ชวนเม้าธ์รับวาเลนไทน์ >> ขอเห่อ 5 ไอเท็มที่ได้ลองใช้ช่วงนี้

12 1
สวัสดีค่าา : ) ไม่ได้มาเขียนอะไรใน Jeban นานมากกก 
ไหน ๆ วันแห่งความรักทั้งที มาแชร์ไอเท็มที่หลงรัก (และไม่รัก555) กันหน่อยดีกว่า
วันนี้มีทั้งเมคอัพ สกินแคร์ และยาสีฟันเลยค่ะ 5555  
จากภาพรวมที่เราส่งเข้าประกวด..หลายชิ้นสาว ๆ คงคุ้นหน้ากันดี 
แต่หลายชิ้นก็เป็นน้องใหม่ที่ลองแล้วชอบจนต้องบอกต่อจริง ๆ
จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
1. MARVIS - Wonders of the world
ราคาประมาณ 8xx - 9xx บาท

เซ็ตยาสีฟันรุ่น Limited ขนาด Travel Size ของ MARVIS จับสลากได้มางานปีใหม่ที่ออฟฟิศ แต่เพิ่งมาแกะกล่องใช้ไม่นาน ซึ่งนางก็มีอะไรดี ๆ ที่ต้องมาเม้าธ์มอยอยู่นะ ขอเล่าก่อนว่า MARVIS เป็นยาสีฟันแบรนด์ดังจากอิตาลี ที่มีส่วนผสมของมิ้นท์เข้มข้น และส่วนผสมจากธรรมชาติอื่น ๆ แต่ละรสก็จะมีจุดเด่นต่างกัน นั่งอ่านข้อมูล ดูรีวิวเซเลบมาเยอะ จนเริ่มอิน ได้เวลาลองใช้สักที 5555
กลิ่น – รสชาติ :

ทุกรสก็จะมีความแตกต่างกัน แต่โดยรวม กลิ่นหอม รสชาติละมุน
ถึงจะมีส่วนผสมมิ้นท์และสมุนไพรอื่น ๆ แต่ก็ไม่แสบปากค่ะ
ทั้ง 3 รส จะให้อารมณ์ความรู้สึกต่างกันประมาณนี้ค่ะ

สีม่วง - KARAKUM
เป็นรสมิ้นท์ผสมน้ำส้ม มีส่วนผสมของเครื่องเทศเบา ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น น่าหลงใหล

สีเหลือง - RAMBAS
เป็นรสมิ้นท์ที่ผสมกับผลไม้หลายชนิด ทั้งพีช สับปะรดหวาน มะม่วงอินเดีย ส่วนตัวชอบรสชาตินี้ที่สุด มันหวาน ๆ เหมือนยาสีฟันเด็กเลย

สีทอง - ROYAL
เป็นรสมิ้นท์ที่มีส่วนผสมของเลมอนออยล์ กลิ่นดอกกุหลาบ ส้มแทงเจอรีน และจันทน์เทศ ให้ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า

หลังลองใช้ทุกรส เรื่องไอเดียและส่วนผสม ความพรีเมียมต่าง ๆ ให้ 10/10 แต่ในความเป็นยาสีฟัน หลังแปรงรู้สึกปากหอมสดชื่นนานจริง แต่ถ้าแปรงก่อนนอนตื่นมาก็ปกตินะคะ ไม่ได้เฟรชข้ามคืนเท่าอีกแบรนด์ที่เราใช้ปกติ ขอให้ 8/10 ค่ะ
2. Nature Vista - Beta Glucan Essence
ราคา 1,500 บาท

ตัวนี้เป็นน้ำตบหรือเอสเซนส์แบรนด์ไทยสูตรอ่อนโยนค่ะ แบรนด์เคลมว่าช่วยฟื้นฟู บำรุง และปกป้องผิวหน้าจากมลภาวะ เหมาะกับช่วงฝุ่นเยอะแบบนี้มาก ๆ ซึ่งเค้าไม่มีแอลกอฮอล์ สี หรือน้ำหอมค่ะ คนผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้

