ใครอ่านแล้วไม้ร้องไห้ เก็บตังค์เราเลย 555

พอดีไปเจอมาอ่าค่า คิดว่าน่าจะให้ลองได้อ่านดู
อาาจจายาวปายหน่อยน้า อิอิ

2 Big

ตอนพฤษภาทมิฬ ดูทีวีกันหรือเปล่า
ทหาร 2 BIG
ยกพวกเข้าประหัตประหาร ฆ่าฟันกัน แย่งกันเป็นใหญ่
ต่างฝ่ายต่างก็คิดว่าข้างตัวเองจะชนะ
ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
เสริมกำลังกันเข้ามาเต็มที่

เหตุการณ์ลุกลามบานปลายใหญ่โต
ทำท่าจะคุมไม่อยู่ รัฐบาลทหารก็คุมไม่อยู่
ฝ่ายต่อต้านก็ควบคุมไม่ได้ ต่างคนต่างใหญ่ไม่มีใครยอมใคร
ในหลวงรับสั่งให้ 2 BIG เข้าเฝ้า
ทีวีถ่ายทอดสดทุกช่อง ดูทีวีหรือเปล่า
2 BIG นั่งหน้าในหลวง จำได้ไหม
นั่งสงบนิ่งเหมือนแมวเลย
นั่งหมอบอยู่ตรงหน้า รอฟังรับสั่ง
ทำไม 2 BIG ถึงต้องหมอบรอฟังรับสั่งในหลวง
ในหลวงตัวโตกว่าหรือเปล่า ในหลวงมีปืนหรือเปล่า
เปล่า...
ในหลวงไม่ได้ตัวโตกว่า ในหลวงไม่มีปืน
แต่ในหลวงมีคุณธรรม
โตด้วยคุณธรรม
พระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรมนั้นตรัสออกมาแต่ละคำ

" มีน้ำหนัก มีอำนาจ มีอานุภาพสูงยิ่ง... "
ใหญ่เพราะ ธรรมะ
2 BIG ยกพวกประหัตประหาร...
ฆ่าฟันกัน เพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าข้างตนเองจะชนะ
ในหลวงตรัสว่า...
" อย่าคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ไม่มี มีแต่ผู้แพ้ และคนที่แพ้มากที่สุด คือ ประชาชนของเรา"
ในขณะที่ 2 BIG ทำเพื่ออำนาจของตนเอง
เพื่อประโยชน์ของตนเอง
แต่ในหลวงทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน
เห็นภาพหรือยัง?
หลังจากในหลวงตรัสจบ
2 BIG...สยบ
รุ่งขึ้น ราชดำเนิน ยิ้ม ทุกอย่างในราชดำเนินเรียบร้อย...
เป็นอันว่า ทรงห้ามศึกได้เรียบร้อย
สยบทหารที่มีปืน โดยไม่ใช้ปืน
ถ้ากษัตริย์ไม่ทรงธรรม...
จะเอาใครมาพูด...? 2 BIG นี่ถึงจะยอมหยุด
กษัตริย์ผู้ทรงธรรมจึงมีฤทธิ์
เมืองไทย ถ้าไม่มีในหลวง ป่นปี้ไปนานแล้ว
เป็นอันว่าเห็นภาพชัดเจนนะครับ
กษัตริย์ผู้ทรงธรรมนั้น
สูง...............กว่า..................ฟ้า
กว้าง............กว่า..................พิภพ
ลึก................กว่า..................มหาสมุทร
เย็น...............กว่า..................พระคงคา
กษัตริย์ผู้ทรงธรรมจึงจะมีฤทธิ์

-------------------------------------------------------------------------------

พม่าปล้นเมือง

เอ้า ช่วยอ่านข้อความนี้พร้อม ๆ กัน
เมืองใด   ไร้ธรรม   อำไพ
เมืองนั้น   บรรลัย   แน่นอน
นี่เป็นพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งตรงกับของพระพุทธเจ้า
เมืองใด   ไร้ธรรม   อำไพ  เมืองนั้น   บรรลัย   แน่นอน
ไม่ต้องรอให้พม่ามาตีกรุงศรีอยุธยา มาปล้นเมืองหรอก
คนไทยที่ไร้คุณธรรม  ข้าราชการที่ไร้คุณธรรม รัฐมนตรีที่ไร้คุณธรรม
ปล้นเมืองไทยได้เร็วกว่าพม่า
เพราะเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
เป็นบุญของคนไทย ประเทศไทย
ที่มีพระมหากษัตริย์ที่เต็มไปด้วยคุณธรรม

พระองค์ทำแต่ความดีเพื่อเตือนพวกเรา
เตือนข้าราชการ เตือนนักการเมือง บอกว่า
ต้องทรงคุณธรรมนะ ประเทศชาติจึงจะไปรอด

