รีวิว มาส์กหน้าในดวงใจ หน้าใสหน้าเนียน เห็นผลไว ใช่เลย!!

23 11

ออกตัวก่อนว่าเป็นคนชอบมาส์กหน้ามาก เพราะคิดว่าการมาส์กหน้านั้นเป็นการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เห็นผลไวกว่าการใช้ครีมบำรุงทั่วไป ซึ่งปัจจุบันก็มีตัวเลือกมากมาย ทั้งชนิด ยี่ห้อ หลากหลายราคา ทั้งแบบ mask sheet, แบบครีมที่ต้องล้างออก และแบบครีมที่ไม่ต้องล้างออก ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน

วันนี้เราจะขอรีวิวมาส์กหน้าที่เราใช้แล้วเห็นผลจริง เป็นมาส์กหน้าในดวงใจ ที่ใช้แล้วปลื้มปลิ่มอยากนำมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ลองกัน ซึ่งจะคละๆแบบกันไปนะคะ ซึ่งเราจะขอแชร์เกี่ยวกับวิธีการเลือกใช้มาส์กแต่ละชนิดให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวด้วย

เริ่มจาก

1.มาส์กน้ำตาลทรายแดง skinfood(Black Sugar Mask Wash Off)

ราคา 600 บาท ( หากซื้อในเน็ท หรือร้านหิ้วจะถูกกว่านี้มากมาย เหลือประมาณ 250 บาท)

ปริมาณ 150g.

เป็นมาส์กโด่งดังของ Skinfood คาดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก มีส่วนผสมจาก น้ำตาล และ มะนาว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ให้หลุดลอกออกไป ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดล้ำลึกและฟื้นฟูผิว เหมาะสำหรับผิวมัน ผิวผสม กลิ่นหอมอ่อนๆ รสชาติหวานๆน้ำตาลนิดๆค่ะ (เคยเอามาสครับปาก เลยรู้รสค่ะว่ามันหวานๆ แถมช่วยให้ปากนุ่มชุ่มชื้นดีค่ะ 555)

When to use: เราจะใช้เมือรู้สึกว่าเริ่มมีสิวเสี้ยน หรือช่วงไหนทาครีมบำรุงทั่วไปแล้วครีมไม่ค่อยซึม ทาแป้งไม่ค่อยติดผิว มาส์กน้ำตาลทรายแดงนี้จะเป็นเสมือนสครับที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุดลอกออกไปได้เร็วขึ้น หลังจากใช้แล้วผิวจะนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจจะไม่เห็นผลเรื่องความใสเท่าไหร่ แต่ช่วยให้ผิวเนียน พร้อมรับครีมบำรุงได้มากขึ้น เวลาทาครีมบำรุงหลังจากมาส์กแล้วจะรู้สึกตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยว่า ครีมซึมสู่ผิวได้ไวกว่าเดิม

How to use:แต้มเนื้อผลิตภัณฑ์พอประมาณ ผสมน้ำเล็กน้อย (เมื่อสัมผัสน้ำ จะแปลงสภาพเป็นน้ำนมขาวๆ ตามภาพค่ะ) แล้วขัดวนเบาๆ ทั่วใบหน้า เมื่อขัดแล้วสามารถมาส์กไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ข้อควรระวัง: ห้ามใช้ขณะหน้าแห้งนะคะ เม็ดสครับเม็ดใหญ่ บาดผิวได้ง่ายมาก ต้องพรมน้ำระหว่างนวดๆๆๆ ให้ใบหน้าลื่นๆเข้าไว้ ไม่แนะนำสำหรับคนที่ผิวบอบบางระหว่างนวดอาจทำให้ระคายเคืองได้ (สำหรับเราผิวแข็งแรง ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ เคยพลาดครั้งเดียวที่ใช้ตอนตากแดดหน้าดำมา อยากผลัดเซลล์ผิวเพื่อบำรุงให้ขาวใสขึ้นเร็วๆ ปรากฏว่าผิวแดงและคันไปพักนึง น่าจะเป็นเพราะผิวแพ้แดดมา ไม่แนะนำให้ใช้หลังตากแดดค่ะ)

