Wedding Scents

43 14

Wedding Scents


Topic นี้ตั้งใจให้ไว้เป็นตัวช่วยตัดสินใจสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลัง
มองหาน้ำหอมสักกลิ่นที่พิเศษค่ะ

น้ำหอมที่เราว่าเหมาะจะใช้ในวันที่สวมชุดเจ้าสาวหรือ

วันที่จะต้องออกงานสำคัญๆ กลิ่นแรก คือ…

Dior J’adore EDT

—ดิออร์ ชาดอร์ (บางคนอ่านจาดอร์) เป็นน้ำหอมที่ผู้ยิ๊งผู้หญิงงงง หอม หวาน มีความดอกไม้ขาวชัดเจน แต่ไม่หวานแหลมมาก มีความละมุน ด้วย ingredients ที่ซับซ้อน

—เราชอบ EDT มากกว่า EDP
EDP ตัวน้ำหอมจะเป็นสีเหลืองทอง กลิ่นจะแน่นกว่า หอมหวลกว่า มะลิกับซ่อนกลิ่นมาแน่นๆ ให้ความ vibrant&sensual ตามที่แบรนด์บอกเลย แต่ไม่ใช่แนวยั่วยวนใจนะคะ ความรู้สึกแบบผู้หญิงสวย มั่นใจ ใส่เดรสสีทองพอดีตัว เครื่องประดับไม่ต้องเยอะ เดินมาอย่างเฉิดฉาย

—ส่วน EDT ก็จะโปร่ง เบา sparkling กว่า เพราะมี citrus note เพิ่มเข้ามาเยอะเลย จึงรู้สึกสวยงามอย่างมีชีวิตชีวามากกว่า เราชอบ version นี้ที่สุดใน line Jadore

—J’adore EDT เหมาะกับงานแต่งใน hall เปิดแอร์ 10 ตัว เย็นฉ่ำๆ เนิบๆ เดินไปมาแล้วเหงื่อไม่ออก ชุดเจ้าสาวแบบ premium เรียบหรู ธีมงานสีทองอะไรประมาณนั้นค่ะ
—option เสริมก็ฉีดผมด้วย Jadore hair mist ไว้ให้เจ้าบ่าวซุก งุ้งงิ้ง กลิ่น drop ก็เติมด้วย roller-pearl กลิ่นเดียวกัน หอมฟุ้ง สวยงาม

เราคิดว่าเหมาะกับ Princess Jasmine มากๆ จัสมินเป็นองค์หญิงที่สวยและมั่นใจ เติบโตมาในราชวังโอ่โถงอลังการ บุคลิกเหมาะกับชาดอร์มาก อะลาดินต้องเคลิ้มมั่งล่ะ

Top: blood orange, neroli

Middle: Damask rose, jasmine, ylang ylang, tuberose

Base: vanilla, woodsy notes

Lucky

Maison Christian Dior

—เป็นน้ำหอมอีก line หนึ่งของแบรนด์ดิออร์ นอกเหนือจากที่ขายตาม counter ปกติ  คือเค้าแยกออกมาเป็นอีกบ้าน (maison) นึง รูปร่างหน้าตาของขวดน้ำหอมจะเหมือนกันทั้งหมด ดู minimal ในขณะที่วัตถุดิบเป็นอีกเกรดหนึ่ง จึงแพงกว่า counter line ค่ะ ชื่อเดิมของตระกูลนี้คือ La Collection Privee

—ตอนเปิดตัวใหม่ๆ Lucky ดังมาก ของขาดสต๊อกตลอด 
เพราะกลิ่น? หรือชื่อกลิ่นกันนะ?
จะว่ากลิ่น simple ก็ได้นะคะ แต่พออยู่บนตัวแล้วเลอค่าขึ้น

