Hailey Bieber สัมภาษณ์ฟาดกลับ haters "ให้พวกตัวแสบเหล่านี้เหวี่ยงวีนกันไป"
candy155Hailey Bieber เปิดใจกับนิตยสาร VOGUE เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การให้กำเนิดลูกน้อยและเรียนรู้บทบาทใหม่เพื่อร่วมสร้างครอบครัวที่อบอุ่นที่เธอถวิลหา แต่เมื่อต้องจมดิ่งสู่ความรู้สึกเปราะบางของคุณแม่หลังคลอด เพราะต้องผจญกับพลังงานด้านลบจากโลกออนไลน์อย่างไร้สิ้นสุด คราวนี้เธอได้ตัดสินใจลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง และฟาดฟันกลับไปแรงๆให้ haters รับรู้ว่า ถ้ายังไม่ move on จากเรื่องเดิมๆสักที ก็เชิญโมโหกันเลย เพราะตอนนี้เธอมีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าจะมาคอยชี้แจงแก้ข่าวกับกลุ่มคนที่ยอมไม่รับฟัง
ความสะพรึงกลัวจากภาวะที่มีเลือดออกมากหลังคลอด
ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อการคลอดธรรมชาติ Hailey พยายามเตรียมพร้อมร่างกายจิตใจไว้เต็มที่ เธอเข้าคลาสการฝึกกำหนดลมหายใจ เล่นโยคะ ฝังเข็ม เดินออกกำลัง ยกเวท ทำกายภาพบำบัดอุ้งเชิงกราน ทุกสิ่งที่ว่ามาทำให้เธอรู้สึกแข็งแรงยิ่งกว่าที่เคย แต่การคลอดในชีวิตจริงของเธอกลับแตกต่างจากความคาดหวัง เพราะจำเป็นต้องใช้ตัวยาเร่งคลอดและสายสวนบอลลูนบริเวณปากมดลูก เธอใช้เวลาคลอดรวมทั้งหมด 18 ชั่วโมงโดยไม่ใช้ยาบล็อกหลัง และในที่สุดก็ได้พบกับลูกชายที่มีน้ำหนักสามกิโลกรัมเศษๆ แต่อาการตกเลือดก็ทำได้สั่นคลอนจิตใจของเธอจนนึกถึงเรื่องความเป็นความตายขึ้นมา แพทย์ได้ใช้ Jada อุปกรณ์สูญญากาศเข้าไปภายในมดลูกเพื่อกระตุ้นการหดตัวของมดลูกเพื่อควบคุมเลือดออกผิดปกติหลังคลอด ซึ่งเธอต้องทนกับความเจ็บปวดในการรักษาอยู่หลายชั่วโมงกว่าจะเข้าสู่สภาวะปลอดภัย
ความพยายามเพื่อจะยอมรับร่างกายที่เปลี่ยนไปหลังจากให้กำเนิด Jack Blue
นี่คือการให้สัมภาษณ์กับนิตยสารแฟชั่นระดับชั้นนำ แน่นอนว่า Hailey จะได้รับคำถามหัวข้อการปรับตัวเข้ากับร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปจากการตั้งครรภ์ น่าจะเดากันได้ว่า เซเลบสาวที่ดูแลตัวเองจนมีรูปร่างเพรียวบางมาตลอดจะเกิดความไม่คุ้นเคยกับโฉมใหม่หลังคลอด นำไปสู่ความเกลียดชังรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ซึ่งมันไม่เคยเกิดกับเธอมาก่อน มิหนำซ้ำเมื่อคุณแม่คนดังเข้าไปส่องคอมเมนท์ใน social media ก็ต้องพบกับถ้อยคำโจมตีซ้ำเติมว่า เธอมีสภาพย่ำแย่มากแค่ไหน จึงเกิดความรู้สึกจิตตกไปกันใหญ่ Hailey จึงต้องเตือนสติตัวเองว่า เธอเพิ่งจะคลอดลูกไปได้ไม่นานเท่านั้น จงอ่อนโยนกับตัวเอง ใจเย็นไว้แล้วมันจะดีขึ้นเอง
Hailey พบว่า การกำจัดน้ำหนักที่ยังค้างอยู่ไม่กี่กิโลกรัมนั้นจะต้องใช้เวลานานเกินคาดคิด แม้เธอสามารถใช้บริการจากทีมมืออาชีพเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับคืนมาก็ตาม
