ในระหว่างที่ชาวเน็ทต่างติดตามความคืบหน้าทางกระบวนการยุติธรรมจากคดี Sex Trafficking สั่นสะเทือนวงการ แต่มีรายงานว่า ทนายความฝั่ง Diddy ผู้ตกเป็นจำเลยนั้นพยายามจะร้องขอให้มีการพิจารณาคดีในอีกหลายเดือน และยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่า ฝ่ายอัยการรัฐบาลกลางจะเสนอกำหนดการไว้ช่วงใด แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้นเูจะไม่มีทีท่าจะลดดีกรีความเดือดลงไปได้  ทฤษฎีสมคบคิดโยงใยเีื่องราวดำมืดในวงการมายาผุดขึ้นมาเกลื่อน social media จนยากจะคาดเดาได้ว่า ข่าวลือที่บานปลายออกไปเรื่อยๆจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน! แรกเริ่มเดิมที Diddy ถูกโจมตีอย่างรุนแรงและหลายฝ่ายต่างเชื่อว่า เขาไม่น่าจะรอดพ้นจากโทษจำคุกไปได้ กลายเป็นว่า ชาวเน็ทได้พุ่งเป้าหมายไปที่จำเลยสังคมรายใหม่...

คู่สามีภรรยา Carter  ....

เหราะเหตุใด ศิลปินชั้นนำที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการดนตรีอย่าง Jay Z และ Beyonce จึงถูกตาขุดคุ้ยและโจมตีด้วยกระแสข่าวลือสารพัดรูปแบบหลังจาก Diddy ถูกดำเนินคดี

มาติดตามกับเราได้เลยค่ะ

ชาวเน็ทพยายามเชื่อมโยงความคล้ายคลึงที่ทับซ้อนกันระหว่าง Diddy และ Jay Z เพื่อยืนยันข้อสมมุติฐานว่า พวกเค้าคือปีศาจร้ายไม่ต่างกัน

• Diddy และ Jay Z รักษามิตรภาพมั่นคงมาได้ยาวนานโดยไม่แตกคอกันเหมือนกับแร็พเพอร์ดังคนอื่น ซึ่งทำให้หลายคนคลางแคลงใจว่า  มันยากจะเป็นไปได้หากเขาจะไม่เคยรับรู้พฤติกรรมของ Diddy และยังมีผู้ที่ปักใจว่า Jay Z เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิดกฎหมายใน Freek Off party แม้จะไร้หลักฐานมายืนยัน

• Jay Z เคยถูกดำเนินดคดีงเรื่องยาเสพติดและครอบครองอาวุธปืนในวัยหนุ่ม เขาเคยยอมรับในคดีแทงโพรดิวเซอร์ในปี 1999 แต่ 22 ปีต่อมา เหยื่อได้ออกมายืนยันว่า ผู้ร้ายตัวจริงที่แทงเขาจนบาดเจ็บไม่ใช่ Jay Z ช่วงเวลายาวนานกว่าสองศวรรษก็ได้ล้างคราบมลทินออก และนำเสนอภาพลักษณ์ผู้นำวงการดนตรีจนเป็นที่นับหน้าถือตาของศิลปินระดับแนวหน้า  ทั้ง Diddy และ Jay Z หันมาสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ทั้งค่ายเพลงและต่อยอดการสร้างรายได้ไปด้านอื่นๆ หากพูดถึงเรื่องความทรงอิทธิพล Jay Z ถูกมองว่า สร้างสมบารมีได้ยิ่งกว่า Diddy ด้วยซ้ำ เขามีทรัพย์สินมากกว่านับเท่าตัว โดยที่ยังวางตัวห่างจากข่าวลือเรื่อง Freak Off party และการใช้ความรุนแรง แตก็ก็มีคนเปิดประเด็นว่า หรือเป็นเพราะ Jay Z เคลื่อนไหวได้อย่างชาญฉลาดและแนบเนียนกว่า Diddy เขานำเสนอภาพลักษณ์ที่ดูมีระดับ ลึกลับ เข้าถึงยากอยู่เสมอ ไม่ท้าทายกฎหมายด้วยการโอ้อวด

