Beaty Arrival

[YSL BEAUTY] LIBRE EDT ดังเสรีภาพสว่างสไวสีโรสโกลด์ น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ให้คุณกล้าทำตามใจต้องการ

ดังเสรีภาพสว่างสไวสีโรสโกลด์ เปล่งแสงอมชมพู จากมวลกลิ่นของดอกไม้นานาพรรณ LIBRE EDT น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ให้คุณกล้าทำตามใจต้องการ
พร้อมเปิดกว้างกับทุกโอกาสของชีวิต ด้วยความร้อนแรงที่นุ่มนวลอ่อนหวานเป็นที่สุด

FREE TO BLAZE WITH SELF-CONFIDENCE.
FREE TO BURN WITH PLEASURE.
FREE TO LIVE EVERYTHING ON YOUR SKIN.
FREE TO BE LIBRE.

มีอิสระที่จะโชติช่วงด้วยความมั่นใจในตัวเอง
มีอิสระที่จะแผดเผาใจด้วยไฟแห่งความเร่าร้อนรื่นรมย์
มีอิสระที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับทุกสิ่งที่ประพรมบนผิวของคุณ
มีอิสระที่จะเป็นอิสระ.
#IAmLIBRE


LIBRE EAU DE TOILETTE 30ML 2,550 บาท
LIBRE EAU DE TOILETTE 90ML 5,400 บาท

● วางจำหน่ายก่อนเป็นที่แรก
เริ่มจำหน่ายวันที่ 16 มิ.ย. 2564 – 30 มิ.ย. 2564
- bit.ly/libreedt30
- bit.ly/libreedt90
- https://www.yslbeautyth.com
● วางจำหน่ายทั่วประเทศ
วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2564
YSL Beauty ทุกสาขา และทุกช่องทาง

เตรียมเป็นเจ้าของ vivo Y52 5G สุดยอดสมาร์ตโฟน 5G ตระกูล Y Series ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,489 บาท ที่ AIS ทุกสาขา

vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก สานต่อแนวคิด ‘5G เข้าถึงทุกที่ ทุกเวลา’ (5G For You) ด้วยสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Y Series กับ vivo Y52 5G รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G แบบ dual mode พร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 48MP จัดเต็มกับแบตเตอรี่ 5000mAh ให้สนุกกับทุกกิจกรรมตลอดทั้งวัน เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันที่ 17 มิถุนายน นี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,489 บาท เฉพาะร้าน AIS Shop ทุกสาขา ทั่วประเทศ

vivo Y52 5G พร้อมให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินกับประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น ด้วยชิปเซ็ตเรือธง Dimensity 700 แบบ 5G ขนาด 7nm อัปเกรดความเร็ว CPU ให้สูงถึง 2.2GHz รองรับสัญญาณเครือข่ายและคลื่นความถี่ 5G แบบ dual-mode ทั้ง SA[1] และ NSA รวดเร็วมากขึ้นด้วยการออกแบบเสาอากาศรอบทิศทาง พร้อมพื้นที่จัดเก็บ RAM 4GB และ ROM 128GB[2] ใช้งานตัวเครื่องได้แบบไม่มีสะดุด รวมทั้งสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G[3] และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ลื่นไหลมากขึ้น

สร้างสรรค์คอนเทนต์ให้โดดเด่นบนโลกออนไลน์กับ กล้องหลังความละเอียด 48MP มาพร้อมฟังก์ชันการประมวลผลที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกช่วงเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อม Super Night Mode สร้างสรรค์ภาพด้วยสีสันล้านเฉดสียามค่ำคืน กับอัลกอริธึมการถ่ายภาพกลางคืนของกล้องหลัง โดยใช้วิธีการแสดงข้อมูลภาพ RAW ไม่ว่ากลางคืนจะมืดแค่ไหน ก็สามารถจับภาพทิวทัศน์ได้อย่างงดงาม พร้อมรองรับ Stylish Night Filters ถึง 4 โหมด ออกแบบโดยช่างภาพมืออาชีพของ vivo ให้คุณสามารถถ่ายภาพผลงานชิ้นเอกออกมาได้แบบมือโปร พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP เก็บภาพเซลฟีหรือวิดีโอคอลได้อย่างคมชัด

เก็บทุกโมเมนต์อันมีค่าด้วยภาพถ่ายสุดพิเศษ กับเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2MP โฟกัสวัตถุที่ต้องการถ่าย โดยจะเบลอภาพฉากหลังออกไป เพื่อเน้นไปยังภาพที่โฟกัสให้ทั้งความละมุน โดดเด่น และสะดุดตา พร้อมโหมดถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ มาพร้อมกับ Pose Master AR Stickers และ Multi-Style Portrait ให้การถ่ายภาพในฉากต่าง ๆ ดียิ่งขึ้น และถ่ายภาพบุคคลได้อย่างมีสไตล์ พร้อมเตรียมค้นพบความมหัศจรรย์ของโลกใบเล็กด้วย เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP การถ่ายภาพระยะใกล้ที่สามารถโฟกัสได้สูงสุดถึง 4 ซม.

นอกจากภาพนิ่งที่สวยงามแล้ว vivo Y52 5G ในโหมดการถ่ายวิดีโอของกล้องหลัง ยังมาพร้อมกับ ระบบ EIS ป้องกันภาพสั่นไหว จับภาพได้ทุกการเคลื่อนไหว ช่วยลดความเบลอที่เกิดจากการสั่นไหวของกล้องขณะถ่าย สามารถเก็บภาพวิดีโอได้อย่างเสถียรและชัดเจนมากยิ่งขึ้นแม้ในขณะเคลื่อนไหว ดวงตาคมชัดมากยิ่งขึ้นด้วยระบบ Eye Autofocus ของกล้องหลังสามารถโฟกัสที่ดวงตาได้อย่างต่อเนื่องและชัดเจน แม้ในขณะที่เคลื่อนไหวหรือจะมีการเปลี่ยนท่าทางบ่อยแค่ไหน ก็สามารถติดตามและล็อกโฟกัสแต่ละช่วงไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ให้ผู้ใช้งานบันทึกภาพช่วงเวลาที่ดีที่สุด พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับแต่ละนาทีในขณะถ่ายภาพได้อย่างเต็มอิ่ม

