เกาหลีใต้มองไทย from นิติภูมิ นวรัตน์
kamony43บทความนี้เคยได้อ่านมานานแล้วเหมือนกัน...ต้องบอกก่อนว่าตัวเองก็เป็นสาวก series เกาหลี แต่ลองอ่านดูก็จะทำให้เห็นมุมมองอีกมุมหนึ่ง บางทีตัวละครในเกาหลีอาจไม่ได้เหมือนชีวิตจริงเสมอไป...ใครเคยไปเกาหลี หรือรู้จักคนเกาหลีก็มาแชร์กันได้ค่ะ
คนที่ไม่รู้จักกันจะไม่ทักกัน และจะไม่ใช้รอยยิ้มในการทักทายคนที่ไม่รู้จัก เพราะถือกันว่า ผู้ใดเปิดยิ้มให้ก่อนจะทำให้ดูเหมือนว่าเป็นคนชอบเปิดตัว ต้องการรู้จักคนอื่นเพื่อการหวังผลจากอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น จึงจะเห็นว่าในขณะที่รอคอยรถเมล์ รถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่การให้บริการ เช่น พนักงานขายของ แคชเชียร์ และคนเสิร์ฟอาหาร จะไม่ค่อยมีรอยยิ้มเลย คนจะยิ้มให้กันก็เฉพาะคนที่รู้จักมักคุ้นกันแล้วเท่านั้น”
“ชีวิตการอยู่ร่วมกันในครอบครัวของคนเกาหลีในอดีตนั้น บ้านจะมีเพียง 2-3 ห้อง และมีคนหลายคนของครอบครัวขยายอาศัยอยู่ ทุกห้องจึงไม่มีความเป็นส่วนตัวสำหรับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะจะมีการใช้ห้องเป็นทั้งที่นอน ห้องนั่งเล่น และห้องอ่านหนังสือสลับกันไป ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวในบ้าน ดังนั้น วิถีทางดำรงชีวิตจะเป็นเสมือนหนึ่งการอยู่ร่วมกันและใช้ของทุกสิ่งร่วมกัน น้องชายและพี่ชายจะสวมใส่เสื้อผ้าของกันและกันเสมอ เพื่อนจะยืมเสื้อและของใช้จากเพื่อนเป็นระยะเวลานานๆก่อนที่จะส่งคืน ความเป็นเจ้าของในทัศนะของชาวตะวันตกจะไม่ค่อยปรากฏในสังคมเกาหลี เพราะจะถูกมองไปว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ด้วยเหตุนี้การแบ่งปันจึงเป็นวิถีของครอบครัว เกาหลีและกลายเป็นความสัมพันธ์ทางสังคมอีกด้วย”
“ในสังคมเกาหลี มีการใช้คำว่า 'ของเรา' บ่อยกว่าคำว่า 'ของฉัน' ซึ่งหมายรวมไปถึงบ้านของเรา พ่อของเรา บริษัทของเรา โบสถ์ของเรา ฯลฯ”
“.....หากคุณกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์บนรถไฟ คนที่นั่งข้างๆ จะยื่นหน้ามาร่วมอ่านด้วยโดยไม่ขออนุญาต เจ้าของหนังสือพิมพ์ก็ดูจะไม่สนใจว่าใครจะอ่านด้วย ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้น กระดาษที่วางบนโต๊ะทำงาน เครื่องใช้สำนักงาน พิมพ์ดีด หรือทีวี มักจะมีคนหยิบฉวยโดยไม่ขออนุญาต ทางที่ดีจึงควรเก็บของใช้ส่วนตัวไว้ในที่มิดชิด อย่าให้ใครเห็นจะเป็นการดีที่สุด”
“.....แต่การคบค้าสมาคมและคุ้นเคยกับคนเกาหลีเป็นเวลานานๆ จะพบว่าคนเกาหลีเป็นคนใจร้อน ไม่มีความเกรงใจ ไม่สำรวม เช่น ตะโกนข้ามหัวกันอย่างไม่ยำเกรง อีกทั้งไม่มีความละอายดังเช่นพฤติกรรมที่คนทั่วโลกยอมรับว่าดีและปฏิบัติตาม แต่คนเกาหลีดึงดันทำตามสิ่งที่ตนต้องการทำ โดยไม่แยแสว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เช่น แย่งที่นั่งบนรถไฟหรือแซงคิว ก็จะทำตัวไม่รู้ร้อน ไม่รู้สึกว่าตนกระทำผิด หรืออาจคิดว่าคนในสังคมของเขาก็ทำกันเช่นนั้น และจะไม่เอ่ยปากขอโทษเลย คนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาหลีต่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้”
