เทคนิคลงคุชชั่น Jung Saem Mool Masterclass Radiant Cushion ยังไงไม่ให้ติดแมสก์

80 15
สวัสดีค่ะวันนี้พิกุลจะมาบอกเทคนิคการใช้คุชชั่น Jung Saem Mool Masterclass Radiant Cushion บอกเลยว่าตัวนี้เป็นคุชชั่นตัวโปรด ใช้หมดไปแล้วหนึ่งตลับเรียบร้อยค่ะ พิกุลเคยรีวิวไปแล้วหนึ่งครั้ง ตอนนี้ใช้หมดแล้วหนึ่งตลับ เดี๋ยวจะเปลี่ยนรีฟิลเปลี่ยนตลับใหม่ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันด้วยค่ะ
พิกุลเองใช้เบอร์ Y4 SAND ค่า ขอบอกเล่าความประทับใจในคุชชั่นตัวนี้สักเล็กน้อยก่อนนะคะ ตัวนี้ใช้แล้วผิวสวยมากค่ะ เนื้อคุชชั่นดีทาลงบนผิวแล้วเกาะผิวหน้าดี ไม่เหนียวผิว ปกปิดได้ดีถึงดีมากเลยค่ะ เวลาพิกุลใช้นี่แทบไม่ต้องแตะคอนซีลเลอร์เลย แค่ตลับเดียวก็เอาอยู่ แถมตัวพัฟยิ่งใช้ยิ่งนุ่ม คุณภาพดีมากๆ บอกตรงๆ ว่าเราชอบซื้อเครื่องสำอาง มีเครื่องสำอางเยอะและตัวนี้เป็นหนึ่งในคุชชั่นไม่กี่ตลับที่เราใช้ต่อเรื่องจนหมด ตั้งแต่ได้ลองครั้งแรกก็ชอบมากจริงๆ พิมพ์มาเยอะดูเหมือนว่าจะอวย แต่ก็คือชอบจริงๆ ค่ะ อยากบอกต่อจริงๆ
เรามาเข้าเรื่องการแชร์เทคนิคในการใช้คุชชั่นกันนะคะ เริ่มจากการดูแลผิวเลยแล้วกันเนอะ พิกุลเองจะใช้ Jung Saem Mool Essential Mool Cream ก่อน ชื่อเป็นครีม แต่ตัวนี้เนื้อสัมผัสบางเบามากค่ะ เหมือนเป็นเอสเซ้นส์ในรูปแบบของน้ำ เวลาใช้จะช่วยให้ผิวฉ่ำน้ำ เหมาะสำหรับคนผิวแห้งอย่างพิกุลมากๆเลย นอกจากจะช่วยบำรุงผิวแล้ว ตัวนี้ยังเหมาะแก่การใช้ก่อนแต่งหน้าด้วยค่ะ เนื้อสัมผัสดีไม่หนักผิว แต่งหน้าต่อได้อย่างง่ายดาย แถมระหว่างวันผิวก็ไม่แห้งกร้านด้วยค่ะ
หลังจากที่บำรุงผิวกันแล้ว พิกุลจะใช้ JUNG SAEM MOOL SKIN SETTING TONE UP SUN BASE SPF 50+ PA+++ ต่อค่า ตัวนี้เป็นเบสโทนชมพูพร้อมกันแดดในตัว บส เวลาใช้จะช่วยปรับสีผิวของเราให้เป็นสีชมพูธรรมชาติ ผิวดูสวยขึ้นแล้วก็ช่วยปกป้องรังสียูวีด้วยค่ะ  
เบสชมพูตัวนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทาครีมกันแดดที่เหนอะหนะผิว แต่ชอบครีมกันแดดที่บางเบา ซึมไว สบายผิว แล้วยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสดูเป็นธรรมชาติได้ค่ะ ใครที่กังวลเรื่องผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอก็ใช้ตัวนี้ได้เช่นเดียวกัน ตัวเบสจะไม่ได้ปรับจนสีผิวเปลี่ยนนะคะ แต่จะทำให้ดูผิวกระจ่างใสขึ้น หน้าไม่เทาแต่ผิวใสและฉ่ำน้ำค่ะ ชอบผิวหลังจากใช้มากๆเลย  
หลังจากที่เตรียมผิวเสร็จแล้ว เราก็มาใช้คุชชั่นกันค่ะ ข้อสำคัญของคุชชั่นตัวนี้คือ เวลาเพื่อนๆ ใช้หลังจากที่ แท๊บนำคุชชั่นออกมาจากตลับ ให้เพื่อนๆ คุชชั่น ที่ฝาอีกด้านของตลับคุชชั่นก่อนนะคะ เขาจะทำที่พักคุชชั่นไว้ (ฝั่งที่เขียนว่า Mix & Touch) เวลาที่เราแตะคุชชั่นก็มามากเกินไป อาจจะทำให้เป็นการลงคุชชั่นที่ดูไม่เป็นธรรมชาติได้ค่ะ ถาดตัวนี้เองเป็นเสมือนการจำลองหลังมือของเรา เป็นการวอร์มคุชชั่นไปในตัวด้วยค่ะ