vivo Y52 5G เอาใจคนรักความบันเทิงด้วย หน้าจอกว้างขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080) พร้อม Super Linear Speaker รุ่น 1612 เอฟเฟกต์เสียงขั้นสูง ให้เสียงสูง[4] ที่ชัดเจนกว้างมากขึ้นถึง 16K Hz เสียงใสไพเราะน่าฟัง ให้เสียงกลางที่นุ่มนวล และเสียงเบสที่หนักแน่น ทำให้ปริมาณและคุณภาพเสียงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากนี้ยังมาพร้อมเอฟเฟกต์เสียง Speaker Boost 3.0 ให้ความรู้สึกราวกับว่าอยู่ในฉากภาพยนตร์ เพลิดเพลินไปกับการรับชมมากขึ้น ด้วยการออกแบบที่รองรับลำโพงด้วยโลหะทั้งหมด ช่วยให้เสียงดังกระหึ่มมากขึ้น และคลื่นเสียงความถี่ต่ำ ให้คุณภาพเสียงใสเป็นพิเศษ มอบประสบการณ์รับฟังเสียงที่ชัดเจนกว่าที่เคย สัมผัสกับการรับฟังเสียงที่สมจริงและทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มระดับเสียงขึ้นอีก 50% โดยรองรับระดับสูงสุดถึง 92dB[5] เพื่อให้ได้เสียงที่คมชัด และน่าทึ่งมากยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ยาวนานตลอดทั้งวันด้วย แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh (TYP) พร้อมรองรับการชาร์จไว 18W[6] และมีเทคโนโลยี VEG เพื่อช่วยประหยัดการใช้งานแบตเตอรี่และยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างลื่นไหลบนระบบปฏิบัติการ Android11 และ Funtouch OS 11.1 ที่ได้รับการอัปเดตมาเรียบร้อยแล้ว

vivo Y52 5G มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Graphite Black และ Polar Blue เตรียมวางจำหน่ายให้เป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการแล้ว ในวันที่ 17 มิถุนายน นี้ ที่ราคา 7,999 บาท พิเศษ! เฉพาะที่ AIS เท่านั้น พบกับ vivo Y52 5G สมาร์ตโฟน 5G ที่ราคาดี และคุ้มค่าที่สุด เริ่มต้นเพียง 1,489 บาท ผ่อนสบายกับ AIS Smart Pay 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมรับความพิเศษมากยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า AIS รับสิทธิ์สมัคร Disney+ Hotstar ล่วงหน้า ได้ในราคาเพียงเดือนละ 35 บาท (รับสิทธิ์ได้ถึง 27 มิ.ย. 64 เท่านั้น) เตรียมเป็นเจ้าของ vivo Y52 5G ได้ทั้งที่ AIS Shop และ Telewiz ทุกสาขา หรือสามารถสั่งซื้อจากที่บ้านได้ง่ายๆ ผ่าน AIS Online Store และ LINE @AISShop พร้อมบริการจัดส่งฟรีถึงบ้าน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vivo.com/th


[1] ความพร้อมใช้งานของโหมด SA ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เครือข่ายของผู้ให้บริการท้องถิ่น เมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วจะถูกส่งผ่านการอัปเดตโดย OTA
[2] RAM / ROM ที่ใช้ได้จริงอาจน้อยกว่าที่ได้ระบุไว้เนื่องจากการจัดเก็บระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า
[3] คุณภาพการสื่อสารรองรับ 5G ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรองรับเครือข่าย ณ ตำแหน่งของผู้ใช้งาน
[4] โหมดเสียงสูงสามารถตั้งค่าการควบคุมได้โดยฟังก์ชัน Audio booster
[5] SPL (ระดับความดังของเสียง) อ้างอิงจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ vivo โดยทดสอบ 5 เพลง ค่า SPL เฉลี่ยคือ 83.6dB(A);
เล่น McDull ในวิดีโอ ค่า SPL คือ 81.2dB(A) เล่นเสียงเรียกเข้าค่า SPL คือ 86.1dB(A)
[6] Y52 5G มาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐานอย่างเป็นทางการของ vivo (power adapter 9V / 2A) ซึ่งสามารถรองรับ Fast Charge ได้สูงสุด 18W กำลังชาร์จจริง
จะถูกปรับแบบไดนามิกตามการเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม โปรดอ้างอิงการจากการใช้งานจริง

อาดิดาส ออริจินอลส์ จับมือ เลโก้ กรุ๊ป เปิดตัวรองเท้าผ้าใบระดับตำนานรุ่นซุปเปอร์สตาร์ พร้อมเลโก้คอลเล็กชันพิเศษ

อาดิดาส ออริจินอลส์ และเลโก้ กรุ๊ป เดินหน้าสานต่อความร่วมมืออีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว รองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ที่นำเสนอลุคใหม่ที่ต่อยอดมาจากคอลเล็กชันระดับตำนานอย่างซุปเปอร์สตาร์ พร้อมกับการเปิดตัวเลโก้® ออริจินอลส์ ซุปเปอร์สตาร์ ที่สร้างสรรค์รองเท้ารุ่นซปเปอร์สตาร์ด้วยตัวต่อเลโก้บริก เพื่อเพิ่มความประทับใจให้แก่คอลเล็กชันรองเท้าผ้าใบของคุณ

รองเท้าผ้าใบอาดิดาส ออริจินอลส์ รุ่นเลโก้ ซุปเปอร์สตาร์ ดึงความโดดเด่นของทั้งสองแบรนด์ โดยผสานสุนทรียศาสตร์ระดับสูงจากอาดิดาส และตัวตัวต่อเลโก้บริกที่เป็นที่รู้จักของเลโก้เข้าร่วมด้วยกัน

รองเท้าผ้าใบรุ่นเลโก้ ซุปเปอร์สตาร์ ขนาดสำหรับผู้ใหญ่ เป็นรุ่นที่หยิบเอาเค้าโครงที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังสีขาวและสีดำสุดคลาสสิกมาผสมผสานกันได้อย่างสนุกสนานและโดดเด่น ไม่เพียงเท่านั้น รองเท้ารุ่นนี้ยังเพิ่มความเท่ด้วยลวดลายแถบ 3 แถบที่บริเวณหัวรองเท้า (Shelltoe) และส้นเท้า (heel tab ) ที่ดีไซน์อย่างพิถีพิถันเพื่อจำลองลวดลายเลโก้บริก และรองเท้าเอดิชันนี้ยังเพิ่มความโดดเด่นน่าสนใจด้วยดีไซน์แถบทองรอบตัวรองเท้า

● รองเท้าผ้าใบเลโก้® อาดิดาส ออริจินอลส์ ซุปเปอร์สตาร์ 10282

โดยในครั้งนี้เลโก้นำเสนอสิ่งใหม่ ด้วยการมอบโอกาสให้คุณได้ออกแบบโมเดลรองเท้าที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากส่วนประกอบของเลโก้ เพื่อรังสรรค์ของสะสมที่จะเป็นที่สนใจจนทำให้ใครๆ ก็พูดถึงได้อย่างแน่นอน

เลโก้เวอร์ชันนี้มีความสมจริง เพราะมาพร้อมกราฟิกบนรองเท้าผ้าใบอาดิดาส ออริจินอลส์ ซุปเปอร์สตาร์ที่มีความโดดเด่น ด้วยรูปทรงบริเวณหัวเท้า โลโก้ Trefoil และเครื่องหมายลายทาง 3 แถบ จะดีไซน์ให้อยู่บนรองเท้าข้างขวาหรือข้างซ้ายก็ได้ตามที่ผู้สร้างต้องการ หรือจะออกแบบให้ครบคู่ก็ทำได้ เลโก้ชุดนี้ประกอบไปด้วยอุปกรณ์พิเศษ 17 ชิ้น เพื่อให้คุณสามารถเลือกที่จะสร้างรองเท้าผ้าใบเท้าสำหรับข้างขวาหรือข้างซ้ายก็ได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมาพร้อมเชือกผูกรองเท้าและกล่องรองเท้าเพื่อเพิ่มความสมจริงมากยิ่งขึ้น