“ข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเกาหลีที่มีต่อคนไทยก็คือ คนไทยเป็นคนขี้เกียจ ตัดสินใจช้า มัวแต่โอ้เอ้ ชอบความสบาย รักความสนุกสนาน ไม่มีความมุ่งมั่นทำสิ่งใดอย่างจริงจัง ไม่มีเป้าหมายในการทำงาน และเป็นสังคมที่ขาดระเบียบวินัย อีกทั้งจะยังเตือนคนเกาหลีด้วยกันเองว่า คนไทยเป็นคนไม่น่าคบ ควรจะแสวงหาประโยชน์จากคนไทยและเมืองไทยให้มากๆ”
ทุกประเทศในโลกนี้มี 2 ด้านครับ ไม่ว่าไทยหรือเกาหลีก็มี 2 ด้าน ทั้งด้านดี และด้านลบ ก่อนจะคบค้าสมาคมหรือลงทุนร่วมหุ้นค้าขายกับประเทศใด ท่านควรศึกษาผู้คนชนชาตินั้นอย่างละเอียดลึกซึ้งทั้งสองด้านเถิด.
นิติภูมิ นวรัตน์ (ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
คนที่ไม่รู้จักกันจะไม่ทักกัน และจะไม่ใช้รอยยิ้มในการทักทายคนที่ไม่รู้จัก เพราะถือกันว่า ผู้ใดเปิดยิ้มให้ก่อนจะทำให้ดูเหมือนว่าเป็นคนชอบเปิดตัว ต้องการรู้จักคนอื่นเพื่อการหวังผลจากอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น จึงจะเห็นว่าในขณะที่รอคอยรถเมล์ รถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่การให้บริการ เช่น พนักงานขายของ แคชเชียร์ และคนเสิร์ฟอาหาร จะไม่ค่อยมีรอยยิ้มเลย คนจะยิ้มให้กันก็เฉพาะคนที่รู้จักมักคุ้นกันแล้วเท่านั้น”
“ชีวิตการอยู่ร่วมกันในครอบครัวของคนเกาหลีในอดีตนั้น บ้านจะมีเพียง 2-3 ห้อง และมีคนหลายคนของครอบครัวขยายอาศัยอยู่ ทุกห้องจึงไม่มีความเป็นส่วนตัวสำหรับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะจะมีการใช้ห้องเป็นทั้งที่นอน ห้องนั่งเล่น และห้องอ่านหนังสือสลับกันไป ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวในบ้าน ดังนั้น วิถีทางดำรงชีวิตจะเป็นเสมือนหนึ่งการอยู่ร่วมกันและใช้ของทุกสิ่งร่วมกัน น้องชายและพี่ชายจะสวมใส่เสื้อผ้าของกันและกันเสมอ เพื่อนจะยืมเสื้อและของใช้จากเพื่อนเป็นระยะเวลานานๆก่อนที่จะส่งคืน ความเป็นเจ้าของในทัศนะของชาวตะวันตกจะไม่ค่อยปรากฏในสังคมเกาหลี เพราะจะถูกมองไปว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ด้วยเหตุนี้การแบ่งปันจึงเป็นวิถีของครอบครัว เกาหลีและกลายเป็นความสัมพันธ์ทางสังคมอีกด้วย”
“ในสังคมเกาหลี มีการใช้คำว่า 'ของเรา' บ่อยกว่าคำว่า 'ของฉัน' ซึ่งหมายรวมไปถึงบ้านของเรา พ่อของเรา บริษัทของเรา โบสถ์ของเรา ฯลฯ”
