Beaty Arrival

vivo เปิดตัว X60 Pro 5G ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัว X60 Pro 5G สมาร์ตโฟนแฟล็กชิปรุ่นล่าสุดจากตระกูล X Series อย่างเป็นทางการ ภายใต้สโลแกน ‘Photography, Redefined’ ในงาน vivo X60 Pro 5G Exclusive Online Launch เปิดนิยามใหม่ของการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟน และนับเป็นครั้งแรกที่ vivo ร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) ด้านการถ่ายภาพเพื่อส่งมอบประสบการณ์ระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคชาวไทย ผสานกับการออกแบบตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ vivo ช่วยให้ผู้ใช้งานเต็มอิ่มกับประสบการณ์การถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนแบบเหนือชั้นกว่าที่เคย เตรียมพร้อมให้เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ ราคา 24,999 บาท

● ปฏิวัติวงการถ่ายภาพร่วมกับ ‘ZEISS’ พาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลก
ถือเป็นครั้งแรกที่ vivo ร่วมมือกับแบรนด์ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับตำนาน ในการพัฒนาวิศวกรรมด้านการถ่ายภาพ โดยสมาร์ตโฟน X60 Pro 5G รวมเอานวัตกรรมสุดล้ำจาก vivo ที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นหลัก ผสานกับความสามารถของ ZEISS ที่โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพด้วยมือถือ จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็นการรวมเอา เลนส์แบบออปติคัล (optical lenses) เซนเซอร์ อัลกอริธึมประมวลผลภาพ และฟีเจอร์การถ่ายภาพหลากหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้งานเต็มที่ไปกับเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพในสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 เลนส์ ทั้ง เลนส์หลักความละเอียด 48MP เลนส์มุมกว้างความละเอียด 13MP และเลนส์ถ่ายภาพบุคคล 13MP รวมทั้ง กล้องหน้าความละเอียด 32MP โดยตำแหน่งบริเวณโมดูลของเลนส์หลักจะมีโลโก้ของ ZEISS และ ZEISS Vario-Tessar[1] จัดวางไว้อย่างสวยงาม เสริมภาพลักษณ์ความเป็นสมาร์ตโฟนสำหรับถ่ายภาพระดับมืออาชีพ และถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายบุคคลแบบมือโปรกับฟีเจอร์ ZEISS Biotar Portrait Style ช่วยสร้างภาพ Bokeh ที่สวยงาม ทำให้จุดศูนย์รวมของการถ่ายภาพบุคคลนั้นคมชัดและสมจริงมากขึ้น

● ส่งมอบฟีเจอร์กล้องคุณภาพที่เหนือกว่าสู่มือผู้บริโภค
vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เหนือชั้น ทั้ง Pixel Shift Ultra HD Imaging ทำให้ภาพคมชัดกว่าที่เคยกับระบบถ่ายภาพซ้อน 8 ชั้น เก็บครบทุกรายละเอียด ชัดเจนในทุกพิกเซลอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งภาพสถาปัตยกรรม ทิวทัศน์ หรือภาพอื่น ๆ พร้อมกับระบบกันสั่นที่อัปเกรดไปอีกขั้นกับ Gimbal Stabilization 2.0 ระบบกันภาพสั่นไหวแบบสี่แกน และกล้องหลักเซ็นเซอร์ IMX598 รูรับแสง f/1.48 ช่วยล็อกตำแหน่งจุดโฟกัส หักล้างความสั่นไหว ทำให้ภาพถ่ายไม่สูญเสียรายละเอียด รวมทั้ง VIS 5-Axis Video Stabilization ป้องกันการถ่ายวิดีโอที่สั่นไหวเต็มรูปแบบจากทุกมุม ช่วยให้ถ่ายวิดีโอกีฬาเอ็กซ์ตรีมสนุกยิ่งขึ้น

ผสานการทำงานกับเทคโนโลยีถ่ายภาพตอนกลางคืน Extreme Night Vision 2.0 พร้อมเก็บทุกความทรงจำใน ยามราตรีให้คมชัดด้วยนวัตกรรมอัลกอริธึม AI ช่วยลดนอยส์ (Noise) ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับสภาพแวดล้อมที่แสงน้อยมาก เพื่อให้สามารถถ่ายภาพค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมแม้ในคืนที่มืดสนิท รวมทั้ง Superb Night Camera 2.0 ที่จะช่วยให้สร้างเฉดสีกลางคืนที่หลากหลายได้ ในการแตะเพียงครั้งเดียว และเลนส์มุมกว้างมาพร้อมกับ vivo Super Night ช่วยให้ถ่ายภาพกลางคืนได้กว้างมากขึ้น ถ่ายภาพทิวทัศน์ยามค่ำคืนโดยใช้เอฟเฟกต์ HDR ในโหมดพาโนรามา สามารถถ่ายภาพในสภาพแสง backlight และ low-light ได้อย่างยอดเยี่ยม และนอกจากนี้ยังมีเลนส์ Portrait ระดับมืออาชีพด้วยทางยาวโฟกัส 50 มม. อีกด้วย

vivo X60 Pro 5G อัดแน่นไปด้วยสุดยอดฟีเจอร์การถ่ายภาพและวิดีโอ ทั้งฟีเจอร์ Cinematic Master มอบประสบการณ์การบันทึกโมเมนต์ที่แสนพิเศษให้เป็นดั่งภาพยนตร์ระดับโลก ด้วยภาพการบันทึกวิดีโอในอัตราส่วนขนาดกว้าง 2.35: 1 พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงแบบ 3-Mic Spatial Audio Recording การซูมเสียงที่ชาญฉลาดและการติดตามทิศทางเสียงด้วยการตั้งค่าไมโครโฟนสามตัวใน X60 Pro 5G และในขณะเดียวกันยังมีซอฟต์แวร์ช่วยลดเสียงรบกวน เสียงลม ระหว่างการบันทึกวิดีโอ เพื่อให้ได้เสียงของผู้พูดชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเป็นผู้กำกับมืออาชีพที่ไม่พลาดกับทุกเหตุการณ์ได้ง่าย ๆ ผ่านฟีเจอร์ที่มีให้เลือกใช้งานหลากหลายเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น HDR Super Night Portrait โหมดถ่ายบุคคลตอนกลางคืน Ultra-Wide Night Mode โหมดถ่ายมุมกว้างพิเศษตอนกลางคืน Super Pano โหมดซูเปอร์พาโนรามา เก็บความทรงจำในมุมกว้างยิ่งกว่าเดิม Pro Sports Mode ที่ใช้อัลกอริธึมการตรวจจับการเคลื่อนไหวทำงานร่วมกับ Object Autofocus และ EFB Autofocus เพื่อให้ถ่ายภาพการเคลื่อนไหวได้อย่างไร้ที่ติ และ Kids Snapshot[2] ถ่ายภาพเด็ก ๆ บันทึกความสวยงามและคงความไร้เดียงสาไว้ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้ง Multi-Style Portrait ถ่ายบุคคลหลากหลายสไตล์ตามใจผู้ใช้งาน และโหมด Long-Exposure Mode ช่วยให้การถ่ายภาพเปิดรับแสงนานยิ่งขึ้นในฉากต่าง ๆ เช่น การพ่นหมอกควันหรือดอกไม้ไฟ สามารถถ่ายทอดงานศิลปะให้เป็นจริงได้ ด้วยการถ่ายภาพระดับมืออาชีพของการเคลื่อนไหวและเส้นแสง