โมเดลของรองเท้ารุ่นนี้สูงกว่า 12 ซม. ยาว 27 ซม. และกว้าง 9 ซม. มาพร้อมแท่นตั้งแสดงผลงานและแท่นวางโลหะ โมเดลรุ่นนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่รักในการสะสมอาดิดาสและงานสตรีทแวร์ รวมถึงแฟนๆ ของเลโก้อีกด้วย

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ของเลโก้ อาดิดาส ออริจินอลส์ ซุปเปอร์สตาร์ ทางเลโก้ กรุ๊ป ได้ระดมเหล่าผู้สร้างแรงบันดาลใจ 6 คน มาออกแบบโมเดลรองเท้าผ้าใบที่สร้างจากเลโก้บริกในเวอร์ชันของตัวเอง พร้อมทั้งเชิญชวนให้เหล่าผู้ติดตามทำการแสดงท่าทางในแบบของตัวเองบนโซเชียลมีเดีย โดยใช้แฮชแท็ก #RebuiltByOriginals สามารถเข้าชมผลงานได้ก่อนใครที่ www.lego.com/adidas-originals-superstar เพื่อจะได้เห็นว่าเหล่าผู้หลงรักในรองเท้าอย่าง Aida Kiraya (@afrokickz), Tom Yoo (@tommyoo23), Hanna Helsøe (@helsoe), Leta Sobierajski (@sobierajski), Nicolai Sclater (@ornamentalconifer) และ Coffee Boy (@178kz_boy) ทำการออกแบบโมเดลในแบบฉบับของตนเองอย่างไร

“ในฐานะเด็กยุค 80 ที่เติบโตขึ้นมาในยุค 90 รองเท้าผ้าใบรุ่นซุปเปอร์สตาร์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมแนวสตรีทอาร์ตจึงเป็นสัญลักษณ์ของช่วงเวลานั้น และทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่ได้เป็นเจ้าของรองเท้าผ้าใบรุ่นนี้คู่แรก” ฟลอเรียน มัลเลอร์ ดีไซเนอร์อาวุโสของเลโก้ กรุ๊ปกล่าว ”ตอนที่เราเริ่มต้นโปรเจ็กนี้กับอาดิดาสผมจึงตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานนี้ เนื่องจากรองเท้าเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นธรรมชาติมากๆ การผลิตจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่น แต่ให้ภาพลักษณ์ที่ต่างออกไปตามผู้สวมใส่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ทั้งท้าทายและน่าสนุกกับการตีความสิ่งเหล่านี้ออกมาเป็นรูปแบบและระบบการต่อของเลโก้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นตัวต่อสี่เหลี่ยมและบล็อก ขอขอบคุณซุปเปอร์สตาร์ของอาดิดาส ออริจินอลส์ ที่ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมตลอดช่วงการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยได้มากเกี่ยวกับศิลปะการผลิตรองเท้า และตอนนี้เราก็ตั้งตารอดูผลตอบรับจากแฟนๆ ว่าจะนำโมเดลนี้มาสร้างสรรค์ในรูปแบบของตนเองได้อย่างไรบ้าง”

เลโก้® รุ่น อาดิดาส ออริจินอลส์ ซูเปอร์สตาร์ 10282 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม และจะวางจำหน่ายเฉพาะร้านเลโก้ที่ห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอน และเมกา บางนา โดยราคาอยู่ที่ 2,990 บาท

สำหรับรองเท้าผ้าใบอาดิดาส ออริจินอลส์ รุ่นเลโก้ ซุปเปอร์สตาร์ จะวางจำหน่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ในราคา 5,000 บาท ที่ร้านอาดิดาส ออริจินอลส์ สยามเซ็นเตอร์ และทางออนไลน์ที่ www.adidas.co.th

OPPO คลายความกังวล และเพิ่มความมั่นใจในการบริการให้กับลูกค้า กับ Trustworthy services ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ทันที

OPPO แบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำ ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายเพื่อให้ผู้ใช้ OPPO มีประสบการณ์ที่ดีที่สุด พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นด้วย OPPO Service Center ส่งมอบ Trustworthy Service บริการที่น่าเชื่อถือ ที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้

คุณเคยพบกับปัญหาเหล่านี้หรือไม่? ไม่รู้ว่าอุปกรณ์รุ่นไหนจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้มากที่สุด? เมื่อเปลี่ยนอะไหล่ก็กลัวว่าจะถูกเรียกเก็บค่าบริการอย่างไม่สมเหตุสมผล? หรือกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อทำการเข้ารับบริการซ่อมแซม? ปัญหาต่างๆเหล่านั้นจะหมดไปในทันที ออปโป้พร้อมให้บริการที่น่าเชื่อถือและใส่ใจให้กับผู้ใช้งานอย่างครอบคลุมในทุกๆด้าน

● สำหรับนักท่องเที่ยว
- การรับประกันระหว่างประเทศ: OPPO เราเป็นผู้นำในการเปิดตัว IWS (International Warranty Service) สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นที่กำหนด คุณสามารถเพลิดเพลินกับการรับประกันการซ่อมแซมและบริการอัปเกรดซอฟต์แวร์ได้ที่ศูนย์บริการออปโป้ กว่า 59 ประเทศ / ภูมิภาค

● การบริการตัวเองที่ทำได้แค่เอื้อม
- Live Chat / Service Hotline: หากคุณลืมวิธีตั้งค่าหน้าเดสก์ท็อป การปรับเปลี่ยนรูปแบบการล็อกหน้าจอ หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณสามารถค้นหาคำตอบได้ทาง Live Chat ที่ด้านล่างของ- - เว็บไซต์ทางการของเรา หรือ ติดต่อผ่านทางสายด่วน
- Website FAQs: สามารถค้นหาคำถามที่คุณสนใจหรือประเด็นร้อนล่าสุดได้ ในส่วนของ FAQs บนเว็บไซต์
- Service E-mail: หากคุณมีข้อเสนอแนะหรือคำถามใด ๆ สามารถส่งอีเมลไปที่กล่องจดหมายของ OPPO ได้

● ดูแลคุณอย่างใส่ใจในกระบวนการซ่อมแซม
- อะไหล่แท้: ศูนย์บริการออปโป้ เราใช้อะไหล่แท้ ส่งตรงจากโรงงานเท่านั้น
- ราคาโปร่งใส: ราคาอะไหล่สามารถตรวจสอบได้บนเว็บไซต์ทางการของออปโป้ และสอบถามได้ที่ศูนย์บริการออปโป้ทุกสาขา
- Face to face Repair: เพื่อคลายความกังวลของคุณ คุณสามารถนั่งดูขั้นตอนการซ่อมทั้งหมดได้ที่ศูนย์บริการที่เป็นรูปแบบ 3.0
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล: OPPO เราปฏิบัติตามกฎระเบียบการปกป้องข้อมูลอย่างเคร่งครัดเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