“.....หากคุณกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์บนรถไฟ คนที่นั่งข้างๆ จะยื่นหน้ามาร่วมอ่านด้วยโดยไม่ขออนุญาต เจ้าของหนังสือพิมพ์ก็ดูจะไม่สนใจว่าใครจะอ่านด้วย ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้น กระดาษที่วางบนโต๊ะทำงาน เครื่องใช้สำนักงาน พิมพ์ดีด หรือทีวี มักจะมีคนหยิบฉวยโดยไม่ขออนุญาต ทางที่ดีจึงควรเก็บของใช้ส่วนตัวไว้ในที่มิดชิด อย่าให้ใครเห็นจะเป็นการดีที่สุด”
“.....แต่การคบค้าสมาคมและคุ้นเคยกับคนเกาหลีเป็นเวลานานๆ จะพบว่าคนเกาหลีเป็นคนใจร้อน ไม่มีความเกรงใจ ไม่สำรวม เช่น ตะโกนข้ามหัวกันอย่างไม่ยำเกรง อีกทั้งไม่มีความละอายดังเช่นพฤติกรรมที่คนทั่วโลกยอมรับว่าดีและปฏิบัติตาม แต่คนเกาหลีดึงดันทำตามสิ่งที่ตนต้องการทำ โดยไม่แยแสว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เช่น แย่งที่นั่งบนรถไฟหรือแซงคิว ก็จะทำตัวไม่รู้ร้อน ไม่รู้สึกว่าตนกระทำผิด หรืออาจคิดว่าคนในสังคมของเขาก็ทำกันเช่นนั้น และจะไม่เอ่ยปากขอโทษเลย คนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาหลีต่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้”
“ข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเกาหลีที่มีต่อคนไทยก็คือ คนไทยเป็นคนขี้เกียจ ตัดสินใจช้า มัวแต่โอ้เอ้ ชอบความสบาย รักความสนุกสนาน ไม่มีความมุ่งมั่นทำสิ่งใดอย่างจริงจัง ไม่มีเป้าหมายในการทำงาน และเป็นสังคมที่ขาดระเบียบวินัย อีกทั้งจะยังเตือนคนเกาหลีด้วยกันเองว่า คนไทยเป็นคนไม่น่าคบ ควรจะแสวงหาประโยชน์จากคนไทยและเมืองไทยให้มากๆ”
ทุกประเทศในโลกนี้มี 2 ด้านครับ ไม่ว่าไทยหรือเกาหลีก็มี 2 ด้าน ทั้งด้านดี และด้านลบ ก่อนจะคบค้าสมาคมหรือลงทุนร่วมหุ้นค้าขายกับประเทศใด ท่านควรศึกษาผู้คนชนชาตินั้นอย่างละเอียดลึกซึ้งทั้งสองด้านเถิด.
นิติภูมิ นวรัตน์ (ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
Discussion (43)
อยากถามคนเกาหลีจัง
สยามเมืองยิ้ม รู้จักเป่า ???
ชาติไทยจงเจริญญญญญญญญ
เพราะถ้ามองอย่างไม่อคติ ที่เค้าพูดมันก็จริงทุกอย่าง
แต่เราว่าอาจจะไม่ได้มีแต่เกาหลีป่าวที่ดูว่าคนไทยขี้เกียจ ไม่รู้ง่ะ เพราะเหมือนเคยได้ยินจากพวกเพื่อนจีนด้วย
แต่เราก็เห็นคนเกาหลีมาเที่ยวไทยก็เยอะนะ น่ารักๆก็มี ที่เห็น เราว่าจริงๆอยู่ที่ตัวคนมากกว่า ดีก็ไม่ได้จะดีทั้งหมด ส่วนที่ไม่ดีก็คงไม่ใช่หมดทุกคนหรอก มันก็มีปะปนกันไปทุกชาติน่ะแหละ ไม่ใช่แค่ไทยหรือเกาหลีหรอก
ปล. แอบงงบางคน เรื่องนี้เกี่ยวไรกะชอบพวกซีรี่ส์ นักร้องเกาหลี อันนี้มันความชอบส่วนตัว
แล้วทีเครื่องสำอางอ่าา ใช้กันทำไมถ้างั้น??? ^ ^ มิได้จะกวนนะ แต่อยากให้มองดีๆ
ยอมรับเราก็เป็นคนนึงที่ชอบฟังเพลงเกาหลี แต่ก็ไม่ได้ชอบเกาหลีไปทุกอย่างนะ = =
เสียงดังเอะอะ ไม่มีความเกรงใจ กินมูมมาม
ผู้หญิงไม่สวย ที่แบบดาราหาแทบไม่ได้เลย
เราเคยยืนหันหลังอยู่แล้วเค้าต้องการดูของอะไรสักอย่างที่มันอยู่ข้างหน้าเรา เค้าผลักเลย!!!!!!!
เหยียบเท้าเราก็ไม่ขอโทษ จะขอทางก็ไม่มีคำว่าขออภัย
ดีใจค่ะที่เป็นคนไทย