N°1 DE CHANEL 101 : แดงนี้ที่แข็งแกร่ง ให้ผิวสตรองแบบดอกคามิลเลียแดง

52 15

เข้าสู่ช่วงปลายปีอย่างเต็มตัว ชาวจีบันทั้งหลายเตรียมหาของขวัญดีๆ ให้ผิวตัวเองกันยังคะ? มาม๊ะ! ขอเช็กชื่อนักเรียนดีเด่นที่อยู่กับเรามาจนถึงคลาสสุดท้าย กับ “N°1 DE CHANEL 101” เชื่อว่าตอนนี้มีนักเรียนดีเด่นหน้าห้องหลายคนที่รู้จัก N°1 DE CHANEL กันดีขึ้นแล้ว!


วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักให้ดียิ่งขึ้นไปอีก! เริ่มจากการให้ทุกคนทายก่อนเลยว่า เมื่อนึกถึง N°1 DE CHANEL จะนึกถึงอะไรกันบ้าง ติ๊กต๊อกๆๆ... เชื่อว่าคำตอบของหลายคนจะต้องมีเรื่อง ส่วนผสมเอย แพ็กเกจจิ้งเอย หรืออาจจะนึกไปถึงไอเท็มตัวโปรดตัวไหนสักชิ้นในไลน์นี้กันอยู่ แน่นอนว่าเรื่องส่วนผสมและแพ็กเกจจิ้งต้องยกให้ไลน์นี้ของชาเนลจริงๆ เพราะมาใน สีแดงแรงฤทธิ์ แค่เห็นก็สะดุดตา ทำให้ใครๆ ก็จำได้

ถ้าถามว่า #แดงไหน? ก็ต้อง #แดง N°1 DE CHANEL เลยจ้า! 

ความโดดเด่นของไลน์นี้ที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่คลาสเรียนครั้งที่หนึ่งก็คือ ผลิตภัณฑ์ในไลน์นี้ล้วนมีส่วนผสมคามิลเลียสีแดงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะในสกินแคร์หรือแพ็กเกจจิ้ง และยังมากับสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และภายใต้สีแดงนี้มีพลังสุดสตรองซ่อนอยู่! เราจะพามาทำความรู้จักเบื้องหลังของสีแดงจาก CHANEL ที่บอกเลยว่า แดงนี้จะกลายเป็นเฉดสีแดงที่คุณหลงรักแน่นอน

แดงสุดสตรองดอกคามิลเลีย

ถ้าใครเป็นนักเรียนดีเด่นผู้รู้จัก N°1 DE CHANEL มาเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็จะต้องรู้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ในไลน์นี้ ชาเนลเขาเลือกใช้ส่วนผสมจาก “ดอกคามิลเลียสีแดง” เป็นส่วนผสมหลัก แต่จุดเริ่มต้นของดอกไม้นี้ก็มีเรื่องเล่า..

กว่าจะมาเป็นดอกคามิลเลียแดงในชาเนลไม่ง่าย!

จุดเริ่มต้นมาจากฟาร์มคามิลเลียแดงที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสถานที่ทำการเพาะปลูกและพัฒนาสายพันธุ์คามิลเลียของชาเนลโดยเฉพาะ ที่นี่เปิดมาตั้งแต่ปี 1998 บอกเลยว่ายาวนานเกือบ 30 ปี โดยที่นี่จะมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องดอกคามิลเลียมาคอยดูแล ฟูมฟัก และเพาะเลี้ยงดอกคามิลเลียที่รวมมาจากทั่วโลกกว่า 2,000 สายพันธุ์! ซึ่งที่ฟาร์มนี้ยังมีห้องวิเคราะห์พฤกษเคมีที่จะคอยสังเกตการณ์ดอกคามิลเลียทุกสายพันธุ์อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสายพันธุ์และต้นที่สตรองมากที่สุด และถ้าอยากรู้จักเส้นทางที่กว่าจะเป็นคามิลเลียแดงให้มากขึ้น ตามไปอ่านต่อกันได้เลย >คลิก<

จากความเชี่ยวชาญ สู่การพบดอกคามิลเลียสายพันธุ์ที่สตรองที่สุด “เดอะซาร์”

เจ้าดอกคามิลเลียสีแดงสายพันธุ์นี้ บอกเลยว่าถึงจะดูบอบบาง ไม่มีกลิ่น แต่ความสตรองไม่แพ้ใคร! เพราะสายพันธุ์นี้ทั้งทนแดด ทนฝน แม้อากาศหนาวเย็นแค่ไหนก็แทบจะไม่สะทกสะท้าน มีผลแค่เพียงกลีบดอกเล็กน้อยเท่านั้นเอง ทำให้คามิลเลียสายพันธุ์นี้แข็งแกร่งไม่เหมือนกับดอกไม้ชนิดใดๆ  ซึ่งชาเนลค้นพบสิ่งนี้ และนำไปพัฒนาต่อจนได้เป็นสารสกัดที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับสัญญาณแห่งวัย ให้สมกับชื่อเป็นดอกไม้สุดสตรองที่ไม่ว่าจะเจอสภาพอากาศไหนๆ ก็ไม่ร่วงโรย ถึงฤดูจะเปลี่ยน แต่ใจกลางของดอกคามิลเลียจะยังมีการผลิตเซลล์ใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนในการสร้างลำต้น กิ่ง ใบ และดอกใหม่อยู่ตลอด ความสตรองนี้เกิดจากวิวัฒนาการ และการปรับตัวนับล้านๆ ปีของดอกคามิลเลียนั่นเอง

