สวย ฟิน อิน JAPAN

20 4

เซย์ไฮค่ะทุกคนนนนนน 

เราไม่ได้เขียนกระทู้มาสักพักแล้วเพราะเราหนีฝุ่นไปเที่ยวแจแปนมาค่าาา นอกจากทริปนี้จะสนุกแล้ว ยังล้มละลายซื้อเครื่องสำอางและสกินแคร์มาอีกเพียบจะมีตัวไหนน่าซื้อตามบ้างไปดูกันเลยยยย

ตอนนี้ร้านดองกี้เค้ามาเปิดที่ไทยแล้ว ตอนเราเห็นเพจต่างลงโปรโมทร้านถึงกับคิดในใจ ไอน้ำตบที่หนักๆ เราจะแบกมาทำไมละเนี่ย!! ในเมื่อมันมีขายในไทยแล้วววว ปาดน้ำตามารีวิวกันต่อ.. 


หากเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังจะไปญี่ปุ่นแล้วผ่านมาเห็นกระทู้นี้ เราจะขอบอกไว้ว่าช้อปปิ้งวันขากลับนะคะ อย่าบ้าช้อปทุกวันเหมือนเรา พอย้ายที่พักแต่ละทีกล้ามแขนขึ้นเลยค่ะ สารพัดน้ำตบและครีมขอบอกว่ามันหนักแบบเฟร่อๆๆ วันที่เราไปเราพักที่ Takayama  ตอนนั้นอากาศหนาวมากกกกมีหิมะตกปรอยๆ เราไม่รอช้ารีบเข้าไปหลบความหนาวในร้านมัสซึโมโต้ที่สะพานแดงทันที สาขานี้มี 3 ชั้น ให้เดินเพลินๆ จนหมดตัว ใช่ค่ะหมดไปเกือบ 2 หมื่นเยนแถมต้องแบกของหนักๆท่ามกลางหิมะไปที่พักอีก ฮืออออ  

1.suisai skin tightening cool lotion

ตัวนี้เราคุ้นหน้าคุ้นตาจากเมืองไทยมากแต่ก็ยังไม่เคยใช้ พอไปเยือนถิ่นเค้าทั้งทีรีบถาม BA เลยค่ะตัวนี้ใช้ยังไง นางบอกว่าใช้ก่อนทุกตัวเลย อ่ะ เชื่อ สอยตามมาแบบไม่ลังเล ตัวนี้เราใช้แล้วรู้สึกหน้าสดชื่นดี ผิวเหมือนได้รีเฟรชขึ้นมา ข้อดีที่ชอบสุดๆ เลยคือซึมไวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เห้ยนี่เพิ่งตบไปเองนะซึมไวอะไรขนาดนั้น ตั้งแต่ใช้น้ำตบมาตัวนี้ซึมไวสุดของจริงให้ยืนหนึ่ง

2. naturie skin conditioner

น้ำตบชื่อดังที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ซึ่งตัวนี้เราจะใช้ต่อจาก suisai skin tightening cool lotion  ใช้แล้วให้ความรู้สึกว่าหน้าฟูขึ้นมานิดนึง แต่ถ้าเทียบคุ้มค่ากับปริมาณแล้วสามผ่านเลยค่ะ ตอนอยู่ดองกี้แอบเห็นว่าเค้ามีไซส์ที่ใหญ่กว่านี้ด้วย ค่อนค้างคุ้มกว่าแต่เราแบกไม่ไหวแล้วจริงๆ

3. Hadalabo สูตรสีขาว

ขวดใหญ่ไฉไลกว่าเดิม ตัวนี้เราขอยกให้เป็นนางเอกของน้ำตบทั้งหมดที่เราใช้เลย เพราะนางตบได้ทั้งเช้าและเย็น ตัวน้ำมีสีใส ซึมง่ายมากๆ ไม่มีกลิ่นกวนใจ บำรุงได้ดิ๊ดี ถ้าระหว่างวันรู้สึกหน้าแห้งมากๆให้หยิบขนาดพกพาขึ้นมาตบได้เลยค่ะ เริศมากกก แต่ส่วนตัวเราใช้แค่ เช้า และเย็น รู้สึกว่าจากหน้าที่แห้งๆ กลับมาฟูอีกครั้ง ตัวนี้ใช้ติดต่อกันมา 1 ปีแล้วคุณภาพเกินราคามากๆ รอบนี้จัดไปเลยไซส์ใหญ่กว่าเดิม


4.Hadalabo Perfect Gel

ตัวนี้ซื้อมาเพราะเราใชน้ำตบฮาดะลาโบะสีขาวอยู่แล้ว รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้นสุดๆ ไม่รอช้าหยิบตัว Perfect Gel ติดมือกลับมาด้วย ตัวเนื้อเจลของเค้าสำหรับเราจะใช้ทางบางๆ เนื้อไม่เหนาะหน้า ไม่มีกลิ่น เพิ่มความชุ่มชื่นได้ดีค่ะ

5.BB white bb cream sekkisei

BB ตัวนี้ BA เค้าแนะนำคุณแม่มา แอบจิกมาใช้แล้วติดใจมากค่ะ เพราะมันบางเบา(อีกแล้ว) ให้งานผิวที่เป็นธรรมชาติมากๆ   ใบหน้าเนียนขึ้น รูขุมขนดูจางลง แต่ความหนาของไม่ได้เพิ่มจากที่มีอยู่แล้ว แฮร่! แนะนำเลยค่ะถ้าใครชอบงานผิวเบาๆแบบเรา เนื้อเกลื่ยง่าย คุมมันได้นิดหน่อย

