(Review) tint 4 สีใหม่เอาใจสายดาร์ค จากอีทูดี้ |BABY GANGZTER

สวัสดีค่ะ ทุกคนเนยนะคะ วันนี้เนยมีของเล่นใหม่มารีวิวอีกแล้วค่ะ(മ◡മ,,)ช่วงนี้กระแสลิปสีเข้มมาแรงมากจริงๆทั้งแบรนด์ฝรั่งแบรนด์ไทยก็ออกกันมาเยอะมากๆ  แต่วันนี้เนยลองเอาของแบรนด์เกาหลีมารีวิวให้ดูกันบ้างค่ะ เผื่อเป็นทางเลือกให้กับเพื่อนๆได้ไปตำกัน คิคิ

นั่นคือ 

Etude Dear darling tint นั่นเองงง

เดี๋ยวก่อนค่ะ !!! อย่าเพิ่งเมินหน้าหนี บอกว่าทำไมเอาของเก่ามาเล่าใหม่เพราะว่าสีที่เนยจะมารีวิววันนี้เป็น 4 สีใหม่ที่เค้าเพิ่งจะออกค่ะ

และเป็นสีที่ออกช่วงฤดูหนาว ก็เลยสีออกโทนเข้ม ดาร์ค หม่น ใครชอบโทนนี้ต้องเกิดกิเลสกันบ้างล่ะ

สีPK003 กับสี RD305 ในแท่งจะดูคล้ายกัน แต่ทาออกมาแล้วสี PKจะออกเป็นสีชมพูกะปิเข้ม ส่วนRD จะเป็นสีแดงเข้มไปทางน้ำตาล

เทียบให้ดูชัดๆสองสีค่ะ

Swatchสีออกมาแล้วสีต่างกันพอสมควร

ลองมาดูทีละสีกันบ้างค่ะ

เริ่มจาก PK003 Sweet Potato Red

เป็นสีที่อ่อนที่สุดใน 4 สีใหม่นี้ แต่เข้มที่สุดของPKที่ออกมาทั้งหมดซึ่งก็ถือว่าเข้มสำหรับแบรนด์ Etude ที่เน้นสีอ่อนๆสดใสสีที่ทาออกมาเป็นสีชมพูเข้มเนยคิดว่าสีเหมือนเวลาเราทานเชอร์รี่แล้วสีมือเป็นสีแดงชมพูเข้มๆ อย่างงั้นเลยค่ะแต่ชื่อสีคือ สีมันหวาน เนยไม่เคยกินมันหวานของเกาหลีเลยบอกไม่ได้ค่ะ 5555 เนื้อทินท์ทาไปแล้วจะยังมีความมันเหลืออยู่ ไม่ได้แห้งไปเลย แต่ไม่มันเท่าลิปกลอสทำให้เกลี่ยง่ายแล้วก็ทาไปนานๆปากไม่แห้งเป็นแผ่นๆ

ทาแบบ Ombre

เนื้อสีไม่เข้มข้นเท่าสีอื่น ทำให้พอทาแค่ด้านใน แล้วใช้นิ้วเกลี่ยๆสีที่ได้ก็จะเหลือแค่สีชมพูธรรมดาแต่พอทาทั้งปากก็สีชัดใช้ได้ค่ะ ถือว่าเป็นสีที่สวยและทาง่ายสีนึงเลยค่ะ

สีต่อไปค่ะ RD 304 Hot Pepper Red

เห็นอะไรนั่นไหมคะ มันคือกลิตเตอร์!!!(✪‿✪)ขอย้ำอีกครั้งมันคือทินท์นะคะ ไม่ใช่ลิปกลอส 555ปกติทินท์ของ Etude เองก็ไม่เคยมีตัวไหนมีกลิตเตอร์มาก่อนเลยตัวนี้เนยเลยค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษค่ะ

ให้ดูความกลิตเตอร์ชัดๆ มีความแวววาวด้วยกลิตเตอร์สีชมพู

สีที่ได้เป็นสีแดงติดชมพูนิดหน่อยค่ะเนื้อคล้ายกับ PK003 คือมีความมันอยู่ ทำให้เกลี่ยง่ายแต่เวลาต้องการทาทั้งปากจะยากนิดนึง เพราะสีมันจะไหลไปไหลมาจะทาให้เท่ากันก็ต้องใช้เวลานิดนึง

