พวกเขาเหล่านี้เป็นสายเลือดเดียวกันกับบุคคลในวงการบันเทิงต่างประเทศ #6

43 7
23.Sofia Coppola
ความสัมพันธ์:เป็นลูกสาวของคุณตาFrancis Ford Coppola
ผู้กำกับหญิงที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจากผลงานภาพยนตร์เรื่องLost in Translation ซึ่งกว่าจะมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์และผู้ชมนั้น เคยเป็นนักแสดงที่เหล่านักวิจารณ์ร้อง"ยี้"มาก่อน
คุณSofia เป็นลูกสาวคนเดียวในจำนวนลูกๆทั้ง3ของคุณตาFrancis Ford Coppola ผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นครูที่สร้างภาพยนตร์ขึ้นหิ้งมาแล้วหลายเรื่อง ได้แก่
  • The Godfather ทั้ง3ภาค(1972,1974,1990)
  • Apocalypse Now(1979)
  • Bram Stoker's Dracula(1992)
ผลงานช่วงแรกๆของคุณSofia คือการเป็นนักแสดง
คุณSofiaเข้าฉากให้กับภาพยนตร์ที่คุณตาFrancis กำกับตั้งแต่ยังแบเบาะ จนกระทั่งได้ร่วมแสดงอย่างเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่องThe Godfather Part III เมื่อปี1990 โดยรับบทเป็นMary Corleone
ซึ่งจริงๆแล้ว บทMary Corleoneนั้น คุณJulia Roberts กับคุณWinona Ryder เป็นผู้ได้รับการทาบทามให้มารับบทนี้ แต่มาถอนตัวจากบทนี้ทั้งคู่ ส้มหล่นไปอยู่ที่คุณSofia
พอภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายไปได้ไม่นาน คำวิจารณ์ให้ไปในทาง"ก้ำกึ่ง" โดยเฉพาะการแสดงของคุณSofia ที่จัดว่า"แย่มาก" จนคว้ารางวัลRazzie Awards ทั้งสาขา"นักแสดงสมทบหญิงยอดแย่" กับ"นักแสดงหน้าใหม่ยอดแย่"
คุณSofia จึงเบนเข็มไปทำงานเป็นผู้กำกับตั้งแต่ปี1998 ด้วยการกำกับภาพยนตร์สั้นเรื่องLick the Star จนปีต่อมา คุณSofiaได้มากำกับและเขียนบทภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกก็คือเรื่อง The Virgin Suicides ซึ่งนำแสดงโดยพี่Kirsten Dunst และคุณJosh Harnett
จนมาในปี2003 ชื่อเสียงของคุณSofia ก็ทำให้นักวิจารณ์ต่างยอมรับ เมื่อเจ้าตัวได้ส่งภาพยนตร์สำหรับคนเหงาๆ เรื่องLost in Translation ทำรายได้ไปถึง118ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ จากทุนสร้างเพียง4ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ซึ่งบทภาพยนตร์นั้น ตัวคุณSofia เขียนมาจากความเหงาตอนไปเที่ยวTokyo หลังจากหย่าขาดกับคุณSpike Jonze ผู้กำกับและผู้ดำเนินรายการสุดเพี้ยนอย่างJackass
ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยลุงBill Murrey และพี่Scarlett Johansson ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ไป4 สาขา ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่76 ได้แก่
  • สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
  • สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม(คุณSofia Coppola)
  • สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(ลุงBill Murrey)
  • สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