สารสกัดที่น่าสนใจก็มีพวก ชะเอมเทศ, ว่านห่างจระเข้ , Witch Hazel และ Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยทั้งเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใส ลดความมัน และลดการอักเสบ (ช่วงนี้เรามีผื่นแดงด้วยค่ะ)
เนื้อเอสเซนส์จะเป็นน้ำใส ๆ ตบแล้วซึมเข้าผิวดี ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ
สัมผัสก็จะชุ่มชื่น เย็นสบายผิวตามสไตล์น้ำตบค่ะ
อันนี้ภาพจากกล้องมือถือที่ถ่ายเก็บไว้ดูตอนก่อนนอน 
ก่อนหน้านี้เราจะมีทั้งผื่นแดง / รอยสิวที่จัดการไม่ได้สักทีค่ะ
หลังใช้ประมาณ 2 สัปดาห์รู้สึกได้ว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้น พวกรอยแดง รอยสิวก็ดูจางลงค่ะ

เพิ่มเติมคือผิวดูละเอียด หน้านุ่มขึ้น ช่วยลดความมันได้จริง คือรู้สึกเลยแหละว่าผิวดีขึ้น อาจเป็นเพราะช่วงนี้แต่งหน้าน้อย (เพราะใส่แมสก์ทุกวัน) เลยเหมือนได้พักหน้า ได้บำรุงเต็มที่ไรงี้ ส่วนพวกริ้วรอย ส่วนตัวยังไม่เห็นผลชัดเจนขนาดนั้นค่ะ ขอลองไปอีกสักพักก่อน แต่ก็เป็นตัวช่วยที่เวิร์คสำหรับเราเลย ในช่วงที่มีมลภาวะหนาแน่นทั่วกรุงเทพแบบนี้
3.Peace Labo – Fucoidan Moisture Lotion 
ราคา 1,890 บาท

ยังไม่จบกับเรื่องสกินแคร์ป้องกันมลภาวะ ผิวหน้าไปแล้วขอพูดถึงผิวกายบ้างนะคะ ตัวนี้เป็นโลชั่น Made in Japan 100% ซึ่งขายดีมาก ๆ ในเว็บไซต์ Rakuten ของญี่ปุ่น เป็นโลชั่น All in one ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว ใช้ได้ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้สูงอายุ ดูจากรีวิวสาว ๆ ญี่ปุ่นบางคนก็จะใช้เพิ่มความชุ่มชื้นกับผิวหน้าก่อนเมคอัพค่ะ

โลชั่นตัวนี้ จะต่างจากที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นขวดสีขาว แต่ตัวที่นำเข้ามาในไทยจะเปลี่ยนแพคเกจเป็นสีดำค่ะ แต่สูตรเดียวกัน เนื้อโลชั่นเหมือนกัน 100%
สำหรับสารสกัดเด่น ๆ ของเค้าจะเป็น "สาหร่ายสีน้ำตาล" ค่ะ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ / ป้องกันการอักเสบ / ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น และอุ้มน้ำได้ดี เหมาะกับคนผิวแห้งค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีพวกสารสกัดที่น่าสนใจอย่าง กุหลาบทะเลทราย, เมล็ดควินส์ บีจี, บีท และถั่วหมัก มีความเจแปนมาก ๆ 555
เนื้อโลชั่นเป็นน้ำใส ๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
ซึมเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะเท่าโลชั่นเนื้อหนักๆค่ะ ส่วนตัวชอบนะคะ
ก่อนหน้านี้เรามีผื่นภูมิแพ้ ที่คันมากๆ ขึ้นช่วงคาง และแขนขา หลังอาบน้ำผิวแห้งก็ยิ่งคัน แต่ลองใช้โลชั่นตัวนี้ช่วยได้ดีเลยค่ะ หลังอาบน้ำก็ตบ ๆ ให้ซึมเข้าผิว แฟนเราก็ชอบเพราะมันไม่เหนอะ ทาง่าย ปกตินางจะไม่ค่อยทาอะไรก่อนนอนแต่บอกว่าตัวนี้โอเค ซึ่งผลที่ได้ก็คือเรากับแฟนผิวชุ่มชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นสูตรที่เน้นมอยซ์เจอไรเซอร์ค่ะ ส่วนเรื่องผิวขาวไม่ได้ช่วยมากนะคะ เพราะเค้าไม่มี Whitening แต่ความนุ่ม ความใสคือเห็นได้ชัดค่ะ ช่วงที่ผิวแพ้ง่ายแบบนี้จะใช้อะไรคิดแล้วคิดอีก แต่เราก็หากันจนเจออออ 5555
ลองถ่ายผิวหลังใช้มา 2 week กับแสงธรรมชาติ 
คือรักเลยยย นุ่มนิ่ม ดูใส เป็นมิตรต่อกล้องถ่ายรูปมาก 5555555

