iD แบบไหนที่เหมาะกับผิวของเรา #JebanxClinique และ clinique

51 12
PARTNERS IN BEAUTY

ใครๆ ก็ปรารถนาที่จะมีผิวสวยสุขภาพดีจริงมั้ยคะ แล้วเพื่อนๆ รู้สึกเหมือนกันมั้ยคะว่า สภาพผิวของเราเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากเลยนะ  มหัศจรรย์ยังไง ????  ก็มหัศจรรย์ตรงที่แปรปรวน รวนเร  เอาแน่เอานอนไม่ได้แทบจะตลอดเวลาเลยล่ะ โดยเฉพาะเมื่ออายุเข้าสู่เลข 3 plus กรุบกริบแล้วเนี่ย เมื่อเผชิญกับสภาพอากาศร้อน ☀️ หนาว ☃️ ฝน ☔️ รวมถึงมลภาวะ ? ผิวของเราก็ยิ่งแปรปรวนหนักมากทำเอางงไปหมด ว่ามันเกิดอะไรขี้นกับผิวของเรากันนะ?? แม้จะหาสกินแคร์ดีๆ มาบำรุงแล้วก็ตามแต่ทำไมผิวของเราถึงยังแปรปรวนอยู่อย่างนี้ แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ? มีสกินแคร์ตัวไหนที่จะช่วยลดปัญหานี้ได้บ้างนะ ??

ถือเป็นความโชคดีของเราที่ Clinique เล็งเห็นถึงปัญหานี้ รวมถึงเล็งเห็นว่าสภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป แถมยังมีปัญหาผิวที่หลากหลาย จึงมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยการเสริมระดับความชุ่มชื่นของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้สามารถมอบความชุ่มชื่นซึ่งเป็นพื้นฐานของผิวสวยสุขภาพดีและช่วยลดปัญหาผิว รวมทั้งเสริมปราการปกป้องผิวตามธรรมชาติมากขึ้นแต่ไม่เพิ่มความมันบนใบหน้าและยังคงเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็ว จึงมอบผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

เรามาทำความรู้จักมอยส์เจอร์ไรเซอร์
 Dramatically Different™ แต่ละตัวกันเลยนะคะ ?

ผิวของเราเหมาะกับเนื้อสัมผัสของมอยส์เจอร์ไรเซอร์
Dramatically Different™ แบบไหนกันนะ??


Dramatically Different™
 Moisturizing Lotion+
 

เหมาะสำหรับผิวแห้งมาก ถึงผิวผสมค่อนข้างแห้ง
เนื้อโลชั่นบางเบา ซึมซาบได้ง่าย
ช่วยปรับสมดุลผิว เติมความชุ่มชื้น
 และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ปราการผิว


Dramatically Different™
 Oil-Control Gel

เหมาะสำหรับผิวผสมค่อนข้างมัน ถึงมันมาก
เนื้อเจล ปราศจากน้ำมัน บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ
ช่วยปรับสมดุลผิวที่มันอย่างเหมาะสมให้ความชุ่มชื้น
 ที่บางเบา เสริมสร้างความแข็งแรงให้ปราการผิว


Dramatically Different™
 Hydrating Jelly

เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
เนื้อเจลใสบางเบา ซึมซาบง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ให้ความชุ่มชื้นผิวยาวนาน 24 ชั่วโมง
ปกป้องผิวจากมลภาวะ
 พร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงให้ปราการผิว 

มาทำความรู้จักตัวเอกของเรื่องนั่นก็คือ Active Cartridge Concentrate หรือบูสเตอร์กันต่อนะคะ ?

แท่งสีสันสวยงามสะดุดตากลุ่มนี้เค้าคือสารบำรุงเข้มข้น (Active Cartridge Concentrate) หรือบูสเตอร์ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวกวนใจหรือปัญหาที่ต้องการการบำรุงเป็นพิเศษนั่นเอง มาทำความรู้จักคุณสมบัติของแต่ละตัวกันเลยนะคะ  Let’s go!!