โดยคุณSofia ก็ได้คว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม ซึ่งหลังจากนั้น10ปี คุณSpike Jonze อดีตสามีก็ได้คว้ารางวัลออสการ์สาขานี้จากการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องHer(2013) จนโดนใจคณะกรรมการ
นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์อีก4เรื่องที่กำกับ,โปรดิวส์ และเขียนบทโดยคุณSofia Coppola ดังนี้
  • Marie Antoinette(2006) ผลงานภาพยนตร์เรื่องที่2 ที่เป็นการร่วมงานกันระหว่างคุณSofia กับพี่Kirsten Dunst ซึ่งเป็นการหยิบเรื่องราวสุดอื้อฉาวของพระนางMarie Antoinette ที่หลังจากกลายเป็นราชินีแห่งฝรั่งเศส ก็ยังใช้ชีวิตแบบหรูหราฟุ่มเฟือย จนนำไปสู่เหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสในภายหลัง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาการออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม(ก็ชุดหรูหราขนาดนี้ ถ้าชวดรางวัลออสการ์สาขานี้ก็บ้าแล้ว)
  • Somewhere(2010) ภาพยนตร์ที่ทำให้คุณSofia ได้รับรางวัล"สิงโตทองคำ" จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส ครั้งที่67 เรื่องราวของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างพ่อกับลูกสาว นำแสดงโดยคุณStephen Droff และน้องElle Fanning
  • The Bling Ring(2013) ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของแก๊ง"Bling Ring" แก๊งวัยรุ่นที่ชอบลักขโมยของในบ้านของเหล่าเซเลบริตี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ2000s
  • The Beguiled(2017) ภาพยนตร์ดราม่าที่ดัดแปลงจากนิยายในชื่อเดียวกัน การันตีด้วยรางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เรื่องราวของทหารหนุ่มที่บาดเจ็บ ได้พลัดหลงมายังโรงเรียนสตรีที่มีสมาชิกทั้งหมด7คน พวกเธอให้การช่วยเหลือทหารคนนี้เป็นอย่างดี จนนำไปสู่การแข่งขันของพวกเธอเพื่อให้ทหารคนนี้สนใจ นำแสดงโดย คุณColin Farrell,คุณNicole Kidman,พี่Kirsten Dunst และน้องElle Fanning
ผลงานการกำกับล่าสุดของคุณSofia คือภาพยนตร์เรื่องOn the Rocks ซึ่งเป็นการร่วมงานกันครั้งที่3 ระหว่างคุณSofia กับลุงBill Murrey โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถดูได้ทางApple TV+ ตั้งแต่วันที่23 ตุลาคมเป็นต้นไปนะคะ
24.พี่น้องตระกูลGleeson
ความสัมพันธ์:เป็นลูกชายของลุงBrendan Gleeson
พี่น้องผมแดงชาวไอริชที่ไปได้ดีกับงานด้านการแสดง พวกเขาเป็นลูกชายของลุงBrendan Gleeson นักแสดงที่เข้าวงการหลังจากมีครอบครัวแล้ว ซึ่งชาวมักเกิ้ลหลายคนจะต้องรู้จักลุงBrendanจากบทบาทMad-Eye Moody จากภาพยนตร์ชุดHarry Potter
24.1 Domhnall Gleeson
ลูกชายคนโตของลุงBrendan Gleeson ที่แจ้งเกิดจากละครเวที จนได้เข้าชิงรางวัลTony Award สาขานักแสดงนำชายดีเด่น
พี่Domhnall ได้เป็นที่รู้จักจากบทBill Weasley พี่ชายคนโตของRon Weasley(รับบทโดยพี่Rupert Grint) ซึ่งตัวละครนี้ปรากฎตัวครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่องHarry Potter and the Deathly Hollow - Part 1 เมื่อปี2010
สำหรับแฟนๆStar Wars ก็รู้จักพี่Domhnall จากบทบาทของนายพลArmitage Hux สมาชิกฝ่ายจักรวรรดิผู้อารมณ์ร้อน ซึ่งมีบทบาทใน...
  • Star Wars: The Force Awakens(2015)
  • Star Wars: The Last Jedi(2017)
  • Star Wars: The Rise of Skywalker(2019)
นอกจากนี้ พี่Domhnall ยังร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์เรื่องดัง ได้แก่
  • รับบทเป็นKonstantin Levin จากภาพยนตร์เรื่องAnna Karenina(2012) ภาพยนตร์ดราม่าดัดแปลงจากนิยายสัญชาติรัสเซีย เรื่องราวของAnna Karenina หญิงสาวสูงศักดิ์ที่แต่งงานแล้ว แต่ได้สานสัมพันธ์แบบลึกซึ้งกับCount Vronsky จนเกิดโศกนาฏกรรมตามมา นำแสดงโดย พี่Kiera Knightley,คุณJude Law และพี่Aaron Taylor-Johnson กำกับโดยคุณJoe Wright
  • รับบทเป็นCaleb Smith จากภาพยนตร์เรื่องEx Machina(2015) ภาพยนตร์ไซไฟ-จิตวิทยา เรื่องราวของโปรแกรมเมอร์ที่ถูกชักชวนโดยCEOบริษัท เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับการร่วมทดลองการปฏิสัมพันธ์กับหุ่นยนต์AI เครื่องแรกของโลก แต่เรื่องราวหลังจากนี้มีสิ่งที่คาดไม่ถึง ซึ่งนอกจากพี่Domhnall แสดงนำแล้ว ยังร่วมด้วย พี่Alicia Vikander และคุณOscar Isaac
  • รับบทเป็นA. A. Milne จากภาพยนตร์เรื่องGoodbye Christopher Robin(2017) ภาพยนตร์ชีวประวัติของผู้แต่งวรรณกรรมWinnie the Pooh ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะเล่าถึงสาเหตุที่ท่านMilne แต่งวรรณกรรมเรื่องนี้ขึ้นมา รวมไปถึงความสัมพันธ์ของครอบครัว โดยพี่Margot Robbie และคุณKelly Macdonald ก็ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
  • รับบทเป็นThomas McGregor จากภาพยนตร์เรื่องPeter Rabbit(2018) ภาพยนตร์คอเมดี้ดัดแปลงจากวรรณกรรมสำหรับเด็กสุดคลาสสิค เรื่องราวของเจ้ากระต่ายPeter และครอบครัว ที่คอยเป็นไม้เบื่อไม้เบากับเจ้าของบ้านซึ่งเป็นชาวสวน และแน่นอน กระแสดีจนต้องมีภาค2 ที่มีชื่อว่า"Peter Rabbit 2:The Runaway" เข้าฉายในเดือนมกราคม 2021นี้
24.2 Brian Gleeson
ลูกชายคนที่2 ของลุงBrendan Gleeson ที่บทบาทที่ได้รับส่วนมาก เป็นตัวละครสมทบ
พี่Brian มีผลงานทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ทางทีวี โดยเฉพาะซีรีส์Peaky Blinders ซึ่งเป็นซีรีส์อาชญากรรมที่ออกอากาศตั้งแต่ปี2013 โดยพี่Brian รับบทเป็นJimmy McCavern ซึ่งมีบทบาทในซีซั่นที่5
25. พี่น้องตระกูลAllen
ความสัมพันธ์:เป็นลูกสาวและลูกชายของลุงKeith Allen 
พี่Lily Allen นักร้องสาวภาพลักษณ์สุดแสบ กับพี่Alfie Allen นักแสดงหนุ่มที่เป็นที่รู้จักจากซีรีส์Game of Throne ทั้งคู่เป็นลูกสาวและลูกชายของลุงKeith Allen นักแสดงมากฝีมือชาวอังกฤษ
25.1 Lily Allen
นักร้องสาวสุดแสบที่มีวีรกรรมที่หลายเคสบอกได้เลยว่า...สุดๆ ซึ่งเมื่อวันที่7 กันยายนที่ผ่านมา พี่Lilyได้สละโสดรอบสองกับคุณDavid Habour นักแสดงหุ่นหมีชาวอเมริกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พี่Lily เคยเป็นดาวเด่นของเว็บโซเชียลMyspace จากการร้องเพลงเกี่ยวกับประเทศอังกฤษ จนได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงRegal เมื่อปี2005 และได้ออกอัลบั้มชุดแรกเมื่อปี2006
  1. Alright,Still วางจำหน่ายเมื่อวันที่13 กรกฎาคม 2006 อัลบั้มเพลงชุดแรกของพี่Lily กับแนวเพลงPop-Raggae ที่ผสานกับเนื้อเพลงชวนจิกกัดเบาๆ เพลงในอัลบั้มนี้ ได้แก่ Smile,Alfie,LDN เป็นต้น
  2. It's Not Me,It's You วางจำหน่ายเมื่อวันที่4 กุมภาพันธ์ 2009 อัมบั้มนี้ฉีกแนวจากอัลบั้มชุดแรกไปพอสมควร ด้วยแนวเพลงElectropop ที่กำลังมาแรงในช่วงนั้น ซึ่งบางเพลงมีคำหยาบคายต้องใช้วิจารญาณในการฟัง เพลงในอัลบั้มนี้ ได้แก่ The Fear,Not Fair,22 เป็นต้น
  3. Sheezus วางจำหน่ายเมื่อวันที่2 พฤษภาคม 2014 พี่Lily กลับมาจับไมค์อีกครั้งหลังห่างหายจากวงการเพลงไปนานกว่า5ปี จากมรสุมชีวิตส่วนตัว แนวเพลงจะเป็นElectropopแบบเต็มตัว บางเพลงมีการจิกกัดตามสไตล์พี่Lily Allen เพลงในอัลบั้มนี้ ได้แก่ Hard out Here,Air Balloon,Our Time เป็นต้น
  4. No Shame วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2018 เป็นอัลบั้มเพลงชุดที่มีการเปลี่ยนแปลงทางแนวเพลงมากที่สุด โดยเพลงในอัลบั้มนี้ทุกเพลงจะมีซาวด์แบบEDM เพลงในอัลบั้มนี้ ได้แก่ Trigger Bang เป็นต้น
สำหรับวีรกรรมสุดแสบของพี่Lily Allen เท่าที่ทราบมา มีดังนี้
  • แต่งเพลงแฉวีรกรรมของพี่Alfie ผู้เป็นน้อง
  • ตบหน้าปาปาราซซี่
  • ส่งE-Mail หาแม่ว่า"มีแพลนอยากจะฆาตกรรมเซเรบริตี้"
  • เบี้ยวคอนเสิร์ตหลังจากอัลบั้ม"No Shame" ไม่ติดTop 5 UK Charts
ซึ่งเมื่อปี2017 พี่Lily ยอมรับว่าตัวเธอเองเป็น"ไบโพล่าร์" ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนเพลงเป็นอย่างมาก
Top5 เพลงของพี่Lily Allen ที่รับประกันความ"แซ่บ"⬇️
25.2 Alfie Allen
ลูกชายของลุงKeith Allen ที่เข้าวงการกับการเป็นนักแสดงตั้งแต่ปี1998 จนได้มาแจ้งเกิดจริงๆก็ช่วงปี2011 กับซีรีส์เรื่องGame of Throne
โดยพี่Alfie รับบทเป็นTheon Grayjoy ซึ่งมีบทบาททุกซีซั่น โดยบทTheonนั้น เป็นบุตรชายของBalon Grayjoy ได้ถูกEddard Stark รับเลี้ยงในฐานะเชลยศึก สนิกกับRobb บุตรชายคนโตของตระกูลStark
ชะตากรรมของTheonเริ่มมาจากการร่วมรบเคียงข้างกับRobb แต่ได้ถูกBalonและYara ผู้เป็นพี่สาวยั่วยุ จนทำให้ยึดWinterfellจากBranได้สำเร็จ
แต่Theon ต้องถูกลูกน้องทรยศแล้วถูกจับให้Ramsey Bolton เชือดอวัยวะเพศและทำลายจิตใจอย่างสาหัส เหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร ต้องติดตาม
ในส่วนของภาพยนตร์นั้น พี่Alfie ได้ร่วมงานให้กับภาพยนตร์ดังทั้ง2เรื่อง ได้แก่
  • รับบทเป็นIosaf Tarasov มือสังหารชาวรัสเซียในภาพยนตร์เรื่องJohn Wick(2014) ภาพยนตร์แอคชั่น-ระทึกขวัญที่ทำให้คุณKeanu Reeves กลับมาดังอีกครั้ง
  • รับบทเป็นFinkel ในภาพยนตร์เรื่องJojo Rabbit(2019) ภาพยนตร์ตลกที่คุณTaika Waititi มีตำแหน่งทั้งกำกับ,เขียนบท และแสดงนำ แถมได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่92 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia


Panchud Thammachat

Panchud Thammachat

ป่านค่ะ ผู้ประสบปัญหาหน้ามันเป็นสิวซ้ำซากค่ะ ใครมีเคล็คลับอะไรดีๆ ช่วยแชร์ให้เราด้วยนะคะ
และยังมีบทความของดาราจากทั่วโลก แต่ไม่เน้นพวกบทความGossip ไม่มีการเหยียดสีผิว ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติใดๆทั้งสิ้น

FULL PROFILE