Lucky เป็นการ blend ความนุ่มละมุนของดอกไม้สีขาวทั้งหลายอย่างเข้ากันพอดีกับความ green ของดอก Lily of the valley ดอกไม้สีขาวสดใสน่ารักที่เป็น symbol ของความรักบริสุทธิ์และเป็นนิรันดร์ มักถูกเลือกใช้เป็น bridal bouquet หรือช่อดอกไม้เจ้าสาวที่สูงค่ามากๆ

—เพราะความ green ของ Lily of VL จึงทำให้กลิ่นมีความ elegant ความหอมของดอกไม้สีขาวอื่นๆ ก็ไม่ได้แหลมบาดจมูก ให้ลุคทะมัดทะแมงที่ติดหรูมากกว่าค่ะ

ถ้าลองเทียบกับ Chanel Chance Eau Fraiche
—Eau Fraiche จะมี citrusy, cedar note ที่เพิ่มเข้ามามากกว่า กลิ่นเลย sharp โปร่งกว่า และ sporty กว่า

—Lucky เหมาะเป็น wedding scent ที่เป็นงาน outdoor, green tone เหมาะสุดคงเป็นงานที่จัดบนเนินเขา ลมพัดอ่อนๆ อากาศไม่ร้อนเกินไป ถ้าได้ถือช่อดอกไม้ช่อกลมมินิมอลๆ ด้วย perfect!!
—มีขนาด 40, 125, 250 ml ให้เลือกเป็นเจ้าของค่ะ

กลิ่นนี้จะเหมาะกับใครอีก ถ้าไม่ใช่ Cinderella ผู้เต็มไปด้วย “hope” มองโลกในแง่ดีและอดทนมากๆ สิ่งหนึ่งที่ซินเดอเรลลาเชื่อเสมอคือ สักวันต้องเป็นวันที่ดี เอาลักกี้ไปพรมเลยค่ะซิน

Materials: white flowers, Lily-of-the Valley, ozonic notes

Diptyque Eau Rose

—กลิ่นกุหลาบที่เหมือนกุหลาบจริงมากๆ ใช้ง่าย เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อน และสดชื่น

—ถ้าให้เลือกให้ Disney Princess ขอเลือกให้ Princess Aurora เลยค่ะ เหมาะกับบุคลิกใจดี เรียบร้อย นุ่มนวล ออโรราเป็นคนอารมณ์ดี ชอบร้องเพลงและเสียงเพราะมาก 
—เหมาะกับซีนในการ์ตูนด้วย ตอนที่ปราสาทถูกปกคลุมไปด้วยเถากุหลาบ ตอนนั้นคงหอมอบอวลไปทั้งปราสาทแน่ๆ 

Materials: Rosa Damascena (Damask rose), Rose Centifolia, litchi accord

Diptyque Geranium Odorata

—กลิ่นสดชื่นจากใบเจอเรเนียม เข้ากันกับกลิ่น earthy spicy จากกระวานเขียว และความหอมหวานคล้ายวานิลลาอ่อนๆ จากเมล็ดถั่วทองก้า 
—กลิ่นเหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นสดชื่นที่ไม่ซ้ำใคร ที่ไม่ใช่แนวมะกรูดจ๋า ไม่ใช่เกรปฟรุ้ตหรือกลิ่นส้มแบบเดิม 

เหมาะกับบุคลิกกระปรี้กระเปร่าแบบ Princess Rapunzel มากๆ อยู่กับธรรมชาติมานาน curiosity กระตือรือร้นตลอดเวลา เหมือนดอกไม้กำลังบานค่ะ

Materials: geranium, cardamom, tonka bean โดดเด่นทั้ง 3 notes

โอ่ยยยยยย Flynn Rider ฉันชอบเค้า...
***เราเลือกกลิ่นนี้ในวันที่เราสวมชุดเจ้าสาวค่ะ
เป็นงานแต่งตอนเย็น outdoor, buffet 
ธีมงานแบบ minimal สีเบจ ขาว 
และเน้น prop ต้นสนสีเขียวเข้ม
กลิ่นเจอเรเนียมสดชื่นมาก uplifting เราได้ตลอดงานเลย