● เต็มที่กับขุมพลังและประสิทธิภาพระดับแฟล็กชิป
vivo X60 Pro 5G อัดแน่นด้วยพลังงาน การเชื่อมต่อ และความรวดเร็ว สามารถตอบสนองผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์ที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม กับขุมพลังโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 870 พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G แบบไม่สะดุด ประสานกับการทำงานที่เหนือขั้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ด้วยประสิทธิภาพ CPU และ GPU ที่เพิ่มขึ้น 10%[3] ให้การใช้งานสมาร์ตโฟนลื่นไหลในทุก ๆ วัน และเต็มอิ่มกับประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ X60 Pro 5G ยังมาพร้อมกับ UFS 3.1 สามารถรับชมภาพยนตร์ วิดีโออย่างไม่มีสะดุด รวมทั้งอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูงพิเศษได้อย่างรวดเร็ว

เต็มที่ไปกับความลื่นไหลขั้นสุดกับหน้าจอใหม่ที่อัตรารีเฟรชเรตเพิ่มขึ้นเป็น 120Hz ให้ภาพมีความละเอียดและคมชัดมากขึ้น พร้อมอัตราการตอบสนองอัปเกรดเป็น 240Hz ให้หน้าจอสัมผัสตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม มอบประสบการณ์ในการเล่นเกมและรับชมคอนเทนต์ที่ดียิ่งขึ้น บนหน้าจอกว้างสุดขอบความละเอียดแบบ AMOLED พร้อมการันตีความคมชัดด้วยการรับรอง HDR10+ มอบคุณภาพวิดีโอที่น่าทึ่ง และยังได้รับการรับรอง SGS Eye Care Display และ SGS Seamless เปิดโลกทัศน์ใหม่ เพลิดเพลินกับการใช้หน้าจอแสดงผลที่ชัดเจนและสบายตา นอกจากนี้ยังได้การรับรองคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ให้เต็มอิ่มไปกับภาพและเสียงด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกับ แบตเตอรี่ขนาด 4200mAh รองรับ FlashCharge 33W ให้ผู้ใช้งานได้เต็มที่กับกิจกรรมยาวนานตลอดทั้งวัน พร้อม RAM 12GB ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Extended RAM เพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น (12GB + 3GB RAM) สามารถใช้แอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ ROM 256GB[4] เก็บข้อมูลได้อย่างจุใจ ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 บนพื้นฐานของ Android 11[5]

● หรูหราสะกดใจ ล้ำสมัยไปกับดีไซน์บางเฉียบ
นอกจากความสามารถที่ทรงพลังและล้ำสมัยแล้ว vivo X60 Pro 5G ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่บางเบาสะดวกต่อการพกพา กับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ 6.56 นิ้ว[6] FHD+ 3D Flexible ความละเอียด 2376x1080 พิกเซล แบบ Ultra O Screen ทำให้การใช้งานเด่นเต็มตา เห็นคมชัดทุกรายละเอียด พร้อมด้วยกล้องหน้าแบบ Punch Hole ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 3.96 มม. บนกรอบหน้าจอบางพิเศษแบบ Ultra-narrow Bezels สานต่อดีไซน์เรียบหรูจาก vivo X50 Series ด้วยมุมโค้งมนที่เรียวยาว บางเบาตอบรับฝ่ามือ สะกดทุกสายตายิ่งขึ้นจากการตกแต่งด้วย Choker ด้านบน มอบความรู้สึกและสัมผัสที่เต็มไปด้วยความงดงามที่ประณีตและซับซ้อนในรายละเอียด

กล้องหลังใน vivo X60 Pro 5G จัดวางกล้องแบบมีมิติด้วยดีไซน์แบบ New Dual-Tone Step ไล่สีสันสองโทนสีที่สวยงามลงตัว องค์ประกอบของกล้องด้านหลังมีการจัดเรียงในระนาบเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มความเรียบง่ายและสง่างามน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน พร้อมรวบรวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพชั้นยอดในระดับ professional-grade ผ่านการร่วมมือพัฒนาที่แข็งแกร่งกับ ZEISS ผู้ผลิตเลนส์คุณภาพสูงระดับโลกจากเยอรมัน

ด้วยความบางเพียงแค่ 7.69 มม. และน้ำหนักเพียง 179 กรัม[7] ตัวเครื่องมีมุมโค้ง 3D หรูหรา กระชับฝ่ามือ จึงให้ความรู้สึกที่บางเบา พกพาง่าย พร้อมเติมเสน่ห์และความสดใสในทุกช่วงเวลาของชีวิตด้วย 2 สีใหม่ ที่ได้แรงบันดาลใจจากดอกไม้ฤดูร้อน ทั้งสี Shimmer Blue[8] ผสมผสานโทนสีระหว่างสีฟ้าและสีม่วงอ่อนอย่างลงตัว เสมือนท้องฟ้าที่ฟุ้งไปด้วยหมอกบาง ๆ ยามรุ่งอรุณ เปล่งประกายความหวังอันเป็นนิรันดร์จากแสงแรกของพระอาทิตย์ และ สี Midnight Black สีสันทรงพลังที่จะพาผู้ใช้งานล่องลอยไปสู่ท้องฟ้ายามราตรีในหน้าร้อน สัมผัสกับดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานของชีวิตโอบกอดไว้

สามารถเป็นเจ้าของ vivo X60 Pro 5G ก่อนใครได้แล้ววันนี้ที่ ราคา 24,999 บาท รับฟรีทันที VIP Card รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ปี 1 ครั้ง มูลค่า 8,200 บาท และหูฟัง vivo wireless sport lite มูลค่า 1,799 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ BaNANA, TG FONE, Jaymart, CSC, IT City,Kingkong, BKK,Maxling, Power Mall และช่อง vivo Official Online Store รวมถึง vivo Flagship Store บนร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้ง Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vivo.com/th


[1] โลโก้ ZEISS และ Vario-Tessar เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Carl Zeiss AG
[2] คุณลักษณะนี้ใช้งานโดยอัลกอริธึมเฉพาะ ข้อมูลใบหน้าของคุณจะไม่ถูกรวบรวม
[3] ข้อมูลการปรับปรุงประสิทธิภาพมาจากเอกสารส่งเสริมการขายอย่างเป็นทางการของ Qualcomm
[4] RAM/ROM ที่ใช้ได้จริงอาจน้อยกว่า เนื่องจากการจัดเก็บระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า
[5] Android เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC
[6] ขนาดหน้าจอวัดตามเส้นทแยงมุมจนสุดมุมฉาก 6.56 นิ้ว พื้นที่หน้าจอที่ปรากฏจริงอาจมีขนาดต่างกว่าเล็กน้อย
[7] ขนาดและน้ำหนักจริงอาจแตกต่างกันไปเนื่องจากความแตกต่างในกระบวนการวิธีการวัดและวัสดุ
[8] X60 Pro 5G Shimmer Blue มีความบาง 7.69 มม. และหนัก 179 กรัม

vivo เข้าใจคนเหงา ส่งหนังโฆษณาตัวใหม่ “แค่ไหนก็ใกล้” ให้ใกล้ชิดกันกับคนรักได้แม้ตัวต้องห่าง ด้วยเทคโนโลยีกล้องสุดล้ำบน vivo V21 5G

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เราทุกคนต้องเว้นระยะห่างทางสังคม หลายคนจำเป็นต้องอยู่ห่างไกลจากคนที่เรารัก ไม่ว่าด้วยภาระด้านหน้าที่การงาน หรือปัจจัยอื่น ๆ ส่งผลคู่รักหลายคู่ รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวมากขึ้น

vivo ในฐานะผู้นำแบรนด์สมาร์ตโฟนระดับโลก เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และต้องการให้ผู้คนสามารถใกล้ชิดกับคนรักได้แม้ตัวต้องห่างผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟน vivo V21 5G ล่าสุด vivo เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ “แค่ไหนก็ใกล้” ภายใต้คอนเซปต์ ‘ไม่มีระยะทางสำหรับคนที่รักกันจริงๆ’ บอกเล่าเรื่องราวความรัก 3 รูปแบบ ถ่ายทอดผ่าน 3 ตัวละครหญิง ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความรักทางไกลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น นีน่า - สาวออฟฟิศที่เคยชินกับความโรแมนติก แคท - สาวสุดชิคที่เคยชินกับความโสด และ ติ๊นา - สาวสุดเท่ห์ที่เคยชินกับการอยู่คนเดียว โดยทั้ง 3 สาว ใช้มือถือเป็นเสมือนสื่อกลางในการติดต่อกับคนรักจนแทบจะมีมือถือเป็นเสมือนคนรักตัวจริง