ถ้าไร้คุณธรรม
เมืองไทย   พังทลาย
คุณธรรม    คืออะไร
คุณธรรม    คือธรรมะ
ธรรมะ       คือศาสนา

-------------------------------------------------------------------------------

เบื้องหลังการกู้ชาติ

เมื่อสงครามโลกครั้งที่แล้ว ญี่ปุ่นแพ้สงคราม
เพราะลูกระเบิดปรมาณู 2 ลูกที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ
แล้วอเมริกาผู้ชนะสงครามก็มายึดครองญี่ปุ่น

การกอบกู้เอกราชจากที่แพ้สงครามกลับคืนมา
ธรรมดาต้องใช้พลังมหาศาล จึงจะกอบกู้เอกราชกลับมาได้
แต่ญี่ปุ่นกู้เอกราชกลับมาได้ง่ายมาก
เพราะใช้คุณธรรม ใช้ธรรมะ

การทำสงคราม ญี่ปุ่นสู้อเมริกาไม่ได้
ญี่ปุ่นหันมาทำสงครามเศรษฐกิจ
ไม่ต้องใช้อาวุธไม่ต้องมีคนตาย
ในที่สุดเศรษฐกิจญี่ปุ่นชนะอเมริกา
ประเทศที่แพ้สงครามกลับมาชนะเรื่องเศรษฐกิจ
อเมริกาเสียดุลการค้าญี่ปุ่นมหาศาล
ญี่ปุ่นถูกยึดครองทางทหาร

ตอนนี้ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ทางเศรษฐกิจ
ไม่ต้องใช้อาวุธ ไม่ต้องฆ่าคน
แต่ใช้คุณธรรม ใช้ธรรมะตามที่พุทธศาสนาสอน
เป็นแชมป์...
กู้ชาติสำเร็จ กลับมายึดครองอเมริกาเป็นเมืองขึ้น
เป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจ
นี่คือประวัติศาสตร์ที่ทำให้ญี่ปุ่น

เป็นญี่ปุ่นที่อัศจรรย์

ตอนนี้พอมองออกแล้วใช่ไหมว่า
ประเทศชาติ ครอบครัว และผู้คนทั้งหลาย  

จะเจริญได้ต้องมีธรรมะ

-------------------------------------------------------------------------------

ตื่นเถิดชาวไทย

คราวที่เราเฉลิมฉลองใหญ่ 5 รอบในหลวง
คนทั้งโลกแซ่ซ้อง สดุดีท่านหมด
หนังสือพิมพ์ในอเมริกา หนังสือพิมพ์ในเอเชีย
สดุดีคุณธรรมในหลวงที่ทำให้กับบ้านกับเมือง
บอกว่า ประเทศไทยโชคดีที่สุดในโลก
ที่มีพระมหากษัตริย์อย่างนี้

ช่วยซับน้ำตาให้ประชาชน ช่วยดับทุกข์ให้ประชาชน
ทำดีให้ประชาชนเห็น
นี่แหละ THE KING OF KINGS
ขนาดในหลวงทำถึงขนาดนี้  ทั่วโลกเขายกย่องสรรเสริญขนาดนี้
ก็ยังมีคนที่หูตาฝ้าฟาง
คนไทยบางคนยังไม่รู้  นักการเมืองบางคนยังไม่รู้
ยังก้มหน้าก้มตากอบโกย
ทำให้ประเทศไทยตกต่ำ

ขณะนี้
เมืองไทยกำลังเป็นเต่าตัวสุดท้ายของเอเชีย
มาเลเซียได้รับเอกราชเมื่อไร
แผ่นดินก็น้อยกว่าเรา คนก็น้อยกว่าเรา
แต่โลกเขาตัดสินแล้วว่า   มาเลเซียก้าวหน้ากว่าเมืองไทยแล้ว
ขายหน้าเขาไหมมาเลเซียก้าวหน้ากว่าเราเพราะอะไร
เพราะความซื่อสัตย์สุจริต
ข้าราชการ เจ้าหน้าที่หรือแม้แต่ตำรวจ
เขาก็บอกว่าดีกว่าของเรา

นี่คือเรื่องที่พึงสังวรไว้
ประเทศไทยมีพุทธศาสนาที่วิเศษสุด
แต่เราไม่เอาศาสนามาเต้นอยู่ในหัวใจของเรา
ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่วิเศษสุด
แต่เราไม่รับมรดกจากท่าน
ได้แต่ถวายบังคม

คนที่หูตาฝ้าฟางยังมองไม่เห็น  ควรหูตาสว่างได้แล้ว

ไม่ต้องอะไรมาก เอาแค่ผู้บริหารประเทศ ข้าราชการ
และครูอีก 2 แสนกว่าคนทั่วประเทศปฏิญาณตัวว่า
ข้าพเจ้าจะรับมรดก ความดีจากในหลวง
จะทำงานหนักเหมือนในหลวง
จะเสียสละเพื่อความสุขความเจริญของประชาชนและประเทศชาติ
เหมือนในหลวง