● สำหรับการใช้งานประจำวันของคุณ
- OPPO Care: เรามีบริการการรับประกันหลายประเภทที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับหน้าจอแตก ฝาหลังหรือปัญหาอื่น ๆ เช่น ประกันหน้าจอ และการขยายเวลาการรับประกัน
- Power Project: เพลิดเพลินกับบริการชาร์จมือถือฟรีที่ศูนย์บริการ OPPO (เฉพาะสาขารูปแบบใหม่3.0)
- ฟรีฟิล์มกันรอย: ฟรีฟิล์มกันรอยโทรศัพท์มือถือ (แจกฟรีภายในกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นภายในศูนย์บริการ)

*หมายเหตุ: บริการที่มีอาจแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค โปรดสอบถามศูนย์บริการในพื้นที่สำหรับรายละเอียดการบริการ

ฝ่ายสนับสนุนของ OPPO มุ่งหวังที่จะบรรเทาปัญหาและตอบสนองความต้องการและประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายของผู้ใช้ โดย OPPO จะยึดมั่นในหลัก “ดูแล ใส่ใจ ห่วงใย พร้อมเคียงข้างคุณ” เพื่อส่งมอบบริการที่ดีให้กับผู้ใช้งาน

อ่านเพิ่มเติม: https://www.oppo.com/th/
ติดตามเรา: https://www.facebook.com/OPPOCareTH

UNDER ARMOUR เฉลิมฉลองผลงานและแนวคิดของชาว LGBTQ+ ออกคอลเลกชัน Pride 2021

Under Armour จับมือกลุ่มนักกีฬาและเพื่อนร่วมทีมในนาม UNIFIED ออกแบบคอลเลกชันสุดพิเศษ Pride 2021 ที่พาเราย้อนมองประวัติศาสตร์การเรียกร้องสิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ และยืนยันคุณค่าของแบรนด์คือ “Stand for Equality” ที่จะสนับสนุนนักกีฬาทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าพวกเขาจะรักใคร มีสรรพนามแทนตนว่าอย่างไร มีรูปลักษณ์ หรือพื้นเพแบบไหน Under Armour ก็พร้อมเคียงข้างทุกคนอย่างไม่มีข้อยกเว้น

เพราะ Under Armour เชื่อมั่นว่าทีมที่แข็งแกร่งที่สุดคือทีมที่ประกอบด้วยสมาชิกที่มีพื้นฐาน ประสบการณ์ และมุมมองที่หลากหลาย แต่ยังรู้สึกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงร่วมมือกับ UNIFIED ซึ่งเป็นกลุ่มนักกีฬาและเพื่อนร่วมทีมชาว LGBTQ+ ของ Under Armour ที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างชุมชนและสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยและเปิดกว้างยอมรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ มาร่วมออกแบบแบบและพัฒนาคอลเลกชันเพื่อเฉลิมฉลองเดือน Pride Month ในปีนี้

โดยแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบคอลเลกชัน Pride 2021 ของกลุ่ม UNIFIED ได้พาเราย้อนกลับไปสู่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาว LGBTQ+ นั่นก็คือการเดินขบวนเรียกร้องสิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศที่มีขึ้นครั้งแรกในปี 1970 ในขณะที่การเดินขบวนและการเฉลิมฉลองความรักแบบไม่จำกัดรูปแบบในครั้งนั้นได้พัฒนามาจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกอย่างในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ยังคงมีคู่กับการเดินขบวนในทุกปีก็คือป้ายข้อความที่ผู้ร่วมเดินขบวนทำขึ้น UNIFIED จึงหยิบยกเอาเอกลักษณ์ของป้ายข้อความที่แสดงออกให้เห็นถึงศิลปะ ความรัก และการเฉลิมฉลอง มาออกแบบเป็นคอลเลกชันที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ชุมชนและนักกีฬาทุกคนให้ก้าวไปสู่จุดที่ดีขึ้น

การแสดงออกของชุมชน LGBTQ+ ผ่านทางป้ายข้อความต่างๆ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสอดคล้องกับเป้าหมายของ Under Armour ที่พร้อมเคียงข้างผู้ที่แสวงหาสิ่งที่ดียิ่งขึ้น หรือ "We empower those who strive more" โดย Under Armour และกลุ่ม UNIFIED ยังมีส่วนร่วมในการสนับสนุนองค์กร Pride Center of Maryland ในการจัดตั้งศูนย์สุขภาพที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศในรัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในคอลเลกชัน Pride 2021 อีกด้วย

สำหรับแฟน Under Armour ในประเทศไทย ก็สามารถเป็นเจ้าของคอลเลกชัน Pride 2021 ที่มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ Under Armour แบรนด์เฮ้าส์ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว และ เมกา บางนา


สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Under Armour และโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครได้ที่ช่องทางต่อไปนี้
- เว็บไซต์ www.underarmour.co.th
- Line Official Account @underarmourth
- ร้านค้าทางการของ Under Armour บน Lazada
- ร้านค้าทางการของ Under Armour บน Shopee

Birkenstock; Bright & Bold

สำหรับช่วงกลางปีแบบนี้ เราขอมาอัพเดทรองเท้าสำหรับช่วงปลายฤดูร้อนต้นฤดูฝนให้คอคนรักรองเท้า Birkenstock (เบอร์เคนสต๊อก) ให้ได้เลือกใส่กัน ครั้งนี้เป็นการนำสองรุ่นคลาสสิกประจำแบรนด์อย่าง Arizona และ Gizeh มาปรับโฉมให้มีดีไซน์ที่สนุกและสะดุดตายิ่งขั้น

● Gizeh Big Buckle
สำหรับใครที่เป็นแฟนของรองเท้ารุ่น Gizeh ในซีซั่นนี้ซึ่งผลิตด้วยวัสดุหนังเรียบให้ความรู้สึกหรูหรา เข้ากันได้ดีกับพื้นรองเท้ายางไม้ก๊อกลาเท็กซ์ที่หุ้มด้วยหนัง Piumato ทำให้ได้ลุคที่มีความมาดมั่น สง่างาม และมีความเฟมินิลในคราวเดียวกัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความสบายยามสวมใส่ พร้อมยกระดับรูปลักษณ์อันแวววาวของสไตล์หัวเข็มขัดขนาดใหญ่และเฉดสีอันเรียบหรู ได้แก่ สีดำ สี Cognac และสี Almond (สี Black และสี Cognac ราคา 5,790 บาท / สี Almond ราคา 5,290 บาท)

● Arizona EVA
ยังคงสร้างสรรค์แรงบันดาลใจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในสไตล์สปอร์ต กับรองเท้ารุ่น Arizona EVA ที่เพิ่มความทันสมัยยิ่งขึ้นสามารถใส่ได้ทั้งเดินช้อปปิ้งในเมืองและริมชายหาด โดยใช้โทนสีสดใสที่ให้อารมณ์สนุกสนานของฤดูร้อนอันอบอุ่นและยังคงไว้ซึ่งความเบาเป็นพิเศษและกันน้ำได้เป็นอย่างดี (สี Bold Jade สี Watermelon และสีMulti-Colour Bold Jade ราคา 1,790 บาท)