• แต่แม้ว่า Jay Z จะไม่ได้มีภาพลักษณ์ฉาวโฉ่จากความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากหน้าหลายตาเหมือนกับ Diddy แต่ก็มีเรื่องนอกใจ Beyonce จนต้องออกมายอมรับผ่านบทเพลงและให้สัมภาษณ์ถึงความผิดพลาดในอดีต ซึ่งทำให้แฟนๆ Beyonce ยังรู้สึกเจ็บแค้นใจกับเหตุการณ์ครั้งนั้น รวมถึงชาวเน็ทที่มองว่า หากเขาสอบตกทางด้านศีลธรรมจนทำร้ายจิตใจภรรยาได้ถึงขนาดนั้น ก็คงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายหากเขาจะร่วมกระทำผิดทางเพศกับ Diddy
• Jay Z ยังถูกจับมาเปรียบเทียบกับ Diddy ที่มักเข้าหาหญิงสาวอายุน้อยจนถูกกล่าวหาว่า ใช้เสน่ห์และอิทธิพล groom ให้เหยื่อหลงเชื่อ จากเรื่องราวในอดีตที่มีผู้ยืนยันว่า  Jay Zเคยพยายามเอาชนะใจ Aaliyah เจ้าหญิง R&B ที่ในขณะนั้นอายุเพียง 20 ปี แต่ต้องพ่ายให้กับ Dame Dash จึงหันไปตามจีบ Beyonce ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสมาชิกวัยทีนแห่ง Destiny's Child แม่ว่าช่องว่างแห่งวัย 12 ปี จะดูไม่ห่าง และ Beyonce ก็เคยเล่าว่ากว่าจะตกลงใจคบกันจริงจัง เธอก็เข้าสู่วัย 19 เข้าใกล้ 20 แล้ว แต่ชาวเน็ทได้ขุดคุ้ยภาพสัมภาษณ์เก่ามาค้านว่า  Jay Z ได้ทำความรู้จักกับ Beyonce ตั้งแต่เธออายุแค่ 16 ปี 
• ชาวเน็ทหันมาจับผิด Jay Z จากเรื่องราวความสัมพันธ์กับเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และนำข่าวลือต่างๆมาโยงใยกันเพื่อยืนยันความเชื่อว่า ศิลปินที่เป็นเจ้าพ่อวงการแท้จริงคือ Jay Z ซึ่งอาจจะมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เลวร้ายซะยิ่งกว่า Diddy ที่ถูกจองจำในสถานกักกัน และมีเสียงเรียกร้องให้อัยการรัฐบาลกลางลงมือสืบสวนเอาผิดเขาด้วยเช่นกัน!

Beyonce ถูกเล่นงานด้วยกระแสข่าวลือหนักหน่วงไม่แพ้สามี

แม้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆที่แสดงว่า Jay Z มีความพัวพันกับคดีของ Diddy แต่ชาวเน็ทหลายคนก็ฟันธงไปแล้วว่า เขาสมควรถูกตราหน้าเป็นอาชญากรไม่แตกต่างกับเพื่อนซี้ ส่วนภรรยาดิว่าผู้โด่งดังของเขาก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นเดียวกัน จากเดิมที่เคยมีผู้ปล่อยข่าวลือว่า Beyonce เป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวที่ถูกสามีควบคุมจนต้องยอมจำนนตามคำสั่งของเขาโดยไร้สิทธิ์ไร้เสียงใดๆ (ถึงขนาดปล่อยข่าวลือว่า Jay Z ลวงให้ Beyonce ถ่ายวีดีโอหวิวใน Freak Off Party) แต่ในช่วงหลายวันมานี้ สังคมออนไลน์ก็หยิบยื่นข้อหาใหม่ให้กับ Beyonce...นั่นคือภาพลักษ์นางมารร้ายที่ใช้อิทธิพลรังแกคนร่วมวงการ

ข่าวลือที่ชาวเน็ทใช้โจมตี Beyonce แบบไร้ที่สิ้นสุด

• ไม่ต่างจาก Diddy ชาวเน็ทพยายามโยงใยกับการเสียชีวิตของคนดังแห่งวงการดนตรีและ Hollywood ว่า Beyonce อาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสั่งฆ่า ไม่ว่าจะเป็น Aaliyah ที่ Jay Z เคยตามพัวพัน บ้างก็หาว่า Beyonce ต้องการดับแสงเจ้าหญิง R&B เพื่อจะก้าวสู่ความเป็นหนึ่งเพียงหนึ่งเดียว  

• มีผู้นำเสนอทฤษฎี Beyonce คือผู้ร้ายตัวจริงที่คร่าชีวิต Aaliyah เพราะเชื่อว่า เธอวางแผนมาตกรรมด้วยการว่าจ้างให้คนทำอะไรบางอย่างกับชิ้นส่วนเครื่องบินจนทำให้ Aaliyah และผู้โดยสารอีกแปดชีวิตต้องจากโลกนี้ไปอย่างช็อคโลก  แม้ว่าในตอนนั้น Beyonce จะมีอายุเพียง 20 ปี เพิ่งเริ่มต้นความสำเร็จในฐานะศิลปินดัง ยังไม่ได้มีภาพลักษณ์ powerful diva เหมือนทุกวันนี้