คะแนนริวิว: 7/10 ใช้ดี ผิวนุ่มเนียน แต่ต้องระวังเรื่องสภาพผิวก่อนใช้ซักนิดค่ะ

2.มาส์กเต้าหู้ bymoritaya สูตรใหม่

ราคา 2,000 เยน ( ประมาณ 600 บาทไทย หาซื้อได้ในร้านซูรูฮะ อีฟแอนด์บอย ราคาประมาณ 690บาท)

ปริมาณ 150g.

เป็นมาส์กโด่งดังมากมาย และเป็นกระแสอย่างมากในอินเตอร์เน็ทอยู่พักนึง มีส่วนผสมจากน้ำนมถั่วเหลืองเข้มข้น ผสมโยเกริ์ตและน้ำผึ้ง(น่ากินเชียว) สำหรับสูตรใหม่(กระปุกลายจุดสีชมพู) จะมีอีกส่วนผสมที่เพิ่มขึ้นมาคือ สารสกัดจากดอกRhododendronที่เป็นดอกไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น เด่นในเรื่องการให้ความชุ่มชื้น เนื่องจากเป็นกรดอมิโนที่มีโมเลกุลที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับเซลล์ผิว จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีกว่าสูตรเดิม

อ้อ ... แพคเกจจิ้งใหม่รอบๆจะเป็นพลาสติกแล้วนะคะ ไม่ใช่กระดาษเหมือนตัวเก่าที่พอใช้ไปเรื่อยแล้วกระดาษจะเปื่อยไม่สวยงาม

หน้าตาของดอกRhododendron ประมาณนี้ค่ะ

When to use: ใช้ได้ทุกวัน บำรุงได้บ่อยเท่าที่ต้องการเลยค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ อ่อนโยนต่อผิวมากๆ หลังจากใช้แล้วผิวจะเนียนๆๆๆนุ่มๆๆๆขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตามสรรพคุณเค้าบอกว่าช่วยให้หน้าเนียนดุจไข่ต้ม และช่วยเรื่องความกระจ่างใสด้วย แต่สำหรับเราแล้วเรื่องความขาวใสเราไม่เห็นผลเท่าไหร่ค่ะ แต่เรื่องความเนียน นุ่ม ชุ่มชื้นที่ยอดเยี่ยมมากๆๆๆๆๆถึงมากที่สุด อาจจะไม่เห็นผลในครั้งแรกนะคะ แต่ใช้ต่อเนื่องไปแล้วจะรู้สึกเลยว่าผิวเนียนขึ้น ทาแป้งติดดีขึ้น หน้าชุ่มชื้นค่ะ

How to use:ใช้กับใบหน้าที่แห้งนะคะ แต้มเนื้อผลิตภัณฑ์พอประมาณ ทาหนาๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด ข้อดีของมาส์กตัวนี้คือ สะดวก ไม่ต้องนวดให้ยุ่งยากค่ะ ทาหนาๆทิ้งไว้ได้เลย เนื้อครีมซึมไวดี ไม่เหนียวเหนอะหนะระหว่างรอ ไม่หนักหน้าดีค่ะ

ข้อควรระวัง: ไม่มีอะไรให้ระวังมาก แค่ตอนทาระวังเข้าตาค่ะ

คะแนนริวิว: 8/10 ใช้แล้วผิวเนียน นุ่ม ขาดแต่เรื่องความกระจ่างใส ยังต้องใช้ตัวอื่นมาเสริมค่ะ

*สำหรับการรีวิวเนื้อครีม ขอรวบยอดไว้ตอนท้ายๆรีวิวนะคะ

3.มาส์กมะเขือเทศ by Tomymoly (Tomatox Magic White Massage Pack)