● Arizona Groove Birko-Flor Vegan
ซีซั่นนี้รองเท้ารุ่นคลาสสิกตลอดกาลอย่าง Arizona ได้รับการออกแบบให้มีความเหนือระดับมากยิ่งขึ้นด้วยวัสดุ Vegan ใหม่ พร้อมพื้นรองเท้าที่มีความหนาอีกทั้งยังมีเฉดสีเดียวกันกับตัวรองเท้า ช่วยเสริมลุคให้คุณสาวๆ ดูสูงเพรียวขึ้นอีกด้วย (Arizona Grooved BF สี White Vegan ราคา 3,590 บาท)

คลิกเข้าไปช้อปฯ รองเท้าคอลเลคชั่นล่าสุดได้แล้วที่เว็ปไซต์ www.ikonthailand.com

70 ปี มารีเมกโกะ เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Pre-Fall 2021

ปี 2021 มารีเมกโกะ แบรนด์แฟชันไลฟ์สไตล์แห่งฟินแลนด์ เฉลิมฉลองปีที่ 70 ของการก่อตั้งแบรนด์ ธรรมชาติ พืชพรรณและสรรพสัตว์ประจำถิ่นคือแหล่งสร้างแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมที่ถักทอสู่ศิลปะลายพิมพ์ตลอด 7 ทศวรรษที่ผ่านมา

คอลเลกชัน Pre-Fall 2021 นี้ ใช้สัญญะจากความกลมกลืนและความเคารพในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจที่บรรดาดีไซน์เนอร์ผู้ช่างคิดของมารีเมกโกะ ได้เปิดกว้างรับเอาความเป็นธรรมชาติจากโลกรอบตัวมาสรรสร้างผลงานทั้งจากสถานที่ใหม่ๆ จนถึงดีไซน์ที่สะท้อนความหลากหลายของธรรมชาติ

● คอลเลกชัน The Coexistence with Nature Collection (กลมกลืนไปกับธรรมชาติ) พาเราเดินทางรอบโลกไปยังดินแดนเหนือจินตนาการของ Mari village (หมู่บ้านมารี) ผ่านลายพิมพ์ของ Maija Isola ไมยา อิโซลา ที่ออกแบบในปีค.ศ. 1970 ได้แก่ Kaksoset กั๊กโซเซ็ต (twins), ลายพิมพ์ Musta tamma มุสตะ ตัมมะ (black mare) ปี ค.ศ. 1954, ลายพิมพ์ Silkkikuikka ซิลก์กิกุยกะ (great crested grebe) ปี ค.ศ. 1961 และ ลายพิมพ์ Unikko อุนิกโกะ (poppy) ปี ค.ศ. 1964 รวมถึงลายพิมพ์ Piccolo ปิโกโล ที่สร้างสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 1953 โดย Vuokko Eskolin-Nurmesniemi คลังลายพิมพ์ดั้งเดิม ผสานเข้ากับลายพิมพ์ใหม่ๆ อย่าง Kiikari กีการิ (binoculars) และ Vuolu วัวลุ (craving) ซึ่งออกแบบโดย Tytti Laitakari ตุตติ ไลตะการิ

ในส่วนของโทนสีเด่น ไล่เรียงกันทั้งสีม่วงสดใสและเฉดฟ้าน้ำทะเล ที่ช่วยสร้างความรู้สึกอุ่นอวลให้กับคอลเลกชันนี้ด้วยสีเอิร์ธโทน

● ไอเทมเด่นประจำฤดูกาลนี้ นำเสนอในลายพิมพ์สนุกสดใส เก๋ไก๋ ซึ่งเป็นส่วนผสมของลายพิมพ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากบรรดาสัตว์ต่างๆ ผสานกับโครงชุดแบบเฟมินีน, ชายผ้าพลิ้วไหว, ชุดพิมพ์ลายชายรุ่ยที่โชว์เสน่ห์ความเท่ ดิบ แฝงด้วยความผ่อนคลายยามสวมใส่ รวมถึงชิ้นคลาสสิกอันเป็นที่รักของแบรนด์ นอกจากนั้นยังมีชิ้นที่ไม่เคยปรากฎในคอลเลกชันใดมาก่อน ได้แก่ เสื้อเชิ้ตรุ่น Jokapoika (every boy) ในลายพิมพ์ Piccolo แบบสองคู่สีที่สวยงามลงตัว

● เทคนิคการย้อมผ้าแบบ excess dye และสีครามจากธรรมชาติ
จากพันธกิจของมารีเมกโกะ ที่ต้องการเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง คอลเลกชันนี้จึงประกอบด้วยเสื้อผ้าที่ต้องจับจอง ซึ่งผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืนกว่าเดิม เช่น ผ้าซึ่งไม่ผ่านการฟอกขาว, ผ้า Better Cotton, ผ้าเส้นไยไลโอเซลล์จากเยื่อไม้ และเส้นใยโพลีเอสเตอร์แบบรีไซเคิล 100%

คอลเลกชันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เสื้อเชิ้ตชิ้นคลาสสิกสไตล์ยูนิเซ็กซ์ของแบรนด์ รุ่น Jokapoika (every boy) พิมพ์ด้วยสีต่างๆ ที่มาจากวิธีการย้อมแบบ excess dye ด้วยกระบวนการผลิตของมารีเมกโกะ นอกจากนี้ยังมีเชิ้ตรุ่น Norkko R ซึ่งพิมพ์ด้วยสีครามธรรมชาติจากใบของต้นโวด พืชทิ้งถิ่นในฟินแลนด์ อันเป็นวัสดุตั้งต้นการย้อมคราม การใช้สีย้อมจากธรรมชาติคือการเติมเต็มเป้าหมายของมารีเมกโกในการสร้างทางเลือกอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ท่ามกลางอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ใช้สารเคมีมากมาย โดย 69% ของไอเทมในคอลเลกชันนี้ผลิตในยุโรป ส่วนที่เหลือผลิตในเอเชีย

● กระเป๋าจากหนังและแคนวาสจากกระบวนการอัพไซเคิล
ไลน์กระเป๋าหนังของมารีเมกโกะมีชื่อเสียงในสีสันที่เต็มไปด้วยความสนุกและสดใส Milli Matkuri กระเป๋าถือซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมและเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาได้รับการเติมเสน่ห์ด้วยเฉดม่วงน่ามองของซีซั่นนี้ กระเป๋าสะพายอย่าง Joutuisa จากลายเส้นคมชัดก็มาพร้อมกับสายกระเป๋าโลโก้สองสี ส่วนกระเป๋า Gratha นั้นสร้างความสุขได้ด้วยโทนสีแดงอันงดงาม กระเป๋าหนังใหม่ในซีซั่นนี้ล้วนตกแต่งด้วยรายละเอียดสีทอง

ในปี 2021 มารีเมกโกะนำเสนอซีรีส์กระเป๋าแคนวาสที่ผลิตบนแนวคิดบนความยั่งยืน ด้วยผ้าส่วนที่คงเหลือจากกระบวนการผลิตในคอลเลกชันที่แล้ว กระเป๋ามารีเมกโกะซึ่งใช้กระบวนการผลิตภายใต้คอนเซ็ปต์อัพไซเคิลจะเปิดตัวในคอลเลกชัน Pre-Fall 2021 ประกอบด้วย กระเป๋าถือรุ่น Milli Matkuri, กระเป๋าเป้ทรงคลาสสิก และกระเป๋าสะพาย ทุกรุ่นทำจากผ้าลายพิมพ์ unikko โทนสีเบจ ขาว และดำ ซึ่งพิมพ์ที่โรงพิมพ์ผ้าของมารีเมกโกะ ณ เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์