แดงนี้ที่พร้อมปกป้อง

เมื่อมีส่วนผสมสุดสตรองอย่างคามิลเลียสีแดงแล้ว ไลน์ N°1 DE CHANEL จึงพัฒนาต่อเพื่อออกแบบมาจัดการกับสัญญาณของความร่วงโรยผิวที่ทำให้เราดูแก่กว่าวัย และไม่ใช่เพียงแค่นั้น ในความแดงของคามิลเลียนี้คือความสตรองที่พร้อมจะปกป้องเราตั้งแต่ ระยะแรกเริ่มของการเกิดริ้วรอย ที่ไม่ใช่แค่รอให้เกิดแล้วค่อยดูแลรักษา! ทั้งช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ป้องกันการสูญเสียน้ำในผิว และใครที่มีความเครียดเยอะๆ จนอาจจะกระทบผิว เขายังช่วย ปกป้องผิวจากสภาวะความเครียด เสริมความสตรอง ความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้ผิวดูมีพลังสุขภาพดียาวนาน ความแดงที่ดูบอบบางแต่ที่แท้จริงแล้วสุดสตรองนี้ จึงกลายมาเป็นสกินแคร์ Generation ใหม่ที่เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่มีพลังที่แท้ทรู!

แดงนี้ที่ช่วยบำรุงผิวให้สตรอง

สีแดงไม่เคยแผ่ว! ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ในไลน์ N°1 DE CHANEL มุ่งเน้นที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ผิวดูแข็งแรง มีพลัง และวันนี้เรามีทริคดีๆ ในการใช้ 2 สกินแคร์ตัวเด็ดที่บอกเลยว่า ถ้าใช้ตามทริคนี้ ผิวปัง ผิวสตรองมีพลัง พร้อมสู้ทุกตัวการที่ทำให้ผิวมีริ้วรอยแน่นอน!!

เซรั่ม Red Camellia Revitalizing Serum

เซรั่มขวดสีแดงแรงฤทธิ์ แค่เห็นแดงนี้ก็รู้แล้วว่าสุดสตรอง! เซรั่มขวดนี้ช่วยบํารุงผิว ลดเลือนสัญญาณของความร่วงโรยแห่งวัยทั้ง 5 ประการ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย รูขุมขน ความยืดหยุ่น ความกระจ่างใส และความรู้สึกสบายผิว พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะ


ทริคง่ายๆ ใช้ตามผิวสตรองแน่

ใช้เซรั่มตัวนี้เป็นสเต็ปแรกของการบํารุงผิว โดยแต่ละครั้งใช้แค่เพียง 1 ดรอปเท่านั้น เพราะชาเนลเขาออกแบบมาแล้วว่า 1 ดรอปที่ดูดขึ้นมาเหมาะแก่การใช้ 1 ครั้งพอดี ส่วนการทาก็แค่ค่อยๆ ทาลงบนผิวในทิศทางจากล่างขึ้นบน ให้เนื้อเจลเพิ่มความสดชื่นสบายผิว พร้อมผ่อนคลายกับกลิ่นหอมสดชื่นที่อยากจะหยิบมาทาทุกวัน

ครีม Red Camellia Revitalizing Serum

เพิ่มความสตรองและเรียบเนียนให้ผิวอีกหนึ่งกรุบ หลังจากทา Revitalizing Serum จนซึมลงสู่ผิวดีแล้ว มาทาครีมต่อกันเลยจ้า


ทริคง่ายๆ ใช้ตามผิวสตรองแน่

ใช้ช่วงฝ่ามือค่อยๆ นวดเนื้อครีมลงบนผิวหน้า แล้วลูบไล้ออกข้างแก้มทั้งสองข้างแล้วกดค้างไว้สัก 3-5 วินาที จากส่วนกรามถึงใบหู จากจมูกถึงใบหู จากหน้าผากถึงขมับ และจากใบหูถึงลําคอ ทำแบบนี้ซ้ำๆ กับผิวหน้าอีกฝั่ง จะช่วยเสริมพลังครีม ทำให้สตรอง และมีผิวที่ดูเรียบเนียนขึ้น ที่สำคัญเหมือนกับเราได้นวดผ่อนคลายให้ผิวไปด้วยเลยนะ

และนี่คือคลาส N°1 DE CHANEL 101 คลาสสุดท้ายที่ไม่อยากให้จบ! เพราะยังอยากบอกต่อเรื่องราวสุดปังเพื่อให้ทุกคนหลงรัก N°1 DE CHANEL กันต่อไป และแน่นอนว่า สำหรับนักเรียนดีเด่นที่อยู่กับเรามาจนถึงตรงนี้ หลายคนคงไปซื้อดูโอ้สกินแคร์มาใช้ตามแล้วแน่ๆ เอาเป็นว่าใครใช้แล้วก็มาป้ายยาบอกต่อกันได้เลย เพราะใครที่ยังไม่ซื้อมาใช้จะได้รีบตัดสินใจและมีผิวสตรองตามเพื่อนทัน อิอิ

ก่อนลากันไป นักเรียนคนไหนที่เข้ามาเช็กชื่อคลาสแรกไม่ทัน ก็ยังสามารถตามไปเรียนย้อนหลังกันได้น้าาา ส่วนวันนี้เราขอจบคลาสสุดท้าย ปิดคอร์สกันแบบเริ่ดๆ แล้วไว้มาเจอกันใหม่ค่าาา :)