Katy Perry ก้าวสู่ Flop Era ตามกระแสวิพากษ์วิจารณ์จริงหรือ?
candy114เมื่อไม่นานมานี้ Katy Perry เพิ่งจะประกาศกลางเวทีคอนเสิร์ตด้วยอารมณ์ขันว่า เธอนึกว่าตัวเองคือบุคคลที่เป็นที่เกลียดชังในโลกออนไลน์ซะอีก แต่เธอเชื่อว่า มันเป็นเพียงข่าวเท็จเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ทำให้พวกเราประจักษ์ถึงความเชื่อมั่นของเธอก็คือ แฟนๆกว่าสองหมื่นคนที่ซื้อตั๋วเข้ามาชม Lifetimes Tour ที่ Chicago จนเต็มความจุ สวนทางกับการประโคมข่าวในหน้าสื่อว่า Katy กำลังเผชิญกับปัญหาเข็นยอดขายตั๋วคอนเสิร์ตให้ sold out ได้อย่างยากเย็น ถึงขนาดมีเสียงปรามาสว่า Katy คือหนึ่งในกรณีตัวอย่างของซุปตาร์ที่ก้าวเข้าสู่ flop era เต็มตัว ดังที่เคยเกิดขึ้นกับ Jennifer Lopez และ Justin Timberlake มาแล้ว
แต่การเพิ่มรอบการแสดงในต่างประเทศทั้งใน Australia Mexico และ Argentina รวมถึงเมืองในแถบยุโรปอย่าง London และ Paris เนื่องจากตั๋วไม่เพียงพอกับความต้องการของแฟนๆ ก็นำไปสู่คำถามว่า Katy กำลังประสบภาวะขาลงจริงๆ หรือเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อมอื่นๆที่ส่งผลให้คอนเสิร์ตบาง venue ยังไม่เป็นสถานะ sold out ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิดดราม่าที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของเธอหลายครั้ง
แต่การเพิ่มรอบการแสดงในต่างประเทศทั้งใน Australia Mexico และ Argentina รวมถึงเมืองในแถบยุโรปอย่าง London และ Paris เนื่องจากตั๋วไม่เพียงพอกับความต้องการของแฟนๆ ก็นำไปสู่คำถามว่า Katy กำลังประสบภาวะขาลงจริงๆ หรือเป็นเพราะปัจจัยแวดล้อมอื่นๆที่ส่งผลให้คอนเสิร์ตบาง venue ยังไม่เป็นสถานะ sold out ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิดดราม่าที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของเธอหลายครั้ง
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปล่อยเพลง Woman’s World
ผลงาน comeback ในรอบ 4 ปีของ Katy ที่ได้รับการคาดหวังอย่างสูงถูกถล่มยับเยินจากนักวิจารณ์ดนตรีจนแทบจะเป็นเอกฉันท์ แม้หลายคนจะให้ความเห็นว่า อัลบั้ม 143 ไม่ได้เลวร้าย แต่มันสร้างความผิดหวังในแง่ของพัฒนาการจากประสบการณ์ความสำเร็จติดต่อกันยาวนานของเธอ Metacritic ได้วิเคราะห์ตัวเลขคะแนนค่าเฉลี่ยจากนักวิจารณ์ในสื่อ mainstream ต่างๆ ออกมาได้เพียง 37 คะแนน เป็นอัลบั้มที่คะแนนต่ำเตี้ยที่สุดในช่วงยุค 2020s ของเว็บ ตอกย้ำด้วยการตราหน้าจาก Rolling Stone ว่า "นี่คือความพยายามอันแสนว่างเปล่าเพื่อจะกลับมาอยู่ในกระแสความนิยม"