พบกับคอลเลคชั่นล่าสุดได้ที่ Marimekko ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ Line Official @marimekko.th และ Marimekko Thailand Official Facebook Page



#MARIMEKKOTHAILAND
#TANACHIRA

TAG HEUER CONNECTED WATCH นำเสนอฟีเจอร์แทร็กเกอร์สุดล้ำและออพชั่นใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อนักว่ายน้ำและนักวิ่ง

หลังจากประสบความสำเร็จจากแอพพลิเคชั่น Wellness และฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้เล่นกอล์ฟที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุด TAG Heuer Connected ยังมาพร้อมกับการพัฒนาเพิ่มเติมประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา โดยนำเสนอฟีเจอร์แทร็กเกอร์สุดล้ำสำหรับนักว่ายน้ำ และออพชั่นใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อนักวิ่ง

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แอ็กทีฟและการวัดค่าประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ TAG Heuer รับฟังข้อเสนอแนะจากลูกค้าและผู้ใช้งานเพื่อนำไปใช้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ดิจิตัลที่ดีที่สุด

ล่าสุด แอพพลิเคชั่นซึ่งใช้กับกีฬาหลากหลายชนิดได้รับการพัฒนาให้ใช้กับกีฬากีฬาว่ายน้ำได้แล้ว นอกเหนือไปจากการวิ่ง ปั่นจักรยาน เดิน ฟิตเนส และกอล์ฟ ไม่เพียงเท่านั้น นาฬิกา TAG Heuer Connected ในดีไซน์สุดเท่พร้อมฟังก์ชั่นสุดล้ำ ยังมอบประสบการณ์ที่ต่อเนื่องให้กับนักว่ายน้ำไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกสระ เพื่อให้โฟกัสกับเพอร์ฟอร์แมนซ์และติดตามความก้าวหน้ายามอยู่ในน้ำและดูดีมีสไตล์ยามอยู่บนบก โดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนนาฬิกาแม้แต่วินาทีเดียว

● Connected in the pool
องค์ประกอบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในแอพพลิเคชั่น TAG Heuer Sport ทำให้นักว่ายนำ้สามารถวัดและบันทึกสถิติการว่ายในสระผ่านนาฬิกา TAG Heuer Connected ส่วนหน้าปัดนาฬิกาซึ่งเป็นแบบทัชสกรีนยังทำให้นักว่ายน้ำมองเห็นข้อมูลตัวเลขจำนวน lap (การว่ายจากความยาวสระจากด้านหนึ่งไปด้านหนึ่ง) ระยะทางทั้งหมด และการแจกแจงข้อมูลในแต่ละ interval (การว่ายเบาสลับหนักเป็นช่วงๆ) และเมื่อดูจากสมาร์ทโฟน ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติม เช่น แคลอรี่ที่เผาผลาญไป การวิเคราะห์สโตรกและความเร็ว และสรุปข้อมูลทั้งหมด

และแอพพลิเคชั่นนี้ยังให้ข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่งแก่นักว่ายน้ำซึ่งเรียกว่า SWOLF score (จำนวนสโตรกบวกกับเวลา) การวัดประสิทธิภาพและแสดงข้อมูลตัวเลขอันซับซ้อนนี้คำนวณโดยการเพิ่มวินาทีและสโตรกจากการว่ายน้ำระยะ 25 หรือ 50 เมตร ทำให้นักว่ายน้ำทราบถึงประสิทธิภาพของการว่ายในแต่ละ lap และวางแนวกลยุทธ์ในการพัฒนาตนเองต่อไป เพราะยิ่งสกอร์ยิ่งน้อยเท่าไหร่ ก็หมายความว่าทำเวลาได้ดีเท่านั้น

แอพพลิเคชั่น Swimming ทำให้วัด lap ได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้ประโยชน์จากแอคเซเลอเรเตอร์ในนาฬิกาและไจโรสโคป ซึ่งมีระบบอัลกอริทึ่มในการตรวจวัดการเริ่มและการสิ้นสุดของแต่ละ lap เพื่อวัดระยะทางทางหมดในแต่ละเซสชั่น และในขณะว่ายน้ำ หน้าจอซึ่งทำงานตลอดเวลาจะแสดงเวลาที่ผ่านไป จำนวน lap ที่ได้ ระยะทางทั้งหมด และการแจกแจงข้อมูลในแต่ละ interval

และเพื่อประสบการณ์ที่ต่อเนื่องสมบูรณ์แบบของการว่ายน้ำ TAG Heuer ยังได้พัฒนาอัลกอริทึ่มในการติดตามการว่ายน้ำแต่ละประเภทในแต่ละ lap นาฬิกาสามารถระบุประเภทสโตรกและสไตล์ที่ต่างกัน 4 แบบได้ นั่นคือ ฟรีสไตล์ กรรเชียง ท่ากบ และท่าผีเสื้อ และการว่ายหนึ่งท่าในแต่ช่วงระยะเวลานั้นยังสามารถแตกออกมาเป็นรายละเอียดในเซสชั่นนั้นซึ่งนักว่ายน้สามารถำเข้าถึงได้จากโทรศัพท์มือถือด้วย

และสำหรับนักว่ายน้ำที่ต้องการข้อมูลที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการว่ายน้ำของตนเอง TAG Heuer Connected ยังมอนิเตอร์ pace สโตรก และ interval ของแต่ละเซสชั่นด้วย

“pace” คือการวัดเวลาที่ใช้ในการว่ายน้ำในระยะทาง 100 เมตร กราฟของ pace ในแอพพลิเคชั่นโชว์ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของดัชนีนี้

การแสดงสโตรกออกมาเป็นตัวเลขนั้นวัดจากรอบการจ้วงแขนแต่ละรอบผ่านไจโรสโคปในนาฬิกา และเนื่องจากมีระบบอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้สามารถแสดงจำนวนสโตรกต่อ lap ได้ ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยนักว่ายน้ำสามารถติดตามและพัฒนาการว่ายของตัวเองในแต่ละเซสชั่นได้

ไม่เพียงเท่านั้น ฟีเจอร์ Interval นั้นยังเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานซึ่งผสมแอ็กทิวิตี้ต่างๆ เข้าด้วยกันในหนึ่งเซสชั่น หรืออยากเพิ่มจพนวนขึ้น หรือการใช้งานแบบซ้ำๆ ทำให้ interval เริ่มขึ้นได้โดยอัตโนมัติเมื่อนักว่ายน้ำเริ่มเซสชั่นจากการพักเบรก

