนสูงสุด 678  วันที่ 24 ก.ค. อันซานและคิมเจด็อกก็ชนะการแข่งแบบทีมผสม วันที่ 25 ก.ค. อันซาน จางมินฮี และคังแชยอง ก็กวาดเหรียญทองในการแข่งยิงธนูทีมหญิงไปครอง 
และล่าสุดเมื่อวานนี้ 30 ก.ค. อันซานก็ชนะการแข่งยิงธนูยิงเดี่ยวกับเอเลน่า จากทีมชาติรัสเซีย (ROC) ด้วยคะแนนที่สูสีมากกก! มี 5 เซ็ต ก็เสมอกัน 5-5 ต้องแข่งแบบ Show Off ยิงดอกเดียวเพื่อตัดสิน อันซานก็ได้ 10 คะแนนเต็ม ส่วนเอเลน่าได้ 8 คะแนน ทำให้อันซานกวาดชัยชนะไปอีกหนึ่ง และถือเป็นนักกีฬาคนแรกใน Olympics Tokyo 2020 ที่คว้าเหรียญทองไปครองสามเหรียญแบบจุกๆ
ความเก่งของอันซานเป็นที่ประจักษ์ระดับโลกก็จริง กลับไปโฟกัสที่ทรงผม และความเป็นเฟมินิสต์ของอันซานแทน (และใช่ค่ะเรื่องนี้เริ่มาจากเนติเซนที่วิจารณ์ทรงผมน้อง) ในสังคมเกาหลีเรื่องความเป็นเฟมินิสต์ก็จะต่างจากชาติอื่นมากอยู่ เพราะผู้ชายในเกาหลีใต้รับไม่ได้เลยจริงๆ กับผู้หญิงที่เป็นเฟมินิสต์ ทำให้ตอนนี้มีการต่อต้านอันซานที่ไว้ผมสั้นและเป็นเฟมินิสต์กัน ถึงกับบอกให้อันซานคืนเหรียญไปเลยทีเดียว (สังคมเกาหลีผู้ชายยังคงเป็นใหญ่)
โค้ชเองก็ได้ออกมาปกป้องอันซาน ไม่ให้สื่อถามถึงประเด็นอื่นนอกจากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ และตอนนี้แฟนๆ ก็ต่างออกมาซัพพอร์ตอันซานกันเป็นจำนวนมาก ใครอยากติดตามน้องต่อ ก็ไปฟอลโลว์ได้ที่ไอจีส่วนตัวอันซานกันได้เลย ที่ ssaaaann__2

5. สุนิสา ลี 

ถ้าประเทศเกาหลีใต้คือตัวเต็งในการแข่งยิงธนู สหรัฐอเมริกาก็คือตัวเต็งอันดับหนึ่งในการแข่งยิมนาสติก และใครๆ ก็ต้องรู้จัก ซีโมน ไบลส์ นักยิมนาสติกสาวดาวเด่นวัย 24 ปี ทีมอเมริกา ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักยิมนาสติกที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์

และด้วยความกดดันและความคาดหวังอย่างเต็มบ่า ซีโมน ไบลส์ก็ขอถอนตัวจากการแข่งขันไป เพื่อรักษาสภาพจิตใจของตัวเอง ทำให้ สุนิสา ลี ชาวอเมริกันเชื้อชายม้ง-ลาว ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนทีมชาติอเมริกา ในการแข่งขันยิมนาสติกประเภทอุปกรณ์รวมเดี่ยว 
ในการแข่งขันโอลิมปิกยิมนาสติกเดี่ยวประเภทอุปกรณ์รวม อเมริกาก็ชนะเลิศ คว้าเหรียญทองมาตั้งแต่ปี 2004 ยิ่งสร้างความกดดันให้กับสุนิสาเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ขอโฟกัสที่ตัวเอง จนในที่สุดก็สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ! และถือเป็นนักกีฬายิมนาสติกเชื้อสายเอเชียนคนแรก ที่ได้รางวัลนี้มาครอง
เส้นทางการเป็นนักยิมนาสติกที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสุนิสาเลย พ่อของเธอก็ทำบาร์การฝึกซ้อมจากไม้ให้ที่สวนหลังบ้าน รวมถึงสอนเธอพลิกตัวบนเตียง สุนิสาเริ่มฝึกฝนเองตั้งแต่ยังเด็ก และฉายแววพรสรรค์ออกมา จนได้เข้าร่วมทีมชาติสหรัฐอเมริกา
แม้ที่บ้านจะส่งเสริมและสนับสนุนเต็มที่ตั้งแต่ยังเด็ก แต่เมื่อสองปีก่อน ก่อนแข่ง The US National Championships ไม่กี่วัน พ่อของเธอก็ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เป็นอัมพาตช่วงครึ่งล่าง สุนิสาถึงกับจะขอถอนตัวออกจากทีมชาติเพื่อมาดูแลพ่อ แต่พ่อของเธอก็ได้บอกว่าให้เธอแข่งต่อไป ไม่ต้องร้องไห้ โฟกัสกับการแข่งก็พอ และเธอก็ได้รางวัลนานาชาติครั้งแรกมาครอง
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจของสุนิสาอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้วยิมที่เธอไปฝึกซ้อมก็ปิด ไฮสคูลปีสุดท้ายก็ไม่ได้เจอเพื่อน แถมลุงและป้าแท้ๆ ที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กก็เสียชีวิตจากโรคโควิดด้วย

และเมื่อกลับมาฝึกกับทีมชาติช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว เธอก็ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บที่ข้อเท้า ทำให้ไม่สามารถเล่นยิมนาสติกไปได้ถึงสามเดือน เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่จิตใจถูกกระทบอย่างหนัก ทำให้สุนิสาก็ถอดใจจนเกือบจะลาออกจากทีมชาติ
และหลังจากผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาได้ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและพร้อมสู้ ก็ทำให้สุนิสา ลี สามารถชนะการแข่งขันโอลิมปิกรวมถึงชนะใจคนทั้งโลกไปด้วย เธอบอกว่าอยากให้ชนเผ่าม้งของเธอเป็นี่รู้จักมากขึ้น และเธอทำสิ่งนี้เพื่อครอบครัวและคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเธอทุกคน ใครที่อยากติดตามสุนิสาต่อ ก็ไปตามได้ที่ไอจี sunisalee_ ได้เลยค่า (เมื่อวานน้องดีใจมากที่มีคนตามไอจีถึงหนึ่งล้านคน)
แต่ละคนก็เก่งสมกับความพยายามมากๆ เป็นแรงบันดาลใจและ Empower คนทั่วโลกได้ดีมากจริงๆ มาคอยช่วยลุ้นและติดตามในการแข่งโอลิมปิกครั้งถัดไปกันดีกว่าค่ะ


sweetsong13

sweetsong13

A dreamer who loves to write
www.sweetsong13.com
sweetsong13@gmail.com

FULL PROFILE