วิวัฒนาการ beauty standard ของบั้นท้าย

มุมมองของผู้หญิงหลากหลายยุคที่มีต่อบั้นทายจะเป็นเช่นไร มาติดตามกับเราได้เลยค่ะ

สตรีตะวันตกในยุคสมัยนั้นจะยังต้องครองตนตามแบบแผนที่เคร่งครัด การเผยข้อเท้าอาจจะดูเย้ายวนใจเกินงามตามวิถีเลดี้ซะด้วยซ้ำ แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสวมชุดรัดรึงให้ผู้อื่นได้ยลบั้นท้ายของพวกเธอกันชัดๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การปิดบังสัดส่วนภายใต้ชุดกระโปรงยาวดีไซน์ซับซ้อนจะปิดกั้นจินตนาการจนหมด แฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19  คือสิ่งที่เรียกว่า bustle หรือโครงที่จัดทรงให้กระโปรงช่วงสะโพกพองออกไปด้านหลัง และยังเพิ่มความหรูหราสะดุดตาด้วยการจับเดรปทบเข้าไปอีก สร้างภาพลวงตาราวกับบั้นท้ายมีขนาดใหญ่โค้งงอนเกินจริง เพียงมองภายนอกก็อาจจะสงสัยใคร่รู้ว่า สิ่งที่ซุกซ่อนภายในจะเป็นเช่นไร!

แฟชั่นหมุนเวียนไม่เคยหยุดนิ่ง ก่อนหน้าที่เลดี้สมัย Victorian จะหันมานิยมสวมใส่ bustle dress ที่ทำให้ทรวดทรงเหมือนสาวก้นโด่ง ซึ่งน่าจะต่อยอดมาจากกระโปรงสุ่มใหญ่ (crinoline) ที่เคยเป็นเทรนด์ยืนหนึ่งมาก่อน ขอเดาเอาเองว่า bustle dress ที่สร้างส่วนโค้งสุดอลังการที่บั้นท้ายของพวกเธอดูเร้าใจกว่ากระโปรงสุ่มมาก ท่วงท่าการเดินโยกย้ายของหญิงสาวในชุดที่ดูเหมือนก้นงอนเป็นมดตะนอยน่าจะเป็นอาหารตาให้สุภาพบุรุษในยุคนั้นอย่างถ้วนหน้า

เมื่อก้าวสู่ศตวรรษที่ 20 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง เริ่มมีผู้หญิงที่หันมาสวมใส่กระโปรงที่สั้นระดับเข่าเผยเรียวขา โดยเฉพาะ Flappers กลุ่มสาวเปรี้ยวที่ลุกขึ้นมาเข้าสังคมหาความรื่นเริงใจนอกบ้าน ร่วมกิจกรรม outdoor สนุกกับการสังสรรค์เต้นรำ ผู้คนอาจจะมองพวกเธอด้วยสายตาพิพากษาว่า เป็นผู้หญิงต่อต้านกฎเกณฑ์สังคม แต่พวกเธอก็สร้างชื่อเลื่องลือในฐานะผู้นำด้านความงามและแฟชั่น เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากตัวตนของผู้หญิงยุค Edwardian (1900-1910) ที่ให้ความสำคัญกับลุคที่ดูอ่อนหวานนุ่มนวลและนิยมใส่คอร์เซ็ทหรือสเตย์รัดลำตัวให้เล็กบางเน้นสะโพกผายเพื่อสร้างความดึงดูดใจด้วยส่วนเว้าส่วนโค้ง  Flappers จึงฉีกกรอบดั้งเดิม หันมานิยมชมชอบสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน นั่นคือ รูปร่างลีนแบบ boyish หน้าอกหน้าใจเรียบแบน สะโพกทรงตรง และคงเดากันได้ว่า บั้นท้ายงอนงามจะไม่ใช่สิ่งที่ Flappers ถวิลหา