จะทำงานเพื่อประเทศชาติโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
ไม่เป็นธรรม         ไม่เอา
เห็นแก่ตัว            ไม่เอา
กอบโกย             ไม่เอา
ทุจริต คอร์รัปชั่น   ไม่เอา
ทุ่มเทเวลา ชีวิต จิตใจ เพื่อประโยชน์สุขของคนไทย
เหมือนในหลวง
ข้าพเจ้าจะรับมรดกความดีของในหลวง
มาเต้นอยู่ในหัวใจตั้งแต่บัดนี้
ถ้าทุกคนตั้งปณิธานอย่างนี้ แล้วทำเต็มกำลัง พร้อมกันทั้งชาติ
ขอเพียง 5 ปี
เมืองไทยจะเป็นเมืองที่วิเศษที่สุดในเอเชีย

ยาขนานวิเศษของเมืองไทยอยู่ตรงนี้
ในหลวงทำให้ดูแล้ว โลกเขายอมรับแล้ว
ยกให้เป็นแชมป์โลก
อยู่ที่พวกเรา
คนไทยทั้งชาติจะเริ่มต้นอย่างไร

อยากเป็นเสือ  หรือเป็นเต่า ของเอเชีย

-------------------------------------------------------------------------------

นี่คือยอดคน

เห็นไหมครับ  ถ้านุ่มนวล สุภาพ อ่อนโยน
จะมัดใจคน ลูกน้องจะรักเคารพ
บอกว่า ผมนับถือท่าน เหมือนพ่อแม่คนหนึ่งครับ
เอาง่าย ๆ คนที่สุภาพ นุ่มนวล อ่อนโยน น่ารัก
ที่ชนะใจคนไทยทั้งประเทศเนี่ยมีกี่คน
ยกตัวอย่างให้อาจารย์ดูสักคนหนึ่งซิ
ดูซิว่า จะตรงกับยอดคนที่อาจารย์รักที่สุดหรือเปล่า
คนในรูปนี้คือใคร  ตอบดัง ๆ
สมเด็จพระเทพฯ
มีใครรักสมเด็จพระเทพฯ บ้าง
ยกมือให้ดูหน่อย
โอ ยกหมดห้องเลย

เอ้า อาจารย์ถามต่อ เคยเข้าเฝ้าท่านบ้างหรือเปล่า
ไม่เคย
ไม่เคยคุยด้วยซ้ำ
ท่านไม่เคยพูดกับเรา ไม่เคยชมเรา ไม่เคยให้สตางค์เรา
แล้วทำไม เราถึงรักท่าน
ทำไมครับ
เพราะท่านเป็นยอดคน
ยอดคน  ต้องอ่อน
ไม่อ่อน  ไม่ใช่ยอด
ใครเคยเห็นสมเด็จพระเทพฯ ยืนยืดอก
ทำใหญ่  ทำท่ากร่าง  มีไหม
ไม่มี
สมเด็จพระเทพฯ จะนุ่มนวล สุภาพ อ่อนโยนกับทุกคน
เราดู เราเห็นมาจนนับไม่ถ้วน
ตั้งแต่เล็ก พอเกิดขึ้นมาเป็นเจ้าฟ้า
ท่านนุ่มนวล อ่อนโยน สุภาพ ยิ้ม
มองเห็นแล้ว เราก็รัก

คนทั้งหลาย อดไม่ได้ที่จำทำท่าใหญ่ กร่าง อวดดี
สมเด็จพระเทพฯ ไม่มี
สุภาพ นุ่มนวล ยิ้มตลอดเวลา
สมเด็จพระเทพฯ เวลาท่านยิ้มน่ะ
ท่านยิ้ม 1 บาท
คือ ท่านยิ้มกว้าง ยิ้มเต็มที่
คนทั้งหลายถึงรักท่าน

พวกเรานี่ ขี้เหนียวยิ้ม
ยิ้มสลึงเดียว กลัวจะหมด
เพราะฉะนั้นใครอยากมีเสน่ห์
ให้ยิ้มแบบสมเด็จพระเทพฯ
ยิ้ม 1 บาท  ยิ้มเต็มที่
แล้วจะมีเสน่ห์ มีกระแสเมตตา

ยอดคน กับยอดไม้เหมือนกัน คือ ต้องอ่อน
ไม่อ่อน ไม่ใช่ยอด
วันนี้ลูกปฏิบัติธรรมเป็นวันที่ 4
ลูกกำลังไต่ขึ้นสู่  ระดับยอด
ลูกจะนุ่มนวล สุภาพ อ่อนโย  มีเมตตา
เมื่อปฏิบัติครบ 7 วันแล้ว
กลับไปบ้านครั้งนี้ ที่บ้านจะบอกเลยว่า
นุ่มนวล อ่อนโยน สุภาพกว่าแต่ก่อน