แม้ว่าแต่ละคนจะประสบปัญหาด้านความรักทางไกลที่แตกต่างกันไป แต่ทุกคนก็สามารถเชื่อมต่อและใกล้ชิดคนรักได้ผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟน vivo V21 5G ไม่ว่าจะเป็นการส่งวิดีโอวันครบรอบสุดพิเศษ ส่งภาพเซลฟี หรือแม้แต่การวิดีโอคอลรับชมแมตช์การแข่งขันกีฬาสุดโปรดไปพร้อมกัน กิจกรรมทั้งหมดถูกส่งผ่านสมาร์ตโฟน vivo V21 5G ที่มาพร้อม กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44MP ที่มีเทคโลโนลีกันสั่นแบบ OIS รุ่นแรกของโลก พร้อม Super Night Mode และ Dual Selfie Spotlight ให้ภาพเซลฟีสวย คมชัด โดดเด่น ทุกช่วงเวลาสำคัญไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน กล้องหลัง 64MP รองรับ OIS และ AF (Auto Focus) พร้อมโหมด Dual View Video ถ่ายคอนเทนต์วิดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมฟีเจอร์ 4K Selfie Video ถ่ายวิดีโอเซลฟีความคมชัดระดับ 4K ด้วยกล้องหน้าแบบมืออาชีพ และฟีเจอร์ Ultra Stable Video ที่ไม่ว่าจะเดินหรือวิ่ง ก็สามารถบันทึกวิดีโอเซลฟีได้อย่างมั่นคง ตอบโจทย์การแชร์ทุกโมเมนต์สำคัญกับคนรักได้อย่างไม่ตกหล่น

ซึ่งเทรนด์การแชร์โมเมนต์กับคนรักผ่านเทคโนโลยีของสมาร์ตโฟน ยังสอดคล้องกับผลสำรวจล่าสุดจาก vivo ที่ชี้ว่า มีคู่รักถึง 58% ที่มีประสบการณ์ความสัมพันธ์ทางไกล และพวกเขาแชร์รูปเซลฟีของตนเองมากกว่าคู่รักทั่วไป 3 เท่า โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่บนสมาร์ตโฟนเพื่อทำให้อีกฝ่ายที่อยู่ห่างไกลได้รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กัน

สามารถชมภาพยนตร์โฆษณา “แค่ไหนก็ใกล้” ภายใต้คอนเซปต์ ‘ไม่มีระยะทางสำหรับคนที่รักกันจริงๆ’ ได้แล้ววันนี้ทาง YouTube ที่ https://www.youtube.com/watch?v=jm-ypmjSqkY&t=52s


#vivoV215G #แค่ไหนก็ใกล้ #SelfieBringUsCloser

‘OXE’CURE’ (อ๊อกซีเคียว) ตอกย้ำการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรก ลุยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เอาใจวัยรุ่นยุคใหม่

ดรีม เดอร์มาโทโลจี บริษัทในเครือของบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) สร้างการเติบโตแบรนด์ ‘OXE’CURE’ (อ๊อกซีเคียว) อย่างต่อเนื่อง เปิดตัวแคมเปญใหม่ ‘OxecurexBright’ ดึงซุปตาร์สุดฮอต ‘ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของสินค้ากลุ่มแต้มสิว Acne Clear Potion และ Acne Clear Powder Mud เดินหน้ากลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ใช้เอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มยอดนิยมของไทยจาก เทนเซ็นต์ ประเทศไทย ผู้ให้บริการเอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์ม และโซลูชันด้านเทคโนโลยีชั้นนำ อย่าง Sanook.com/ JOOX/ WeTV และ PUBG MOBILE สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง มั่นใจสามารถขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มใหม่ๆ

นางสาววรัญญา ราชพลสิทธิ์ ผู้อำนวยการของแบรนด์ บริษัท ดรีม เดอร์มาโทโลจี จำกัด เปิดเผยว่า “นับเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้วที่บริษัทฯ ได้เข้าซื้อแบรนด์ Oxe’cure อ๊อกซีเคียว ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว และผิวบอบบางแพ้ง่าย และได้ปรับโครงสร้างแบรนด์ใหม่ทั้งหมด ปัจจุบัน Oxe’cure เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และมียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งกลยุทธ์สำคัญในการสร้างแบรนด์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือการให้ความสำคัญด้านคุณภาพของสินค้า การสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และการตอบโจทย์ปัญหาของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทฯ มุ่งนำความเชี่ยวชาญด้านเวชสำอางที่มีมาอย่างยาวนานมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้อ่อนโยน ปลอดภัย และมอบผลลัพธ์ในการดูแล และแก้ปัญหาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงกำหนดราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหาสิวบนใบหน้า และลำตัว”

ล่าสุด เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วย กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ อาวุธการตลาดที่สร้างอิมแพคให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ดียิ่งขึ้น โดยคว้าตัวหนุ่มหล่อมากความสามารถที่กำลังโด่งดังทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่าง ‘ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ Oxe’cure กลุ่มสินค้าแต้มสิว Acne Clear Potion แป้งน้ำชมพูตัวดัง และ Acne Clear Powder Mud โคลนแต้มสิวในรูปแบบซอง ที่มีสรรพคุณช่วยควบคุม จัดการปัญหาสิวได้รวดเร็วและหมดจด ‘แต้มปุ๊บ สิวยุบ ภายใน 6 ชั่วโมง’ โดยได้วางไบร์ทให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งของไทย และฟิลิปปินส์ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีฐานลูกค้าของแบรนด์ และฐานแฟนคลับของไบร์ทจำนวนมาก เอื้อต่อการต่อยอดขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เพียงเปิดตัววันแรก ก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ อย่างท่วมท้น นอกจากนี้ยังใช้ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ โดยได้ผนึกความร่วมมือกับ ‘เทนเซ็นต์ ประเทศไทย’ ผู้ให้บริการเอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์มที่หลากหลาย และครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย เพื่อร่วมกันวางแผนการตลาดออนไลน์ผ่านสื่อโฆษณาแนวใหม่ หรือเอนเตอร์เทนเมนต์แพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายของ Oxe’cure ใช้เวลาเสพคอนเทนต์ความบันเทิงเป็นส่วนมาก

นอกจากการสร้างการรับรู้ตามแผนดังกล่าวแล้ว Oxe’cure ยังเตรียมจัดกิจกรรมสนุกๆ ให้แฟนๆ ได้ฟิน และมีส่วนร่วมกับแบรนด์ตลอดทั้งปี สำหรับช่องทางการจำหน่าย Oxe’cure ยังร่วมกับ ดีเคเอสเอช ประเทศไทย ดำเนินการกระจายสินค้าให้ครอบคลุม และทั่วถึง เพื่อให้ผู้บริโภคหาซื้อสินค้าได้ง่าย โดยวางจำหน่ายผ่านหน้าร้านตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ร้านค้า MT ชั้นนำทั่วไป ร้านค้า Personal Care Store ร้านขายยาทั้งในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ร้าน 7-Eleven และร้าน Watsons ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้แก่ Watsons.co.th Konvy.com และ Shopee.co.th


#Oxecure #Oxecurethailand #OxecurexBright #Oxecureincontrol #OxecurexTencent #TencentTH