ชาวเน็ทหลายคนมองว่า การเปิดตัวการหวนคืนสู่อุตสาหกรรมดนตรีด้วย Woman’s World คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดตั้งแต่ก้าวแรก เพราะกระแสตอบรับช่างดูห่างไกลจากความสำเร็จระดับ top chart ในอดีต ไม่เพียงแต่เพลงนี้จะถูกสับว่า ล้าสมัย เนื้อเพลงขาดความสร้างสรรค์ ล้าสมัยจนไม่ชวนจดจำจนถูกเปรียบว่า ฟังดูเหมือนกับเป็นเพลงที่ใช้ AI สร้างขึ้นมา แต่ MV ก็ดึงดูดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงไม่แพ้กัน
ชาวเน็ทหลายคนมองว่า การเปิดตัวการหวนคืนสู่อุตสาหกรรมดนตรีด้วย Woman’s World คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดตั้งแต่ก้าวแรก เพราะกระแสตอบรับช่างดูห่างไกลจากความสำเร็จระดับ top chart ในอดีต ไม่เพียงแต่เพลงนี้จะถูกสับว่า ล้าสมัย เนื้อเพลงขาดความสร้างสรรค์ ล้าสมัยจนไม่ชวนจดจำจนถูกเปรียบว่า ฟังดูเหมือนกับเป็นเพลงที่ใช้ AI สร้างขึ้นมา แต่ MV ก็ดึงดูดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงไม่แพ้กัน
ตัวตนสาวสวยแซ่บที่มาพร้อมกับความเบาสมองคือ signature ที่อยู่คู่กับ Katy มาตั้งแต่แจ้งเกิดในวงการ เธอสร้างความโดดเด่นด้วยภาพสาวทรวดทรงเย้ายวนใจเบิกวงตากลมโตให้ดูแป๋วแหวกับคอนเทนท์สร้างความฮา MV หลายตัวของเธอดึงดูดยอดเข้าชมในระดับพันล้าน (ยอดเข้าชม Roar พุ่งไปเกินสี่พันล้าน) แต่ Woman’s World ที่ควรจะครองใจผู้คนตามสูตรสำเร็จที่ผ่านมาของ Katy กลับถูกจัดให้เป็นผลงานที่หลุดฟอร์มซุปตาร์อย่างผิดความคาดหมาย
ไวรัลจากเพลงนี้เต็มไปด้วยข้อความโจมตีและ meme ล้อเลียนอย่างไม่ปราณีปราศรัย เธอยังถูกกล่าวหาว่า นำเสนอแนวคิดเชิดชูพลังหญิงที่ดูจอมปลอมจนน่าอับอายขายหน้า แม้ไอเดียจงใจเรียกเสียงฮาจะดูไม่แตกต่างจากบรรดา MV ดังๆของเธอเมื่อหลายปีก่อน แต่กลับมีคอมเมนท์เย้ยหยันผุดขึ้นมาไม่หยุดว่า ความพยายาม empower สิทธิสตรีของ Katy ดู cringe มากกว่า cool และโลกได้ก้าวไกลเกินกว่าจะหวนกลับมาชื่นชมยินดีกับคอนเสปท์ที่ดูไม่ทันยุคสมัยเช่นนี้แล้ว
ไวรัลจากเพลงนี้เต็มไปด้วยข้อความโจมตีและ meme ล้อเลียนอย่างไม่ปราณีปราศรัย เธอยังถูกกล่าวหาว่า นำเสนอแนวคิดเชิดชูพลังหญิงที่ดูจอมปลอมจนน่าอับอายขายหน้า แม้ไอเดียจงใจเรียกเสียงฮาจะดูไม่แตกต่างจากบรรดา MV ดังๆของเธอเมื่อหลายปีก่อน แต่กลับมีคอมเมนท์เย้ยหยันผุดขึ้นมาไม่หยุดว่า ความพยายาม empower สิทธิสตรีของ Katy ดู cringe มากกว่า cool และโลกได้ก้าวไกลเกินกว่าจะหวนกลับมาชื่นชมยินดีกับคอนเสปท์ที่ดูไม่ทันยุคสมัยเช่นนี้แล้ว