งานแต่งอีกงานหนึ่งเราเลือก Lucky ค่ะ 
เป็นงานช่วงเช้าถึงเที่ยง
Lucky ให้กลิ่นหอมเรียบหรู 
เข้ากับช่อดอกไม้เจ้าสาวที่เราเลือก
เป็นดอกยิปโซช่อกลมเล็กๆ
สวยมากกก และเข้ากันมากๆ ค่ะ***

Gypsy Water Byredo

—แค่ชื่อก็นึกถึง Pocahontas แล้วววว
—บายเรโด้เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างใหม่ในวงการน้ำหอม เราว่ามัน “เท่” มาก ทั้งกลิ่นและ founder น่าลอง ต้องลอง!!
—กลิ่น well blend หลายกลิ่น “ยิปซีวอเทอ” ก็เป็นหนึ่งในนั้น หวานด้วย เท่ด้วย กลิ่นไม้หรูๆ มีกลิ่นควันนิดๆ กลิ่นค่อยๆ ปล่อยออกมาทีละ note, amazing มาก

เหมาะกับ Princess Pocahontas เลยค่ะ เท่ๆ coolๆ เป็นตัวของตัวเอง เคารพและให้เกียรติธรรมชาติ empathy กับสิ่งมีชีวิต กลิ่นนี้ unisex ผู้หญิงฉีดจะให้ลุคเชิ้ตขาว กางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าหนังเท่ๆ หรือมีชิ้นหนังสักชิ้นเป็นพร็อพค่ะ

Top: bergamot, juniper berries***, lemon, pepper

Heart: incense***, orris, pine needle***

Base: amber, sandalwood**, vanilla

Chanel Paris Venise

—กลิ่นหอมหวานสดใส สดชื่นจากดอกส้มผสมวานิลลา เหมือนได้แต่งตัวสวยๆ ใส่หมวกปีกกว้างเดินชอปปิ้งอยู่ที่เวนิสค่ะ เมืองที่ใครๆ ก็หลงใหลและเป็นตำนาน 
—ช่วงหลังของกลิ่นและ skin scent มีความ oriental แนวอบอุ่นจากวานิลลาที่ยังเหลืออยู่มากทั้งจากวานิลลาเอง และจาก tonka bean

ขอยกกลิ่นนี้ให้ Princess Ariel เลย ด้วยบุคลิกร่าเริงสดใส อยากรู้อยากเห็น แต่ก็ elegant และ attractive ด้วย


Top: orange, lemon, petitgrain, pink pepper

Heart: iris, neroli, flowers

Base: vanilla, tonka bean, orris

English Pear & Freesia Jo Malone LD

—กลิ่นหอมหวาน นุ่มละมุนจากลูกแพร์ และกลิ่นหอมสดชื่นแนวแป้งจากดอกฟรีเซีย (fresh spicy powdery floral note) 

กลิ่นหอม “เรียบร้อย” สไตล์อังกฤษมากๆ ถ้าไม่ได้จับ pair กับกลิ่นไหนเลยคือ Princess Snowwhite มากๆ เลยค่ะ ทั้งบุคลิกและเนื้อเสียง^^
—จำตอนสโนว์ไวท์พูดกับร้องเพลงได้มั้ยยยย สุภาพและหวานกรุ่นสุดๆ กลิ่นนี้ก็แบบนั้นเลยค่ะ

Materials: King William pear***, freesia***, patchouli

***

เพื่อนๆ เลือกกลิ่นไหน

ใส่ในวันสำคัญกันบ้างคะ

***


scentjp

scentjp

Every bottle tells a story.
“My delicious scents” and
“my honest opinions and beliefs”
————————
Since: May 2021
————————
Lo: my shelves, Thailand
Suggestions are welcome.
————————
fb/ig: scent.jp

FULL PROFILE