หลังจากทาแล้วมีความกลิตเตอร์อยู่บ้าง แต่ไม่ได้เว่อวังมากค่ะ เป็นกลิตเตอร์เล็กๆ ถ้าไม่สังเกตใกล้ๆก็จะไม่เห็นแต่ดูเหมือนมีความแวววาวมากกว่าคือดูมีความคริสมาสต์ แต่มันผ่านไปแล้วนี่นา 555 (;_;)

ยังคงอยู่ที่สีแดงค่ะ RD 305 Jujube Red

สีแดงหม่นๆ ออกไปทางน้ำตาลเนื้อเหลว แบบทินท์ทั่วไปที่คุ้นเคยกันทาทิ้งไว้แล้วจะค่อยๆแห้งดูเป็นเนื้อแมทกว่าสองสีด้านบน 

ส่วนตัวเนยชอบสีนี้ที่สุดค่ะ (☆ω☆*)คือมีความกลมกล่อมของสีแดงกับน้ำตาลเป็นสีแดงที่ดูแพงงงจะทาแค่ด้านในหรือทาทั้งปากก็ให้สีชัด จะสโมกกี้อายหรือกรีดตาเฉยๆก็เหมาะคือชอบบบบบบ

สีสุดท้ายค่ะ BL 801 Vampire Red

สีรหัส BL เพียงสีเดียวของ Etude ดูจากแท่งก็เข้มจนแทบเป็นสีดำจริงๆ แต่ทาออกมาแล้วเป็นแดงก่ำเข้มๆเนื้อจะค่อนข้างเหลวและออกไปทางแมทคล้ายกับ RD305 

ทา Ombre เฉพาะด้านในจะได้เป็นสีแดงเข้มๆแต่ถ้าทาทั้งปากจะสีออกเป็นโทนแดงน้ำตาล เกือบๆจะดำไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะ คล้ายๆสีเลือดที่แห้งแล้วก็ตามชื่อสี Vampire red นั่นล่ะค่ะ  (㇏(•̀w•́)ノ) 

สรุปข้อดี - ราคาย่อมเยาว์มากกกก (1xx บาท)/ หาซื้อง่าย- สีมีความหลากหลาย- ติดทน- เนื้อไม่แห้ง ไม่ทำให้ให้ปากลอก

ข้อเสีย - ทาค่อนข้างยาก เพราะเนื้อทินท์เหลวทำให้สีไหลไปมา รวมทั้งถ้าทาพลาดแล้วต้องรีบลบทันที ไม่งั้นจะลบออกยากมาก ทำให้การเติมระหว่างวันยากไปด้วย

Discussion (9)

ช่วงนี้กำลังบ้าทินท์ เลยเข้ามาดูค่ะ ดาร์คดี ส่วนตัวเราว่าเหมาะกับทาด้านในปาก ไม่ก็ทาเป็นเบสก่อนทาลิปอื่นๆ เพราะมันทาเต็มปากให้เป๊ะยากอยู่ค่ะ
เรามีสีvampire red ถูกใจสีมากกก คือมีความดาร์กจริงไรจริง ชอบสีทำออกมาแปลกใหม่ดี แต่เนื้อสัมผัสความติดทนไม่ค่อยดี ทาทั้งปากให้สีเท่ากันยาก ใช้ไประหว่างวันพังมาก ปากแห้งแตกเป็นคราบกรังๆ ดูไม่โปรเลย ทั้งๆที่เราทาลิปแมทตัวอื่นปากไม่เคยแห้ง ถามว่าทนมั้ย ก็ไม่เชิง คือสีมันติดอยู่กับตรงปากที่ลอกๆน่ะ คิดว่าไม่ใช่ข้อดี แต่ดีที่ราคาไม่แพงมาก ถามว่าซื้ออีกมั้ย คงไม่ แต่ใครชอบลองของใหม่ไปจัดซะ

ปล.ดูรีวิวตัวกลิตเตอร์แล้วแอบอยากลอง

อร๊าย ตกข่าวววว ต้องไปตำบ้างแล้วค่า