Rap Battle ศึกดวลแร็พ Eminem VS MGK

33 11
ข้อพิพาทของคนดังที่ทำให้ Youtube มียอดเข้าชมเพิ่มเป็นร้อยล้าน ไหนจะTwitter กระหน่ำ trending ไม่แพ้กัน เมื่อแร็พเพอร์รุ่นใหญ่วัยขึ้นหลักสี่อย่าง Enimen ได้ปลุกวิญญาณ Slim Shady ขึ้นมาด้วยเนื้อเพลงแร็พจิกกัดศิลปินคนอื่นจนวงการฮิปฮอปต้องร้อนทะลุจุดเดือด  

ผู้ที่เฝ้าติดตามดราม่าต่างไม่แน่ใจว่าจะมีเด็กรุ่นใหม่กล้าโต้ตอบส่ง Diss Track ออกมาโต้กลับหรือไม่ เพราะเรากำลังพูดถึง Eminem  แร็พเพอร์ผิวขาวที่ฝ่ากำแพงสีผิวขึ้นมาเป็นศิลปินระดับท็อปและได้รับการยอมรับนับถือจาก black community แร็พเพอร์บางคนเคยประกาศด้วยซ้ำว่าไม่มีกึ๋นพอจะขึ้นสังเวียน battle กับ Eminem ได้ ขืนสู้ไปก็คงแพ้อยู่ดี คงไม่มีใครอยากเป็นเหมือน Papa Doc ในหนัง 8 Mile ที่ต้องถูกฉีกให้คนมากมายได้เห็นความพ่ายแพ้


แต่แล้วก็มีศิลปินที่ลุกขึ้นมาฟาดฟันกับชายที่แฟนคลับยกให้เป็น Rap God
เขาคือแร็พเพอร์ผิวขาวรุ่นน้องที่อายุร้อยกว่าถึง 17 ปี   Machine Gun Kelly


มารู้จัก Machine Gun Kelly หรือ MGK กันก่อนค่ะ

แร็พเพอร์วัย 29 ที่เข้าวงการมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มวัยทีน เขาได้เซ็นสัญญากับ Bad Boy Records สังกัดของ Diddy แร็พเพอร์รุ่นเก๋า เขาอาจจะยังไม่มีผลงานที่ขึ้นไปถึงอันดับ 1 ของฺBillboard Chart  แต่สร้างความฮือฮาด้วย diss track ตอกกลับ Eminem ในชื่อว่า Rap Devil ในเวลา 2 สัปดาห์ก็มียอดผู้ชมหลั่งไหลเข้าไปเป็นร้อยล้านครั้งแล้ว


จุดเริ่มต้นของความบาดหมางมันอยู่ตรงนี้ค่ะ
เมื่อ 6 ปีก่อน ตอนที่ MGK กำลังสร้างชื่อเสียงนั้น เจ้าตัวไม่ปิดบังว่าเป็นแฟนของ Eminem และได้หยอดไว้ว่า น้อง Hailie  ลูกสาวสุดรักสุดหวงของตำนานแร็พเพอร์นั้น "ฮ็อทอิ๊บอ๋าย" และในตอนนั้นน้องอายุ 16 ยังเป็นผู้เยาว์อยู่ Eminem ได้เปิดเผยในภายหลังว่าผ่านไปปีครึ่งถึงจะมารู้ว่าเด็กรุ่นน้อง tweet พาดพิงถึงลูกสาว และรู้สึกไม่ชอบใจนัก  แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ด่า MGK ในเพลง Not Alike

"ที่เค้าพูดอะไรถึงลูกสาวผมน่ะ ผมก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น มันก็เป็นปีกว่าที่ผมจะก็ search ไปเจอบน youtube  คลิกไปดูก็เห็นถึงกับสัมภาษณ์ออกสื่อเรื่อง Hailie  ผมก็แบบว่า แม่มไรวะเนี่ย!  ใจเย็นหน่อยพวก  แต่ที่จริงเหตุผลที่ผมด่ามันน่ะมันลึกกว่านั้นอีก"

" MGK เคยพูดว่าตัวเองเป็นแร็พเพอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะเคยถูกแร็พเพอร์เคยชื่นชมห้ามไม่ให้เข้าสตูดิโอ Shade 45  มันพูดอย่างกับว่าผมพยายามจะทำลายอนาคตการเป็นแร็พเพอร์ของมัน ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้แคร์แม้แต่น้อยนิด มันเชื่อจริงๆ เหรอว่าผมจะเคยเปลืองสมองคิดเรื่องของมัน  ไม่รู้รึไงว่ามีแร็พเพอร์อีกมากมายเท่าไรที่เก่งกว่ามัน  มันไม่ได้อยู่ใกล้เคียงระดับที่จะต้องพูดถึงด้วยซ้ำไป"


เมื่อส่ง Kamikaze ออกมาสร้างความ surprise อะดรีนาลีนของแฟนเพลงเริ่มหลั่งไหลเพราะ Eminem ในภาค Slim Shady ได้กลับมาอย่างเต็มรูปแบบ เขาแร็พด่ากราดสะดุ้งกันทั้งวงการ และเยาะเย้ย hater อย่างเจ็บแสบ แร็พเพอร์รุ่นน้องที่ถูกพาดพิงในเพลงต่างก็เงียบกริบ เพราะ Slim Shady ในวันนี้ถูกยกระดับขึ้นไปเป็นตำนาน หาใช่หนุ่มปากปีจอจอม bully จากยุค 2000s แฟนๆ ต่างเฝ้ารอการโต้ตอบเผ็ดร้อนสะใจสายแร็พดุ โดยเฉพาะเพลง Not Alike  ที่ Eminem รัวเนื้อแร็พราวกับกำลังถ่มถุยใส่ MGK ที่บังอาจแซวลูกสาวและยังมาเหิมเกริมใส่ทั้งๆ ที่ยังเป็นไอ้เด็กหัวบลอนด์ผู้มี skill การแร็พอ่อนหัดและท้าว่าแน่จริงมาก็อย่ามาแอบ diss กันผ่านเพลงของคนอื่น 
จากนั้นไม่กี่วัน Rap Devil   diss track ที่ตั้งชื่อล้อเลียนฉายา Rap God ถูกส่งออกมาตอบโต้    MGK ประกาศว่าไม่ได้ทำเพื่อปกป้องตนเองเท่านั้นต่เป็นการยืนหยัดเพื่อคนรุ่นใหม่ สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ก็ไม่ต่างจาก Eminem ในยุคที่กำลังรุ่งโรจน์   เขาจำเป็นทำแบบนี้เพื่อป้องกันตัวเองจากคนที่เคยเป็นไอดอล