ใครกำหนดสติได้มาก เปลี่ยนมาก
เห็นภาพแล้วใช่ไหม

-------------------------------------------------------------------------------

รักแม่  วาเดียว


ในฐานะของผู้ปฏิบัติธรรม  เราลองเอาพ่อกับแม่มาขึ้นตาชั่งดู
ชั่งด้วยหัวใจ
แล้วลองดูซิว่า ใครมีบุญคุณต่อเรามากกว่ากัน
ใครว่า พระคุณแม่มากกว่าพระคุณพ่อ
กรุณายกมือออกมาจากหัวใจจริง ๆ เลยนะ
ใจคิดยังไงยกมือตามที่หัวใจบอกเลย
ใครว่า พระคุณพ่อ มากกว่าพระคุณแม่กรุณายกมือ
ขอบคุณครับ

บางคนใจอยู่กับพ่อ บางคน ใจอยู่กับแม่
บางคน ยกสองมือ  เท่ากันครับ
พวกที่บอกว่าเท่ากันครับนี่
ตาชั่งของคุณเที่ยงตรงแน่หรือ

กระทรวงยุติธรรมเขามีตาชั่ง  ตาชั่งเขาเที่ยงตรง ไม่เอียง
ใครที่บอกว่าพ่อกับแม่มีบุญคุณเท่ากันนี่ ตาชั่งคุณเที่ยงตรงแน่หรือ
นักปราชญ์ทางศาสนาเขียนโคลงไว้บทหนึ่ง ประทับใจอาจารย์มาก
อาจารย์จำได้ขึ้นใจ เขาบอกว่า
คุณแม่หนา      หนักเพี้ยง         พสุธา
คุณบิดร          ดุจอา              กาศกว้าง
พระคุณของแม่นี่ทั้งหนา ทั้งหนักเหมือนแผ่นดินทั้งแผ่นดิน
ภูเขาทุกลูกตีกราม อาคารบ้านเรือน ทะเล ต้นไม้ แม่น้ำ
ล้วนตั้งอยู่บนแผ่นดินทั้งสิ้น

ถ้าไม่มีแผ่นดิน ก็ไม่มีภูเขา ไม่มีตึก ไม่มีบ้าน
เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีเรา

เห็นพระคุณแม่หรือยัง
ว่า  ยิ่งใหญ่  มั่นคง  หนักแน่นขนาดไหน

เมื่อก่อนตอนเราเล็ก ๆ แม่นั่งป้อนข้าวเรา
มีคนถามว่า รักแม่แค่ไหน
เรากางแขนทั้งสองข้างออกบอกซิว่า รักแม่เท่านี้
รักแม่แค่วาเดียว

พอเราโตขึ้น เรามาเรียน เราเข้าปฏิบัติธรรม เราถึงรู้ว่า
พระคุณแม่
ยิ่งใหญ่ เท่าโลกทั้งโลก
ไม่ใช่แค่วาเดียว ยิ่งใหญ่ที่สุด
ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่กว่าพระคุณแม่อีกแล้ว
ส่วนพระคุณพ่อ
เขาบอกว่า  เหมือนอากาศที่ห่อหุ้มโลกนี้เอาไว้
โลกอันใหญ่โตมโหฬารนี้ถ้าปราศจากอากาศ
คน  สัตว์  ต้นไม้  และสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
พ่อ จึงเป็นผู้ให้ชีวิต
ไม่มีพ่อ ก็ไม่มีชีวิตเรา

เห็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพ่อและแม่หรือยัง
ถ้าไม่มีท่านทั้ง 2 ก็ไม่มีเรา

ฟังมาถึงตรงนี้ ก็ยังก้ำกึ่ง
ตัดสินใจยากว่าใครมีพระคุณมากกว่ากัน
วันนี้ จิตใจเราสงบ หัวใจมีธรรมะ มีคุณธรรม
เอาหัวใจของเราเป็นตาชั่งที่เที่ยงตรง ลองชั่งน้ำหนักดูว่า
พระคุณของพ่อกับแม่ ใครหนักกว่ากัน
วิธีตัดสินง่าย ๆ อาจารย์ถามว่า
เราอยู่ในท้องแม่คนละกี่เดือน
กี่เดือนครับ
9 เดือน
แล้วเราอยู่ในท้องพ่อกี่เดือน
ไม่ได้อยู่สักเดือน

ถ้าพ่อแน่จริง พ่อต้องแบ่งไป 4 เดือนครึ่งซิ   ถึงจะถูก
นี่แม่อุ้มท้องเรา 9 เดือน
พ่อไม่อุ้มสักเดือน
ปล่อยให้แม่หนักอยู่คนเดียว ปล่อยให้แม่ทุกข์ทรมานอยู่คนเดียว
แถม ในขณะที่แม่ท้องโย้ พ่อยังไปเล่นบิลเลียด  ดูมวย  ตีไก่