Katy ได้ส่งภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ Woman’s World พื่อชี้แจงแถลงไขว่า แท้จริงแล้วเป็นความตั้งใจของเธอเพื่อล้อเลียนเสียดสีเรื่องความเป็นหญิง สอดคล้องกับการปกป้องจากแฟนๆว่า พวกเค้าเข้าใจมุกตลกเหน็บแนมได้เต็มๆตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ชม ส่วนดราม่าร้อนแรงนั้นมาจากชาวเน็ทที่มองโลกในแง่ร้ายจนเข้าไม่ถึง message ที่แฝงอยู่ แต่กลุ่มคนที่ไม่ปลื้มทั้งเพลงและ MV โต้กลับว่า การเสียดสีอย่างมีชั้นเชิงนั้นไม่จำเป็นต้องมาคอยธิบายทีหลังว่าเป็นความตั้งใจ แทนที่จะสร้างความตราตรึงใจ กลับดูเหมือนกับความพยายามมากเกินไปจนพลาดเป้า และหากจะพูดถึงเรื่องการเหน็บแนมประชดประชัน ก็น่าจะเป็นเรื่องที่เธอดึงตัว Dr. luke มาเป็นหนึ่งในโพรดิวเซอร์คนสำคัญในอัลบั้มนี้
Dr. luke ตกเป็นข่าวอื้อฉาวเนื่องจาก Kesha กล่าวหาว่า เขามอมยาและกระทำชำเราเธอ นำไปสู่การฟ้องร้องยาวนานนับสิบปี แม้ว่าในที่สุดคดีนี้จะลงเอยด้วยการยอมความ แต่มลทินจากข้อกล่าวหานี้ก็ไม่ได้เลือนหายไป ถึงขั้นที่มีคนฟันธงว่า Kesha ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเปิดศึกต่อสู้กับชายทรงอิทธิพลที่ล่วงละเมิดเธอ เมื่อ Katy หวนกลับไปสร้างผลงานดนตรีกับ Dr. Luke ในอัลบั้มล่าสุดก็นำไปสู่ข้อถกเถียงในประเด็นการเชิดชูพลังหญิงโดยที่มีชายที่ถูกกล่าวหาเป็น abuser กระทำชำเราผู้หญิงมาเป็นผู้ดูแลสร้างสรรค์ผลงาน ถึงแม้ว่า พวกเค้าจะร่วมกันผลิตผลงานเพลงที่โด่งดังถล่มทลายในอดีต แต่แฟนบางคนของ Katy ก็ยังรู้สึกผิดหวังและหวั่นใจต่อกระแสต่อต้านจากสังคม
ซุปตาร์สาวเคยหลีกเลี่ยงจะอธิบายถึงเหตุผลที่เลือกร่วมงานกับโพรดิวเซอร์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น abuser ตรงๆ แต่เธอก็ให้สัมภาษณ์อย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า เข้าใจที่เรื่องได้จุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ แต่ความเป็นจริงก็คือ เธอเขียนบทเพลง
เหล่านี้ขึ้นมาจากประสบการณ์ที่ต้องเข้าสู่จุดเปลี่ยนแปลงในชีวิต เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มโพรดิวเซอร์และนักเขียนเพลงที่ช่วยเหลือให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์
คำอธิบายจาก Katy ไม่ได้ทำให้ชาวเน็ทที่ต่อต้าน Dr. Luke รู้สึกคล้อยตามแต่อย่างใด พวกเค้ามั่นใจว่า การตัดสินใจร่วมงานกับโพรดิวเซอร์ที่มีชื่อเสียงด่างพร้อยมีส่วนทำให้อัลบั้มนี้ถูกมองในแง่ลบมาตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว แต่กลุ่มคนที่คิดเห็นขัดแย้งออกไปได้ชี้ให้เห็นความสองมาตรฐาน เพราะแม้จะมีศิลปินดนตรีที่แสดงท่าทีว่า จะไม่ร่วมงานกับ Dr. luke แต่ในระหว่างการฟ้องร้องยังไม่ยุติ เขาก็รับหน้าที่โพรดิวซ์เพลงกับศิลปินหญิงชื่อดังอีกหลายคน แม้ว่าพวกเธอจะหลีกเลี่ยงการตั้งคำถามจากสังคมไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ต้องรับมือกับคาดคั้นจับผิดหนักหน่วงเท่ากับ Katy