พร้อมแล้วก็ลงคุชชั่นที่ผิวได้เลย อย่างที่ บอกไปว่าพิกุลเองชอบคุชชั่นตัวนี้มาก วันนี้เราจะลงเฉพาะคุชชั่นเลยนะคะ ไม่ลงคอนซีลเลอร์เลย แล้วเดี๋ยวเรามาดูผิวที่ได้หลังจากการลงคุชชั่นกันค่ะ

เทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คุชชั่นไม่ติดแมสก์ ก็คือการเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นค่ะ ถ้าใครมีสเปรย์ล็อกเมคอัพก็สามารถใช้เพิ่มได้นะคะ ส่วนตัวถ้าเป็นวันธรรมดา ไม่ได้ต้องการให้หน้าติดทนแบบตอนที่ไปออกงาน พิกุลจะใช้แค่แป้งฝุ่นในการเซ็ตค่ะ โดยแป้งฝุ่นที่ใช้จะใช้เป็นแบบโปร่งแสง ไม่มีสีค่ะ การเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นนี่ช่วยทำให้คุชชั่นติดแมสก์ได้น้อยลงมากจริงๆ ความจริงแล้วถ้าเราเลื่อนแมสก์จากผิวหน้าบ่อยๆ แล้วมีการเสียดสีไปมา ก็อาจจะทำให้คุชชั่นติดแมสก์บ้างเล็กน้อยนะคะ แต่จากการที่พิกุลทดลองมา ถ้าไม่เซ็ตด้วยแป้งฝุ่นเลย คุชชั่นจะติดแมสก์มากกว่าแบบที่เราเซ็ตผิวด้วยแป้งฝุ่นค่ะ

อันนี้จะเป็นผิวที่ได้หลังจากการแต่งหน้าเสร็จนะคะ ผิวสวยดูฉ่ำและเป็นธรรมชาติมากๆเลยค่ะ ของที่ใช้ทั้งหมดก็จะอยู่ในภาพด้านล่างนี้นะคะ
พิกุลยังนึกไม่ออกเลยนะคะว่าวันไหนที่เราจะได้เดินออกจากบ้านโดยที่ไม่ต้องใส่แมสก์ ระยะใกล้ๆ นี้ปีหรือว่าสองปีเราก็ยังน่าจะต้องใส่แมสก์กันอยู่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานการณ์โควิด หรือจะเป็นเรื่อง pm 2.5 พวกเราคงหนีการใส่แมสก์ในชีวิตประจำวันได้ยากจริงๆค่ะ

พิกุลเลยอยากชวนทุกคน ให้ลองใช้เทคนิคการเซ็ตแป้งฝุ่น เพื่อจะทำให้คุชชั่น ติดแมสก์น้อยลงค่ะ
หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ ถ้าเพื่อนๆ มีคำถามเพิ่มเติม ก็สามารถพิมพ์ไว้ได้เลยค่ะ เดี๋ยวพิกุลเข้ามาตอบนะ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ บ๊ายบาย


chanyap.

chanyap.

ชอบการรีวิวเป็นชีวิตจิตใจ มาเป็นเพื่อนกันเยอะๆ นะ

FULL PROFILE