นายทหารของอาจารย์
เมียจะคลอด   พ่อตาต้องไปตาม   จากโต๊ะบิลเลียด
บอกให้พาเมียไปส่งโรงพยาบาล
โน่น  รักลูกบิลเลียด  มากกว่าเมียที่กำลังท้อง

-------------------------------------------------------------------------------

ผู้ชายก็มีหัวใจ

พูดมาถึงตรงนี้พวกผู้ชายประท้วง
บอกว่า อาจารย์ ที่บอกว่าอยู่ในท้องแม่เก้าเดือน
พ่อเก่งจริงต้องแบ่งมา 4 เดือนครึ่งน่ะ ก็มันแบ่งไม่ได้นี่
ถ้าแบ่งได้  ผมแบ่งมาแล้ว
ฟังดูมีเหตุผล

เอ้า  งั้นเอาใหม่ มาดูกันว่าพอเราคลอดออกมาปุ๊บ
เราอยู่ในอ้อมกอดใคร
เราอยู่ในอ้อมกอดแม่หรืออ้อมกอดพ่อ
ใครอุ้มเรามากกว่ากัน
แล้วเรา กินนมใคร ดูดเลือดจากอกใคร
แม่ทั้งนั้น

พ่อ อย่างเก่งก็วิ่งไปซื้อนมกระป๋องมาให้ลูก
เวลานอน นอนข้างใคร
ข้างแม่ ต้องกอดแขนแม่นอนจึงหลับ
ทุกอย่างอยู่ที่แม่
ผมเป็นพ่อ กลับมาจากทำงาน เห็นแม่เขาอุ้ม
ไหน  ขออุ้มหน่อย
อุ้มได้ 5 นาที  เมื่อยแขน ส่งคืนแม่แล้ว

หัวใจของแม่ อยู่ติดกับลูกตลอดเวลาจริง ๆ
แม่ทุกคนจะเห็นและทราบดี    

-------------------------------------------------------------------------------

ตาลยอดด้วน

ก่อนจะไปเรื่องอื่น
อาจารย์มีตัวอย่างอยากจะเล่าให้ฟังอีกสักตัวอย่างหนึ่ง
เพื่อจะยืนยันให้ชัดเจนว่า
ความหอมของคนยอดกตัญญูเนี่ย หอมที่สุดในโลก
หอมได้ทั้งตามลมและทวนลม
เรื่องนี้เกิดเมื่อ พ.ศ. 2525
ครู  กำลังจะทำโทษนักเรียนหญิงชั้น ป.5 คนหนึ่ง
ที่มาโรงเรียนสาย
แต่ก่อนทำโทษ   ก็อยากจะฟังเหตุผลว่า   มาสายเพราะอะไร
บ้านหนู มี 3 คน
แม่  เป็นอัมพาต   ต้องป้อนข้าว  ป้อนน้ำ
เช็ดขี้  เช็ดเยี่ยว  เปลี่ยนเสื้อผ้าให้
ยาย  ตาบอด  ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ต้องหาข้าวหาน้ำให้กิน
วันนี้   หนูแต่งตัวเสร็จแล้ว   หิ้วประเป๋าจะมาโรงเรียน
แม่เกิดฉี่  หนูต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แม่   เลยมาโรงเรียนสาย
ถ้าครูจะตี  หนูก็ยอม

ครูยืนน้ำตาซึม   มืออ่อน  เห็นความกตัญญูแล้ว
ประทับใจ  มืออ่อน  ตีไม่ลง

เด็กหญิงคนที่อาจารย์เล่าให้ฟังนี้  คือ
วัลลี  ณรงค์เวทย์  หญิงยอดกตัญญู
ที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ   สื่อทุกสื่อ
ยกย่อง  เชิดชู  ความกตัญญูของเธอ
ต่อมา  วัลลี  ณรงค์เวทย์  ยอดหญิงกตัญญู
เข้าพิธีมงคลสมรส  ที่จังหวัดสมุทรสงคราม

ครู  ของวัลลี  เป็นเจ้าภาพจัดให้ที่บ้าน
และเชิญครูบาอาจารย์ของวัลลีทุกคน   มาร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
ทุกคนมีความรู้สึกว่า
“เหมือนแต่งงานลูกสาว”
ผู้ว่า  วิธาน  สุวรรณทัต   กับคุณนาย   เป็นประธานในพิธีรดน้ำ
ขณะกำลังรอฤกษ์เพื่อความเป็นศิริมงคลอยู่นั้น
มีรถยนต์คันหนึ่ง   วิ่งเข้ามาจอด
แล้วมีคนแต่งชุดสูท  อุ้มของขวัญ  เดินตรงไปที่ผู้ว่า
“ผม  วิทย์  รายนานนท์  รองเลขาธิการฝ่ายการเมือง
ของท่านนายก  อานันท์  ปันยารชุน
ท่านให้ผมนำของขวัญ   มามอบให้กับ
ยอดหญิงกตัญญู  วัลลี  ณรงค์เวทย์  ครับ”