เนื้อหาเด่นๆ  ของ Rap Devil   มีดังนี้ค่ะ
- ลุคใหม่ของ Eminem ที่ไว้หนวดเคราดูประหลาด
- ทำท่าเหมือนแกร่งซะเต็มประดา แต่ต้องเสียเงินเป็นล้านๆ จ้างการ์ด
- บอก Hailie ว่า เธอคิดถูกแล้วล่ะ พ่อเธอสติสตังไปหมดแล้ว เค้าตะโกนอย่างกับบ้าในสตูดิโอ
- เยาะเย้ยว่า Eminem เลิกเหล้ายาไปแล้วกลายเป็นคนน่าเบื่อ  
- ความแก่ของ Eminem ที่ผ่านพ้นช่วงเวลารุ่งโรจน์ไปแล้ว
- ผลงานเพลงช่วงหลัง ๆย่ำแย่  ต่างจากlose yourself ที่ดีกว่าเยอะ
- Eminem จองเวรกับคำพูดตั้ง 6 ปีก่อนจนต้องด่าออกสื่อในอัลบั้มใหม่
- เป็นแร็พเพอร์ที่เก่งกาจที่สุดที่เอา แต่มุดหัวอยู่แต่ในบ้านกับดิคชันนารี
- Eminem กลั่นแกล้งแร็พเพอร์รุ่นน้องด้วยการแบนไม่ให้เข้าstudio
- และยังไปฟ้อง Diddy เพื่อจะได้บีบให้ MGK ขอโทษ
- เป็นจอม Bully แห่งวงการแต่ดันเปราะบางจนรับคำพูดล้อเล่นไม่ได้
- เป็นศิลปินร่ำรวยใช้ชีวิตดี๊ดีแต่ก็ยังทำตัวอมทุกข์บ่นอยู่ได้
- Eminem เสียความมั่นใจเมื่อมีแฟนๆ คิดว่าMGK เป็น Eminem เวอร์ชั่นที่หนุ่มกว่า
- ยกเว้นรสนิยมการแต่งตัว เพราะเสื้อผ้า Eminem เห่ยสุดๆ
- เมื่อไอดอลจะกลายมาเป็นศัตรูคู่แข่งแต่ก็จะสู้ต่อไป
- Eminem เป็นขวัญใจคนมากมาย แต่เป็นประเภทขี้ขลาด เบอร์โทรรีแอนน่าก็ยังไม่กล้าขอ
- Eminem ใจดำขนาดที่ขัดขวางไม่ให้เขาทำมาหากินหาเลี้ยงลูกสาว
- แต่เพราะ MGK แกร่งพอ Eminem ไม่มีทางทำอะไรได้
ภาพวีดีโอชายหนุ่มแบกพลั่วพ่นแร็พอย่างดุดันดึงดูดให้ผู้คนเข้าไปชมมากกว่าMVใหม่ล่าสุดที่ Eminem ปล่อยออกมาซะอีก มันช่างเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับแฟนๆ ผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า MGK ทั้งกล้าและมีกึ๋นที่ลงมือแต่งแร็พด่ากลับได้ยาวถึง 4 นาทีกว่าๆ   และผลงานที่ออกมาก็ดีเกินคาด แม้แต่แฟน Eminem จำนวนมากก็ยังเอ่ยปากชื่นชมว่าอยากจะเห็นความมันสะใจแบบนี้ในวงการ hiphop มานานแล้ว มันจึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการพัฒนาวิถีแร็พในปัจจุบันที่เน้นขายอย่างอื่นมากกว่าเนื้อร้องทำนองเจ๋งๆ    

แน่นอนว่าคนมากมายเรียกร้องให้ Eminem โต้ตอบเพลง Rap Evil ที่เริ่มไต่อันดับดับในชาร์ทอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องหงอยกันไป เพราะเขาให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า ที่จริงแล้วเขาก็อยากจะฟาดฟันให้พังกันไปข้างหนึ่ง แต่กลายเป็นว่ามันจะกลายเป็นผลดีกับคู่อริซะมากกว่า



FYI

บางคนไม่แปลกใจนักที่ MGK เคยถูกแบนจากสตูดิโอของ Eminem   นอกจากจะเคยแซว Hailie เจ้าตัวเคยแสดงตัวเป็นศัตรูกับ Yelawolf  แรพเพอร์ผิวขาวที่อยู่ใต้สังกัดShady Records ที่ Eminem เป็นทั้งเจ้าของค่ายและ mentor ให้  ทั้งคู่ฟาดฝีปากออกสื่อมาหลายครั้งและถูกมองเปรียบเทียบกันในฐานะแรพเพอร์ผิวขาวยุคใหม่     ที่MGK ประกาศว่าตัวเองเป็น Eminem ใน version ที่หนุ่มกว่านั้นก็น่าจะมาจากเรื่อง diss คนอื่นไม่ต่างจากEminemในยุค 2000s นั่นเอง


"มีคนคอยมาบอกผมว่า Machine Gun Kelly กำลังด่าผมอยู่ในเพลงนึงนะ    ผมก็ฟังเพลงนั้นแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่ากำลังด่าผมจริงมั้ย  ผมฟังเนื้อเพลงของมันที่ว่า พวกนายก็แค่แร็พ แต่พวกนายไม่ได้เป็นพระเจ้าอยู่หลายครั้ง   แล้วใครบางคนก็ส่งscreenshot บนหน้า twitter ที่มันบอกว่าได้ระบายออกไปซะที นายก็แค่แร็พ นายไม่ใช่พระเจ้า  มันก็ตรงกันพอดี   แล้วตอนนี้ผมก็ต้องมาอยู่ในสถานการณ์อึมครึมน่าอึดอัด นี่ผมต้องมาโต้ตอบไอ้เวรนี่ด้วยเหรอ ?"





FYI
เพลงที่ Eminem พูดถึงคือ No Reason ผลงานของTech N9ne ที่ MGK ร่วมfeaturing หลายเดือนก่อน เนื้อเพลงที่ว่าคือ
It's only one option, you gon' need a doctor  
(ล้อเลียนเพลง I need a doctor ของ Eminem)
I ain't talkin' 'bout the one from Compton.
( คนที่มาจาก Compton คือ Dr. Dre ผู้ปลุกปั้น Eminem จนกลายเป็นตำนานฮิปฮอป  ที่บอกว่าไม่ได้หมายถึง Dr.Dre  ก็คือพาดพิง Eminem ที่ร่วมทำเพลง I need a doctor ด้วยกันโดยไม่ออกชื่อตรงๆ นั่นเอง)
I pop cherries and popstars, you popsicles is not hard Popped in on the top charts out the cop car
To remind y'all you just rap and not God and I don't care who got bars.