ราคา 300-400 บาท ปริมาณ 70g

สำหรับใครที่อยากลองใช้ ในเซเว่นมีขายแบบซอง ซองละเพียง 19 บาท ลองซื้อหามาลองได้ง่ายดายเลยค่ะ

เป็นมาส์กที่ชนะเลิศในเรื่องแพคเกจจิ้งน่ารักฟรุ้งฟริ๊งมากมาย หลวมตัวซื้อครั้งแรกก็เพราะแพคเกจนี่แหละค่ะ (ตรงจุกมะเขือเทศเป็นยางๆ ทำเหมือนของจริงมากๆ ชอบที่เค้าใส่ใจรายละเอียดได้ดีจริงๆ) เปิดฝากออกมาก็มีฝาด้านในอีกชั้น แถมมีช้อนเล็กให้ด้วย น่ารักมากมายค่ะ

สรรพคุณของมาส์กนี้(ตามคำโปรย) ก็คือ เป็นมาส์กเพื่อผิวขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสารสกัดจากมะเขือเทศ

ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง ช่วยขจัดสิ่งอุดตันรูขุมขนได้อย่างสะอาดหมดจด

ช่วยปรับสภาพผิวจากการถูกแดดเผาได้เป็นอย่างดี ให้ผิวกลับมาสว่างใสได้ดังเดิม

When to use: ใช้ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อรู้สึกว่าหน้าหมองคล้ำ อยากบำรุงให้ขาวใสขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆใช้แล้วรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ ส่วนความรู้สึกหลังการใช้อาจสัมผัสไม่ได้ทันที แต่จะค่อยๆใสขึ้น แบบขาวอมชมพูๆ เรื่องความเนียนนุ่มเราเฉยๆค่ะ มาส์กเต้าหู้ตอบโจทย์ได้ดีกว่า

How to use:ใช้กับใบหน้าที่แห้งนะคะ มาส์กตัวนี้ต้องนวดๆๆด้วยค่ะ วิธีใช้ก็คือแต้มเนื้อผลิตภัณฑ์พอประมาณ ทาให้ทั่วใบหน้า แล้วก็นวดวนๆๆๆทั่วใบหน้าซัก 3-5 นาที ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาทีค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ข้อดีของมาส์กตัวนี้คือ กลิ่นหอม เนื้อเข้มข้นดี แต่ก็เป็นข้อเสียเช่นกันเพราะเนื้อมาส์กตัวนี้ค่อนข้างเหนียว เวลาใช้ต้องทาบางๆค่ะ ทาเยอะเกินไปจะรู้สึกเหนอะหนะได้

ข้อควรระวัง: ไม่มีอะไรให้ระวังมาก แค่ตอนทาระวังเข้าตาค่ะ

คะแนนริวิว: 7/10 (ช่วยเรื่องหน้าใสได้ดี แต่ไม่ค่อยชอบเนื้อครีมที่เหนียวเหนอะหนะเกินไป)

4.มาส์กนอน White Me Up by Malissa Kiss

ราคา 1050 บาท (มีโปรโมชั่นบ่อยๆในร้านวัตสัน อีฟแอนด์บอย บางทีลดเหลือเพียง 750-850 บาท) ปริมาณ 50g.

หรือซื้อตามตู้เครื่องสำอางทั่วไปก็จะได้ถูกเหมือนกันค่ะ

ตัวนี้เป็น Sleeping Pack ตัวดังค่ะ คือเป็นครีมมาส์กแบบไม่ต้องล้างออก ทาไว้แล้วนอนได้เลย ตื่นเช้ามาค่อยล้างออก มาส์กตัวนี้นับได้ว่าเป็นมาส์กในดวงใจของเราเลย รักมากกกก ก.ไก่ล้านตัว เราใช้มานานนับปี ใช้มาตั้งแต่รุ่นแรกๆที่ใช้ชื่อว่า Kiss Skincare ซึ่ง White Me Up นิ่เป็นสูตรใหม่ ส่วนผสมหลักๆจะเป็นกวาวเครือและดอกไม้หลากชนิด ว่านหางจระเข้ อะไรทำนองนี้ อ่านดูแล้วส่วนผสมอาจจะไม่มีจุดขายโดดเด่นเหมือนมาส์กตัวอื่นๆที่กล่าวมา แต่!....ผลลัพธ์ของนางสุดยอดมากกกกกกคือมันทำให้หน้าเราดูเนียน แน่น รูขุมจนดูเล็กลงอย่างได้ชัด หน้าดูกระจ่างใส