6. UV Perfect gel Super water proof spf50+ pa++++

มาต่อกันที่กันแดดเนื้อเจลจาก KOSE จริงๆอันนี้ต้องสารภาพก่อนว่าซื้อมาเพราะแพคเกจซากุระ มันมุ้งมิ้งมากกกก แต่คุณภาพเค้าเริศยิ่งกว่าาาาา สำหรับสาวที่ไม่ชอบให้อะไรมาเหนียวบนใบหน้าแบบเรายิ่งขอบตัวนี้เพราะเค้าจะมาในรูปแบบของเจล ตัวเนื้อเหมือนครีมปกติเลย ทาแล้วเบามากๆ แล้วเนียนไปกับผิว ปลื้มปริ่มฟุดๆ

7. Retinotime Lift Cream ex

ตัวนี้ที่อยากหยิบมารีวิวเพราะว่าคุณนายแม่ปลื้มปริ่มมากกก นางบอกคนทักนางเยอะมากว่าหน้าใสขึ้น ไม่ผิดหวังเลยที่ซื้อตามคำแนะนำของ BA แบรนด์นี้เค้ามีหนังสือเล่มเล็กๆ อธิบายผลิตภัณฑ์ภาษาไทยด้วยค่ะ สำหรับเราแล้วน่าจะเหมาะกับคนที่มีอายุขึ้นมาหน่อย ใครมองหาของฝากคุณแม่ คุณป้า ชิ้นนี้เลยค่ะ


ปล.ใครมามัสซึโมโต้สาขา Takayama ตรงสะพานแดงระวังให้ดีนะคะ อาจจะล้มละลายได้ด้วยคำแนะนำของ BA

8. instream night shield gel

ตัวนี้เราไว้ทาตอนกลางคืน เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าดีมากๆ ตื่นมาแล้วรู้สึกหน้าอิ่มน้ำ ฟื้นฟูผิวได้ค่อนข้างโอเคค่ะ

9. Whip Premium

ตัวนี้ของเค้าดังมานานแล้วแต่เราเพิ่งเคยใช้ Whip Premium ครั้งแรก ฟองโฟมนุ่มๆดีค่ะ ทำความสะอาดได้โอเค ต้องใช้เวลานวดๆหน่อยถึงจะรู้สึกสะอาด

10. Hena Color Treatment

ตัวนี้เป็นเหมือนครีมนวดที่สามารถปิดผมหงอกได้ คุณนายแม่ลองไปทั้งหมด 1 ครั้งถ้วน หงอกเท่าเดิมค่ะ ฮ่าๆ สงสัยนางอาจจะล้างเร็วไป หรือหงอกอาจจะเยอะมากจริงๆ จนครีมตัวนี้เอาไม่อยู่แล้ว !!

11. Body Milk Honey Peach

ครีมทาผิวจาก KOSE กลิ่น Honey Peach กลิ่นตอนลาโลชั่นหอมมากกกก แต่กลิ่นไม่ค่อยติดทน ส่วนตัวเนื้อค่อนข้างเหลวเกลี่ยได้ทั่วแขนไม่มีสะดุด ไม่เหนียวตัว ซึมง่าย ซื้อเป็นของฝากได้หรือซื้อมาใช้เองก็ดีค่ะ ราคาไม่แพงมาก

12.หวี

มันคือหวีที่มีความน่ารักมากกกกก ชิ้นนี้โดนตกมาจากร้านดองกี้ค่ะราคา 300 บาท ถึงจะแพงยังไงแต่ #ของมันต้องมี

13. Tsubaki premium repair mask

ครีมหมักผมพรีเมี่ยมจาก Tsubaki เรื่องกลิ่นของตัวนี้บอกเลยว่าชนะเริศหอมติดผมไปเลย 1-2  วัน ส่วนคุณภาพตัวนี้เค้าเคลมว่าเป็นสูตรเข้มข้น นวดบำรุงเส้นผมใน 0 วินาที ช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องนวดทิ้งไว้นาน ล้างออกได้ทันที ใช้แล้วผมนุ่มมาก ส่วนตัวเราแล้วคิดว่าครีมหมักตัวนี้ทำให้ผมเรานุ่มขึ้นมากๆ มีความเงางาม จากปกติเป็นคนที่ผมค่อนข้างแห้งเสียถือว่าทำได้ดีฟุดๆๆๆ อาจจะมีข้อเสียตรงตัวเนื้อครีมค่อนข้างหนักฉะนั้นต้องล้างให้สะอาด

14. fino Premium Touch shiseido

ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งครีมหมักผมที่ไม่ควรพลาด ใช้แล้วผมนุ่มขึ้น ดูมีวอลุ่มมากขึ้น เรื่องความฟูของผมทำได้ดี แต่ส่วนตัวชอบ  Tsubaki premium repair mask มากกว่าค่ะ



จบแล้วค่ะสำหรับการรีวิวของที่เราซื้อมาจากการเที่ยวทริป สวย ฟิน อิน JAPAN ใครสนใจชิ้นไหนสามารถหาซื้อได้ที่ร้านมัสซึโมโต้หรือดองกี้สาขาที่เปิดใหม่ได้เลยยย เจอกันใหม่กับการรีวิวการเที่ยวแบบฟินๆที่ ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านในฝันของใครหลายคน แล้วเจอกันในกระทู้หน้านะคะ บ๊ายบายค่ะ


kj_loveyou

kj_loveyou

รีวิวไปเรื่อย อะไรดี อะไรเด็ด อะไรถูก จัดไปจ้า

FULL PROFILE