เคยเห็น  เคยได้ไปงานแต่งงานหลายแห่ง
ไม่เคยเห็นงานไหน   มีสง่าราศีเหมือนงานนี้เลย
นายกนั้น   เวลาเป็นเงินเป็นทอง
อาจารย์รักน้ำใจคุณอานันท์  ตรงมุมกตัญญู
รู้ว่า  ยอดหญิงกตัญญู  กำลังจะแต่งงาน
ไม่อยู่เฉย

แล้วถ้าจะทำกันง่าย ๆ  ก็โทรศัพท์ไปบอกท่านผู้ว่า
ให้จัดของขวัญให้
แล้วจะส่งเงินมาให้ 2,000 บาท  หรือ 3,000 บาท  ก็ได้
แต่นี่   ให้รองเลขาฝ่ายการเมือง   เดินทางไปมอบให้อย่างสมศักดิ์ศรี
เพราะฉะนั้น   ท่านนายกอานันท์  ก็ต้องเป็นคนกตัญญูเหมือนกัน

เห็นภาพชัดเจนไหมครับ
ลูกเข้ามาปฏิบัติธรรมวันแรก
ลูกยังเป็นมะม่วงดิบ   กิริยามารยาท   แข็งกระด้าง
แต่พอมาถึงวันนี้  วันที่ 4 มะม่วง  เริ่มสุก
จิตใจสงบ  กิริยาก็นุ่มนวล  กราบก็สวย  เสียงก็นุ่ม
ยอดคนกับยอดไม้   เหมือนกัน   คือ  ต้องอ่อน
ลูกกำลังเป็นยอดคน

วันนี้  เป็นวันที่เกิดปัญญา
ไหนใคร   คิดถึงบุญคุณของพ่อแม่   อยากทดแทนบุญคุณ
อยากให้ท่านทั้ง 2   ได้มาปฏิบัติธรรมเหมือนกับเรา
กรุณายกมือให้ดูหน่อย
ขอบคุณ  เอามือลง

ตอนนี้  ทุกคนกำลังหอม
เป็นความหอมชนิดพิเศษ
เป็นกลิ่นหอมที่ออกจากใจ   อย่างประหลาด
หอม  เพราะคิดถึงผู้มีพระคุณ
คิดถึงคุณพ่อ  คุณแม่   ผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ในชีวิตเรา   ไม่มีใครมีพระคุณยิ่งใหญ่   เท่ากับท่านทั้ง 2 อีกแล้ว

กลิ่นหอมของคนดี   จะฟุ้งยิ่งกว่ามะลิ
หอมกว่าแก่นจันทน์   รากกฤษณา
กลิ่นหอมของคนดี   ยอดกตัญญู
หอมทั้งตามลม   และทวนลม
หอมได้ไกลเป็นพัน  เป็นหมื่นกิโล

ตรงกันข้าม
คนอกตัญญู   จะเหม็นที่สุดในโลก   ไม่มีใครคบหาสมาคม
เปรียบเหมือนตาลยอดด้วน
ภาพที่เราเห็นภายนอก   อาจจะสูงใหญ่   สง่างาม
แต่ยืนต้นอยู่ได้ไม่นาน
ความผุกร่อนจากภายใน   จะทำให้มันล้มฟาดลงมา
สูญสิ้นสง่าราศี

คนอกตัญญู   ชีวิตจะพินาศ
คนที่เป็นพาล   และรู้ว่าตัวเองเป็นพาล
คนนั้น  กำลังจะเป็นบัณฑิต
ใครรู้ตัว  มองเห็นความเลว  ความชั่วของตัวเอง
วันนี้  ยังไม่สาย  รีบแก้ไข  ปรับปรุงเสีย
ลูกกำลังจะรับปริญญาจากพระพุทธเจ้า

-------------------------------------------------------------------------------

แม่หม้ายสอนลูก

ตัวอย่างที่จะยกให้ฟังต่อไปนี้ เป็นตัวอาจารย์เอง
อาจารย์เป็นลูกกำพร้า พ่อตายตั้งแต่อายุ 4 ขวบ
จำหน้าพ่อได้ลางเลือนเต็มที  จำได้แต่ว่าพ่อเคยอุ้มไปอาบน้ำ