หลังจากที่รูปร่างเพรียวระหงถูกยกให้เป็นอุดมคติของผู้คนมายาวนาน Marilyn Monroe ได้ก้าวมาสร้างปรากฏการณ์ความ glam จนทะยานสู่สถานะ icon แห่ง Hollywood ยุคทอง ความงามอันน่าหลงใหลทำให้ผู้หญิงมากมายฝันใฝ่อยากจะเป็นเธอ ซึ่งผู้คนในยุคสมัยนั้นมองว่า เอกลักษณ์ของเธอก็คือ รูปร่างอันอวบอิ่มแตกต่างจากนางเอกร่วมวงการ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า แม้สื่อจะรายงานตัวเลขสัดส่วนของเธอที่ อก37 เอว 23 สะโพก 34 แต่ความจริงแล้ว เมื่อวัดสะโพกล่าง จะได้ที่ 37 นิ้ว

เมื่อวันเวลาผ่านไป คนรุ่นหลังเห็นพ้องต้องกันว่า Marilyn ห่างไกลจากคำว่า plus size หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดมาจากตอนที่ Kim Kardashian คว้าสิทธิ์ในการยืมชุดในตำนานของ Marilyn จากพิพิธภัณฑ์เพื่อสวมไปร่วมเดินพรมแดง Met Gala แต่แม้จะลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน ก็ยังไม่สามารถรูดซิปด้านหลังขึ้นสุดได้

รูปร่างเว้าโค้งแบบนาฬิกาทรายเต็มไม้เต็มมือแบบ Marilyn คือความงามที่ใครๆต่างพึงปรารถนา บริษัทอาหารเสริมส่งโฆษณาชวนเชื่อให้ผู้คนเสริมสร้างเสน่ห์ด้วยผลิิตภัณฑ์เพิ่มน้ำหนักเพื่อช่วยให้ดูเปล่งปลั่งเหมือนกับผู้มีอันจะกินและเย้ายวนใจจนมีหนุ่มๆเข้ามายื้อแย่งขอเดท และเริ่มมี shapewear เสริมก้นให้ดูอิ่มเต็มวางจำหน่ายในห้างร้าน

ตั้งแต่ยุค 60s เป็นต้นมา ผู้หญิงก็หันกลับมาคลั่งไคล้ความผอมกันอีกครั้ง Twiggy นางแบบชื่อดังที่นำเทรนด์ Mod เรียกเสียงชื่นชมจากแขนขาที่เรียวยาวและลำตัวบอบบางเข้ากับดวงตากลมโตเหมือนเด็กไร้เดียงสา ในขณะที่สาวกแฟชั่นพยายามลดน้ำหนักเพื่อจะผอมเหมือนกับ supermodel ไซส์บั้นท้ายใหญ่สะดุดตาจึงไม่น่าจะตรงใจสาวๆนัก

ในยุคโบราณ ผู้หญิงอาจจะใส่คอร์เซ็ทเพื่อให้รูปร่างดูอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม แต่เมื่อก้าวมาสู่ยุค 70s กระแส fitness เริ่มบูมเนื่องจากผู้คนอยากจะปั้นหุ่นให้ลีนเหมือนกับดาราขวัญใจ ผู้คนมากมายปลาบปลื้มกับหุ่นสะโอดสะองที่ดูเหมือนสาวนักกีฬาของ Farrah Fawcett โปสเตอร์ที่เธอใส่ชุดว่ายน้ำสีแดงโปรยรอยยิ้มโกยยอดขายไปถึง 12 ล้านแผ่น และถูกติดที่ผนังห้องนอนและหอพักนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศ! คงพอเดากันออกว่า จะไม่ได้เห็นสาวก้นใหญ่ในสื่อบันเทิงหรือโฆษณามากนัก เป็นเรื่องปกติที่จะได้เห็นนางแบบโฆษณากางเกงยีนส์โพสโชว์บั้นท้ายไซส์กะทัดรัด ส่วนนางแบบที่โชว์ความวาบหวามในนิตยสาร Sport Illustrated และถ่ายโปสเตอร์ส่วนใหญ่ม่ีรูปร่างผอมเพรียว แขนขา หน้าท้องและก้นดูกระชับแบบคนที่ออกกำลังกาย