เหล่านี้ขึ้นมาจากประสบการณ์ที่ต้องเข้าสู่จุดเปลี่ยนแปลงในชีวิต เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มโพรดิวเซอร์และนักเขียนเพลงที่ช่วยเหลือให้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์
คำอธิบายจาก Katy ไม่ได้ทำให้ชาวเน็ทที่ต่อต้าน Dr. Luke รู้สึกคล้อยตามแต่อย่างใด พวกเค้ามั่นใจว่า การตัดสินใจร่วมงานกับโพรดิวเซอร์ที่มีชื่อเสียงด่างพร้อยมีส่วนทำให้อัลบั้มนี้ถูกมองในแง่ลบมาตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว แต่กลุ่มคนที่คิดเห็นขัดแย้งออกไปได้ชี้ให้เห็นความสองมาตรฐาน เพราะแม้จะมีศิลปินดนตรีที่แสดงท่าทีว่า จะไม่ร่วมงานกับ Dr. luke แต่ในระหว่างการฟ้องร้องยังไม่ยุติ เขาก็รับหน้าที่โพรดิวซ์เพลงกับศิลปินหญิงชื่อดังอีกหลายคน แม้ว่าพวกเธอจะหลีกเลี่ยงการตั้งคำถามจากสังคมไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ต้องรับมือกับคาดคั้นจับผิดหนักหน่วงเท่ากับ Katy
กระแสต่อต้านทริปอวกาศ
การท่องเที่ยวสู่ชั้นบรรยากาศนอกโลกของบริษัท Blue Origin ที่จุดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ดุเดือดในโลกออนไลน์ทำให้ชื่อของ Katy Perry ถูกจับไปพัวพันกับข้อกล่าวหาเรื่องแนวคิดสิทธิสตรีจอมปลอมอีกครั้ง ภาพที่เธอโพรโมททัวร์ระหว่างล่องลอยในสภาวะไร้น้ำหนักและการแสดงความปลาบปลื้มตื้นตันใจด้วยการก้มจูบพื้นโลกหลังกลับจากทริปอวกาศ 11 นาทีกลายมาเป็นสารพัด meme ที่ดึงดูดยอดเข้าชมได้พุ่งกระฉูด ยิ่ง Katy แสดงความเห็นว่า เธอต้องการจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กสาวเพื่อทำตามความฝันสู่การเดินทางท่องอวกาศโดยไม่มีข้อจำกัด ก็ยิ่งทำให้ชาวเน็ทจำนวนมากรู้สึกต่อต้าน พวกเค้าต่างรุมโจมตีว่า เธอคือตัวอย่างชัดเจนของอภิสิทธิ์ชนที่ out of touch จากโลกแห่งความเป็นจริง การแชร์ประสบการณ์สุดแมนประทับใจถูกสับเละว่าเป็นเพียงการโอ้อวดจนผู้คนมากมายที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากต้องรู้สึกท้อถอยต่อความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่การเชิดชูพลังหญิงแต่อย่างใด