(จุดประเด็นฉายา Rap God ของEminem และประกาศว่าไม่สนว่าใครจะแต่งเพลงเก่ง)

จากปากคำของ Eminem  เขาไม่ได้จองเวรจากเรื่องที่แซวลูกสาวเมื่อ6 ปีที่แล้ว  (ไม่งั้นคงด่าตั้งแต่ที่รู้แล้ว)  แต่ยัวะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ และ MGK  เป็นคนที่เป็นผู้ที่เริ่ม  diss track ออกมาก่อน


"ทุกครั้งที่ผมต้อง dissคนประเภทที่ถูกจัดอยู่นอกวงโคจรไม่เด่นไม่ดังอะไร แต่เป็นเพราะสถานะของผมในวงการฮิปฮอป มันจะกลายเป็นว่าผมทำให้พวกนั้นมีชื่อเสียงขึ้นมาจากเรื่องพรรค์นี้  ผมกำลังอยู่ในสถานการณ์ประมาณว่า  เออ อยากจะย่ำมันให้จมดินไปเลยว่ะ แต่ผมก็ไม่อยากทำให้มันดังขึ้นมาด้วยไง    รู้ความหมายกันอยู่ใช่มั้ย   ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรต่อจากนี้รึเปล่า"  
ท่าทีลังเลเรื่อง diss track ของ Eminem ทำให้แฟนๆ คิดว่าจะไม่มีการโต้กลับเกิดขึ้นอย่างที่ได้หวังไว้


อย่างไรก็ตาม  แร็พเพอร์ดังยอมรับว่าเพลงของ MGK นั้นดีใช้ได้  "มันก็ไม่เลว ถ้าเทียบกับระดับของมันอะนะ   มีเนื้อแร็พที่ฟังเข้าท่าอยู่ด้วย"  

และยืนยันว่าไม่เคยโทรหา Diddy อย่างที่ถูกกล่าวหา
 "ผมไม่เคยโทรไปหาDiddy ทำบ้าบออะไรอย่างที่มันว่า   นี่แม่มล้อเล่นกันอยู่ใช่มั้ยเนี่ย"  
เขาลงท้ายว่า " diss track นี้มันไม่เหมือนการ diss สักนิด แต่ฟังน่าสมเพชมากกว่า ตอนนี้ผมต้องมารู้สึกหงุดหงิดซะเอง    ไอ้ที่มันพล่ามว่าเป็นการแก้แค้นจากเรื่องเมื่อ 6 ปีน่ะ เวรเอ๊ย!  หุบปากไปซะ "






หลังจากที่แฟนๆ ถอดใจไปแล้วว่าจะไม่มีการโต้กลับจาก Eminem แต่จู่ ๆ เพลงนี้ก็ถูกปล่อยออกมา  

Killshot

เราลองมาพูดถึงข้อมูลเบื้องต้นของ diss track อันนี้กันก่อนค่ะ
- ในเวลา 24 ชั่วโมงมีผู้เข้าไปชมใน youtube ถึง 38.1 ล้านครั้ง  กลายเป็นเพลง hip hop ที่มีทำลายสถิติผู้ชมสูงที่สุด   เมื่อนับรวมกับทุก video จะอยู่ที่อันดับ 8  ติด top 10 แม้ว่าจะมีเพียง audio ไร้ MV  (หากลงทุนทำ MV สักนิด คิดว่าน่าจะพุ่งไปเร็วกว่านี้)

-  Genius.com ประกาศว่าsingle นี้ทำลายสถิติเวบด้วยการดึงดูดผู้ชมเข้ามา 1 ล้านครั้งในเวลาเพียง 8 ชั่วโมง

-  เหมือนกับเพลง Rap Devil ของ MGK   ตอนนี้วางขายให้ดาวน์โหลดกันหลายช่องทาง และคาดว่าอาจจะเป็นเพลงฮิทติดชาร์ทก็เป็นได้



นีคือตัวอย่างของ reaction video ของ youtuber ที่มียอดเข้าชมตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักล้าน     และคุณสามารถบอกได้ว่า ชาวhip hop หลายคนนั้นใจกว้าง   ตัดสินกันที่ผลงานไม่ใช่ความนิยม (กรณี Remy Ma VS Nicki Minaj น่าจะเป็นตัวอย่างชัดเจน)  คุณจะได้เห็นตั้งแต่แฟนพันธุ์แท้ของ Eminem ที่เยินยอกันตั้งแต่ประโยคแรกในเพลงและคนที่ไม่ได้เข้าข้างใคร  ชำแหละกันให้กันเนื้อต่อเนื้อว่างานของใครดีกว่า


โดยที่ไม่ต้องรอ diss track อันต่อไปจาก MGK   หลายคนเห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์แล้วว่า Rap God เป็นผู้ชนะ battle นี้ด้วยการแสดงฝีมือคนละระดับกับแร็พเพอร์รุ่นน้อง  แม้ว่า MGK จะทำได้ดีถึงขนาดมีคนกังวลแทน Eminem   แต่ชั้นเชิงที่ยังห่างกันนั้นอาจทำให้คุณนึกถึง B Rabbit ที่สอยแกงค์ Free World จนร่วงไปทีละคนในตอนจบหนัง 8 Mile


เราจะมา breakdown เนื้อเพลง Killshot ให้เห็นกันไปเลยค่ะว่าเพราะอะไรชาวเน็ทจึงดูสาแก่ใจกันมากมายนัก    



หากคุณไม่ได้ติดตามผลงานของ Eminem มาก่อน  อาจจะยังไม่เข้าใจใน message ทีแฝงมาใน diss track  นี้  ลองมาถอดความกันเลย


Killshot มีส่วนผสมแบบของเพลง Stan    +  Battle Freestyle  + เพลง Rap devil ของ MGK  ที่ถูกEminem เปลี่ยนท่อนแร็พเอาคืนซะเอง




เย้ยหยัน MGK ว่าเป็นแค่ fanboy สุดคลั่งไม่ต่างจาก Stan 

 
( Stan เป็นหนึ่งในตำนานเพลงที่ประสบความสำเร็จของ Eminemมีเนื้อหาว่าด้วยแฟนเดนตายที่คลั่งไคล้ในตัวเขามากเกินจนข้ามเส้น)


Rihanna just hit me on a text/
Last night I left hickeys on her neck/
Wait, you just dissed me? I'm perplexed/
Insult me in a line, compliment me on the next/
Damn, I'm really sorry you want me to have a heart attack/
Was watchin' 8 Mile on my NordicTrack/
Realized I forgot to call you back/

"Here's that autograph for your daughter, I wrote it on a Starter cap
 / Stan, Stan, son, listen, man, Dad isn't mad 
/ But how you gonna name yourself after a damn gun 
/ And have a man bun? 


รีแอนน่าเพิ่งส่งข้อความมาถึงgu เลยว่ะ
เมื่อคืน gu ฝากรอยจูบที่คอของเธอ
เดี๋ยวก่อนนะ  gu สับสนว่ะ
เดี๋ยวแกก็แร็พด่า ต่อมาก็ชื่นชม
แหม  เสียใจจังที่แกอยากจะให้ gu หัวใจวาย
gu กำลังยุ่งดู 8 mileบนลู่วิ่ง NordicTrack
ก็เลยว่าลืมโทรกลับหาแก
เอาลายเซ็นให้ลูกแกไป๊  เซ็นลงหมวก Starter ให้เลย
 Stan ลูกเอ๊ย  พ่อไม่เคืองหรอกนะ
แต่แกทำผมทรง man  bun แบบนั้น ยังกล้าตั้งชื่อตัวเองเตามปืนอยู่เรอะ ?