Coach จับมือค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ Def Jam SEA จัด Virtual Concert นำทีมโดย Daboyway พร้อมเปิดตัวคอลเลคชั่น Pre-Fall 2021

Coach (โค้ช) ภูมิใจนำเสนอประสบการณ์ Virtual concert experience ด้วยความร่วมมือกับทีม Def Jam SEA ถือได้ว่าเป็นแบรนด์แรกในเอเซียตะวันออกเฉียใต้ที่มีการจัด Virtual concert ขึ้นมา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

คอนเสิร์ตครั้งนี้ จะเป็นการนำเอามู้ดของช่วงปี 1980 มาผสมผสานกับความทันสมัยจากวัฒนธรรมป๊อปในอดีต หวังที่จะเชื่อมความทันสมัยของสังคมเข้ากับเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 80 ที่ชวนให้นึกถึงความหลัง และมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือทั้งศิลปินหน้าใหม่และศิลปินที่กำลังจะเดบิวต์ในยุคต่อๆไป สำหรับศิลปินกว่า 13 ท่านที่จะขึ้นทำการแสดงนั้น ก็มาจากทั้ง 4 ประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นแรปเปอร์สัญชาติไทย-อเมริกัน อย่าง DABOYWAY, ศิลปินฮิปฮอปชาวสิงคโปร์ ที่มาพร้อมความสามารถในการแรปภาษาอังกฤษและภาษาทมิฬ อย่าง Young Raja; รวมไปถึงนักแสดง Rayi Putra และแรปเปอร์ชาวมาเลเซียอย่าง Joe Flizzow; และยังมีสองศิลปินฮิปฮอปและแร็ปเปอร์ของไทยอย่าง TARVETHZ และ PRADAA เข้าร่วมอีกด้วย

ในคอนเสิร์ต ศิลปินจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าจาก Coach Pre Fall 2021 Collection ได้แรงบันดาลใจมาจากวิสัยทัศน์ของ Stuart Vever (สจ๊วต วีเวอส์) ที่มีต่อ Coach นั่นคือ จิตวิญญาณอันเป็นอิสระ คอลเลคชั่น Pre Fall นี้ ผสมผสานงานฝีมืออันถือได้ว่าเป็นมรดกของแบรนด์ เข้ากับดีไซน์เสื้อผ้าสไตล์สปอร์ตจากอเมริกา (American sportswear) ได้อย่างขี้เล่นและสนุกสนาน นำเสนอออกมาเป็นความคลาสสิคในรูปแบบใหม่ พร้อมจิตวิญญาณแห่งความสปอร์ตแฝงด้วยความวินเทจ

ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2021 ลูกค้าที่ซื้อสินค้าใดๆของ Coach จะได้รับลิ้งค์พร้อมพาสเวิร์ดที่สามารถเข้าไปชมโชว์สุดพิเศษนี้ได้ เพื่อความสะดวกสบาย ลูกค้าสามารถเลือกชมสินค้าและสั่งซื้อสินค้าจากบ้านได้ กับบริการ “Coach on Delivery” เพียงเข้าไปได้ที่ช่องทางออนไลน์ของ Coach Line Official Account @coachth

การ์มิน ดึง 2 ผู้เชี่ยวชาญจากวงการแพทย์ ตอกย้ำความเชื่อมั่น การมีข้อมูลสุขภาพในมือ ช่วยสนับสนุนการรักษาได้ทันท่วงที

ครั้งแรกของวงการ การ์มิน ประเทศไทย เดินหน้าผลักดันการใช้เทคโนโลยีด้านสุขภาพ บนสมาร์ทวอทช์เพื่อตรวจจับความผิดปกติด้านสุขภาพ ดึง 2 ผู้เชี่ยวชาญจากวงการ์แพทย์ ย้ำความเชื่อมั่น ในการมีข้อมูลติดตามสุขภาพในมือจะช่วยสนับสนุนการรักษาได้ทันท่วงที พร้อมชู 4 จุดเด่นของ การ์มิน สมาร์ทวอทช์ ได้แก่ 1) ให้ข้อมูล 5 ตัวชี้วัดที่จำเป็นได้ครบถ้วน 2) แบตเตอรี่ทรงพลัง มอนิเตอร์สุขภาพได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง 3) แม่นยำด้วยการตรวจจับความเปลี่ยนแปลงแบบวินาทีต่อวินาที 4) ฟีเจอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายที่หลากหลายครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยออกกำลังกาย พร้อมมอนิเตอร์ความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างถูกวิธี หนึ่งความตั้งใจสำคัญที่ต่อยอดจากความสำเร็จของแคมเปญ #BeatTodayTogether พร้อมตอกย้ำแบรนด์ เมสเสจ Every Beat of Life – นวัตกรรมที่ก้าวทันทุกจังหวะของชีวิต

มร. สกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “การ์มิน ตระหนักเป็นอย่างยิ่งกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงเดือนที่ผ่านมา จึงต้องการตอกย้ำคนไทยในช่วงเวลาที่เปราะบางเช่นนี้ว่า การ์มินยังอยู่เคียงข้างเพื่อสนับสนุนการมีสุขภาพที่ดีของทุกคน ครั้งนี้จึงอยากชวนให้คนไทยทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพในเชิงลึกมากยิ่งขึ้นเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีของร่างกายร่วมกันสู้กับวิกฤติโลกไปด้วยกัน เพราะนอกจากสมาร์ทวอทช์ของการ์มินจะมีฟีเจอร์กีฬาที่หลากหลาย รองรับการออกกำลังกายที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพได้อย่างรอบด้านและถูกต้องแม่นยำ กับ 5 ตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญที่มีอยู่ในการ์มิน สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ได้แก่ 1) Pulse Ox Blood Sensors – ตัววัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) 2) Heart Rate Tracking – อัตราการเต้นของหัวใจ 3) REM Sleep Monitoring – การติดตามคุณภาพการนอน 4) Respiration Tracking – อัตราการหายใจ 5) Stress Monitoring - การติดตามระดับความเครียด ซึ่งข้อมูลที่ได้จาก 5 ตัวชี้วัดทางด้านสุขภาพ จะช่วยให้ผู้คนเข้าใจแน้วโน้มสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้องและรู้ถึงอาการผิดปกติของร่างกายได้เบื้องต้นในทันที”

นพ. แอนดรูว์ อัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการแพทย์และรังสีวิทยา โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด เผยว่า “ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการชัดเจนในตอนแรก แม้ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ อุปกรณ์ของการ์มินที่สามารถติดตามและแจ้งระดับออกซิเจนในเลือดได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ช่วยได้มากในยามวิกฤตเช่นนี้ เพราะนอกจากระดับออกซิเจนในเลือดแล้ว การ์มินยังสามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดทั้งวัน แม้ในขณะนอน เพื่อกำหนดคุณภาพการนอนหลับและความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ และตัวชี้วัดด้านสุขภาพต่างๆ เหล่านี้ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี การรู้เท่าทันความผิดปกติเหล่านี้ยังช่วยลดโอกาสในการแพร่ระบาดหรือการติดต่อในวงกว้างได้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส”

นพ. สิระ กอไพศาล อายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญโรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า “การมีข้อมูลด้านสุขภาพระยะยาวนั้นมีค่ามากสำหรับการวินิจฉัยโรค เพราะเมื่อคุณหมอทราบถึงแพทเทิร์นด้านสุขภาพที่เป็นปกติของผู้ป่วยแล้ว ก็จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าสุขภาพผู้ป่วยเริ่มผิดปกติไปตั้งแต่เมื่อไรและผิดปกติไปจากเดิมมากน้อยเพียงใด ในขณะที่ร่างกายยังไม่แสดงอาการแต่เราสามารถรู้ได้ก่อน นั่นแปลว่าเราสามารถร่นระยะเวลาการรักษาได้มากขึ้น และเมื่อข้อมูลถึงมือแพทย์ แพทย์ยังมั่นใจและวินิจฉัยได้แม่นยำเพื่อการรักษาที่ตรงจุดและทันท่วงที เพราะการรักษาคนไข้สิ่งที่ยากที่สุด คือการวินิจฉัยโรค ถ้าเรารู้เร็วรู้ไว โอกาสเสียชีวิตของคนไข้ก็จะน้อยลง”