When to use: ใช้ประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือเมื่อรู้สึกว่าหน้าหมองคล้ำ อยากบำรุงให้ขาวใสขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อครีมซึมไวดีค่ะ สำหรับผลลัพธ์ที่สุดยอดคือเป็นการรวมเอาข้อดีของทุกๆมาส์กที่กล่าวมามารวมไว้ในหนึ่งเดียว ใช้แล้วเห็นผลมากมายทั้งเรื่องความเนียน นุ่ม และความขาวใส (ความเห็นส่วนตัว สูตรเก่าอาจจะขาวไวกว่า เรียกได้ว่าใช้แล้วขาวจั๊วจนคนรอบข้างทัก แต่สูตรใหม่จะขาวแบบค่อยเป็นค่อยไป ขาวอมชมพูๆ แต่ข้อดีของสูตรใหม่คือ มันช่วยเรื่องรูขุมขนความเนียน แน่นๆของผิว) ส่วนเรื่องความนุ่มชุ่มชื่น เห็นผลใกล้เคียงกันค่ะ ใช้แล้ววันรุ่งขึ้นทาแป้งติดผิวได้ดี

How to use:ใช้กับใบหน้าที่แห้งนะคะ มาส์กตัวนี้ไม่ต้องนวดค่ะ วิธีใช้ก็คือกดหัวปั๊มประมาณ 2-3ปั๊ม (ชอบแพคเกจเค้ามากตรงที่ไม่ต้องใช้นิ้วตักเนื้อครีมให้เลอะ รู้สึกสะอาดดีค่ะ) ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วไปนอนได้เลย หรือจะพอกก็ไม่ว่ากัน ตื่นเช้ามาค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นั้นเองค่ะ

ข้อดีของมาส์กตัวนี้คือ กลิ่นหอม เนื้อครีมซึมไว ไม่เลอะเสื้อผ้า ไม่ต้องกังวลว่าหมอนจะเปื้อนเวลานอน ส่วนข้อเสียคือใช้ทุกวันไม่ได้ค่ะ เพราะเนื้อครีมเข้มข้นมาก เพราะเขาบอกว่าครีมตัวนี้เสมือนการที่เราไปทำ treatment หน้าค่ะ คือไม่ต้องทำทุกวัน ตามฉลากเค้าบอกว่าให้ใช้อาทิตย์ละ 3-4ครั้ง (แต่เราใช้แค่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะก็โอเคค่ะ) ข้อเสียอื่นๆบางคนอาจจะแพ้นะคะเพราะครีมเค้าเข้มข้นจริงๆ แนะนำว่าก่อนใช้บนใบหน้าจริง ลองเทสที่หลังแขนดูก่อนเพื่อความชัวร์ค่ะ

ข้อควรระวัง: ไม่มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ

คะแนนริวิว: 9/10

5.Aqua Label Special Gel Cream by Shiseido

ราคา 770 บาท ปริมาณ 90 g.