FC ของ Katy ยืนยันว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ศิลปินขวัญใจกลายเป็นสนามอารมณ์ของชาวเน็ทอย่างไม่ยุติธรรม การเดินทางสู่อวกาศของเหล่าอภิสิทธิ์ชนในอดีตไม่ได้ถูกกระหน่ำโจมตีจนเป็นดราม่าลากยาวเช่นนี้ แต่สถานะซุปตาร์ของ Katy ต่างหากที่ทำให้เธอถูกจับผิดหนักกว่าใคร บ้างก็ตอบโต้ว่า Katy เป็นเหยื่อของอคติและความเกลียดชังผู้หญิง เพราะเมื่อเธอคว้าโอกาสสำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต กลับถูกหยามหยันด้วยความหมั่นไส้ แต่ทริปท่องเที่ยวอวกาศของคนดังชายกลับไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่โต
FC ของ Katy ยืนยันว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ศิลปินขวัญใจกลายเป็นสนามอารมณ์ของชาวเน็ทอย่างไม่ยุติธรรม การเดินทางสู่อวกาศของเหล่าอภิสิทธิ์ชนในอดีตไม่ได้ถูกกระหน่ำโจมตีจนเป็นดราม่าลากยาวเช่นนี้ แต่สถานะซุปตาร์ของ Katy ต่างหากที่ทำให้เธอถูกจับผิดหนักกว่าใคร บ้างก็ตอบโต้ว่า Katy เป็นเหยื่อของอคติและความเกลียดชังผู้หญิง เพราะเมื่อเธอคว้าโอกาสสำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต กลับถูกหยามหยันด้วยความหมั่นไส้ แต่ทริปท่องเที่ยวอวกาศของคนดังชายกลับไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่โต
ไวรัล Lifetimes tour
Katy เคยสร้างความฮือฮาด้วยการกระพริบตาแบบตุ๊กตาระหว่างการแสดงที่ Vegas และแดนเซอร์ฉลามด้านซ้ายของเธอก็ถูกยกให้เป็นโมเมนท์ชวนฮาตราตรึงใจของการแสดงพักครึ่ง Super Bowl แต่กระแสตอบรับคอนเสปท์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันบนเวที Lifetimes tour นั้นดูแตกต่างจากไวรัลที่ผ่านมา กลุ่มคนที่ไม่ปลื้มเธอเข้ามารุมด้อยค่าว่า ทักษะการร้องเพลงที่ยังบกพร่องไม่ลื่นไหลและท่าเต้นที่ดูน่าขายหน้าอย่างแรงนั้นช่างไม่คุ้มค่ากับราคาตั๋วคอนเสิร์ตแสนแพง ทั้งยังจิกกัดไปถึง production ว่าดู cheap ไม่สมศักดิ์ศรีซุปตาร์ตัวแม่ ไอเดียการใช้ sling ก็ดูซ้ำกับคอนเสิร์ตของ Pink และน่าจะสร้างความอึดอัดคับข้องใจในหมู่คนดูที่คาดหวังกับ tour เป็นอย่างสูง
แต่ผู้ที่จับจ่ายซื้อตั๋วเข้าไปชม Lifetimes tour ก็ยืนหยันปกป้อง Katy เต็มที่ว่า เหล่านักวิจารณ์ที่คอยแต่จะว่าร้ายด้วยอคตินั้นไม่ใช่คนที่เข้าไปสัมผัสกับโชว์นี้ด้วยตัวเอง energy ของการแสดงและผู้ชมนั้นไม่ได้ขาดความสนุกสนาน ภาพลักษณ์ที่ดูหลุดโลกไม่ห่วงสวยนั้นเป็นเอกลักษณ์ของ Katy มาเนิ่นนาน เธออาจไม่ใช่นักเต้นที่ความสามารถสุดเป๊ะทุกท่วงท่า หรืออาจไม่ได้เป็นนักร้องที่มีพลังเสียงอลังการไม่เคยตก แต่จัดเต็มเรื่องการ entertain ผู้ชม ส่วนคำปรามาสว่าเธอเป็น pop star ที่แป้กจนขายตั๋วคอนเสิร์ตไม่ออก แต่โชว์ที่ Chicago ก็มีคนจับจองตั๋วเข้าไปชมจนเต็ม รวมถึงโชว์ในต่างประเทศที่ต้องเพิ่มรอบ