“นอกจากนี้ การใช้ข้อมูลด้านสุขภาพยังสามารถช่วยในการวางแผนดูแลสุขภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในระยะยาวได้เช่นกัน ไม่มีใครที่สุขภาพดีแบบ 100% แม้จะอาศัยอุปกรณ์สมาร์ทวอทช์ช่วย แต่เมื่อมีตัวชี้วัดด้านสุขภาพบนข้อมือของเรา เราจะสามารถทราบได้ว่าสภาพร่างกายของเรานั้นกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ และสมาร์ทวอทช์ของการ์มินนั้นจะติดตามค่าต่างๆ ต่อไปนี้ ค่าออกซิเจนในเลือด อัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ การติดตามคุณภาพการนอน ระดับความเครียด ซึ่งถือว่าค่อนข้างครบถ้วนสำหรับตัวชี้วัดด้านสุขภาพเบื้องต้น เพราะเมื่อเราใช้ชีวิตประจำวัน หรือออกกำลังกายต่อกันเป็นระยะเวลานาน และตัวชี้วัดด้านสุขภาพแสดงอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักช้าลง คุณภาพการนอนหลับดีขึ้นและระดับความเครียดลดลง เราสามารถคาดเดาได้ว่าวิถีชีวิตหรือแผนการออกกำลังกายดังกล่าวนั้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม ในทางกลับกัน หากข้อมูลแสดงว่าแย่ลง ควรพิจารณาว่าการฝึกหรือการใช้ชีวิตประจำวันแบบนั้นทำร้ายสุขภาพเกินไปหรือไม่ หากเรารู้ว่าระบบใดของเราทำงานผิดปกติ เราก็สามารถวางแผนฟื้นฟูระบบนั้นผ่านวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมได้ด้วยการใช้สมาร์ทวอทช์ที่รองรับกีฬาหรือการออกกำลังกายที่หลากหลาย” นพ. สิระ กล่าวเสริม

5 ตัวชี้วัดทางสุขภาพจากสมาร์ทวอทช์ของการ์มินที่มีความสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกาย ได้แก่
1. ค่าออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox Blood Sensors)[1] – ตัววัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการทำงานของระบบหัวใจ หลอดเลือด และการหายใจ จากการอ้างอิงของคู่มือการฝึกอบรม Pulse Oximetry ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ผู้ที่มีสุขภาพปอดอยู่ในสถานะปกติ ค่าออกซิเจนในเลือดที่ดีควรอยู่ที่ระดับ 95% – 100%[2] จึงเป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่ช่วยให้เราสันนิษฐานได้เบื้องต้นว่าระบบหัวใจ หลอดเลือด และการหายใจมีการทำงานผิดปกติ
2. อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Tracking) – อัตราการเต้นของหัวใจสามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้เมื่อร่างกายมีไข้สูง เมื่ออุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ อัตราการเต้นของหัวใจจะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้อัตราการเต้นของหัวใจยังสามารถช่วยบ่งบอกความหนัก-เบาในการออกกำลังกาย เพื่อให้เราเลือกออกกำลังกายได้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย
3. การนอนหลับ (REM Sleep Monitoring) - การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง นอกจากความรู้สึกหลังตื่นนอนแล้ว การมีอุปกรณ์ที่สำรวจคุณภาพการนอนที่คอยตรวจจับค่าออกซิเจนในเลือด อัตราการหายใจ และการพลิกตัวระหว่างการนอนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จะช่วยให้เราได้รับข้อมูลเพื่อช่วยยืนยันได้อย่างถูกต้อง อัตราการเต้นของหัวใจจะอยู่ในระดับต่ำและสม่ำเสมอเมื่ออยู่ในช่วงหลับลึก ซึ่งปกติแล้วในวัยผู้ใหญ่ควรมีช่วงหลับลึกอยู่ที่ประมาณ 15% - 25% ของการนอน ถ้าหากต่ำกว่านี้เป็นไปได้ว่าประสิทธิภาพในการนอนลดลง
4. อัตราการหายใจ (Respiratory Tracking) – อัตราการหายใจปกติอยู่ที่ 12 – 20 ครั้งต่อนาที โดยทั่วไปแล้วอัตราหายใจต่ำจะบ่งชี้ถึงสภาพร่างกายที่แข็งแรง อัตราการหายใจที่เหมาะสมจะช่วยลดความตึงเครียด เพิ่มสมาธิ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากเรามีข้อมูลที่ช่วยบ่งชี้ได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เราปรับปรุงการหายใจได้ดีมากยิ่งขึ้น
5. ระดับความเครียด (Stress Monitoring) – การตรวจจับระดับความเครียดด้วยอุปกรณ์ที่น่าเชื่อถือจะใช้ข้อมูลจากความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อประเมินระดับความเครียด ถ้าหากข้อมูลบ่งชี้ว่าเรามีอัตราความเครียดอยู่ในระดับ 51 – 100 แสดงว่าร่างกายกำลังเผชิญหน้ากับความเครียดในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจ สภาวะการนอนหลับ รวมถึงการใช้ชีวิตในประจำวัน อาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว

“ข้อมูล 5 ตัวชี้วัดทางสุขภาพที่ได้จากฟีเจอร์ของสมาร์ทวอทช์หรืออุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะไม่ใช่สิ่งที่ช่วยวินิจฉัยโรคหรืออาการผิดปกติของร่างกาย แต่เป็นสิ่งที่ช่วยให้เรารู้และเข้าใจแนวโน้มสุขภาพได้อย่างถูกต้อง และสามารถให้ข้อมูลดังกล่าวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคและตรวจสุขภาพในเชิงลึกเพื่อให้ผลลัพธ์ของการตรวจออกมาอย่างแม่นยำมากที่สุด โดยทั้ง 5 ตัวชี้วัดทางสุขภาพสะท้อนให้เห็นว่าร่างกายคนเรามีการทำงานสอดคล้องและส่งผลซึ่งกันและกัน ดังนั้นเราควรสำรวจทั้ง 5 ตัวชี้วัดทางสุขภาพอย่างรอบด้านและสม่ำเสมอ เพื่อนำไปสู่การเข้าใจแนวโน้มสุขภาพในระยะยาวได้อย่างถูกต้อง” นพ. สิระ กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากฟีเจอร์ที่ช่วยให้ข้อมูล 5 ตัวชี้วัดทางสุขภาพอย่างถูกต้อง แม่นยำและน่าเชื่อถือแล้ว การ์มิน สมาร์ทวอทช์ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยเสริมสร้างการออกกำลังผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับอีกหนึ่งเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนในยุคนี้ คือ การออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ด้วยตัวเองเพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและจิตใจ จะเห็นได้ว่าการติดตามข้อมูลทางสุขภาพอย่างถูกต้องและการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปพร้อมกันสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้