"เรื่องที่ใครๆบอกกันว่า ก็แค่ฟื้นคืนสู่ร่างเดิม ส่วนไหนที่คืนได้ล่ะคะ? เพราะสะโพกของฉันผายออก หน้าอกก็ใหญ่ขึ้น ไม่ได้ย้อนกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนสักหน่อย และมันก็ดีแล้วล่ะ ฉันก็ขอยอมรับไว้ แต่ยังไงร่างกายก็ไม่กลับไปดังเดิม"
Hailey เล่าถึงความหมกมุ่นที่จะกลับไปเป็นเหมือนก่อนมีลูก แต่ในที่สุดก็ทำใจยอมรับได้ว่า เธอไม่สามารถหวนคืนสู่จุดนั้นได้ และหันมาให้ความสำคัญการก้าวไปข้างหน้า
"เรื่องที่ใครๆบอกกันว่า ก็แค่ฟื้นคืนสู่ร่างเดิม ส่วนไหนที่คืนได้ล่ะคะ? เพราะสะโพกของฉันผายออก หน้าอกก็ใหญ่ขึ้น ไม่ได้ย้อนกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนสักหน่อย และมันก็ดีแล้วล่ะ ฉันก็ขอยอมรับไว้ แต่ยังไงร่างกายก็ไม่กลับไปดังเดิม"
Hailey เล่าถึงความหมกมุ่นที่จะกลับไปเป็นเหมือนก่อนมีลูก แต่ในที่สุดก็ทำใจยอมรับได้ว่า เธอไม่สามารถหวนคืนสู่จุดนั้นได้ และหันมาให้ความสำคัญการก้าวไปข้างหน้า
บทบาทความเป็นแม่ที่สร้างเสริมความแข็งแกร่งยิ่งกว่าในวันวาน
Hailey ภาคภูมิใจกับตัวคนในเวอร์ชั่นใหม่ เธอสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของแม่ที่มาพร้อมกับความมั่นใจในตัวเอง เธอทุ่มเทพลังไปให้กับลูกชายซึ่งเป็นคนที่สำคัญที่สุดอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องคอยพะวงกับเรื่องราวสารพัด ความเป็นแม่ได้ให้ทำให้เธอเรียนรู้ รวมถึงความสัมพันธ์ เธอได้เห็นสามีในด้านที่แตกต่างออกไป (เธอยืนยันว่า Justin คือพ่อที่ยอดเยี่ยม) การทำหน้าที่แม่ยังช่วยให้เธอเลิกพยายามร้องขอให้คนที่เข้าใจเธอผิดให้เปิดใจรับฟัง เพราะถึงเธอจะดิ้นรนสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องสักแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
"ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ฉันพยายามบอกเล่าเรื่องราวจากฝั่งของฉันบ้าง หรือแก้ไขข่าวที่ลือกันไปเอง หรือพยายามชี้ให้เห็นถึงคำโป้ปด แต่พวกเค้ากลับเอาแต่บอกว่า เธอก็แค่หลอกลวงกันนี่นา ลองจินตนาการสิคะว่า มันก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดราวกับถูกกักขังได้ถึงขนาดไหน"
ในตอนนี้ Hailey เริ่มปล่อยวางมองข้ามคอนเมนท์ในแง่ลบ ผู้ที่ให้คำแนะนำกับเธอจากการเรียนรู้ประสบการณ์มามากก็คือสามีซุปตาร์นั่นเอง
"เขาต้องรับมือกับอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เป็นบุคคลที่เผชิญกับการจ้องจับผิดหนักที่สุดเท่าที่ฉันได้รู้จักมา เขาบอกฉันว่า ที่รัก เชื่อผมเถอะนะ ผมผ่านเรื่องพวกนี้มามากมายหลายครั้ง คุณไม่สามารถเอาชนะมันได้หรอก มันจะไม่สำเร็จ"
Hailey ยืนยัน ข่าวลือแทบทั้งหมดเกี่ยวกับเธอไม่เป็นความจริง
ตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานกับซุปตาร์หนุ่ม เรื่องราวด้านลบเกี่ยวกับ Hailey แพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ไร้วี่แววว่าจะจางหายไป ข้อความที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังมักวนเวียนอยู่กับการคาดเดาเรื่องปัญหาความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยา Bieber และสาปส่งให้พวกเค้าจบชีวิตคู่กันไปซะ รวมถึงทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ อย่างข้อกล่าวหาว่า เธอหมกมุ่นอยู่กับ Selena Gomez และคอยลอกเลียนแบบคนรักเก่า Justin เพราะความริษยา หรือจะเป็นเรื่องที่เธอคลั่งไคล้ Justin มาตั้งแต่ยังเป็นสาวรุ่นและเล่นเล่ห์แฝงตัวเข้าไปอยู่ใกล้ชิดกันจนสมหวังคว้าทะเบียนสมรสมาได้ ข่าวลือหย่าร้างของพวกเค้าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งคำตอบของ Hailey ก็ยังหนักแน่นดังเดิม คือ "มันไม่จริง"
"ภาวะหลังคลอดเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดที่ฉันเคยประสบพบพานในชีวิตนี้ การพยายามเรียนรู้ตัวตนในรูปแบบใหม่เป็นสิ่งที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก ต้องปรับตัวไปพร้อมๆกับได้ยินผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ว่า พวกเค้ากำลังจะหย่ากันบ้างล่ะ พวกเค้าไร้สุขสุดๆ บ้างล่ะ นั่นมันบั่นทอนจิตใจอย่างแรง ไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นอธิบายยังไง ต้องอยู่กับชีวิตที่ชวนปวดประสาท"
"ภาวะหลังคลอดเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดที่ฉันเคยประสบพบพานในชีวิตนี้ การพยายามเรียนรู้ตัวตนในรูปแบบใหม่เป็นสิ่งที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก ต้องปรับตัวไปพร้อมๆกับได้ยินผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ว่า พวกเค้ากำลังจะหย่ากันบ้างล่ะ พวกเค้าไร้สุขสุดๆ บ้างล่ะ นั่นมันบั่นทอนจิตใจอย่างแรง ไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นอธิบายยังไง ต้องอยู่กับชีวิตที่ชวนปวดประสาท"
Justin ไม่ได้เข้าร่วมการให้สัมภาษณ์กับนักเขียน VOGUE แบบตัวต่อตัว แต่ส่งอีเมลถึงเธอเพื่อยืนยันความรู้สึกต่อภรรยาสาวว่า
"ในชีวิตนี้ ผมเคยทำเรื่องงี่เง่ามาเยอะ แต่เรื่องฉลาดที่สุดที่ผมได้ลงมือทำคือการแต่งงานกับ Hailey"
เขายังชี้ว่า เธอตกเป็นเป้าหมายที่ถูกโจมตีได้ง่าย เธอเป็นที่สนใจอย่างมากมายเพราะเรื่องสไตล์ที่ดูดีราวกับไม่ต้องพยายาม เธอมีหัวทางธุรกิจ ศิลปะ และแฟชั่น เมื่อได้เห็นเธอทำหน้าที่ภรรยาและแม่ได้อย่างดี ก็ดูเหมือนกับมันเป็นเรื่องง่ายๆสบายๆไปเลย
คำบอกเล่าจาก Justin สอดคล้องกับ Hailey ที่พูดถึงสามีด้วยรอยยิ้ม เพราะเขายกย่องเธอว่าเก่งกาจขั้นเทพ เป็นเหมือนกับยอดมนุษย์ ซึ่งเขาไม่มีทางทำได้อย่างเธอ การเพิ่มสมาชิกครอบครัวให้พร้อมหน้า 3 คนนับเป็นก้าวเดินสู่ชีวิตที่เธอฝันใฝ่หามาตลอด (และเธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะมีลูกเพิ่ม อย่างน้อยอีกสักหนึ่งคน)
ลุกมาเผชิญหน้าเมื่อมีคนล้ำเส้น
