ปกติมั้ยที่อยากหายไปที่ไหนซักที่

สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้อยู่มัธยมปลายนะคะ แต่เรื่องที่จะมาเขียนมันเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้วค่ะ
ปกติวัยรุ่นก็จะมีความคิดที่ไม่เหมือนกันกับพ่อแม่อยู่แล้วใช่มั้ยคะ หนูก็เป็นคนนึงที่เริ่มตีตัวออกห่างพ่อแม่ตั้งแต่ม.1แล้วค่ะ แล้วก็ห่างมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน แม่หนูไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่หนูยังไม่เข้าอนุบาลค่ะ หนูมีน้องคนนึง แต่คนละแม่

ตั้งแต่น้องเกิดมาหนูก็พึ่งเข้าใจคำว่าลำเอียง พ่อชอบเอาใจน้องมากๆเพราะพ่อบอกว่าน้องขาดความอบอุ่น ไม่มีแม่ดูแล พ่อเลยต้องเอาใจ สนใจมากกว่า หนูก็เข้าใจค่ะ แต่หนูก็ไม่มีแม่ดูแลตั้งแต่เด็กๆเหมือนกันนะ ถ้าพ่อยังไม่สนใจหนูอีก หนูก็ไม่มีใครแล้วนะ เวลาหนูป่วย พ่อก็เมิน ให้คนแปลกหน้าพาหนูไปโรงบาลบ้าง หรือไม่ก็ปล่อยให้หนูสลบอยู่ในห้องเป็นอาทิตย์บ้าง

หนูเป็นคนชอบเรียนมาก เกรดดีมาโดยตลอด แต่ยังไม่ดีพอสำหรับแม่ ไม่เก่งพอให้พ่อสนใจ

ช่วงม.3หนูเรียนหนักกว่าปกติมาก หนูบ่นให้แม่ฟังว่าเหนื่อยตลอด แต่แม่ก็ว่าหนูมาตลอด แล้วก็ไม่สนใจว่าหนูจะเหนื่อยจากอะไร จนหนูไม่สบายแต่ก็ไม่ได้บอกใครเพราะไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว มันเป็นการป่วยที่ทรมานที่สุด เพราะต้องนอนไม่กินอะไรเป็นอาทิตย์ ง่วงนอนตลอดเวลาเหมือนคนจะสลบ แล้วก็หลับไป แม่พึ่งรู้เรื่องตอนหนูป่วย2วันสุดท้ายเพราะหนูลาเรียน แม่จ่ายค่ารักษาให้ทุกอย่าง รู้สึกดีมากๆเพราะรู้สึกถูกรัก

พอขึ้นม.4หนูก็มีแฟน หนูตัดสินใจบอกแม่ครั้งแรก แม่เริ่มไม่ให้เงินเดือนหนูและยึดรถเพราะหนูมีแฟนแล้วแกคิดมาก หนูก็ไม่ได้โกรธนะคะเพราะเวลาไปเที่ยวกับแฟนแฟนเป็นคนจ่ายให้ตลอด แม่บอกให้หนูหางานทำ แต่พ่อไม่อยากให้ทำเพราะกลัวจะไปหาผู้ชาย พ่อเลยเป็นคนให้ตังไปรร.แทน(ปกติแม่ให้)
หนูเคยขอแม่เอารถไปค่ายวิยาศาสตร์ แต่แม่ไม่ให้ไปเพราะกลัวหนูไปเที่ยวเล่น กลัวรถพัง คือหนูต้องรู้สึกยังไง

หนูพยายามหาสิ่งใหม่ๆให้ตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไรนอกจากวาดภาพระบายสี ถ้ารู้แล้วหนูสัญญาว่าจะไปให้ไกล ไกลจนไม่มีใครหาเจอ

หนูจำวัยเด็กไม่ได้ เรื่องราวปีที่แล้วก็จำไม่ได้ หนูโดนคนทั้งในและนอกรร.เกลียดแบบไม่มีเหตุผล มันไม่มีเหตุผลจริงๆเพราะหนูไม่รู้จักเค้า ไม่เคยคุยกัน

ตอนนี้หนูแค่อยากหายไปจากสังคมตอนนี้ อยากหายไปจากชีวิตทุกคน ไม่อยากอธิบายเรื่องที่ไม่อยากนึกถึงให้ใครฟัง หนูไม่ได้อยากตายนะคะแต่หนูแค่ไม่อยากเป็นภาระใคร หนูรู้สึกว่าหนูไม่เหมาะกับการถูกรัก หนูคิดแบบนี้จริงๆ.

Discussion (4)

ส่วนตัวเราว่าทุกคนสมควรถูกรักค่ะ ถ้าเราไม่รู้จะคุยกับใครอาจจะลองคุยกับคุณหมอดูนะคะ เรายังคิดว่าคุณแม่ของน้องก็รักน้องนะ แต่อาจจะไม่ได้บอกตรงๆเค้าคงกลัวน้องมีอันตรายแหละค่ะ เค้ายังส่งเรียนอยู่เราเรียนให้สุดน้า จบม.6ก็เรียนต่อนะคะเป็นกำลังใจให้น้า
เป็นอารมณ์ช่วงวัยรุ่น และวัยเด็กที่รู้สึกว่าตัวเองขาดความรักจากคนในครอบครัว และดูแล้วอาจจะมีอาการของโรคซึมเศร้าอ่อนๆ ตอบในฐานะแม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่รักน้องแน่นอนค่ะ เพียงแต่การแสดงความรัก ความห่วงใยของแต่ละคนแตกต่างกัน เราอย่าไปคิดเลยค่ะว่าเขารักเรามากหรือน้อยกว่าใคร คิดว่าเขารักเราก็พอแล้วดูจากการส่งให้เรียนและต้องการให้เรียนหนังสือไม่อยากให้ออกไปไหนเพราะเขาคิดว่าบ้านคือ save zone น้องจะปลอดภัยกว่าออกไปข้างนอกค่ะ โชคดีที่เป็นคนเรียนเก่งมีต้นทุนที่ดีนะคะ  อยากตั้งใจเรียนมากๆนะคะเพื่อตัวน้องเอง ส่วนความรู้สึกว่าคนอื่นเกลียดเราแบบไม่มีเหตุผล ให้ตัดทิ้งเลยค่ะอย่าไปสนใจให้ค่าไม่มีประโยชน์ทำตัวเราให้ดีก็พอ รักตัวเองให้มาก เราเหมาะที่จะรักตัวเองทุกคนมีคุณค่าในตัวเองค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
อันดับแรกเราต้องรักตัวเองค่ะ เพราะตัวเราเองมีค่าที่สุดสำหรับเรา ใครไม่เห็นค่านั่นคือเรื่องของเขา แต่อยากให้จำไว้เสมอว่า รักตัวเอง แคร์ตัวเอง เราจะปลอดภัยจากการคิดด้ารลบต่างๆที่เข้ามาค่ะ เพราะนอกจากตัวเราแล้วไม่มีใครจะรักตัวเองนอกจากตัวเราเองค่ะ ยิ้มสู้แล้วเดินหน้าต่อ ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จให้ได้นะคะ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเราเองค่ะ 🙂
เราทุกคนต่างมีคุณค่าในตัวเองและสมควรที่จะได้รับความรักที่ดีค่ะ ลองเปิดใจคุยกับที่บ้านหรือเพื่อนดู แต่ถ้ารู้สึกว่าคุยไม่ได้ หรือดิ่งมาก ลองคุยกับคุณหมอดูได้นะคะ คุณหมอจะรับฟังแบบไม่ตัดสิน บางครั้งแค่มีคนรับฟังก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