• มีการเชื่อมโยงการแสดง reaction ของ Adele ที่เคยเบียด Beyonce คว้ารางวัล Album Of The Year เธอทั้งประกาศถึงความยกย่องในตัว Beyonce และเชื่อว่า Lemonade ของ Beyonce คู่ควรกับรางวัลนี้มากกว่า และเธอยังไปขอไปพบหน้า Beyonce ที่ห้องแต่งตัวเพื่อเปิดใจพูดกันตรงไปตรงมาว่า ผลงานของ Beyonce มีความหมยมากแค่ไหนต่อเธอ หรือจะเป็น Harry Styles ที่เคยคว้ารางวัลเดียวกัน แต่ถูกถล่มหนักว่า ขโมยรางวัลไปจาก Queen Bey  จนทำให้ชาวเน็ทที่ไม่ปลื้มเธออยู่เป็นทุนเดิมกล่าวหาว่า  ทั้ง Megan Thee Stallion และ Lizzo, ได้รับชัยชนะจากรายการประกาศรางวัลชั้นนำต้องถูกฝืนใจให้กล่าวขอบคุณ Queen Bey เพราะหวั่นเกรงในอิทธิพลของเธอและสามี (ศิลปินสาวทั้งสามคนที่ขอบคุณ Beyonce ในการขึ้นรับรางวัลต่างยืนยันมาตลอดว่า  Beyonce คือไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเธอ)
• ทฤษฎีเกี่ยวกับ Beyonce ไปไกลถึงขนาดที่มีผู้จุดประเด็นว่า แท้จริงแล้ว Kanye West ที่ขึ้นเวที VMAs ไปแย่งไมค์จากมือ Taylor Swift คือฮีโร่ที่ปิดทองหลังพระในคราบผู้ร้ายสติหลุด แต่เขามีเจตยาบริสุทธิ์ที่จะปกป้อง Taylor จากการคุกคามของ Beyonce จึงตัดสินใจรับบทผู้ร้ายออกไปแย่งซีน สังคมจะได้ลงโทษเขาคนเดียว ทำให้ Beyonce ละเว้น Taylor ที่ในตอนนั้นยังเป็นศิลปินดาวรุ่ง (ผลจากเหตุการณ์ Imma let you fisnish but..ในครั้งนั้นทำให้ Taylor สร้างสัมพันธภาพที่เหนียวแน่นกับครอบครัว Carter ในขณะที่ Kanye ถูกตัดขาดออกจากโคจรของ Jay Z อดีตเพื่อนรักเนื่องจากก่อวีกรรมด่า Beyonce กลางเวทีคอนเสิร์ต)

ล่าสุด ครอบครัว Carter เคลื่อนไหวเพื่อส่งคำเตือนต่อผู้หมิ่นประมาท

เมื่อพูดถึงกลุ่มคนที่ทำให้วงการกอสสิปลุกเป็นไฟในตอนนี้ ก็คงลืมชื่อ Jagaur Wright ไปไม่ได้ หลังจากที่เธอเริ่มปล่อยข่าวเปิดโปงวงการมายาตั้งแต่ปี 2020 จนกระทั่ง Diddy ถูกจับกุมจนต้องต่อสู้คดีอาญา ชาวเน็ทที่เคยเย้ยหยันว่าเธอเป็นเพียงนักร้องที่เรียกร้องความสนใจจากทฤษฎีสมคบคิดเพ้อเจ้อก็หันมาให้เครดิตเธอมากขึ้น เมื่อ Diddy ต้องขึ้นศาลเพื่อเอาตัวรอดจากโทษหนัก เธอก็ตอกย้ำหลายครั้งหลายหนว่า Jay Z คือรายต่อไปที่จะสมควรจะถูกลากเข้าสู่ตารางจองจำ เพราะเขามีพฤติกรรมโหดอำมหิตซะยิ่งกว่า Diddy ทั้งทำเรื่องชั่วร้ายต่างๆนานาอย่างแนบเนียน ที่ผ่านมา การำนำเสนอคอนเทนท์หอสสิปของเธอนั้นอยู่อยู่ใน platform ที่ไม่ใหญ่โต อาจจะออกรายการรายการ podcast และให้สัมภาษณ์รายการวิทยุ แต่เมื่อ Piers Morgan พิธีกรดังจากอังกฤษเชื้อเชิญให้เธอแสดงความคิดเห็นในประเด็นความพัวพันของสองเจ้าพ่อฮิปฮอปในการกระทำผิดกฎหมาย ทีมทนายของ Jay Z และ Beyonce ก็เริ่มเคลื่อนไหว