วิตามินอี Smooth E vs Provamed

36 11

PRODUCT CLAIM


SMOOTH E :

ครีมบำรุงผิวสูตรเข้มข้นสำหรับผิวหน้า – ผิวกาย มีส่วนผสมของ Vitamin E ธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูและยืดอายุผิวกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็น รอยสิว จุดด่างดำให้ลดเลือนลง ผิวจึงดูเรียบเนียน เปล่งเปล่ง แลดูสุขภาพดี

ส่วนประกอบสำคัญ

• Vitamin E ให้ความชุ่มชื่น ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็น

• Jojoba Oil บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม คงความชุ่มชื้นภายในผิวยาวนาน

• Aloe Vera ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายและมีริ้วรอย ลดเลือนจุดด่างดำ

• Centella Essence เสริมประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว กระตุ้นการสร้าง Collagen ตามธรรมชาติ


PROVAMED :

ครีมเซรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น เหมาะสำหรับสภาพผิวที่มีรอยแผลเป็นจากสิวหรือริ้วรอย ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลบเลือนริ้วรอย ยับยั้งการแก่ก่อนวัยของผิว ให้ผิวเนียนเรียบ เต่งตึง เปล่งปลั่งอ่อนกว่าวัย

ส่วนประกอบสำคัญ

• Vitamin E สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยลบเลือนริ้วรอย

• BHA (Beta Hydroxy Acid) ผลัดเซลล์ผิวเก่าได้มีประสิทธิภาพล้ำลึกกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวอุดตันแบบหัวดำหรือผิวสีหมองคล้ำลึก

• NAB Complex แหล่งของสาร BHA จากธรรมชาติ ช่วยผลัดเซลล์ผิวกระตุ้นให้เซลล์ใหม่เจริญขึ้นมาแทนที่ ทั้งช่วยซ่อมแซม และเสริมสร้างเนื้อเยื่อ (คอลลาเจน)


SOURCE : KONVY

บทสรุป

เราตัดสินใจใช้ทั้ง 2 ตัวเลย
เพราะอยากใช้ vitamin E ทั้งเช้าและเย็น
เลยตัดสินใจใช้ provamed ตอนเช้าแล้วลง sunscreen ต่อ
และใช้ smooth E ตอนกลางคืนทาบางๆ เพื่อลงตัวอื่น
เราว่ามันจะช่วยเรื่องแผลเป็น รอยแดง ดำจากสิว ได้เร็วขึ้นนะใช้เช้า-เย็น
ส่วนตัวใช้แล้วไม่แพ้ รู้สึกอ่อนโยนต่อผิวดี แต่ก็ต้องแล้วแต่ผิวของแต่ละคน ;)


Pissha

Pissha

พื้นฐานเป็นคนที่มีสิวและหน้ามันมาก
โพสที่จะลงก็มีแต่เรื่องสิวซะส่วนใหญ่และเรื่องเที่ยวค่าาาาา

FULL PROFILE