แม่ของอาจารย์  ทุกข์โศก  เสียใจมาก
พาลูก ๆ  กลับไปหาคุณตา
คุณยายตาย   คุณตามีภรรยาใหม่   ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่  หลาน ๆ
โดยปกติ   พ่อแม่ 2 คน   ช่วยกันเลี้ยงลูก   ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว
นี่แม่หม้ายคนเดียว   ต้องเลี้ยงลูก 4 คน
จะเหน็ดเหนื่อย   ลำบาก  ทุกข์ยากขนาดไหน

วันหนึ่ง   คุณแม่พบกับแม่ชีท่านหนึ่ง   ที่เขาพระงาม  จ.ลพบุรี
สนทนาธรรมกับแม่ชีเสร็จแล้ว   แม่  ตัดสินใจบวช
แม่บวชเป็นแม่ชีแล้ว   ก็ยังห่วงลูก
มารับพี่ชายไป   เป็นครูสอนเด็ก   ที่นั่น
รับอาจารย์ไปอยู่ด้วย   เพื่อท่านจะได้มีโอกาสดูแลใกล้ชิด
ตอนนั้น   อาจารย์อายุ 10 ขวบ
แม่เรียกเข้ามานั่งใกล้ ๆ   แล้วสอนว่ายังไง   รู้ไหมครับ

แม่  เป็นอาจารย์คนแรก  ของลูก
แม่  เป็นพรหมของลูก
แม่  เป็นอรหันต์  ของลูก
แม่  สอนอาจารย์  ทั้งรัก  ทั้งทะนุถนอม  ว่า
“ถัดจากหัวใจแม่  คือ  ลูก”
แม่  กลัวว่าอาจารย์จะไม่เข้าใจ
เอามือชี้ไปที่หัวใจของท่าน
ถัดจากหัวใจแม่   คือลูกนะ

นาทีนั้น   อาจารย์เข้าใจชัดเลย
โอ  แม่นี่  รักเราติดหัวใจท่านเลย
แล้วแม่สอนต่อ   เป็นคำสอนที่ 2 ว่า
“อย่าเกเรนะลูก  เรามันลูกไม่มีพ่อ”

ลูกคนอื่นเขาเกเร   ช่างเขา  เขามีพ่อ
เวลามีเรื่อง  มีปัญหา  พ่อเขาไปช่วยได้
บ้านกำนันก็ไปได้   สถานีตำรวจก็ไปได้
เราลูกไม่มีพ่อ   อย่าเกเรนะลูกนะ
พอแม่บอกว่า   ลูกไม่มีพ่อ
“น้ำตาอาจารย์ก็  หยด  แหมะ ๆ”
โอ  เรานี่ลูกไม่มีพ่อนะ
คำสอนของแม่ค่ำนี้   เป็นบุญกับผมเหลือเกิน
ทำให้ผมเกเรน้อย  ทำบาปน้อยที่สุด
ไปกับเพื่อน   กำลังจะเกเร   คำสอนแม่   ก้องเข้ามาในหู
“เราลูกไม่มีพ่อ”
มีห้ามล้อ  มีเบรก  หยุดกึกเลย
กลับมาอ่านหนังสือ

คำสอนที่ 3  แม่สอนต่อว่า
“ลูกตั้งใจเรียนนะลูกนะ  โตขึ้น  จะได้เลี้ยงแม่”
อาจารย์นั่งคิด  เออ  จริงนะ
แม่  ไม่มีพ่อคอยช่วยเหลือ  แม่ตัวคนเดียว
แก่แล้ว   ใครจะเลี้ยง
ต้องเรา   ไม่มีคนอื่นแล้ว
แล้วเรามีแค่ 2 มือ  จะทำอะไรเลี้ยงแม่ได้
ต้องเรียนเยอะ ๆ

พอเรียนจบ   ชั้นประถม  อยากเรียนต่อ  มัธยม
เห็นเพื่อน ๆ ไปเรียนมัธยม   หิ้วกระเป๋า  เท่
ยืนมอง  น้ำตาซึม
อยากเรียนมัธยม   แต่ไม่มีสิทธิ์
เพราะ   เราไม่มีพ่อ   ไม่มีสตางค์จ่ายค่าเล่าเรียน

2 ปีต่อมา
คนข้างบ้าน   เขาไปเรียนนายร้อย  จปร.
กลับมาบ้าน   ห้อยกระบี่มาอวด
อาจารย์น้ำตาไหล
อยากเป็นนักเรียนนายร้อย  ใจจะขาด
แต่  เราไม่มีสิทธิ์   เพราะ  เราไม่มีพ่อ

นั่งร้องไห้
เราไม่มีสิทธ์เป็นนักเรียนนายร้อย
เพราะ  เราไม่มีพ่อ

แม่เห็นแล้ว  สงสาร
แม่บอกว่า   ไม่มีเงินเรียนมัธยม   ไม่เป็นไร
ลูกเรียนหนังสือพระ   ก็แล้วกัน   เรียนที่วัด   ไม่ต้องเสียเงิน
ลูกเรียนอะไร   ไม่สำคัญ
ขอให้รู้จริง  รู้ให้มาก  รู้ลึก
เราก็มีสิทธิ์มีชีวิตที่ก้าวหน้าได้