"เมื่อก่อน ฉันไม่กล้าเผชิญหน้ามากเท่าไร สำหรับฉัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแสดงความรู้สึกโต้ตอบกับสิ่งที่รบกวนจิตใจ หรือเวลาที่มีคนล้ำเส้น แต่ตอนนี้ฉันรับรู้เข้าใจชัดเจน กล้าที่จะบอกว่า ทำแบบนี้มันไม่ไหวนะ"
เมื่อ Hailey ต้องตอบคำถามนักข่าวว่า เธอคาดหวังให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดจากความหมกมุ่นในตัวเธอและชีวิตแต่งงานของเธอนั้นจางหายลงไปบ้างหรือไม่ เธอสร้างความประหลาดใจด้วยการทิ้งท้ายด้วย B word เสียดแทงใจ haters ว่า
"ก็นะ ฉันเคยนึกว่า แต่งงานมาเจ็ดปีก็แล้ว ก็ให้มันเพลาๆ ลงบ้างเถอะ แต่มันก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ดี หลังจากมีลูกด้วยกัน คนพวกนั้นก็น่าจะ move on ปล่อยวางได้สักนิด แต่ก็ไม่เลย เพราะงั้นฉันว่านะ นังตัวแสบพวกนี้ก็จะเหวี่ยงวีนต่อไปแหละ"
เมื่อ Hailey ต้องตอบคำถามนักข่าวว่า เธอคาดหวังให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดจากความหมกมุ่นในตัวเธอและชีวิตแต่งงานของเธอนั้นจางหายลงไปบ้างหรือไม่ เธอสร้างความประหลาดใจด้วยการทิ้งท้ายด้วย B word เสียดแทงใจ haters ว่า
"ก็นะ ฉันเคยนึกว่า แต่งงานมาเจ็ดปีก็แล้ว ก็ให้มันเพลาๆ ลงบ้างเถอะ แต่มันก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ดี หลังจากมีลูกด้วยกัน คนพวกนั้นก็น่าจะ move on ปล่อยวางได้สักนิด แต่ก็ไม่เลย เพราะงั้นฉันว่านะ นังตัวแสบพวกนี้ก็จะเหวี่ยงวีนต่อไปแหละ"
คำขอโทษจาก Justin เมื่อภรรยาขึ้นปก VOGUE
แม้ว่านี่จะไม่ใช่การถ่ายแบบขึ้นปก VOGUE ครั้งแรกของ Hailey แต่ผลงานสำคัญของภรรยาคนสวยในครั้งนี้ก็ทำให้ Justin ได้ตระหนักถึงความผิดพลาดที่เคยทำร้ายจิตใจเธอ เขาโพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวในอดีตว่า ครั้งหนึ่งที่เคยทะเลาะกับภรรยายกใหญ่ เขาตอกหน้าเธอไปว่า เธอไม่มีวันจะได้ขึ้นปก VOGUE และมันช่างเป็นพฤติกรรมที่ร้ายกาจ ซึ่งเขาเลือกจะเอาคืนเธอเพราะรู้สึกถูกลบหลู่ดูหมิ่น
"ผมเชื่อว่า เมื่อเราได้เติบโตขึ้น การแก้เผ็ดให้สมน้ำสมเนื้อกันมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย มันกลับเป็นการเหนี่ยวรั้งสิ่งที่เราปรารถนาอย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งและการเชื่อมโยงเข้าหากัน"
"ที่รัก คุณก็รู้อยู่แล้ว แต่โปรดให้อภัยผมที่เคยบอกว่า คุณจะไม่ได้ขึ้นปก VOGUE เพราะเห็นได้ชัดว่า ผมมันหลงผิดไปเอง"
"ผมเชื่อว่า เมื่อเราได้เติบโตขึ้น การแก้เผ็ดให้สมน้ำสมเนื้อกันมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย มันกลับเป็นการเหนี่ยวรั้งสิ่งที่เราปรารถนาอย่างแท้จริง นั่นคือการสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งและการเชื่อมโยงเข้าหากัน"
"ที่รัก คุณก็รู้อยู่แล้ว แต่โปรดให้อภัยผมที่เคยบอกว่า คุณจะไม่ได้ขึ้นปก VOGUE เพราะเห็นได้ชัดว่า ผมมันหลงผิดไปเอง"
Discussion (5)