ต้องบอกว่าเราอินกับสกินแคร์ ของใช้ต่าง ๆ จากญี่ปุ่นอยู่แล้ว
และโลชั่น Fucoidan Moisture Lotion ตัวนี้ก็ทำได้ดีค่ะ เป็นอีกชิ้นที่หลงรัก <3
4. Laneige Layering Cover Cushion & Concealing Base #23
ราคา 1,100 บาท

คุชชั่น 2 ชั้น จากลาเนจ พิเศษตรงที่มีทั้งคุชชั่นและคอนซีลเลอร์ในตลับเดียวค่ะ อันนี้เป็นอะไรที่อยากลองมาก เพราะปกติเป็นแฟนลาเนจค่ะ ตลับขาวเราใช้ 21C แต่รุ่นนี้เค้าบอกว่าควรเลือกเบอร์ 23 ก็เชื่อบีเอค่ะ 555 (รุ่นนี้ไม่มีแถมรีฟิลน้า)
แพคเกจประมาณนี้ค่ะ มีแบ่งช่อง ตลับแข็งแรงดี พัฟก็แยกส่วนมาให้
ลองให้ดูทั้งฝั่งคอนซีลเลอร์และคุชชั่นค่ะ
ใช้เดี่ยว ๆ เซ็ตคู่กับแป้งพัฟ etude ตลับม่วงก็จะได้ลุคประมาณนี้ ใส ๆ ไม่โบ๊ะ ติดทนทั้งวันค่ะ มีหลุดตรงจมูกนิดนึงแต่โดยรวมโอเค คอนซีลเลอร์ปิดใต้ตาดำได้ประมาณนึง แต่รอยสิวก็ไม่ได้เนียนกริบขนาดนั้นค่ะ ส่วนตัวเราใช้หมดตลับแล้วคงไม่ซื้อต่อเพราะชอบสีขาวมากกว่า เราว่าตัวนั้นช่วยให้หน้าดูไบรท์ และฉ่ำวาวกว่านี้ T^T
5. Fresh – Sugar Lip Treatment Perfecting Wand
ราคา 980 บาท

สำหรับตัวนี้แบรนด์เคลมว่าเป็นลิปทรีทเมนต์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและบำรุงให้ปากเรียบเนียน อ่อนนุ่ม แลดูอ่อนเยาว์ เปล่งประกาย ปกติเราใช้แต่ลิปมัน ลิปบาล์มค่ะ การบำรุงด้วยลิปทรีทเมนต์ก็ใหม่สำหรับเรามาก 5555 และราคาก็แอบแรงอยู่น๊าาาาา T^T

แต่ในความแพงก็ต้องมีเหตุผล 5555 เค้ามีตัวบำรุงหลากหลายดีค่ะ ทั้งน้ำตาล,น้ำมันสกัดลูฟาห์, คูพูอาซู ซีด แมงโก้บัทเทอร์ น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น และแบล๊คเคอเรนท์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็จะช่วยให้ริมฝีปากมีความชุ่มชื่น มีชีวิตชีวา มีเลือดฝาด ช่วยให้ปากนุ่ม
สำหรับความชุ่มชื้นก็โอเคสำหรับเรานะคะ แรก ๆ ไม่ชินอาจจะรู้สึกเหนียวปากนิด ๆ แต่พอชินแล้ว ทาทั้งวันก็ให้อารมณ์ปากสุขภาพดีค่ะ ตื่นมาปากนุ่มเลย ^^

เขียนไปเขียนมา รีวิวนี้ก็ยาวมากเลย 555 ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ใครเคยใช้อันไหนมาเม้าธ์กันบ้างน๊า ^^


mininatthanya

mininatthanya

ชอบลองสกินแคร์ใหม่ ๆ เมกอัพยังไม่เก่งแต่จะพยายามมากขึ้น ฝากตัวด้วยนะคะ ^^

FULL PROFILE