อาจารย์  ทำตามคำที่แม่สอน
บวชเป็นเณร   ตอนนั้นตัวเล็กนิดเดียว
จบ 5 ประโยค   เป็นมหา  ตั้งแต่ยังเป็นเณร
บวชพระแล้ว   ก็ยังเรียนต่อไปอีก   จนจบเปรียญ 8 ประโยค

-------------------------------------------------------------------------------

จดหมายถึงแม่

เขาบอกไว้ว่า
การทำความเคารพต่อผู้มีพระคุณสูงสุด
ต้องเอาสิ่งที่สูงที่สุด   ในตัวเรา
ไปสัมผัสกับสิ่งที่ต่ำที่สุด   ในตัวท่าน

สิ่งที่สูงที่สุด   ในตัวเรา   คือหัวหรือหน้าผาก
สิ่งที่ต่ำที่สุด   ในตัวท่าน  คือเท้า
เอาสูงสุด   สัมผัส  ต่ำสุด  ถือว่าเป็นสิริมงคล
กราบ   เป็นการทำความเคารพ  สูงสุด
ทำให้เจริญรุ่งเรือง

พวกเรา   เคยเขียนจดหมายถึงคุณพ่อคุณแม่ไหม
เราขึ้นต้นจดหมายว่าอย่างไร
กราบเท้า  คุณพ่อคุณแม่  ที่เคารพอย่างสูง
ลูกกำลังเดือดร้อน  กรุณาส่งเงิน   มาให้ลูกโดยด่วน
เขียนจดหมายไปขอสตางค์

กราบเท้าคุณพ่อคุณแม่   ที่เขียนที่หัวจดหมายน่ะ
ไม่ใช่  กตัญญู
จะเอาตังค์   เขียนมาทวงตังค์

พอโรงเรียนปิดเทอม
กลับมาบ้าน  เห็นแม่  เห็นพ่อ  ทำยังไงครับ
หวัดดีแม่  หวัดดีพ่อ
ยกมือไว้  แล้วทำหัวผงก ๆ
หลอกลวงที่สุดในโลก

ในจดหมาย  เขียนบอกว่า  กราบเท้า
แต่พอมาเจอตัวจริง  ไม่กราบ  ผงกหัวเฉย ๆ
หลอกลวง  แม้แต่แม่บังเกิดเกล้า
ชั่วไหม  คนแบบนี้

เพราะฉะนั้น  ใครยังไม่เคยกราบเท้าพ่อแม่   กลับไปกราบซะ
กลับไปใช้หนี้

-------------------------------------------------------------------------------




เครดิดอ่าค๊าาา http://pkmonkey.exteen.com/20090412/2-big

ขอโทษคห. 1 ด้วยน๊าค๊า เราว่ามันยาวไปก็เลยไม่ขึ้น เลยตัดออกปายตอนนึงอ่า T T

Discussion (18)

สงสัยเราคงจะต่อมน้ำตาตื้นค่ะ TT^TT เราอ่านแล้วร้องอ่ะ
ยังไงก็ขอบคุณสำหรับทุกึอมเม้นท์นะคะ
ถ้าบอกว่าไม่ร้องจะโกรธเรามั๊ย

ช่วงแรกเฉยๆ
ซึ้งช่วงหลังๆ แต่ยังไม่ร้องอ่ะ
 คุณ Trich  คะ   ขอแย้งนิดนึงคะ   ตอนเรียนประวัติศาสตร์ จำได้ว่า  อเมริกาห้ามญี่ปุ่มมีกองกำลังทหารเนื่องจากแพ้สงครามโลกครั้งที่สองคะ   ส่วนเรื่องอื่นๆญี่ปุ่นเขาจัดการของเขาเอง   คิดว่างั้นนะ

ส่วนเรื่องที่เอามาลงไม่ค่อยกระตุ้นต่อมน้ำตาของเราเท่าไรอะคะ    
อยู่บ้านกับพ่อแม่จนเขาเหม็นหน้าอยู่แล้ว    

แต่อยากบอกว่า   รักพ่อต้องสามัคคีกัน
แต่เรากลับซึ้ง น้ำตาจะไหลอ่า
อ่านเรื่อง แม่หม้ายสอนลูก แล้วร้องไห้เลยค่ะ

เรื่องแบบนี้เราอ่อนไหวสุดๆ T_T



ส่วนเรื่องการเมือง วันนี้นายกแถลงทั้งวันเลยอ่ะ

เห็นด้วยกับ คคห. 6

ทำไมไม่หยุดคิดกันสักนิด เฮ้อ !!