แต่ผู้ที่จับจ่ายซื้อตั๋วเข้าไปชม Lifetimes tour ก็ยืนหยันปกป้อง Katy เต็มที่ว่า เหล่านักวิจารณ์ที่คอยแต่จะว่าร้ายด้วยอคตินั้นไม่ใช่คนที่เข้าไปสัมผัสกับโชว์นี้ด้วยตัวเอง energy ของการแสดงและผู้ชมนั้นไม่ได้ขาดความสนุกสนาน ภาพลักษณ์ที่ดูหลุดโลกไม่ห่วงสวยนั้นเป็นเอกลักษณ์ของ Katy มาเนิ่นนาน เธออาจไม่ใช่นักเต้นที่ความสามารถสุดเป๊ะทุกท่วงท่า หรืออาจไม่ได้เป็นนักร้องที่มีพลังเสียงอลังการไม่เคยตก แต่จัดเต็มเรื่องการ entertain ผู้ชม ส่วนคำปรามาสว่าเธอเป็น pop star ที่แป้กจนขายตั๋วคอนเสิร์ตไม่ออก แต่โชว์ที่ Chicago ก็มีคนจับจองตั๋วเข้าไปชมจนเต็ม รวมถึงโชว์ในต่างประเทศที่ต้องเพิ่มรอบ
สถานการณ์ศิลปินขายตั๋วคอนเสิร์ตได้ยากกว่าเดิมนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการดนตรีมาได้สักพัก เนื่องจากความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้คนต้องประหยัดกันมากขึ้น แม้ปรารถนาจะเข้ามาชื่นชมการแสดงของศิลปินขวัญใจ แต่ก็ต้องตัดใจ เนื่องจากที่นั่งดีๆนั้นมีราคาสูง หรืออาจจะมีคนที่รอคอยการหั่นราคาลงของที่นั่งว่างในนาทีสุดท้าย บางคนชี้ว่า ถึงศิลปินชื่อดังจะเคยสร้างความสำเร็จอย่างล้นหลามในอดีต แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเปิดคอนเสิร์ตใน arena ใหญ่อลังการแล้วแฟนๆจะต้องเปิดศึกชิงตั๋วกันทุกรอบได้อย่าง Taylor Swift แม้แต่ Beyonce ที่กำลังสร้างความฮือฮาจาก Cowboy Carter tour จากการเปิดตัวแบบ sold out ใน LA แต่ใน venue อื่นก็ยังมีที่นั่งเหลืออยู่บ้าง
โลกหมุนไปจนทิ้งซุปตาร์หน้าเดิมไว้ข้างหลัง หรือโลกออนไลน์โหดร้ายกับ Katy มากเกินไป??
หากผู้คนสามารถยอมรับ Katy จับขวดสเปรย์วิปครีมแปะบนบราแล้วยิงครีมขาวข้นกระฉูดไปทั่วใน California Gurls ในปี 2010 ได้ แล้วเหตุใดในปี 2024 ภาพที่ปรากฏใน Woman's world จึงถูกเย้ยหยันไปสารพัด? ราวกับว่า จู่ๆ เอกลักษณ์ที่สร้างชื่อเสียงให้เธอมานานถูกจัดให้เป็นความล้าสมัยไม่เข้ากับจริตคนรุ่นใหม่ ทั้งสื่อและชาวเน็ทลงความเห็นว่า เธอจะหาทางออกจากยุค 2010s ไม่ได้จนต้องพบกับคำว่า flop แตกต่างศิลปินที่มาจากช่วงเดียวกันที่ต้องวางกลยุทธ์ rebranding เพื่อครองใจแฟนๆได้ยาวนาน ไม่ถูกเหวี่ยงจากกระแสความนิยม
FC ของ Katy เชื่อมั่นว่า แม้ในขณะนี้จะมีผู้ออกมาปั่น cancel culture ให้เกิดความเกลียดชังศิลปินสาวและตราหน้าว่าเธอ flop จนใกล้สู่จุดจบของอาชีพศิลปิน แต่นั่นคือด่านอุปสรรคที่คนดังจะต้องฝ่าฟันไปให้ได้อยู่แล้ว และไม่ได้หมายความว่า เส้นทางความสำเร็จของเธอจะหยุดชะงักที่อัลบั้ม 143 ที่กระแสตอบรับลดน้อยถอยลงจากผลงานเก่า แต่เธอยังมีโอกาสเต็มที่ในการพิสูจน์สามารถและหวนกลับมาทวงบัลลังก์ตัวแม่ของวงการ Pop อีกครั้ง
Discussion (4)