เอ่ยถึงรีแอนน่าตั้งแต่ต้น ๆ   สองคนนี้มีประวัติอะไรกันรึเปล่า ?   ไม่น่าจะขนาดนั้นค่ะ   ทั้งคู่ทำงานเพลงร่วมกันสร้างเพลงที่ฮิทถล่มทลายอย่าง Love The Way You Lie  และ The Monster    ที่มีชื่อของริริก็เพราะ MGK พาดพิงมาก่อนว่า Eminem ไม่มีน้ำยาแม้แต่ขอเบอร์ของเธอ  จึงถูกเกทับใส่กลับไปว่าพวกเค้าแนบแน่นกันแค่ไหน เป็นเรื่องปกติของเพลงแร็พ   (ลองนึกถึงเพลงของKanye West ที่บอกว่าอยากมีอะไรกับ Taylor Swift และพี่น้องKarJenner ดูนะ)

ส่วนที่บอกว่าดู 8 Mile มาจากลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นการประชด line ของ MGK ที่จิกว่า Eminem กลายเป็นคนน่าเบื่อ หมกตัวอออกกำลังที่บ้าน( Last time you saw 8 Mile was at home on a treadmill)


ตั้งแต่ท่อนแรก ๆ นี้  บรรดาผู้ทำ reaction video ต่างก็ออกกอาการฮากันทั้งนั้น    ข้อได้เปรียบของศิลปินระดับซุปตาร์ตอนทำ diss track นั่นคือการหยิบเอาผลงานเด็ด ๆ ของตัวเองในอดีตมาใช้เป็นวัตถุดิบต้อนให้คู่อริจนมุม     การเหยียดว่า MGK เป็น Stan นั้นไม่ห่างจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเคยบูชา Eminem มาก่อน   และที่เรียกว่าลูกชายนั่นไม่ได้เป็นการแสดงความเอ็นดูแต่อย่างใด    ความหมายทาง hip hop คือการหยันว่าเอ็งก็แค่ไก่อ่อนต่างหาก



ส่วนใครที่สงสัยว่าทรงผม man bun มันไม่ดีตรงไหน  ?    Jon Snow ก็ยังมัดผมแบบนั้น    แต่นั่นมันนิยายไงคะ  แม้ในปัจจุบันจะมีหนุ่มหล่อไว้ผมทรงนี้กันเยอะแยะ แต่ก็ยังถูกล้อเลียนอยู่ดีว่าเทรนด์ที่กลุ่ม hipster หรือ millionial ชื่นชอบ และมันไม่ได้เป็นเครื่องหมายของความโหดเหี้ยมตามชื่อ Machine Gun แต่อย่างใด  

 

ล่าสุด MGK ได้ออกมาโต้ตอบว่า  ใน Rap Devil เขาใช้ข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้มา diss กันแบบแฟร์ ๆ   แต่อีกฝ่ายกลับมาล้อman bun กันซะได้    แต่ชาวเน็ทก็แย้งว่า แหม่  ตั้งแต่ประโยคแรกMGKจิกกัดเรื่องหนวดเคราของEminemแล้ว    ถูกตอกกลับด้วยเรื่องทรงผมมันก็สมน้ำสมเนื้อนี่นา

เหยียบกันด้วยตัวเลข

/
 By 29, I had three albums that had blew/
 Go in someone's daughter's mouth stealin' food/
 Now I'ma make a mountain out of you, woo!



ที่แกแร็พเฉิ่มๆว่า Slim แก่แล้ว โอ๊ย เจ็บจังเลยจ้า Kelly
แต่ถึงจะ 45แล้ว ยอดขายก็ยังดีกว่าแก
ตอนอายุ 29  gu มีทำเพลงขายดีไปแล้ว 3 อัลบั้ม
ปกติ gu ไม่พาดพิงถึงลูกสาวคนอื่น  แต่แกมันไอ้โง่เง่า งานนี้แกโดนจัดหนักจัดเต็ม



ต้องบอกว่านี่คือสิ่งที่ MGK คงจะเตรียมพร้อมที่จะเจออยู่แล้วค่ะ  แม้จะเยาะเย้ยว่าผลงานในระยะหลัง ๆของ Eminem ไม่เปรี้ยงปังเหมือนในอดีต   แต่เพลงของ Eminem ในวัย 45 ก็ยังมียอดขายพุ่งสูงจากฐานแฟนคลับที่เชื่อมั่นและติดตามมายาวนาน   MGK  ยังถูกEminem ตอกย้ำว่า  ตอนที่เขาอยู่วัยไล่เลี่ยกับกับ MGK ในตอนนี้ก็อยู่ในระดับซุปตาร์ไปแล้ว   อันเป็นข้อเท็จจริงที่สะท้อนกลับไปว่า MGK ไม่ใช่เด็กหน้าใหม่ในวงการ  แต่ได้เซ็นสัญญาทำอัลบั้มมา 6 ปีแล้วก็ยังไม่มีผลงานฮิทเป็นที่รู้จักในระดับ mass

ท่อนนี้ Eminem ได้รับคำชมในการเล่นคำจากสำนวน  to make a mountain out of a molehill    เขาเรียก MGK ว่าเป็นเพียงขี้ดินรูตัวตุ่น (molehill)  ที่กำลังจะถูกขุดมาถมเป็นภูเขา  นั่นหมายถึงว่า  จากการกระทบกระทั่งคารมกันแบบเบา ๆ ตอนนี้ Eminem จะใส่ชุดหนักให้กันเลยทีเดียว

 


Gunner? Bitch, you ain't a bow and arrow/
Say you'll run up on me like a phone bill, sprayin' lead (brrt)/
Playin' dead, that's the only time you hold still (hold up)/
Are you eating cereal or oatmeal?/
What the fuck's in the bowl, milk? Wheaties or Cheerios?/
'Cause I'm takin' a shit in 'em, Kelly, I need reading material/
…Dictionary…

แกว่าแกเป็นมือปืน แต่แค่ลูกศรกับธนูแกยังไม่ถึงขั้น
แกบอกแกเก๋าขนาดจะมาไล่ล่ากัน
แต่แกคงทำได้แค่แกล้งตาย
นั่นแกกินซีเรียลหรือโอ๊ตมีล  อะไรอยู่ในถ้วยนั่นวะ Wheaties หรือ Cheerios?
Guจะเอาถ้วยนั่นมานั่งเป็นส้วมว่ะKelly ต้องหาอะไรมาอ่านหน่อย  ดิคชันนารีไง



ท่อนนี้เป็นการเย้ยหยันการยกตัวเป็นแรพเพอร์สายโหดของ MGK  การเล่นคำ hold steel (เหนี่ยวไกปืน)  และ hold  still (ตัวแข็งแกล้งตาย)  และท่อนที่บอกว่าจะปล่อยของเสียใส่ถ้วยซีเรียล นั่นคือการเอาคืนที่ MGK ด่าว่า Eminem เอาแต่เก็บตัวในบ้านอ่านดิคชันนารีนั่นเอง
ย้ำเตือนว่าMGK ไม่มีทางเป็นEminem คนต่อไปได้