รูปร่างผอมยังถูกผูกติดเหนียวแน่นกับความ mainstream อยู่นาน เห็นได้ชัดจาก Kate Moss ผู้เป็นหนึ่งในนางแบบที่จุดประกายความนิยมเทรนด์ Heroin Chic ที่ glamorize รูปร่างผอมคล้ายกับขาดสารอาหาร ผิวพรรณซีดเซียว มีรอยดำใต้ตา ซึ่งเปรียบเหมือนกับลักษณะของผู้ติดยาเสพติด

แต่แม้ชื่อของเทรนด์นี้จะไม่สื่อถึงพลังบวก และเจ้าตัวยังวิจารณ์ตัวเองว่า เป็นสาวไร้ส่วนเว้าส่วนโค้ง แฟนๆก็ไม่ได้ติติงเรื่องก้นเล็กๆของเธอแต่อย่างใด ความผอมบางของ Kate ทำให้หญิงสาวยุคนั้นกดดันตัวเองด้วยสารพัดวิธีไดเอท หมกมุ่นกับความผอมกันถึงขั้นที่ Kate ต้องรับมือกับพ่อแม่ของเด็กวัยรุ่นที่เข้ามาต่อว่าต่อขานต่อกันหน้าว่า เธอเป็นต้นเหตุให้ลูกสาวพวกเค้าป่วยเป็น anorexia!

ในขณะที่รูปร่างผอมบางแบบ Heroin chic ถูกโจมตีว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมกับเด็กสาววัยรุ่น ความ fit&firm ของ supermodel ก็มาแรงไม่แพ้กัน ตัวอย่างชัดเจนคือ Elle Macpherson ที่ถูกยกย่องให้เป็น The Body ในปลายยุค 80s และ Cindy Crawford ที่มีรูปร่างสวยเริ่ดจนขายวีดีโอออกกำลังได้หลายล้านแผ่น  แต่เรื่องการออกกำลังปั้นก้นให้ใหญ่ขึ้นหรือการอวดก้นใหญ่ตู้มยังไม่ใช่สิ่งที่ทำกันแพร่หลาย มันยังเป็นช่วงเวลาที่สาวๆถามชายคนรักด้วยความไม่มั่นใจว่า "ฉันใส่กางเกงตัวนี้แล้วก้นดูใหญ่รึเปล่า?" เพราะผู้คนยังมีอคติว่า ก้นใหญ่สื่อถึงรูปร่างอวบไม่ตรงกับ beauty standard นั่นเอง

สิ่งที่อาจจะทำให้เด็กรุ่นใหม่ประหลาดใจก็คือ ทรวดทรงของ J.Lo โด่งดังเป็นพลุแตกเพราะสื่อบันเทิงต่างกล่าวขวัญด้วยความอัศจรรย์ใจราวกับว่า เธอมีบั้นท้ายใหญ่สะบึ้มอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการ และยังมีรายงานว่า เธอหวงแหนก้นมากจนทำประกันไว้มูลค่า 8 หลัก  (เธอเคยปฏิเสธเรื่องนี้) ใครๆต่างถามไถ่ถึงไซส์ก้นที่แท้จริงของเธอ หรือแม้แต่ช่วงเริ่มแรกที่ Kim Kardashian พยายามสร้างชื่อเสียงในวงการบันเทิง ก็มักถูกเปรียบเปรยว่า เธอพยายามหาแสงจากสถานะ J.Lo No.2

ก้นกลมเด้งสร้างอิทธิพลควบคู่มากับวงการ hip hop และ R&B มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจาก Jennifer Lopez ก็ยังมีซุปตาร์ Beyonce ที่เต้นส่ายบั้นท้ายอย่างเร่าร้อนในเพลง Bootylicious  ที่เห็นชื่อเพลงก็รู้ทันทีว่ามีเนื้อหาเชิดชูอวัยวะส่วนใดของร่างกาย

แฟนๆอาจจะฮือฮาเรื่องหน้าท้องสวยเฟิร์มของ Britney แต่เมื่อเธอใส่กางเกงเอวต่ำแล้วหันหลังก็จะพบว่า ส่วนเว้าส่วนโค้งของเจ้าหญิงเพลง pop นั้นเซ็กซี่ไม่น้อยหน้าใคร ยิ่งเมื่อได้ชมเธอแสดงบนเวที ท่าเต้นที่พริ้วไหวก็ยิ่งทำให้มันเขี้ยวอยากตีก้นงอนเด้งของเธอเป็นที่สุด