จริงๆแล้วผลิตภัณฑ์เค้าไม่ใช่มาส์กหรอกค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเนื้อเจลครีม ที่รวมประสิทธิภาพ 5 การบำรุงผิวจากอิมัลชั่น, ครีม, เอสเซ้นส์, โลชั่น และมาส์ก ไว้ใน 1 เดียว ส่วนผสมเด่นๆคือ คอลลาเจน และ ไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ช่วยเรื่องความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอย

When to use: ใช้แบบปกติคือ ทาบำรุงทั่วใบหน้าตอนเข้าและก่อนนอน แต่เราเอามาประยุต์ใช้เป็นมาส์ก โปะหนาๆๆๆ แล้วเข้านอน ด้วยความที่เนื้อเจลเค้าซึมไวดีมากกกกๆๆๆๆ ยิ่งถ้าเอาไปแช่เย็นก่อนใช้จะรู้สึกเย็นสดชื่นผ่อนคลายดีค่ะ

How to use:ใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการเลยค่ะ ทาทั่วใบหน้าในปริมาณที่ต้องการ เราเอาไว้ทาบำรุงหลังจากใช้มาส์กเต้าหู้ มะเขือเทศ หรือวันที่ไม่ได้ใช้ White Me Up คือเอามาทาเสริมช่วยเรื่องริ้วรอยและใช้ทาตอนเช้าก่อนแต่งหน้าด้วย ให้ความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆแบบบ้านเราดี เพราะเนื้อบางเบาซึมไว แต่ระวังเรื่องปริมาณที่ใช้ หากทาตอนเช้า ทาแต่บางๆก็พอ อย่าหนาค่ะ เพราะอะไร ไว้รออ่านช่วงท้ายๆจะทราบเหตุผล

ข้อควรระวัง: ระวังหกค่ะ555 เนื้อเจลบางเบาไหลลื่น เปิดไม่ดีมีหกได้

คะแนนริวิว: 9/10

ต่อไปจะขอรีวิวเปรียบเทียบเนื้อผลิตภัณฑ์นะคะ

ลองเอามาทาที่ผิวดูค่ะเนื้อครีมแต่ละแบบ เมื่อนำมาทาแล้วเป็นอย่างไร และเมื่อทาทิ้งไว้15นาทีแล้วเทียบเรื่องการซึมสู่ผิวเป็นอย่างไรบ้าง และท้ายสุดคือเปรียบเทียบความเหนียวเหนอะหนะของมาส์ก โดยจะทดสอบจากการนำกระดาษซับมันมาแปะที่ผิว เทียบดูว่าผลิตภัณฑ์ใดมีความเหนอะหนะหนักผิวประมาณไหน

เรื่องการซึมไวและไม่เหนียวเหนอะขอยกนิ้วให้ White Me Up และมาส์กเต้าหู้ค่ะ ชนะเลิศ

ส่วน Aqua Label นั้นเกลี่ยง่ายซึมไวก็จิง แต่หลังการใช้ผิวจะแอบเหนียวๆเล็กน้อย หากใช้ทาบำรุงตอนเช้า ควรทาบางๆพอค่ะ ไม่งั้นมีเยิ้ม

และที่เจ้มจ้นหนักผิวที่สุด ยกให้ Tomatox ไปเลย ซึ่งก็ช่วยไม่ได้นะคะ เพราะจุดประสงค์ในการใช้เค้าเป็น Massage Mask ซึ่งอาจต้องมีส่วนผสมที่มีความมันมากกว่าผลิตภัณฑ์อื่น เพื่อให้นวดได้ลื่นมือ (ระหว่างรอ 15 นาที อาจจะรู้สึกไม่สบายหน้าเท่ามาส์กตัวอื่นเท่านั้นเอง)

สรุปการทดสอบเนื้อผลิตภัณฑ์ดังนี้ค่ะ

ความเข้มข้นของเนื้อผลิตภัณฑ์: Tomatox > Moritaya > White Me Up > Aqua Label

เกลี่ยง่าย ซึมไว:Aqua Label > White Me Up > Moritaya > Tomatox

ความรู้สึกเหนอะหนะขณะใช้:Tomatox > Aqua Label > Moritaya > White Me Up

--- ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ค่ะ ---


PkoPko

PkoPko

ผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่มีใจรักในเครื่องสำอาง เเละการท่องเที่ยว

FULL PROFILE