Younger me? No, you're the wack me, it's funny but so true/
I'd rather be 80-year-old me than 20-year-old you/


Got more fans than you in your own city, lil' kiddy, go play/
Feel like I'm babysitting Lil Tay /



แกคิดว่าตัวเองเป็น gu เวอร์ชั่นหนุ่มกว่าเชียวเรอะ  ไม่เลย  แกมันเป็นเวอร์ชั่นห่วยแตกต่างหาก  
ถ้าให้เลือก ขอเป็นตัว gu ที่แก่อายุ 80 ดีกว่าจะมาเป็นแกตอนอายุ 20

guมีแฟนคลับเยอะมากกว่าคนทั้งเมืองของแกซะอีก ไปหาอะไรเล่นซะไป๊ ไอ้เด็กน้อย   นี่อย่างกับว่าgu ต้องมาเลี้ยง Lil Tay อยู่เลยว่ะ




เราเห็นด้วยกับความเห็นชาวเน็ทหลายคนที่ออกปากชม diss track ของ MGK ว่าเป็นแร็พมันๆที่ลื่นไหลและเหยียบจุดเจ็บปวดของEminemได้สะใจ    แต่เมื่อฟังรอบที่สองเพื่อจับใจความอีกครั้ง เราก็ได้พบช่องโหว่ที่เจ้าตัวเปิดโอกาสให้คู่อริสวนกลับได้แรงกว่า  นั่นคือการประกาศตัวว่าเป็น Eminem ภาคยังหนุ่ม  ทั้งๆที่ในแง่ความสำเร็จ อย่าพูดถึงแต่ Eminem   แม้กระทั่ง rapper วัยใกล้เคียงกันอย่าง Drake ก็ยังไม่ใกล้เคียง  อัลบั้มของเขาไปได้สูงสุดที่ระดับ Goldเท่านั้น แต่กลับคุยว่าตัวเองเป็นเหมือนกับ Young Eminem ที่เมื่อ16 ปีก่อนก็ขายได้ในระดับ Diamond  ไปแล้ว 2 อัลบั้ม  ที่สำคัญ มีแร็พเพอร์ไม่ถึง 10 คนที่ทำอัลบั้มขายได้มากขนาดนั้น    แน่นอนว่าว่าเพลงแร็พมักมาพร้อมกับการยกตัวข่มคนอื่น แต่หากพูดเยอะเกินไป ไม่ใช่แค่จะเจ็บคออย่างเดียว  แต่อาจจะถูกฉีกหน้าเป็นชิ้น ๆ

FYI
ranking ยอดขายอัลบั้ม
Gold        ยอดขายเกิน   500,000 copies
Platinum  ยอดขายเกิน  1,000,000 copies
Diamond  ยอดขายเกิน  10,000,000 copies




You ain't never made a list next to no Biggie, no Jay/
Next to Taylor Swift and that Iggy ho, you about to really blow/
Kelly, they'll be putting your name/
Next to Ja, next to Benzino—die, motherfucker /

Like the last motherfucker sayin' Hailie in vain/
Alien brain, you Satanist  


แกไม่มีทางอยู่ใกล้เคียงระดับ Biggie  Jay  Z   หรือ Taylor Swift  แม้กระทั่ง นังIggy ก็ยังไม่ใกล้ว่ะ    อย่างแกมันในระกับ Ja Rule และ Benzino   ไปตายซะไอ้หอก
แกก็เป็นเหมือนกับไอ้บ้าคนที่แล้วที่เคยลามปามถึง Hailie   ไอ้สมองเอเลี่ยน   ไอ้คลั่งลัทธิปีศาจ



อ้างอิงท่อนนี้  หากใครไม่ติดตามวงการhip hop ในยุค 2000s อาจจะงงๆ ค่ะ  ที่ Eminem จัดให้ MGK ไปอยู่ในกลุ่มของ Ja Rule แร็พเพอร์ที่ดังมากในช่วง2000s ผู้ก่อศึก diss track กับ Eminem เหยียดว่าเขาเป็นพ่อขี้ยาและด่า KIm ว่าเป็นนังเมียสำส่อนทำให้น่าเป็นห่วง Hailie ว่าจะโตมาเละเทะขนาดไหน   เกลียดขี้หน้ากันแบบยาวๆ ก่อนที่ความนิยมในตัว Ja Rule จะเสื่อมลงไปจนเงียบหายไป แทบจะไม่มีใครพูดถึงหรือมีผลงานโด่งดังอีก    ในขณะที่ Eminem ยังวนเวียนในฐานะศิลปินที่ได้ความนับถือแม้จะผ่านช่วงที่ peak ไปแล้วก็ตาม  ส่วนน้อง Hailie ที่พ่อแม่ถูกปรามาสไว้ว่าคงไม่มีน้ำหน้าเลี้ยงให้ได้ดี   เธอถูกฟูมฟักเลี้ยงดูน่าจะเรียกได้ว่าไข่ในหินจนโตเป็นสาว   เธอใช้ชีวิตโดยได้รับการปกป้องไม่มีสื่อไล่ตามหมือนลูกเซเลบคนอื่น และที่สำคัญ Hailieเพิ่งจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยดังในMichigan ไปไม่นานมานี้  ดูแล้วเป็นเด็กสาวที่มีอนาคตสดใสไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางตามขี้ปากคนอื่น


 Benzino คือใคร ?  ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คล้ายกับ Anna Wintour แห่งวงการ fashion   เขาเคยเป็นเจ้าของ The Source ที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อวงการ hip hop    ฺBenzino เปิดศึก diss track กับ Eminem มาหลายครั้ง    และเคยพยายามใช้อิทธิพลในฐานะสื่อโค่นแร็พเพอร์ปากดีให้ล้มแต่ก็ทำไม่สำเร็จ   เมื่อวลาผ่านไป ยุคเฟื่องฟูของเขาก็จบลง   ในปี 2012  เจ้าตัวก็ยังเคยประกาศด้วยซ้ำว่าอยากจะขอโทษ Eminem และยอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายผิดที่ใช้อารมณ์  และยังชื่นชมที่ Eminem ยังนำเสนอผลงานคุณภาพด้วยพรสวรรค์จนประสบความสำเร็จมาโดยตลอด   ในตอนนี้เมื่อพูดถึง Benzino ก็ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่ม A List อีกต่อไป    

ที่Eminem บอกว่า MGK อยู่ในกลุ่มเดียวกับ Ja Rule และ Benzino  เพื่อเป็นการเตือนให้เห็นผลของการตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขานั่นเอง

* มีการเล่นคำ Hailie in vain จากประโยค Taking God's Name In Vain อันเป็นความเชื่อและข้อปฏิบัติของคนจำนวนหนึ่งที่ไม่เอ่ยถึงพระเจ้าอย่างไม่เหมาะสม เช่นการอุทานว่า oh my god และอาจจะเลี่ยงไปใช้คำว่า gosh แทน