แม้ว่าจอทัชสกรีน OLED ไม่ได้ทำงานเมื่ออยู่ใต้น้ำ แต่นักว่ายน้ำสามารถกดปุ่มด้านข้างเพื่อเริ่ม หยุด หรือพัก หรือเริ่มเซสชั่นใหม่ได้ทั้งในและนอกสระว่ายน้ำ นาฬิกา TAG Heuer Connected สามารถกันน้ำได้ 50 เมตร/5 บาร์ จึงเหมาะกับกิจกรรมน้ำตื้นอย่างในสระว่ายน้ำ ไม่ควรใส่ไปทำกิจกรรมอย่างดำน้ำหรือวอเตอร์สกี และควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าและผึ่งให้แห้งหลังจากการใช้งานทุกครั้ง

● The indoor Running app
นอกจากประสบการณ์การว่ายน้ำซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่แล้ว TAG Heuer ยังได้อัพเดทแอพพลิดเคชั่น Running ที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ใหม่สำหรับการวิ่งอินดอร์

แอพพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่นี้ช่วยให้นักวิ่งอินดอร์สามารถรู้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในช่วงไหน และเมื่อจบเซสชั่นก็สามารถใส่ระยะทางทั้งหมดซึ่งบันทึกด้วยเทรดมิลล์เข้าไปในนาฬิกา เพื่อคำนวณหา pace ในเซสชั่นนั้นได้

และอีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในการอัพเดทครั้งนี้คือสกรีนสำหรับฮาร์ตเรท ซึ่งออกแบบและพัฒนาโดยทีมอินเฮาส์เพื่อผู้ใช้งานที่โฟกัสอัตราการเต้นของหัวใจเป็นสำคัญในะหว่างการเล่นกีฬา เพียงเช็คนาฬิกาก็จะรู้ได้ทันทีว่าอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในโซนไหน รวมทั้งเปอร์เซ็นต์สูงสุดของการเต้นของหัวใจด้วย โดยโซนทั้ง 5 เริ่มต้นจาก วอร์อัพ (โซน 1) ไปจนถึงจุดพีค (โซน 5) นักวิ่งสามารถใช้ระดับการเต้นของหัวใจนี้ในการดูความหนักหน่วงของการฝึก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการออกกำลังกายคาดิโอของแต่ละคน

แอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือยังให้ผลการวิเคราะห์หลังวิ่งแบบละเอียด ทั้งกราฟการเต้นของหัวใจซึ่งแสดงด้วยสีสันต่างๆ และเวลาที่ใช้ไปในแต่ละโซนการเต้นของหัวใจ และนอกจากการวิ่งแล้ว แทร็กเกอร์สำหรับวัดการเต้นของหัวใจยังใช้กับการออกกำลังกายคาร์ดิโออื่นๆ ได้ ทั้งในร่มและกลางแจ้ง

● Boosting performance and style
แอพพลิเคชั่น TAG Heuer Sport สามารถอัพเดทอัตโนมัติผ่านไวไฟ หรืออัพเดทแบบแมนนวลโดยเข้าไปที่ Google Play Store บนนาฬิกา โดยแตะที่ “My Apps” และเลือกอัพเดทแอพพลิเคชั่น สำหรับชีวิตที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสมาร์ทวอทช์นี้สามารถเป็นเครื่องมือที่วางใจได้ในการวัดประสิทธิภาพของการทำกิจกรรม และยังเป็นแอ็กเซสเซอรี่ที่ดูดีเข้ากับลุคต่างๆ ได้หลากหลายตามสไตล์ของ TAG Heuer

WeComics เดินหน้าดันครีเอเตอร์ไทยโกอินเตอร์ เปิดเวที “WECOMICS CONTEST 2021” ค้นหานักวาดการ์ตูนไอเดียเจ๋ง

เส้นทางความฝันสู่การเป็นครีเอเตอร์เว็บตูน หรือนักวาดการ์ตูนมืออาชีพมาถึงแล้ว WeComics แอปพลิเคชันอ่านการ์ตูนออนไลน์ลิขสิทธิ์แท้ เดินหน้าผลักดันศักยภาพ และยกระดับความสามารถครีเอเตอร์ไทย เปิดเวทีประกวดวาดการ์ตูนแห่งปี “WECOMICS CONTEST 2021” ชวนเหล่าครีเอเตอร์ และนักวาดการ์ตูนจากทั่วประเทศ ไม่จำกัดอายุ และเพศ มาประชันลายเส้น และไอเดียสุดสร้างสรรค์ โดยเปิดกว้างทุกสไตล์ ทุกแนวคอนเทนต์ เพื่อชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมคว้าโอกาสโชว์ผลงานสู่สายตานักอ่านต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม และแอปพลิเคชัน WeComics โอกาสดีๆ แบบนี้พลาดไม่ได้ จับปากกากันให้พร้อมแล้วรีบส่งผลงานมาที่ http://wecth.co/contestcreate ตั้งแต่วันนี้ - 19 กรกฎาคมนี้ ยิ่งส่งมาก ยิ่งมีสิทธิ์มาก

นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “WeComics เป็นแพลตฟอร์มอ่านการ์ตูนออนไลน์แปลไทยลิขสิทธิ์แท้ และเป็นแอปคอมมูนิตี้สำหรับนักอ่าน และนักวาดการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดของไทย ปัจจุบันมีการ์ตูนยอดฮิตจากครีเอเตอร์คนไทย และการ์ตูนสนุก จากเกาหลี จีน และญี่ปุ่น เวอร์ชันแปลไทยอีกมากมายกว่า 10,000 เรื่อง ซึ่งครอบคลุมทุกแนวที่คนไทยสนใจ ไม่ว่าจะเป็น โรแมนติก ดราม่า สืบสวน แอคชัน สยองขวัญ เป็นต้น ทั้งนี้เรามุ่งมั่นเติมเต็มคอนเทนต์ใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มอยู่เสมอ เพื่อรองรับเทรนด์การอ่านการ์ตูนออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น และมอบประสบการณ์การอ่านที่แปลกใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ การผลักดันให้นักวาดการ์ตูนไทยพัฒนาฝีมือ และยกระดับความสามารถตัวเองสู่ระดับสากล ดังนั้น WeComics จึงได้จัดประกวดวาดการ์ตูนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดเวที WECOMICS CONTEST 2021 เพื่อค้นหาครีเอเตอร์นักวาดการ์ตูนสุดสร้างสรรค์ ที่จะมาคว้าเงินรางวัล และโอกาสในการเผยแพร่ผลงานสู่โลกของคนรักการ์ตูนระดับอินเตอร์ ผ่านแอปฯ WeComics ที่ให้บริการหลายภาษาทั่วโลก ได้แก่ ภาษาอังกฤษ จีน อินโดนีเซีย และภาษาไทย”

เพียงคุณมีทักษะขีดเขียนลายเส้น หรือวาดการ์ตูน มีจินตนาการในการสร้างสรรค์เรื่องราวที่สนุก แปลกใหม่ และมีความตั้งใจ ก็สามารถร่วมประชันฝีมือกับโครงการนี้ได้ โดยเวทีนี้เปิดกว้าง ไม่จำกัดอายุ เพศ ประสบการณ์ และแนวเรื่อง ทุกคนสามารถเลือกสร้างสรรค์ผลงานได้ทุกแนวตามที่ถนัด รวมถึงไม่จำกัดจำนวนเรื่องในการส่งเข้าประกวด ผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงาน และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://wecomics.in.th/contestsm ตั้งแต่วันนี้จนถึง 19 กรกฎาคม 2564