Irritation สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย ประกอบไปด้วยสารบำรุงเข้มข้นจากสาหร่ายและใบชาขาวปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง พร้อมบรรเทารอยแดงและผิวที่ระคายเคือง

Pores & Uneven Texture สำหรับผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน  ประกอบไปด้วยสารบำรุงเข้มข้นจากกรดอัลฟ่า ไฮโดรซิล ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้รูขุมขนกระชับ ให้ผิวเรียบเนียน และนุ่มขึ้น


Uneven Skin Tone สำหรับสีผิวดูไม่สม่ำเสมอ ประกอบไปด้วยสารบำรุงเข้มข้นจากรากสมุนไพรเจแปนนิสแองเจลิก้า จากญี่ปุ่นหรือโสมตังกุย ช่วยให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ สว่างกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำให้แลดูจางลง


Fatigue สำหรับผิวเหนื่อยล้า ขาดความเปล่งประกาย ประกอบด้วยสารบำรุงเข้มข้นจากอะมิโนเทอรีน และคาเฟอีนกระตุ้นผิวที่ร่วงโรยให้กลับมามีชีวิตชีวา และเปล่งประกาย


Lines & Wrinkles สำหรับผิวที่มีริ้วรอย ประกอบด้วยสารบำรุงเข้มข้นจากเวย์โปรตีนสร้างเซลล์ผิวใหม่ เติมเต็มริ้วรอยแห่งวัย ฟื้นฟู และปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้เปล่งปลั่งขึ้น

เมื่อนำเจ้าสองตัวนี้มามิกซ์แอนด์แมทกันแล้วเราจะได้สกินแคร์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวถึง 15 สูตร ด้วยกัน นี่จึงเป็นที่มาของ iD ซึ่งมีความพิเศษเฉพาะตัวที่มีคุณสมบัติเด่นในการแก้ไขปัญหาผิวที่หลากหลายสาวๆ หนุ่มๆ จึงสามารถเฟ้นหาสกินแคร์ที่เห็นแล้วใช่ใช้แล้วชอบ มาดูแลผิวหน้าได้ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุดนั่นเองค่ะ ที่สำคัญคือสาวๆ หนุ่มๆ สามารถเลือกใช้ได้มากกว่า 1 สูตร ตามความต้องการได้เลยคร้า  เจ๋งสุดๆไปเล้ย!! 

แล้วสูตรไหนกันล่ะที่จะตอบโจทย์กับปัญหาผิวกวนใจเรามากที่สุด เรามาตรวจวิเคราะห์สภาพผิวกันหน่อยนะคะ 

ผลการวิเคราะห์สภาพผิว พบว่าปัญหาอันดับ 1 คือสีผิวไม่สม่ำเสมอ อันดับ 2 ผิวอ่อนล้า อันดับ 3 รูขุมขนกว้างและสภาพผิวไม่เรียบเนียน และอันดับสุดท้าย ร่องผิวและริ้วรอย  


สภาพผิวโดยทั่วไปคือ ผิวผสมค่อนไปทางแห้ง แต่เดี๋ยวนี้ผิวเอนเอียงไปทางแห้งและขาดน้ำซะส่วนใหญ่เลยค่ะ


* หากต้องการผลที่แม่นยำมากขึ้น ควรตรวจสภาพผิวด้วยหน้าสดไร้เมคอัพนะคะ ?

แม้ว่าปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอจะนำมาเป็นอันดับ 1 แต่หากใช่สิ่งที่เรากำลังกังวลไม่ 55555 สิ่งที่เรากังวลมากที่สุดนั่นก็คือริ้วรอยร่องลึกที่อยากจะชะลอให้มันเกิดช้าที่สุด เพราะฉะนั้น Clinique iD ที่เราเลือกในครั้งนี้ คือ Dramatically Different™ Moisturizing Lotion+  & Lines & Wrinkles นั่นเองค่ะ

Dramatically Different™
Moisturizing Lotion+  & Lines & Wrinkle

Dramatically Different™ Moisturizing Lotion+ ขนาด 115 ml สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวแห้งมาก ถึงผิวผสมค่อนข้างแห้ง ข้อมูลจากแบรนด์เค้าบอกว่าเจ้าตัวนี้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สูตรแรกของคลีนิกข์ที่ได้รับการพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิว โดยเสริมระดับความชุ่มชื่นระหว่างวัน และเสริมปราการปกป้องผิวตามธรรมชาติมากขึ้น โดยไม่เพิ่มความมัน และคงเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ผลิตภัณฑ์มีสีเหลืองที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มเนียน และซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ช่วยบำรุงให้ผิวรู้สึกนุ่ม เปล่งปลั่ง และมีสุขภาพผิวดีแลดูอ่อนเยาว์