โดยสมาร์ทวอทช์จากการ์มินมีครอบคลุมการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพทุกไลฟ์สไตล์ในราคาที่เข้าถึงได้ ทั้ง 1) Garmin Vivomove Vivoactive Venu Series เเละ Lily - ไลฟ์สไตล์ สมาร์ทวอทช์ที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย และการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน 2) Garmin Forerunner Series – สมาร์ทวอทช์สำหรับสายวิ่งเพื่อฟิตร่างกายในชีวิตประจำวัน หรือนักกีฬาวิ่งที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก 3) Garmin Fenix Series – สมาร์ทวอทช์ มัลติสปอร์ตสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายที่หลากหลาย เช่น ฟิตเนส วิ่ง ว่ายน้ำ ปีนเขา ปั่นจักรยาน ฯลฯ ซึ่งสมาร์ทวอทช์ของการ์มินที่มีทั้งฟีเจอร์ช่วยให้ข้อมูล 5 ตัวชี้วัดทางสุขภาพได้อย่างแม่นยำและฟีเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายในทุกรูปแบบได้อย่างเต็มที่ จึงมั่นใจได้ว่านวัตกรรมอันล้ำสมัยของการ์มินจะช่วยสร้างเสริมเกราะป้องกันทางสุขภาพให้คนไทยมีร่างกายที่แข็งแรงต่อไปในระยะยาว

“เราเชื่อมั่นว่าการสำรวจแนวโน้มสุขภาพของตนเองผ่านข้อมูลจาก 5 ตัวชี้วัดทางสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับการออกกำลังกายอย่างถูกต้องเป็นประจำอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ไม่ใช่แค่เฉพาะช่วงวิกฤตโรคระบาดเท่านั้น จะช่วยสร้างเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ และเตรียมแผนการดูแลสุขภาพให้พร้อมต่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อยู่เสมอในอนาคต” มร. สกาย เชน กล่าวสรุป


[1] ข้อมูลความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดบนอุปกรณ์มีไว้เพื่อใช้อ้างอิงเท่านั้น และไม่ถือเป็นการวินิจฉัย ทั้งนี้ Garmin ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมยามว่าง ไม่เหมาะสำหรับใช้ในการวินิจฉัย รักษา บรรเทาหรือป้องกันความเจ็บป่วยหรือโรคต่างๆ ผู้ใช้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหากมีอาการผิดปกติ
[2] ผลลัพธ์จากการวัดค่า Pulse Ox บนสมาร์ทวอทช์อาจแตกต่างไปจากค่าที่แท้จริงเล็กน้อย เนื่องจากตำแหน่งข้อมือ การเคลื่อนไหว และระยะเวลาที่ใช้วัดสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ได้ หากผู้ใช้ได้วัดค่าอย่างต่อเนื่องและพบว่าค่าผิดปกติ ขอแนะนำให้รับปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาข้อเท็จจริง

เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ชวนช้อปให้ชุ่มฉ่ำต้อนรับสายฝน 2021

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฤดูนี้จะทำให้สาวๆหลายคนไม่ค่อยชอบสักเท่าไร เพราะนอกจากจราจรจะติดขัดแล้ว ยังทำให้เสื้อผ้าหน้าผมของพวกเธอเปียกปอนไปตาม ๆ กัน แต่อย่างที่รู้กันดีว่าฝนฟ้าอากาศเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น สาวๆจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ และที่สำคัญอย่าให้สายฝนเป็นอุปสรรคในการแต่งตัวสวย เพราะไม่ว่าฝนจะตกหนักสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถหยุดสไตล์ของเหล่าพวกเธอได้อย่างแน่นอน และล่าสุด ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ได้รวบรวมไอเทมเด็ดในวันที่ฝนพรำ ไม่ว่าจะเป็น ร่มสุดชิค เสื้อกันฝน ไปจนถึงรองเท้าแตะ รับรองว่าตำแหน่งแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ในหน้าฝนปีนี้ ไม่หนีไปไหนไกลแน่นอน

● เริ่มต้นด้วยร่มใสสไตล์ญี่ปุ่น ลองเปลี่ยนจากร่มธรรมดา ๆ มาเป็นร่มใสแบบสาวญี่ปุ่น จะช่วยอัปลุคเพิ่มความโดดเด่นให้สาวที่ถือดูดีมีสไตล์ แถมยังสามารถใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปชิค ๆ และน้ำหนักเบาพกพาง่ายอีกด้วย พิกัด ร้าน VIVA House ห้อง 222/1267/ถ ชั้น 5 โซน 2

● ขาสั้นมิกซ์แอนด์แม็ตช์ พร้อมลุย ทวีคูณความเก๋แถมไม่ต้องกลัวถ้าเผชิญกับพื้นถนนที่เฉอะแฉะ แค่คว้าชุดเสื้อกางเกงขาสั้นมาใส่ ก็ดูคล่องตัว และพร้อมลุยทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นกางเกงผ้าสวมใส่สบาย หรือกางเกงยีนส์แซ่บ ๆ เข้ามาชม และช้อปกันได้เลย พิกัดร้าน Bonita ห้อง 222/366 ชั้น 1 โซน 2, ร้าน Nidaa ห้อง 222/221 Aชั้น 1 โซน 1

● กระเป๋าพลาสติกกันน้ำ สาวคนไหนกังวลว่ากระเป๋าสุดที่รักจะเปียก หน้าฝนนี้ลองเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าพลาสติกใสกันน้ำดีไซน์เก๋ดู เวลาฝนตกจะได้ไม่ต้องไปหาถุงมาคลุมกระเป๋าให้ยุ่งยาก พิกัด ร้าน Posh เลขที่ 222/298 ชั้น 1 โซน 2

● และขาดไม่ได้กับรองเท้าแตะ ไอเทมสุดคลาสสิกที่อยู่คู่กับเราในทุก ๆ หน้าฝน นอกจากจะสวมง่าย และใส่สบายแล้ว ยังทำให้เท้าของสาว ๆ ไม่อับชื้นด้วย และหน้าฝนนี้หากใครยังไม่มีรองเท้าแตะละก็ รีบไปสอยกันสักคู่โดยด่วน พิกัดร้าน ร้าน Lovely Shoes ห้อง 222/222 B ชั้น 1 โซน 1

สาวๆสามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า กระเป๋า กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับ หลากหลายสไตล์ ที่ช้อปเพียงตัวเดียวก็ได้ในราคาส่งได้ที่ ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ หรือจะสามารถเลือกช้อปและคลิ๊กช้อปสินค้าง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ The Platinum Fashion Mall : E-Catalog Website ที่ http://bit.ly/2Nvs5BT หรือสแกน QR CODE สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0-2121-8000

OPPO เปิดการอัปเดตเทคโนโลยี RAM Expansion บนสมาร์ทโฟน A Series

OPPO บริษัทชั้นนำด้านอุปกรณ์อัจฉริยะระดับโลก ประกาศเปิดใช้งานเทคโนโลยี Memory Expansion Technology หรือ RAM Expansion ของ OPPO เพิ่มเติมในรุ่น OPPO A94, OPPO A74 5G และ OPPO A74 ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้ได้

“เราได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากการเปิดตัวครั้งแรก ดังนั้นเราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะนำเทคโนโลยี Memory Expansion Technology สู่ผู้ใช้งาน OPPO ที่กว้างขวางมากขึ้น” โดย “เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การใช้งานที่ดีเพื่อผู้ใช้ พร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยี RAM Expansion ของเรา”

โดย RAM Expansion ของ OPPO จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน ROM ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนเป็นหน่วยความจำเสมือน (RAM) ได้ พร้อมสามารถปรับเปลี่ยนระดับการขยายได้อิสระ ซึ่งผู้ใช้ OPPO A94, OPPO A74 5G และ OPPO A74 จะสามารถปรับระดับการขยายของ RAM ในระดับ 2GB, 3GB และ 5GB ได้บนสมาร์ทโฟนของตน

การเปิดใช้งานเทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology ในผู้ใช้ OPPO ที่กว้างมากยิ่งขึ้น จะทำให้ผู้ใช้ OPPO ได้รับประสิทธิภาพการใช้งานสมาร์ทโฟนที่ดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่ต้องใช้ RAM จำนวนมาก หรือ การใช้งานแอปพลิเคชันมือถือในการตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ ผู้ใช้ก็จะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

RAM Expansion ของ OPPO จะพร้อมใช้งานบนสมาร์ทโฟน OPPO Reno5 Series 5G, OPPO A94, OPPO A74 5G และ OPPO A74 สำหรับการเปิดใช้งาน RAM Expansion ของ OPPO จะพร้อมใช้งานผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์เช่นเดียวกับการเปิดตัวครั้งแรก โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อเพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology ได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด ดังนี้
- OPPO Reno5 มิถุนายน 2564
- OPPO Reno5 5G มิถุนายน 2564
- OPPO Reno5 Pro 5G กรกฎาคม 2564
- OPPO A94 มิถุนายน 2564
- OPPO A74 พร้อมใช้งาน
- OPPO A74 5G พร้อมใช้งาน

เปิดกล่องสมบัติสุดพิเศษจาก Keds x A Treasure Box

ไม่มีช่วงเวลาใดจะน่าตื่นเต้นไปกว่าช่วงเวลาที่เอื้อมมือไปเปิดกล่องของขวัญอีกแล้ว ซึ่งความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้คือ คีย์หลักของแคมเปญ Dream in Canvas ที่ Keds ได้จับมือร่วมงานกันครั้งแรกกับ A Treasure Box แบรนด์กระเป๋าไทยดีไซเนอร์ยอดนิยม รังสรรค์ของขวัญชิ้นพิเศษที่จะมอบให้แก่สาวๆ ด้วยกันถึง 2 ชิ้น โดยชิ้นแรกเป็นถุง Dust Bag สีหวานพร้อมชาร์มรูปหัวใจ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดย คุณไอซ์-ไอริณ อุนนกิตติ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ A Treasure Box และความพิเศษที่มากกว่านั้น สามารถนำชาร์มรูปหัวใจนี้มาร้อยเข้ากับเชือกรองเท้าทุกรุ่นของ Keds ได้อีกด้วย เพียงช้อปปิ้งรองเท้า Keds ทุกรุ่นในราคาปกติ ก็สามารถเป็นเจ้าของของขวัญชิ้นพิเศษนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ร่วมลุ้นรับขวัญชิ้นที่สองนั่นคือ กล่องของขวัญ Dream in Canvas Giftbox สีชมพูพาสเทลใบใหญ่ ที่มีทั้งรองเท้า Champion Cotton Organic White สุดคลาสสิก ตกแต่งตัวชาร์มรูปหัวใจสีชมพูหวาน มาพร้อมถุง Dust Bag และกระเป๋า Canvas Layer Treasure Box รุ่นล่าสุด ซึ่งของขวัญชิ้นนี้จะมอบให้ผู้โชคดีเพียง 1 ท่านเท่านั้น

สาวๆ คนไหนสนใจรีบแวะมาช้อปและร่วมลุ้นรับของขวัญชิ้นพิเศษนี้ได้ที่ร้าน Keds สาขาที่ร่วมแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 10 – 30 มิถุนายนนี้ และติดตามข่าวสารจาก Keds Thailand ได้ที่เว็บไซด์ www.keds.co.th, Facebook และ Instagram: @KedsThailand

สาขา Keds ที่ร่วมแคมเปญ
- ร้าน Keds Mega Bangna, Central Lardpao, Terminal 21 Pattaya, Terminal 21 Asok, และ Maya Chiang Mai
- ร้าน Ikon shop Siam Square One, Future Park Rangsit (Zpell), Fashion Island และ Central Bangna

WeComics เดินหน้าดันครีเอเตอร์ไทยโกอินเตอร์ เปิดเวที “WECOMICS CONTEST 2021” ค้นหานักวาดการ์ตูนไอเดียเจ๋ง

เส้นทางความฝันสู่การเป็นครีเอเตอร์เว็บตูน หรือนักวาดการ์ตูนมืออาชีพมาถึงแล้ว WeComics แอปพลิเคชันอ่านการ์ตูนออนไลน์ลิขสิทธิ์แท้ เดินหน้าผลักดันศักยภาพ และยกระดับความสามารถครีเอเตอร์ไทย เปิดเวทีประกวดวาดการ์ตูนแห่งปี “WECOMICS CONTEST 2021” ชวนเหล่าครีเอเตอร์ และนักวาดการ์ตูนจากทั่วประเทศ ไม่จำกัดอายุ และเพศ มาประชันลายเส้น และไอเดียสุดสร้างสรรค์ โดยเปิดกว้างทุกสไตล์ ทุกแนวคอนเทนต์ เพื่อชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมคว้าโอกาสโชว์ผลงานสู่สายตานักอ่านต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชัน WeComics โอกาสดีๆ แบบนี้พลาดไม่ได้ จับปากกากันให้พร้อมแล้วรีบส่งผลงานมาที่ http://wecth.co/contestcreate ตั้งแต่วันนี้ - 19 กรกฎาคมนี้ ยิ่งส่งมาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก

นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “WeComics เป็นแพลตฟอร์มอ่านการ์ตูนออนไลน์แปลไทยลิขสิทธิ์แท้ และเป็นแอปคอมมูนิตี้สำหรับนักอ่าน และนักวาดการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดของไทย ปัจจุบันมีการ์ตูนยอดฮิตจากครีเอเตอร์คนไทย และการ์ตูนสนุก จากเกาหลี จีน และญี่ปุ่น เวอร์ชันแปลไทยอีกมากมายกว่า 10,000 เรื่อง ซึ่งครอบคลุมทุกแนวที่คนไทยสนใจ ไม่ว่าจะเป็น โรแมนติก ดราม่า สืบสวน แอคชัน สยองขวัญ เป็นต้น ทั้งนี้เรามุ่งมั่นเติมเต็มคอนเทนต์ใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มอยู่เสมอ เพื่อรองรับเทรนด์การอ่านการ์ตูนออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น และมอบประสบการณ์การอ่านที่แปลกใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ การผลักดันให้นักวาดการ์ตูนไทยพัฒนาฝีมือ และยกระดับความสามารถตัวเองสู่ระดับสากล ดังนั้น WeComics จึงได้จัดประกวดวาดการ์ตูนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดเวที WECOMICS CONTEST 2021 เพื่อค้นหาครีเอเตอร์นักวาดการ์ตูนสุดสร้างสรรค์ ที่จะมาคว้าเงินรางวัล และโอกาสในการเผยแพร่ผลงานสู่โลกของคนรักการ์ตูนระดับอินเตอร์ ผ่านแอปฯ WeComics ที่ให้บริการหลายภาษาทั่วโลก ได้แก่ ภาษาอังกฤษ จีน อินโดนีเซีย และภาษาไทย”

เพียงคุณมีทักษะขีดเขียนลายเส้น หรือวาดการ์ตูน มีจินตนาการในการสร้างสรรค์เรื่องราวที่สนุก แปลกใหม่ และมีความตั้งใจ ก็สามารถร่วมประชันฝีมือกับโครงการนี้ได้ โดยเวทีนี้เปิดกว้าง ไม่จำกัดอายุ เพศ ประสบการณ์ และแนวเรื่อง ทุกคนสามารถเลือกสร้างสรรค์ผลงานได้ทุกแนวตามที่ถนัด รวมถึงไม่จำกัดจำนวนเรื่องในการส่งเข้าประกวด ผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงาน และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://wecomics.in.th/contestsm ตั้งแต่วันนี้จนถึง 19 กรกฎาคม 2564

กติกาการประกวด WECOMICS CONTEST 2021
- 3 Chapters: ส่งผลงานจำนวน 3 ตอน 4 สีขึ้นไป
- 50 Blocks หรือ Hight 50,000+ Pixels: วาดการ์ตูน 50 ช่องหรือความยาวไม่ต่ำกว่า 50,000 พิกเซล โดยจะต้อง อัพโหลดภาพแยกหน้า หน้าละ 8,000 x 1,500 พิกเซล
- Width 800 Pixels: ความกว้าง 800 พิกเซล หรือ 22 เซนติเมตรต่อหน้า
- Webcomic: วาดในรูปแบบเลื่อนอ่าน หรือแบบเว็บคอมมิด (Webcomic) เท่านั้น
- Tie-in Foodpanda (Optional): หากสามารถ Tie-in Foodpanda ในคอนเซ็ปต์ #สั่งได้ทุกวันกับ Foodpanda ในการ์ตูนได้ถูกใจทีมงาน จะได้รับรางวัล “ขวัญใจ Foodpanda” ได้รับเงิน 20,000 บาท

ประกาศผลผู้เข้ารอบ 26 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.00 น. ประกาศผลผู้ชนะเลิศ 13 สิงหาคม 2564 เวลา 17.00 น. ทางเว็บไซต์ https://wecomics.in.th/contestsm หรือ Facebook WeComicsTH โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท 80,000 บาท และ 70,000 บาท ตามลำดับ รวมถึงได้รับสิทธิ์ JOOX VIP และ WeTV VIP ฟรีเป็นเวลา 1 ปี


#WeComicsContest2021 #WeComicsTH #ประกวดวาดการ์ตูน

vivo ส่งสมาร์ตโฟน Y3s รุ่นเล็กสเปกแน่นรับแคมเปญ 6.6

vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก เตรียมส่งสมาร์ตโฟนตระกูล Y Series ให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์กันอีกรุ่น กับ vivo Y3s สมาร์ตโฟน ‘แบตอึด-หน้าจอใหญ่-ดีไซน์ล้ำ’ มาพร้อมกับหน้าจอ Halo FullView™ Display ขนาด 6.51 นิ้ว ความคมชัด HD+ (1600×720) มอบมิติในการรับชมวิดีโอหรือเกมในมุมมองที่กว้างและสมจริง พร้อมฟีเจอร์กรองแสงสีฟ้าเพื่อปกป้องดวงตาขณะใช้งาน เพลิดเพลินกับการใช้งานยาวนานตลอดวันด้วย แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh (TYP) พร้อมเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงาน โดยการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งสามารถสตรีมภาพยนตร์ HD ออนไลน์ได้นานถึง 19.12 ชั่วโมง หรือเล่นเกมได้นานถึง 8.95 ชั่วโมง และยังได้รับการออกแบบมาพร้อมกับการชาร์จย้อนกลับ 5V/1A สามารถชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย

โดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวเครื่องกับสีสันแบบ 5D Dazzling Colors กับเฉดสีใหม่ Starry Blue สีน้ำเงินเข้มของเนบิวลา ในกาแลคซีที่สะท้อนแสง ให้ความรู้สึกเงียบสงบในยามค่ำคืน สร้างแรงบันดาลใจให้กับจินตนาการและความฝันอันยิ่งใหญ่ และสี Peral White สีฟ้าขาวเหมือนอัญมณีบริสุทธิ์จากมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เฉดสีที่แวววาวเปล่งประกาย สะท้อนให้เห็นถึงความสดใสของชีวิต

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ กล้องหลัก AI ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.2 มอบรายละเอียดภาพที่ชัดเจน พร้อม กล้องหน้าความละเอียด 5MP รองรับฟีเจอร์ Face Beauty แฟลช ให้ภาพสวยโดดเด่นแม้ในพื้นที่แสงน้อย จัดเก็บรูปภาพ ไฟล์ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างจุใจกับ ROM 32GB และสามารถขยายเพิ่มได้ถึง 1TB ด้วยการ์ด SD เพิ่มความเต็มที่ให้กับโลกส่วนตัวได้อย่างมหัศจรรย์ พร้อม RAM 3GB ทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์ Helio P35 และใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจด้วย Face Access ปลดล็อกโทรศัพท์ทันทีด้วยระบบจดจำใบหน้า พร้อมทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการณ์ Android 11 (Go edition) และ Funtouch OS 11 รองรับฟีเจอร์ Dark Mode สามารถเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีเข้ม เมื่อใช้งานในเวลากลางคืน ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว เพื่อประหยัดพลังงานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น มอบประสบการณ์การรับชมที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น พร้อมยังรองรับ iManager บัตเลอร์ส่วนตัวบนสมาร์ตโฟนที่จะช่วยดูแลงานต่าง ๆ เช่น การทำความสะอาดพื้นที่หรือการสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน ช่วยให้สมาร์ตโฟนเหมือนเครื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา

สามารถเป็นเจ้าของ vivo Y3s แบบเอ็กซ์คลูซีฟได้เฉพาะช่องทางออนไลน์ ที่ vivo Official flagship store บน LAZADA, Shopee, JD Central และ Thisshop ได้ตั้งแต่ วันที่ 6 มิถุนายน 2564 นี้ พร้อมรับทันที! กระเป๋าผ้าvivo มูลค่า 299 บาท และพบโปรโมชันพิเศษ ในแคมเปญ 6.6 จากทั้ง LAZADA และ Shopee ตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้

● คุ้มยิ่งกว่าคุ้มกับ Lazada 6.6 Mega Mid Year Sale
แคมเปญ 6.6 ในครั้งนี้ Lazada จัดเต็มกับโปรโมชันสุดพิเศษเฉพาะ vivo Y3s ทั้งสี Starry Blue และสี Pearl White วางจำหน่ายที่ ราคา 3,799 บาท ใน วันที่ 6 - 8 มิถุนายน 2564 นี้ เท่านั้น พร้อมรับของแถมพรีเมียม กระเป๋าผ้า vivo มูลค่า 299 บาท และ Lazada bonus ให้ไปช้อปปิงกันต่อได้อย่างคุ้มค่า ช้อปได้เลยตอนนี้ ที่ลิงก์ https://bit.ly/3vyEupQ

● เป็นเจ้าของ vivo Y3s ได้ง่ายๆ กับโปรโมชันบน Shopee
เตรียมเป็นเจ้าของ vivo Y3s ผ่านทาง Shopee ได้ที่ ราคา 3,799 บาท พร้อมของแถมสุดพิเศษ กระเป๋าผ้าจาก vivo มูลค่า 299 บาท และห้ามพลาดติดตามรับชม vivo LIVE 6.6 มีแจกคูปองมูลค่า 600 บาท เฉพาะที่ vivo LIVE บน Shopee พบกับขบวนส่วนลด Happy Hours ถึง 2 ช่วงเวลา ที่พร้อมจัดเต็มให้กับครอบครัว vivo ในวันที่ 6 มิถุนายน 2564 นี้เท่านั้น
ช่วงเวลาแรกสามารถใช้ส่วนลดได้ในเวลา 00.00 - 02.00 น.
- รับทันทีส่วนลด 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท (โค้ด: VIVOBTC66)
- รับทันทีส่วนลด 400 บาท เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท (โค้ด: VIVOBTC44)
ช่วงเวลาที่สองสามารถใช้ส่วนลดได้ในเวลา 02.01 - 23.59 น.
- รับทันทีส่วนลด 300 บาท เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท (CODE: VIVO66V43)
- รับทันทีส่วนลด 700 บาท เมื่อช้อปครบ 8,000 บาท (CODE: VIVO66V87)
อย่าลืม! พลาดแล้วพลาดเลย วันที่ 6 มิถุนายน 2564 วันเดียวเท่านั้น สั่งซื้อ vivo Y3s ได้แล้วตอนนี้ที่ https://bit.ly/3fvjOco