กติกาการประกวด WECOMICS CONTEST 2021
- 3 Chapters: ส่งผลงานจำนวน 3 ตอน 4 สีขึ้นไป
- 50 Blocks หรือ Hight 50,000+ Pixels: วาดการ์ตูน 50 ช่องหรือความยาวไม่ต่ำกว่า 50,000 พิกเซล โดยจะต้อง อัพโหลดภาพแยกหน้า หน้าละ 8,000 x 1,500 พิกเซล
- Width 800 Pixels: ความกว้าง 800 พิกเซล หรือ 22 เซนติเมตรต่อหน้า
- Webcomic: วาดในรูปแบบเลื่อนอ่าน หรือแบบเว็บคอมมิด (Webcomic) เท่านั้น
- Tie-in Foodpanda (Optional): หากสามารถ Tie-in Foodpanda ในคอนเซ็ปต์ #สั่งได้ทุกวันกับ Foodpanda ในการ์ตูนได้ถูกใจทีมงาน จะได้รับรางวัล “ขวัญใจ Foodpanda” ได้รับเงิน 20,000 บาท

ประกาศผลผู้เข้ารอบ 26 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.00 น. ประกาศผลผู้ชนะเลิศ 13 สิงหาคม 2564 เวลา 17.00 น. ทางเว็บไซต์ https://wecomics.in.th/contestsm หรือ Facebook WeComicsTH โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท 80,000 บาท และ 70,000 บาท ตามลำดับ รวมถึงได้รับสิทธิ์ JOOX VIP และ WeTV VIP ฟรีเป็นเวลา 1 ปี


#WeComicsContest2021 #WeComicsTH #ประกวดวาดการ์ตูน

KVD Beauty เลือกช่างแต่งหน้าชื่อดัง Nikki Wolff เป็นประธานฝ่ายศิลป์ระดับโลกคนใหม่

KVD Beauty แบรนด์ความงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรอยสัก เปิดตัวประธานฝ่ายศิลป์ระดับโลกคนใหม่ซึ่งเป็นช่างแต่งหน้าชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง Nikki Wolff โดยคุณ Wolff มีชื่อเสียงในฐานะช่างแต่งหน้าที่สร้างลุคอันเย้ายวน สไตล์กราฟิก รวมถึงงานผิวที่แลดูโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้เธอกลายเป็นที่รักของเหล่าเซเลป สื่อมวลชน และบรรดาอินฟลูเอ็นเซอร์ คุณ Wolff เคยผ่านการร่วมงานกับคนดังแล้วมากมาย อาทิ Dua Lipa, Rosie Huntington-Whiteley, Yara Shahida, Kendall Jenner และอื่น ๆ ผลงานของเธอทำให้เธอมีแฟน ๆ ติดตามมากกว่า 1.7 ล้านคนบน Instagram บนแอคเคาท์ @Nikki_Makeup

ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ระดับโลก คุณ Wolff จะเข้าร่วมทีม Global Veritas Artistry มากความสามารถ ซึ่งรวมถึง @FannyMaurer จากฝรั่งเศส @ChristianSchild จากเยอรมนี @TheSandraSaenz จากสหรัฐอเมริกา และ @AnthonyHNguyenMakeup จากสหรัฐอเมริกา โดยคุณ Wolff จะให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ตลอดจนทำหน้าที่เป็นศิลปินหลักในแคมเปญและการตลาดของ KVD Beauty ด้วยเช่นกัน
"KVD Beauty สร้างความประหลาดใจให้กับฉันอยู่เสมอด้วยนวัตกรรมเครื่องสำอางที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง ซึ่งสะท้อนถึงงานศิลปะเหนือระดับอย่างแท้จริง" ศิลปินช่างแต่งหน้าชื่อดัง Nikki Wolff กล่าว "ในฐานะสมาชิกของชุมชนช่างแต่งหน้า ฉันเชื่อมั่นเสมอว่า KVD Beauty ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ที่ช่วยฉันในการถ่ายภาพให้กับเซเลบริตีที่ขึ้นปกหนังสือ เดินพรมแดง และอื่น ๆ การเป็นช่างแต่งหน้าที่ยอดเยี่ยมคือการหมั่นทดลองและการฝึกฝนอยู่เสมอ และผลิตภัณฑ์ของ KVD Beauty ก็ได้มอบอิสระในการสร้างสรรค์ผลงาน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งประธานฝ่ายศิลป์ระดับโลกของ KVD Beauty และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกันในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และภาพรวมอื่น ๆ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง"

"เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ Nikki Wolff และได้ต้อนรับเธอเข้าสู่ทีม KVD Beauty" Tara Loftis รองประธานฝ่ายการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของ Kendo Brands กล่าว "เราติดตามการทำงานของเธอมาตั้งแต่ต้น และรู้สึกทึ่งต่ออิทธิพลที่เธอมีในวงการเมคอัพมาโดยตลอด เธอกลายเป็นคนดังใน Instagram ด้วยตัวเธอเอง วิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของเธอในด้านงานฝีมือนั้นสอดคล้องกับแบรนด์อย่างไร้ที่ติ เรารู้สึกตื่นเต้นกับคุณ Wolff กับการมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ KVD Beauty เดินหน้าส่งมอบเครื่องสำอางที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรอยสักให้กับผู้บริโภคต่อไป"

คุณ Wolff ได้เริ่มเดินตามเส้นทางอาชีพการแต่งหน้าของเธอที่วิทยาลัย London College of Fashion อันทรงเกียรติแห่งลอนดอน ในช่วงเวลาที่เธอศึกษาที่นั่น เธอได้จับงานแรกในฐานะเด็กฝึกงานกับช่างภาพแฟชั่นที่แต่งหน้าให้นางแบบ ประสบการณ์นี้ทำให้เธอมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับพลังของเมคอัพ และความสามารถในการเปลี่ยนลุคของผู้คน ตั้งแต่นั้นมา คุณ Wolff ก็กลายช่างแต่งหน้าคิวทองสำหรับคนดังและอินฟลูเอ็นเซอร์มากมาย ปัจจุบัน คุณ Wolff มีลูกค้าที่เป็นคนดังมากมาย ทั้งเซเลบริตีระดับ A-list และบุคคลในแวดวงสังคม อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับบรรณาธิการชั้นนำเช่น VOGUE, ELLE และ Marie Claire ซึ่งทำให้เธอก้าวขึ้นเป็นช่างแต่งหน้าระดับไฮโปรไฟล์ด้วยตัวเธอเอง

ความร่วมมือกับ Nikki Wolff เกิดขึ้นทันเวลาพอดี เนื่องจากทางแบรนด์เพิ่งเปิดตัว KVD Beauty ModCon Liquid-Gel Blush ซึ่งได้รับกระแสความสนใจจากแฟน ๆ ตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และถือเป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ขาดไม่ได้จาก KVD Beauty หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จจาก Good Apple Foundation มาแล้วก่อนหน้านี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ kvdbeauty.com และติดตามเราได้ที่ @KVDBeauty ทาง Instagram, TikTok, YouTube, Twitter และ Facebook