** คนที่เป็นแฟนคลับของ Iggy Azalea อาจจะสะอึกว่านางมาถูกลูกหลงอะไรกับbattle ถึงขนาดต้องมาจิกเรียกกันด้วยคำหยาบคาย   เข้าใจกันว่าความหมายที่แฝงอยู่คือความคลางแคลงไม่ยอมรับ Iggy ในฐานะแร็พเพอร์  เธอเคยเป็นข่าวเสียหายจา tweet เหยียดผิวและถูกดูแคลนเรื่องความพยายามให้ black community ยอมรับด้วยการแสดงออกเหมือนคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ทั้งๆที่มาจากออสเตรเลีย  แม้ว่าจะแจ้งเกิดด้วยยอดขายสวยงาม   แต่หลัง ๆ มา งานดนตรีของเธอก็ไม่สร้างกระแสฮือฮาเหมือนเดิม      การจิกกัดชาวบ้านเช่นนี้เป็นสไตล์แร็พในภาค Slim Shady   หากย้อนไปช่วง 2000s ก็จะได้พบรายชื่อคนที่ถูกเหยียดยาวเป็นหางว่าว   ทั้ง Michael Jackson Britney Spears Christina Aguilera   Moby  ให้นึกตอนนี้คงบรรยายมาไม่หมดค่ะ ศัตรูเกลื่อนวงการ!

หยันว่าMGK ไปได้ไกลที่สุดก็ศึก diss track ครั้งนี้

My biggest flops are your greatest hits/
The game's mine again and ain't nothin' changed but the locks/
So before I slay this bitch I, mwah, give Jade a kiss/
Gotta wake up Labor Day to this (the fuck?) /
Bein' rich-shamed by some prick usin' my name for clickbait/
In a state of bliss 'cause I said his goddamn name /
Now I gotta cock back, aim/
Yeah, bitch, pop Champagne to this! (pop) /
It's your moment /
This is it, as big as you're gonna get, so enjoy it /
Had to give you a career to destroy it / 



เพลงที่ดีที่สุดของแกน่ะมีค่าพอ ๆกับเพลงที่ห่วยแตกที่สุดของ gu ว่ะ
การดวลกันนี้ gu ชนะอยู่เห็น ๆ ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนไปได้
ก่อนที่จะจัดการเจ้าบ้านี้ ขอส่งจุ๊บให้ Jadeซะก่อน  
 ตื่นมาตอนหยุด Labor day ก็ต้องมาเจอเจ้านี่ซะได้
ดันถูกไอ้ลูกหมาจิกกัดเรื่องความรวย เอาชื่อ gu มาเรียกกระแส
กะอีแค่ gu พูดชื่อมัน
ตอนนี้gu ต้องจัดการถล่มมัน
เอาเลยสิ  เปิดแชมเปญฉลอง
นี่คือช่วงเวลาสำคัญของแกแล้วล่ะ
แกมันก็ดังได้มากที่สุดก็เท่านี้  รื่นเริงให้เต็มที่เหอะ
gu แค่ให้โอกาสเพื่อแกจะได้ดังมาถึงตรงนี้แล้วก็จะขยี้แกทีหลังยังไงล่ะวะ



Punch lines ของท่อนนี้เริ่มตั้งแต่การเปรียบเทียบระหว่างผลงานที่ดีที่สุดของ MGK กับผลงานที่ผิดพลาดของตัวเองว่าแย่พอกัน    เรื่องการเปิดแชมเปญจากภาพ MGK เปิดขวดฉลองหลังจากที่ได้ฟังเพลง Not Alike ที่ Eminem  ด่าตัวเองแบบออกชื่อราวกับว่าสะใจอะไรบางอย่าง  และ line ที่หลายคนต่างร้องอู้วววว คือ  Had to give you a career to destroy it   ที่เป็นการหยามว่า  MGK โด่งดังขึ้นมาเพราะ diss track แล้วมีโอกาสที่จะได้มีความสุขกับ 15 minutes of fame ก่อนที่ก็จะถูก Eminemโค่นลงไปเอง

เพิ่มเติมwordplay จากประโยค  give Jade a kiss ลูกสาวEminemมีชื่อกลางว่า Jade และ Jade a kiss ยังเป็นคำพ้องเสียงกับ Jadakiss แร็พเพอร์ในสังกัดของJay Z  อีกด้วย




FYI  .
เรายังไม่เห็นใครเปิดประเด็นนี้  แต่นี่อาจจะถือเป็นโอกาสสำคัญของ MGK อย่างที่ Eminem ได้ว่าไว้     หนุ่มปืนเลือดร้อนเคยให้สัมภาษณ์ประเด็นบาดหมางกับ Yelawolf แร็พเพอร์ในสังกัดของ Eminem ว่าได้เปิดใจเคลียร์กันไปแล้ว เพราะไม่อยากเป็นพวกคิดหยุมหยิม

"ผมไม่ใช่ไอ้พวกที่เจอคนที่ไม่ถูกกันแล้วปล่อยให้นั่งเป็นใบ้อยู่แบบนั้น  ผมก็เลยทักเชาไปว่าเป็นไงมั่งล่ะพวก แล้วพูดคุยปรับความเข้าใจ ลงเอยกันด้วยดี   คือถ้าคุณไม่ใช่Jay Z หรือ Eminem หรือคนในระดับที่ผมสามารถไป diss ใส่แล้วทำให้อาชีพแร็พเพอร์ของผมมันโด่งดังขึ้น    ผมก็จะงดฉลองขอเก็บขวดแชมเปญเอาไว้ก่อน"

และ  6 ปีต่อมา MGK ก็ได้เปิดขวดแชมเปญจริงๆ


เหยียดขั้นสุดด้วยแร็พหยาบโลน
Go to sleep six feet deep, I'll give you a B for the effort/
But if I was three-foot-eleven /
You'd look up to me, and for the record /
You would suck a dick to fuckin' be me for a second /
Lick a ballsack to get on my channel /
Give your life to be as solidified /
This mothafuckin' shit is like Rambo when he's out of bullets/
So what good is a fuckin' machine gun when it's out of ammo?