Lines & wrinkles - rides & ridules ขนาด 10 ml สำหรับผิวที่มีริ้วรอย ประกอบด้วยสารบำรุงเข้มข้นจากเวย์โปรตีนสร้างเซลล์ผิวใหม่ กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เติมเต็มริ้วรอยแห่งวัย ซ่อมแซมฟื้นฟูผิว และปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ชุ่มชื่นเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น

คุณสมบัติของเค้าถูกใจใช่เลยสำหรับวัย 30 Plus. จริงๆค่ะ อยากจะใช้เต็มแก่แล้วงั้นเรามาเริ่มประกอบร่างสองคู่หูดูโอ้กันเล้ย

? STEP 1

เปิดฝา Dramatically Different™
Moisturizing Lotion+

? STEP 2

แกะกล่อง Active Cartridge Concentrate ออกมาจะพบกับปลอกพลาสติดหุ้มอยู่ จากนั้นนำปลอกที่หุ้ม Active Cartridge Concentrate ออก 

** ระมัดระวังมือของเราไปสัมผัสกับภายในบูสเตอร์นะคะ ไม่อย่างนั้นจะปนเปื้อนเชื้อโรคได้คร้า

? STEP 3 

นำ Active Cartridge Concentrate ใส่ลงไปใน Dramatically Different™
 Moisturizing Lotion+   


* ไม่ต้องกังวลว่าตัวโลชั่นจะล้นออกมานะคะ เพราะเค้าคำนวนปริมาณมาให้อย่างดีแล้ว 

? STEP 4 

หมุนฝาให้แน่น 

เสร็วแล้ว เย้!!!! ? ง่ายมั๊กๆ เลยใช่มั้ยล๊า

เมื่อเปิดฝาออกมาจะพบกับรูเล็กๆ 2 รู ที่จะนำ Dramatically Different™ Moisturizing Lotion+  & Lines & Wrinkles ออกมา ส่วนตัวหัวปั้มก็กดง่ายมากๆ มีความคงทนแข็งแรงดี ทางแบรนด์ให้ข้อมูลไว้ว่าเจ้าตัวนี้เป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์พิเศษที่ทำให้ปริมาณของส่วนผสมเหมาะสมและแม่นยำกับการใช้งานแต่ละครั้ง อีกทั้งยังได้สัดส่วนที่ทรงประสิทธิภาพในการมอบความชุ่มชื้นและแก้ปัญหาผิวที่กังวล โดยการปั้มเพียง 1 ครั้ง เราจะได้ Moisturizer 90% Booster 10% ค่ะ  เพราะฉะนั้นขวดนี้สามารถใช้ได้นานอย่างแน่นอน

เนื้อผลิตภัณฑ์ของสูตรนี้มีความเข้มข้นพอสมควรเลยล่ะ โดยช่วงแรกที่ทาจะรู้สึกหนึบๆหน่อย แต่ไม่นานก็ซึมซาบเข้าสู่ผิวโดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะกวนใจเลยค่ะ ... ตอบโจทย์คนผิวแห้งแบบเราสุดๆ ไปเลย

วิธีใช้ ?

โดยส่วนตัวเราใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่ใช้เป็นประจำ และลงเจ้าตัวนี้เป็นลำดับสุดท้าย โดยปั้มลงบนฝ่ามือ 1-2 ปั้ม แล้วแต้มตามจุดต่างๆ จากนั้นเกลี่ยให้ทั่วผิวหน้าและลำคอ หรืออีกวิธีหนึ่งคือ วอร์มลงบนฝ่ามือแล้วค่อยๆ ประกบลงบนใบหน้าและลำคอก็ได้นะคะ เราว่าวิธีนี้จะได้ความรู้สึกที่เบาสบายผิวมากกว่า เราใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น เลยล่ะ


ข้อแนะนำ ?

หากใช้ในตอนเช้าควรเลือกกันแดดที่มีเนื้อบางเบาเพราะจะทำให้สกินแคร์ที่ลงไปแล้วไม่เป็นขุยค่ะ


TIPS จากแบรนด์ ?

สามารถเลือกใช้ clinique iD ในตอนเช้าและเย็นคนละสูตรกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง

ความรู้สึก ก่อน - หลัง ใช้ผลิตภัณฑ์ 

สำหรับเรา เราสัมผัสได้ถึงความแตกต่างที่ชัดเจน ผิวนุ่มชุ่มชื่นและเรียบเนียนมากขึ้น แต่สิ่งที่รู้สึกว้าวคือผิวดูแน่นและกระชับมากขึ้น สิ่งนี้น่าจะเกิดจากคุณสมบัติพิเศษของบูสเตอร์ที่มีเวย์โปรตีนเป็นส่วนประกอบ

ผลลัพธ์ในระยะเวลา 2 สัปดาห์

ผิวนุ่มชุ่มชื่นมากขึ้น ผิวแน่น อิ่มฟู และกระชับมากขึ้นทุกครั้งที่ใช้ ผิวที่เคยแห้งผากมีผดผื่นคันขึ้นจากผิวที่แห้งและขาดน้ำจากการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอดีขึ้นตามลำดับจนตอนนี้ปัญหานั้นหมดไปแล้วค่ะ เค้าช่วยฟื้นฟูผิวได้จริงๆ สำหรับริ้วรอยบางๆ ลดเลือนลงนิดหน่อยส่วนริ้วรอยร่องลึกก็ดูตื้นขึ้นมาบ้าง สังเกตได้จากเวลาแต่งหน้าแล้วระหว่างวันแป้งตกร่องแก้มและร่องใต้ตาน้อยลงกว่าเดิม ... ปลื้มเลย และหากต้องการพิสูจน์ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากกว่านี้คงต้องใช้เวลานานกว่านี้หน่อยเพราะเรื่องริ้วรอยเกิดแล้วแก้อยากที่สุด โดยเฉพาะถ้ายังไม่ปรับพฤติกรรม เช่น การนอนหลับพักผ่อน การรับประทานอาหาร ฯ ด้วยแล้วล่ะก็ ริ้วรอยก็ยังคงอยู่กับเราอีกนานแสนนานเลยล่ะ สำหรับเรื่องรูขุมขนเจ้าตัวนี้ไม่ได้โดดเด่นมากนักเนื่องจากเค้ามีสูตรสีฟ้าที่ช่วยเรื่องนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว แต่จากสิ่งที่เราสังเกตเห็นคือรูขุมขนของเราดูกระชับมากขึ้นน่าจะเป็นเพราะผิวได้รับความชุ่มชื่นอย่างเต็มที่นั่นเอง ทำให้พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าความชุ่มชื่นเป็นพื้นฐานของผิวสวยสุขภาพจริงๆค่ะ 

สำหรับสาวๆ ที่รักแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจอาจจะมีความกังวลว่าเนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นขนาดนี้ แล้วจะทำให้หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน และจะทำให้หนักผิวหรือเปล่านะ ????
สำหรับเราเวลาที่ใช้แค่แป้งพับผสมรองพื้นอย่างเดียวเค้าไม่ทำให้รู้สึกหนักผิวมากกว่าเดิมเลยค่ะ แถมยังทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้น ผิวดูเรียบเนียบ กระชับและได้ Finished look แบบโกลวๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ใช้รองพื้นจะรู้สึกหนักผิวนิดหน่อยและซับมันระหว่างวันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น 

เมื่ออายุมากขึ้นการหาสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์ปัญหาผิวต่างๆ ที่จะเข้ามาถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเลยนะคะ เพราะเราจะไม่ได้มีเพียงปัญหาเดียวเท่านั้นแต่เค้าจะจูงมือกันมาเป็นพรวนเชียว Clinique iD จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาผิวที่เรากังวลได้ตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะมีผิวแบบไหนเราก็สามารถออกแบบสกินแคร์ในแบบของเราด้วยตัวของเราเอง 


ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

แล้วพบกันใหม่นะคะ

บ๊ายบายคร้า ?


Junjaowkha review

Junjaowkha review

สวัสดีค่ะ เราชื่อเล่นจันทร์เจ้านะคะหรือเรียกว่าอินก็ได้ค่ะ ในตอนนี้อายุของเราก็เข้าสู่เลข 3++ แล้ว ผิวหน้าก็แลดูจะย่ำแย่ ไม่อึดถึกทนเหมือนตอนสาวๆ ตั้งแต่ ปี 2019 นี้ จึงถือว่าเป็นปีที่เป็นการเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเลือกใช้สกินแคร์ที่พิถีพิถันมากขึ้นเพราะเราเชื่อว่าการเลือกใช้สกินแคร์ดีๆ เป็นการบอกรักตัวเองอย่างหนึ่ง

ช่องทางการติดตามหรือติดต่องาน

FB Page : Junjaowkha review
IG : junjaowkhareview
Youtube : Junjaowkha review
Line : intirala

FULL PROFILE