การรวมพลังสร้างอิทธิพลใน social media ของพี่น้อง Kardashian/Jenner ได้ปรากฏการณ์ความนิยมก้นแบบ BBL แม้พวกเธอจะยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่ได้พึ่งพาการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อ transfer ไขมันส่วนเกินไปเพิ่มไซส์ก้นให้ใหญ่โตมโหฬาร แต่เป็นเพราะกรรมพันธุ์ น้ำหนักตัวที่มากขึ้น และการออกกำลังกาย แต่ชาวเน็ทจำนวนมากไม่ได้คล้อยตามกับคำอธิบายเหล่านั้นนัก เนื่องจากพบตัวอย่างเปรียบเทียบว่า มีผู้ที่ศัลยกรรม BBL ทำให้รูปทรงก้นเหมือนกับพี่น้องบ้านนี้คล้ายกับสั่งได้

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเสียงกล่าวหาบ้าน Kardashian/Jenner ว่าทำก้นจนดูใหญ่เกินไปจนไม่สมส่วน ขาดความเป็นธรรมชาติ แต่ความสำเร็จในการสร้างมูลค่าที่ทำให้พวกเธอก้าวขึ้นมานั่งบัลลังก์ราชินีอินเทอร์เน็ทอย่างมั่นคง ส่งผลให้ผู้ติดตามหลายคนเห็นดีเห็นงามไปกับส่วนเว้าส่วนโค้งเช่นนี้ และเชื่อว่า ก้น BBL จะเติมเต็มความมั่นใจและอาจเปิดทางสู่โอกาสเหมือนกับครอบครัวผู้โด่งดัง

ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสการปั้นก้นเพิ่มไซส์ให้ใหญ่ด้วยวิธีออกกำลังกายกำลังบูมสุดๆ gym girls หลายคนทุ่มเทฝึกฝน weight trainning และเลือกสรรสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อก้นเด้งในฝัน ตามมาติดๆด้วยเทรนด์ 'กางเกงก้นเด้ง' 'กางเกงยกก้น' หรือใน social media เรียกกันตรงๆว่า 'กางเกงโชว์ร่องก้น' (wedgie leggings และ bum crack leggings) ว่ากันว่า ดีไซน์ที่ช่วยยกก้นให้ดูกลมเป็นลูกโป่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับสาวๆ แม้หลายคนจะยอมรับว่า ก้นของจริงของพวกเธอไม่ได้มีลักษณะเหมือนกับตอนใส่กางเกงพวกนี้ แต่มันก็มีผลต่อกำลังใจให้มุ่งมั่นปั้นก้นต่อไป

นอกจากผู้ผลิตพัฒนาดีไชน์กางเกงก้นเด้งให้ตอบโจทย์สาวๆสายปั้นก้น  กลุ่ม fitness influencers ยังแบ่งปันวิธีจัดระเบียบกางเกงเน้นง่ามก้นให้ขึ้นเส้นชัดขึ้น สาวๆหันมานำเสนอภาพ before-after เพื่อโชว์ผลลัพธ์ในการสร้างกล้ามเนื้อ glute เพิ่มไซส์ก้นอย่างละลานตาใน social media ซึ่งหากย้อนไปสักสิบถึงยี่สิบกว่าปีก่อน ก็คงไม่จินตนาการเทรนด์นี้ไม่ออกเลย 

หลายปีก่อน  บางคนอาจจะรู้สึกตะลึงเมื่อได้เห็นสาวเซ็กซี่นุ่งสั้นจนเห็นแก้มก้นเต็มๆ แต่ตอนนี้คนดังหันมาใส่ชุดที่เว้าด้านหลังลึกให้ร่องก้นออกมาทักทายให้ตื่นตาตื่นใจ

ในขณะนี้พวกเราเดินทางมาถึงเส้นร่องก้นแล้ว เทรนด์ก้นจะหมุนวนไปไกลอีกขนาดไหนนะ?