Had enough of this tatted-up mumble rapper/
How the fuck can him and I battle?/
He'll have to fuck Kim in my flannel/
I'll give him my sandals/
'Cause he knows, long as I'm Shady he's gon' have to live in my shadow/
Exhausting, letting off on my offspring/
Lick a gun barrel, bitch, get off me!/
You dance around it like a sombrero, we can all see/
You're fuckin' salty/
'Cause Young Gerald's balls-deep inside of Halse /

Your red sweater, your black leather/
You dress better, I rap better/
That a death threat or a love letter?/
Little white toothpick /
Thinks it's over a pic, I just don't like you, prick /
Thanks for dissing me /
Now I had an excuse on the mic to write "Not Alike" //
But really, I don't care who's in the right/
But you're losin' the fight you picked /




ไปนอนใต้หลุมศพเหอะ  guจะให้แกสักเกรดB สำหรับความพยายามก็แล้วกัน
ถ้า gu สูงแค่ 3 ฟุต 11  แกก็ยังต้องแหงนคอมอง guอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น แกยังจะยอมอมไอ้จู๋เพื่อให้ได้เป็น gu สักแค่วินาทีเดียวด้วยซ้ำไป
เพื่อจะได้มาโผล่บนช่องของ gu  แกคงยอมเลียไข่
ถวายชีวิตเป็นเครื่องมือสำเร็จความใคร่
ไอ้โง่นี่ก็เหมือนกับแรมโบ้ตอนหมดลูกกระสุน
แล้วปืนกลที่ไร้กระสุนมันจะมีค่าอะไร


gu เหลืออดกับไอ้แร็พเพอร์จอมงึมงำคนนี้ละ
แล้ว guมา battleกับมันได้ยังไงกันวะเนี่ย
ถ้ามันอยากจะมีอะไรกับKimก็ต้องเอาเสื้อลายของ gu มาใส่ซะก่อน
guจะให้มันยืมรองเท้าไปใส่ซะด้วย
เพราะมันรู้ตัวดีว่าตราบใดที่ Shady ยังอยู่  มันก็จะอยู่ใต้เงาของ gu เสมอ
เหนื่อยแล้วก็ปล่อยวางซะเหอะไอ้ลูกชาย
ไปให้พ้นหน้า gu
แกเต้นพล่านไปทั่วอย่างกับ sombrero
แล้วยังขี้อิจฉาที่ G Eazy กลับไปจู๋จี๋กับ Halsey

 แกใส่สเวทเทอร์สีแดง ใส่หนังสีดำ
แกแต่งตัวดีกว่าgu  แต่gu แร็พเก่งกว่าว่ะ
แล้วนั่นมันคำขู่ฆ่าหรือส่งจดหมายรักล่ะ
ไอ้ไม้จิ้มฟันน้อย ๆเอ๋ย
gu แค่เกลียดขี้หน้าแกก็เท่านั้น
ขอบใจว่ะที่มา diss กัน
guเลยมีข้ออ้างเขียนเพลง Not Alike
อันที่จริง gu ไม่ได้สนเลยว่าใครเป็นฝ่ายถูก
แต่แกกำลังพ่ายแพ้ในศึกที่ก่อขึ้นมาเอง



เนื้อแร็พช่วงนี้ไม่ต้องถอดความมากเท่าใดนัก นอกจากจะเป็นการพลิกdissของ MGK ,มาโต้กลับซะเอง  อย่างเรื่องที่ MGK บอกว่าจะให้ยึด Eminem เป็นแบบอย่างได้อย่างไร (look up) เพราะเขาสูงตั้ง 6 ฟุต 4  แต่ Eminem สูงแค่ 5 ฟุต 8    แต่Eminemก็ยิงกลับว่า ถึงจะเตี้ยแค่ไหน  ยังไงแกก็ต้องแหงนมองตาละห้อยอยู่ดี  ส่วนท่อนคำหยาบใต้สะดือทั้งหลาย  ต้องยอมรับว่าใส่มาหนักหน่วงจนเจ็บแปลบแบบ Slim Shady เมื่อสิบกว่าปีก่อนจริงๆ

เสื้อเชิ้ตลายตารางและรองเท้าถูกยกขึ้นมาโต้คู่กรณีที่ได้ diss เรื่องรสนิยมการแต่งตัวรวมไปถึงการลากเอา Kim (เมียเก่าที่หลายคนรู้ดีว่าEminemเคยฝังใจจนนำมาเขียนเพลงแร็พหลายครั้ง)   Eminemจึง diss กลับไปว่า ถ้าจะมีอะไรกับKim จริง ๆ ก็ต้องปลอมตัวเป็นเขา     เพราะยังไง MGK ก็ไม่สามารถออกจากเงาSlim Shady ไปได้ (เล่นคำ Shady - shadow)

ในท่อนที่อ้างอิงถึง  G Eazy และ Halsey นั้นเพิ่งเกิดเมื่อไม่นานมานี้เอง  จากกรณีที่คู่รักศิลปินแยกทางกันไประยะหนึ่ง แล้วมีคนปล่อยภาพว่า Halsey กำลังเดินข้าง MGK ก่อนที่จะประกาศเลิกกับแฟนแร็พเพอร์จนมีข่าวเรื่องมือที่ 3 ตามมา  แต่ฝ่ายหญิงออกมาเคลียร์ตัวเองว่าเป็นภาพเมื่อนานมาแล้ว   เพิ่งจะไม่กี่วันนี่เอง G Eazy ได้ diss MGK ว่าเป็นพวกขี้ก็อปและอิจฉาความสัมพันธ์ของเขาและ Halsey    MGK ไม่อยูเฉย ออกมา diss กลับว่า เขามีิอะไรกับ Halsey ไปเรียบร้อย  G Eazy ต่างหากที่ทำตัวเป็นโคลนของเขา  ผมเผ้าก็ไปย้อมสีทองเหมือนกัน

ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าในศึก Eminem VS MGK นั้น    G Eazy จะเข้าข้างใคร


มาถึงท่อนที่ทำให้แทบทุกคนสะดุ้ง  หลายคนตะลึงแบบไม่เชื่อว่าเพิ่งจะได้ยินสิ่งนี้ไป  บางคนอาจจะมีเคือง  บางคนแอบอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที

Who else want it? Kells — attempt fails! Budden — L's!
Fuckin' nails in these coffins as soft as Cottonelle
Killshot, I will not fail, I'm with the Doc still 



Killshot, I will not fail, I'm with the Doc still
But this idiot's boss pops pills and tells him he's got skills
But, Kells, the day you put out a hit's the day Diddy admits
That he put the hit out that got Pac killed, ah!




ใครหน้าไหนอยากจะเจอดีอีก ? Kelly  แกทำพังแล้ว  ไอ้ Buddenด้วย  ไอ้พวกขี้แพ้่
gu ตอกตะปูฝังโลงพวกมันได้ง่ายอย่างกับกระดาษทิชชู่


นี่เป็นเป้าสังหารที่ gu ไม่จะพลาด  ตอนนี้guก็ยังเป็นพวกกับ Doc (dre) อยู่
แต่บอสของไอ้โง่คนนี้เมายาแล้วบอกว่ามันเก่ง
แต่ Kelly  เอ๋ย  วันที่แกจะมีเพลงขายดีกับคนอื่นเค้าก็คงเป็นวันเดียวกันที่ Diddy ยอมรับว่าเป็นคนสั่งฆ่า 2Pac


นี่คือวินาที OMG! ของวงการ hip hop ที่มีใครสักคนกล้าพาดพิงเจ้าพ่อวงการแร็พถึงข่าวลือเรื่องลอบสังหาร2Pac  จากการตั้งทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามออกมาดังๆ ว่า ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของตำนานแร็พเพอร์  จากปากอดีตตำรวจ LA  ประกาศว่าได้ตามสืบจนได้คำสารภาพจากผู้สมรู้ร่วมคิดในการลอบยิง 2Pac ว่า Diddy เป็นผู้ว่าจ้าง แต่ไม่สามารถเอาผิดอะไรได้เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ  สมาชิกแกงค์ที่เป็นมือปืนก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว  แน่นอนว่า Diddy ยืนกรานปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ

เนื้อแร็พท่อนนี้หมายความว่า  MGK จะไม่มีวันทำเพลงขายดีจนโด่งดัง เพราะไม่ว่าDiddy จะเป็นผู้สั่งฆ่า 2Pac จริงหรือไม่  เขาก็ไม่มีวันจะยอมรับว่าเป็นฝีมือตัวเอง    แม้ว่า Eminem จะปิดท้ายเพลงว่าแค่ล้อเล่น You know i love you  แต่ก็ได้สั่นสะเทือนความรู้สึกและสร้างความกังขาในคดีฆาตกรรมแร็พเพอร์ขึ้นมาอีกครั้ง และตำรวจก็ยังไม่ปิดคดีนี้ค่ะ

* 2 ปีก่อน 50 cent เพื่อนซี้ปึ้กตลอดกาลของ Eminem เคยจุดประเด็นทฤษฎี Diddy สั่งฆ่า 2Pac ผ่าน Instagramแบบทีเล่นทีจริงมาแล้ว แต่เทียบระดับ controversy  ในเพลง Killshotไม่ได้


ท่อนสุดท้ายเรียบง่ายแต่เด็ดขาด ด้วยการเอาท่อนฮุคของ Rap Devil  มาเปลี่ยนเนื้อซะ  

นี่คือเนื้อร้องจาก Rap Devil
I'm sick of them sweatsuits and them corny hats, let's talk about it/
I'm sick of you bein' rich and you still mad, let's talk about it/
Both of us single dads from the Midwest, we can talk about it/
Or we could get gully, I'll size up your body/
And put some white chalk around it /


Killshot ที่Eminem เปลี่ยนเนื้อร้องมา diss   MGK กลับ
I'm sick of you bein' wack/
And still usin' that mothafuckin' Auto-Tune/
So let's talk about it (let's talk about it)/



gu เบื่อความห่วยแตก
ที่แกยังแร็พแบบมีauto -tune
แล้วแกจะว่าไง่ะวะ

I'm sick of your mumble rap mouth/
Need to get the cock up out it/
Before we can even talk about it (talk about it)/
I'm sick of your blonde hair and earrings/
Just 'cause you look in the mirror and think/
That you're Marshall Mathers (Marshall Mathers)/
Don't mean you are, and you're not about it/
So just leave my dick in your mouth and keep my daughter out it /


gu เบื่อปากที่แร็พงึมงำของแกเต็มทีละ  
ต้องเอาไอ้จู๋ไปยัดปากแกก่อนที่จะมาพูดกันให้รู้ดำรู้แดง
guเซ็งผมบลอนด์กับตุ้มหูของแก
กะอีแค่แกส่องกระจกแล้วมโนว่าตัวเองเหมือนมาร์แชล เมเธอร์
มันก็ไม่ได้หมายความว่าแกจะเป็น gu ได้ แกไม่ใกล้เคียงเลยเหอะ
เอานกเขา gu ไปอมแล้วเลิกพูดถึงลูกสาว gu ซะโว้ย




เรื่องของดนตรีนั้นเป็นรสนิยมส่วนบุคคล  มีชาว hip hop จำนวนหนึ่งเชื่อมั่นว่า  MGK เป็นผู้ชนะศึกดวลแร็พไปอย่างใส ๆ   แต่แม้แต่คนที่ไม่ชื่นชอบ Eminem นักก็ยอมรับว่า คนที่คิดว่า Killshot แพ้ Rap Devil เป็นคนกลุ่มน้อย    หากคุณจะพบว่ามีผู้review ผลงานของทั้งคู่อย่างเป็นกลางกันหลายคน   ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนระดับ stan ก็คงมองออกว่า   ใครที่นำเสนอเนื้อเพลงที่โดดเด่นกว่าด้วย punch line ซ้ำแล้วซ้ำอีกแบบไร้ท่อนฮุควนซ้ำ มี content ที่ยิ่งฟังซ้ำยิ่งจะเจอความเจ็บแสบที่แฝงอยู่รวมถึงการเล่นคำแพรวพราว  

MGK ได้ไปออกรายการ breakfast club เพื่อโต้กลับว่า เขาให้คะแนน Killshot อย่างมาก 6 เต็ม 10  และอาจจะไม่ส่งdiss track อีกอันออกมาอีกแล้ว  
ถ้าให้ตอบแบบแฟร์ ๆ ว่าใครกันแน่ที่ชนะ battle  ?

จากใจจริง เราไม่ใช่แฟนในระดับ stan  แต่เป็นคนๆหนึ่งที่เลือกฟังหลายเพลงจากผลงาน Eminem เพราะมันรู้สึก relate ในเรื่องราวชีวิตที่บอกผ่านบทเพลง   single ที่ฟังดูเหมือน bully แบบไร้เหตุผล เราก็เลิกฟัง   ถ้าเป็นผลงานที่ไม่ถึงมาตรฐานเดิมก็คงฝืนปากเยินยอไม่ได้จริง ๆ   เราไม่ได้ฟัง diss  track มามากมายนัก   แต่ในเมื่อได้ชื่อว่า diss track   การตัดสินว่าใครชนะก็คงไม่ต้องมีวิเคราะห์กันซับซ้อน    ถ้าใครdiss จนอีกฝ่ายไม่สามารถจะสวนกลับให้แรงกว่าได้ ก็เป็นคนนั้นที่เหนือชั้นกว่า  


งานของ MGK นั้นฟังกระแทกใจจนแฟนEminem จำนวนไม่น้อยออกปากชม  วงการคงหันมาพิจารณาความสามารถของเจ้าตัวใหม่ และอาจมีไปได้ไกลกว่าเดิมจากการดวลครั้งนี้  ไม่รอช้า เจ้าตัวก็ใช้โอกาสที่กำลังอยู่ในกระแสร้อนแรงส่งอัลบั้มใหม่ออกมาแบบทันอกทันใจ

 หลายคนน่าจะสัมผัสคลื่นความคาดหวังสูงลิบลิ่วของแฟน ๆEminem ที่เฝ้ารอให้เขาปล่อยของดีออกมา    ถ้าdiss track ของเขาฟังแล้วห่อเหี่ยวเทียบเคียงคู่อริไม่ได้ก็คงเชียร์กันไม่ออก   พิสูจน์จาก Album ที่แล้วยอดขายตกฮวบเพราะไม่โดนใจ

แต่เรามองไม่เห็นว่า Rap Devil จะสามารถก้าวผ่าน Killshot ไปได้    diss ครั้งนี้ได้นำสีสันแร็พร้ายกาจกลับคืนมา  เป็นการงัดความสามารถมาดวลกันแบบตรงๆ   เชือดเฉือนกันได้เร้าใจกันถ้วนหน้า  break the internet ด้วย skill การแร็พแบบนี้มันสะใจผู้ชมจริงๆ !


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE