Review ครั้งแรก ของที่ชอบใช้แล้วชอบ

11 12


สวัสดีค่ะ นี่เป็นการ Review ครั้งแรก สำหรับเมคอัพและของใช้ความงามอื่นๆ ที่เราชอบที่สุด  ส่วนใหญ่จะเป็นของที่ใช้มานานแล้ว และมีบางอย่างที่เพิ่งใช้ได้ไม่นาน มีทั้งพวก Drugstore แล High-end รวมๆกันไปค่ะ เลือกจากกรุโต๊ะเครื่องแป้ง เอาที่เราชอบใช้มากที่สุด และคุ้มค่าแก่การใช้งานค่ะ

นี่คือเมคอัพทั้งหมดค่ะ ถ้าใครสนใจตัวไหนก็ comment ต่อด้านล่างนะคะ
เครื่องสำอางค์ทั้งหมด ซื้อจากฟินแลนด์นะคะ บางตัวอาจจะะหาซื้อยาก หรือไม่ได้นำเข้า จำหน่ายในประเทศไทย ส่วนเรื่องราคาในเงินไทย เราขอข้ามแล้วกันเนอะ เนื่องจากสกุลเงินที่ต่างกัน คิดเป็นเงินไทย ราคาอาจผิดเพี้ยนได้ค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัวยด้วยนะคะ ชาวจีบัน :)
 

*ถ้ารีวิวบางอย่างผิดพลาดในประการใด ขออภัยล่วงหน้านะคะ ติชมมาได้ค่ะ จะได้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุง รีวิวในครั้งต่อไป ขอบคุณค่ะ

ได้เวลานำเหนอแล้ว แท่นแท่นแท้นนนน ไปชมกันเลยค่ะ

 
 
เริ่มจากรองพื้น กับ ไพร์เมอร์ กันเลยค่ะ

1. Yves Saint Laurent Youth Liberator Serum Foundation #B60
ขึ้นชื่อ รองพื้น YSL ทีไร กระแสเค้าจะมาแรงตลอด รุ่นนี้เป็นสูตรที่มีเซรั่ม Forever Youth Liberator ขวดสีม่วง เราชอบตัวนี้ งานผิวฉ่ำๆ ส่วนตัวเราไม่ใช่สายแมทค่ะ ชอบแนวดิวอี้ซะมากกว่า ที่สำคัญเราชอบตรงที่มันมีส่วนผสมของเซรั่ม เหมือนเป็นทั้งรองพื้นที่มีส่วนของเซรั่มบำรุงผิวไปด้วยในตัว สำหรับสภาพผิวผสมอย่างเราถือว่าเอาอยู่ค่ะ

การปกปิด: อยู่ในขั้นน้อยไปจนถึงปานกลางค่ะ
 
2. Bobbi Brown Skin Foundation SPF 15 #Warm Honey 5.5
รองพื้นตัวโปรดของเรา สีเป๊ะกับผิวหน้าเรา ตัวนี้เอาอยู่ทั้งวันค่ะ เราใช้แล้วหน้าไม่หมอง ใช้ควบคู่กับแป้งของเค้า จะดีมากค่ะ เนิ้อเบาเกลี่ยง่าย ที่สำคัญมันจะหมด เราต้องเปิดฝา ใช้แปรงสะอาดเขลี่ยออกมาค่ะ55

การปกปิด: ตัวนี้ไม่เน้นการปกปิดค่ะ เนื้อค่อนข้างเบามาก เน้นงานเผยผิว ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผิวหน้าที่ไม่ต้องการ การปกปิด
 
3. Diorskin Star Foundation #040
มาถึงตัวนี้กันบ้าง ตัวใหม่ล่าสุดจากตระกูล ดิออร์ กระแสแรงกระหน่ำมากในปีนี้ มาพร้อมกับฟองน้ำ Backstage Blender สีดำ (ในรูปเลขที่6ค่ะ) เราใช้ควบคู่กันฟองน้ำของเค้า เนื้อรองพื้นกระจายแสง เกลี่ยง่าย ทาแล้วรู้สึกไม่หนักหน้า เราใช้เพียวๆ ไม่ลง primer ไม่เป็นคราบ สีไม่ดรอปลงระหว่างวันด้วยค่ะ นับว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนมาก

การปกปิด:  อยู่ในระดับกลางค่ะ ไม่ตกร่อง เกลี่ยเสร็จรองพื้นจะเซ็ตตัวไวค่ะ

4.The Body Shop All-in-One InstaBlur
ตัวนี้ ได้มาตอน ที่เค้าเซลล์ทั้งร้าน -20% ค่ะ ช่วงหน้าร้อน ทีนี่เวลาร้อน ก็ร้อนแบบแสบผิว ช่วงนั้นร้อนจนหน้ามัน บวกกับเรามีบัตรสมาชิก ของเค้าพอดี เลยต้องหาไว้แก้ขัด ไปชั่วคราว สำหรับเรา ตัวนี่ เหมาะสำหรับสาวผิวมันค่ะ เราพบว่า พอพ้นช่วงหน้าร้อน มาทาอีกที หน้าดูแมท ปกปิดรูขุมขน ได้แน่นดีค่ะ

แต่ข้อเสียของเจ้าตัวนี้คือ เวลาเกลี่ยแล้วมันจะเป็นขุย แต่ให้เวลาเค้าสักนิด พอมันเริ่มจะแมท มันจะเป็นเซ็ตตัวกับผิวได้ดี สำหรับใครที่ต้องการคุมความมัน ปกปิดรูขุมขน แล้วที่สำคัญกำลังมองหา primer ที่ราคาปานกลาง ไม่แพงมาก ตัวนี้อาจเป็นทางเลือกหนึ่งค่ะ

5.Dior Glow Maximizer Light Boosting Primer
ไพรเมอร์ เนื้อบางเบา เม็ดชิมเมอร์เหลือบสีทองเนื้อละเอียด เราชอบเอาไปผสมในรองพื้นค่ะ บีบหยดเดียวพอค่ะ หรือ เอาไปแต้มเป็นไฮไลท์ตรงโหนกแก้ม และตรง cupid’s bow บีบแค่นิดเดียว แตะเบาๆ ก็สวยค่ะ glow สมชื่อมาก ใช้จนสังเกตุได้ มันใกล้จะหมดแล้ว ถึงจะให้ลุค glow ก็จริง แต่มันไม่ดูวาววิ้งจนเกินไปค่ะ

6. Dior Backstage Blender Fluid Foundation Sponge
ฟองน้ำไข่ เนื้อนุ่มนิ่มแต่แน่น เราชอบตรงที่เกลี่ยตามร่องจมูก มุมปาก ได้เนียนดีค่ะ ทำความสะอาดแห้งง่ายค่ะ เราไม่เคยใช้ของ beauty blender นะค่ะ เลยไม่รู้ตัวไหนดีกว่าตัวไหน แต่ที่รู้ๆราคาสูสีใกล้เคียงกันมาก
 
7. MAC 187SE Duo Fibre Brush
เป็นแปรงด้ามสั้น มาในชุด Holiday Collection ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ ใช้งานถนัดมือดีค่ะ พกพาก็สะดวก

 
 
ต่อไป... มาต่อกันด้วย แป้ง + บรอนเซอร์ :)


 
 
 
 
 
1. Chanel Les Beiges - Healthy Glow Sheer Powder N°30
อยากจะสารภาพว่า ไปตามพี่โมเม ไอ้เราก็เลยพาเพลิน ไปตำไปครอบครองมาจนได้ บางเบาดีค่ะ พอกระทบแสง หน้าดูวิ้งๆหน่อยนึง ตัวนี้ไม่ปกปิดเลยค่ะ งานเผยผิวล้วนๆ ใช้จนหมดแล้วค่ะตัวนี้ ใครที่มีสภาพผิวมันหรือต้องการปกปิด อาจมองข้ามได้เลยค่ะ
 
2. Bobbi Brown Sheer Finish Pressed Powder #Soft Honey 8
ชอบจนใช้มาได้เป็นตลับที่ 2 ค่ะ โชคดีวันนั้นลด 10% บวกกับเราอยากได้พอดี มันเลยต้องโดน555 แป้งเนื้อบางเบาแต่ปกปิดได้ดีค่ะ ใช้คู่กับรองพื้น Skin foundation ของเค้า แล้วยิ่งฟิน

3. TheBalm Bahama Mama Bronzer
ชอบมาก สีสวย เอามาทำเฉดดิ้ง ติดทน ได้ลุดผิวน้ำผึ้ง บ่มแดดใช้ ไฮไลท์จมูก ใช้แล้วจมูกเป็นสันสวยมากเลยคะ (งานจมูก งานดั้งใครว่าไม่สำคัญ55)
 
4. Diorskin Nude Tan#006
บรอนเซอร์ เนื้อแมทเข้ากับ สีของผิวหน้าเราพอดี ชอบตรงไม่มีชิมเมอร์ วิ้งๆให้กวนใจ เอามาคอนทัวร์ งามค่ะ!ใช้แล้วให้ความเป็นมิติ (แต่ไม่ลี้ลับนะคะ)

5. Helena Rubinstein Illumination Loose Powder #02 Medium
ยี่ห้อนี้เรานึกถึง เดมี มัวร์ กับมาสคาร่าลายเสือ... ตัวเนื้อแป้งเป็นแป้งฝุ่นบางเบา ทาแล้วกระทบแสง สียิ่งดูนวลๆหน้าผ่องๆค่ะ
 
6. Bobbi Brown Bronzing Powder #Deep
สุดยอดปรมาจารย์ บรอนเซอร์ เลิฟมากตัวนี้ ปัดช่วงขากรรไกรแนวไรผมของหน้าผาก ทั้งสองข้าง และไล้สันจมูก โครงหน้าได้มิติที่ดูสวยค่ะ (แต่ไม่ลี้ลับ)
เป็นอะไร กับ รายการ
 
 
มิติลี้ลับ555

 
ชูแว้บ ชูแว้บ
 
 
 
 


 
มาต่อกันด้วย พาเล็ทต์ +อายแชโดว์ +บรัชออน+แป้งเม็ดตลับ +แปรงแต่งตา
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
 
1. Dior Holiday Couture Creations Palette Christmas Edition 2014
เริ่มจาก ดิออร์ ค่ะ พาเล็ตท์ งานปัง อลังการ ปาทังก้า จริงๆค่ะ มีตั้งแต่ แป้งไฮไลท์ชิมเมอร์ บรัชออนสีชมพูระเรื่อ อายแชโดว์ 6 สี ตามมาด้วยลิปกลอส และลิปสีนู้ดอ่อนๆ ส่วนตัวช่วงนี้เราใช้ แทบทุกวัน ที่ชอบที่สุด คงเป็น บรัชออน สีน้ำตาลเหลือบทอง และลิปนู้ด ทาเดี่ยวสีอาจจะไม่ค่อยออก แต่เอาไปมิกซ์กับลิปสีอื่น ก็ไม่เลวค่ะ เราเอาไปมิกซ์ กับลิปสติก Tom Ford สี Spanish Pink ฟินมากค่ะ สีสวยจนคนที่ทำงานทัก

ส่วนอายแชโดว์ เล่นกับไฟ กระทบสีสวย วาววับมากละเอียดติดทนนาน สีแน่นด้วย เราว่าคุ้มนะคะ ในพาเล็ตท์ ได้ทั้ง ไฮไลท์ ปัดแก้ม สีทาตา ลิปอีก 2 สี แปรงเล็กๆมาอีก สามอัน นับเป็นราคา เงินยูโร จากร้าน Stockmann ขาย 87,90 แต่ตอนซื้อ เรามีคูปอง ลด 10 ยูโร เหลือ 77,90 แล้วได้ sample เบสมาสคาร่า มาสคาร่า แล้วก็ครีมเซรั่ม ของเค้าแถมมาอีก BA สาวฝรั่งใจดีมากๆค่ะ ค่อยๆพูด ค่อยๆอธิบาย


 
อดใจไม่ไหว ต้องมา...
 
 
 
 

 
 
2. Urban Decay Naked Palette 1
เป็นที่คุ้นเคย รู้จัก เราๆเห็นกันมาจนชินละ เราชอบ รุ่นหนึ่ง เพราะโดยปกติ เราชอบแต่งตาสีทองบรอนซ์ตัดกับสีน้ำตาล จัดว่าเป็นอายแชโดว์คุณภาพดีมากค่ะ Urban Decay เป็นเครื่องสำอางค์อยู่ในประเภท cruelty-free อันนี้น้องสาวเราซื้อส่งมาให้จากเมืองไทยค่ะ :)
 
3. Golden Rose Wet&Dry Eyeshadow #03
เครื่องสำอางค์สัญชาติตุรกี ที่น่าสนใจค่ะ คุณภาพเกินราคาสบายกระเป๋า สีติดทน งามค่ะ เราใช้โดยไม่ทาไพร์เมอร์ สีไม่ตกหล่นระหว่างวันค่ะ ตัวนี้เพื่อนเรา ให้มาค่ะ นางซื้อ 1แล้วแถม 1เลยมาแบ่งให้เราค่ะ :)
 
4. MAC Small Eye Shadow  #Amber Lights
ใช้บ่อยมากที่สุดในบรรดา อายแชโดว์ ทั้งหมดค่ะ สีทองบรอนซ์ พิกเม้นท์ แน่นๆ จุ่มกับแปรงหน่อยเดียว ก็ติดแล้วค่ะ

5.Urban Decay Eyeshadow Primer Potion
เราใช้แค่ตัวนี้ตัวเดียวค่ะ ใช้บ้างไม่ใช้บ้างค่ะ ทาเฉพาะเวลาออกไปเที่ยวไปทำงานนานๆหลายชั่วโมง ต้องการความทน ความอินเทนซ์ของสีมากขึ้น อาจต้องพึ่งใบบุญเจ้าตัวนี้ค่ะ

6. Make Up Store Blush #lush
บรัชออนสีส้ม coral อมชมพูนิดๆ ปัดได้ทั้งหน้าร้อน หน้าหนาว ปัดนิดเดียวสีติดแก้มแล้ว
ใช้มานานกว่าปีครึ่ง จนที่ปิดมันหลุด อย่างที่เห็นในรูปค่ะ

7. Lancome Blush Subtil Powder Blush #Peche Intense
บรัชออนสีพีช เหลือบชิมเมอร์อ่อนๆค่ะ ปัดแล้วได้ลุคโกลว์ๆ
 
8. Guerlain Meteorites Perles d'Etoiles Illuminating Pearls
เกอแลง ประเภท finish powder รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เพิ่งออกใหม่ ใน คอลเลคชั่น ฮอลิเดย์ ค่ะ แป้งไข่มุกอัดเม็ด ตัวนี้ลงเป็นตัวสุดท้าย ในขั้นตอนการแต่งหน้า ทำให้หน้าดูนัวๆวิ้งๆ ราวกับว่าเมคอัพเบาบางลง ในกระปุกมีเม็ดสี ทั้งหมด5 สี สีทอง เบจ สีบรอนซ์ แดง และชมพูค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนมาก พัฟที่เค้าให้มาในกระปุก นุ่มนิ่มใช้ง่ายค่ะ
 
9. แปรงปัดอายแชโดว์
  • MAC #286SE แปรงด้ามสั้น อยู่ในคอลเลคชั่น ฮอลิเดย์ เมื่อปีที่แล้ว ขนนิ่ม
  • H&M แปรงคัดเบ้าตา ราคาประหยัดสบายกระเป๋า แปรงขนแน่น เกลี่ยง่ายค่ะ
  • Duroy แปรงสัญชาติฟินแลนด์
     
     
     
     
    เราใช้ไฮไลท์โหนกคิ้ว
  • Loreal Paris ได้แถมมาค่ะ เป็นแปรงคอนซีลเลอร์ ส่วนตัวเราไม่ใช้ คอนซีเลอร์ แต่เราเอามา ใช้ไล้เบลนสีใต้ตา
  • M.A.C #224 แปรงเบลนดิ้งบรัช ฟุ้งๆ กระจาย
 
10. Le Métier de Beauté Powder Brush เลอ เมติเย เด บาวเต้?? ใครเทพภาษาฝรั่งเศส ช่วยทีค่ะ
 
 
 
 

เป็นแปรงที่เกลี่ยง่าย ทำจากขนแพะ 100% นุ่มนิ่ม fluffy ดุ๊กดิ๊ก (เอ๊ะยังไง55) เราใช้กับแป้งเกอแลง และ ใช้ในการปัดแก้มค่ะ
 

ต่อไปเป็นแผนก คิ้ว+ขนตา+อายไลเนอร์
 
 
 
 
 
 
 
 

 
1. Max Factor Eyebrow Pencil #Ebony
ดินสอเขียนคิ้ว เขียนง่ายสีเข้ม ใช้บ่อยมากตอนที่เราย้อมผมสีเข้ม แต่ตอนนี้ไม่ค่อยหยิบใช้ค่ะ เนื่องจากตอนนี้ย้อมผมแบบ ombre เลยให้เค้าพักเบรคไปก่อน
 
2. Anastasia Beverly Hills Dipbrow Pomade  #Chocolate
เราซื้อ
 
 
 
 
มาจากในเว็บ net-a- porter แต่ต่อนนี้ ที่ฟินแลนด์ ร้าน Kicks มีขายค่ะ (อยากจะบ่นว่า รอ contour kit มาหลายเดือนแล้วน่ะ ขาดตลาดอะไรขนาดนั้น!) น่าเสียดายค่ะ ตัวนี้ไม่มีขายในเมืองไทย ราคาไม่ถึงพันบาท ที่สำคัญมันหมดยาก ใช้ได้เป็นปีๆสบายๆค่ะ

ข้อดีของเจ้าตัวนี้คือ ติดทนมากค่ะ  แต่ต้องรอให้เซ็ตตัวให้แห้งสักพักก่อนค่ะ เนื้อเจลนิ่มเขียนง่ายมากค่ะ ใช้แปรงคิ้วหัวตัดแตะหน่อยเดียว คุ้มค่ามาก และคงใช้ได้ไปอีกนาน ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ ได้เยี่ยมค่ะ ขนาดเข้าห้องอบซาวน่า สียังไม่ลอก ละลายเลยค่ะ (อันนี้ลองมาแล้วกับตัว) มีเถอะค่ะ ตัวนี้ เราแนะนำอยากใจจริง
 
3. Maybelline Brow Drama Sculpting Mascara #Dark Brown
มาสคาร่าปัดคิ้ว สีไม่เข้มจนเกินไป ขนคิ้วเรียงเป็นระเบียบตัวสวยงาม

4. Anastasia Beverly Hills Angled Cut Brow Brush #15
แปรงสำหรับคิ้ว หัวตัด ลากเส้นได้สวยงาม ส่วนแปรง spoolie เราไม่มีค่ะ เราเอา แปรงปัดมาสคาร่าเล็ก ทำความสะอาดล้างน้ำให้สะอาด เอามาใช้แทนแปรง spoolie ได้ดีค่ะ ไม่ต้องไปเสียสตางค์ซื้อมาเพิ่ม
 
5. Anastasia Beverly Hills Matte Highlighter #Camille
ปากกาไฮไลท์ ช่วงใต้คิ้ว โหนกคิ้ว ช่วย lift คิ้วที่เราเขียนสร้างขึ้น ทำให้ดูเป็นมิติ ชัดมากขึ้นค่ะ เนื้อครีมนิ่ม เกลี่ยง่าย ใช้นิดเดียว สีติดทนทั้งวันค่ะ ส่วนถ้าใครสนใจ แต่อยากได้ที่ไม่แพงมาก แนะนำของ Nyx ค่ะ ถูกกว่า คุณภาพดีพอๆกัน หาซื้อได้ในเมืองไทยค่ะ

6. L'Oreal Paris Lumi Magique Highlighter #2
ปากกา ไฮไลท์ จริงๆแล้วมันไม่ควรอยู่ในหมวดนี้น่ะ เราแทนคอนซีลเลอร์ ใช้ไฮไลท์ช่วงสันจมูก ใต้ริมฝีปาก ใช้ในการคอนทัวร์ ก่อนหน้านี้ เราชอบของ YSL Touche Éclat ที่เป็นปากกาสีทอง แต่มาพบว่า ตัวนี้นอกจากราคาจะถูกกว่าแล้ว คุณภาพดีสูสีกันเลย ตั้งแต่นั้นมา เลยใช้แต่ตัวนี้ค่ะ แท่งนี้ใช้เป็นแท่งที่สองแล้วค่ะ

7. Lumene Raspberry Miracle Eyeliner
ปากกาอายไลเนอร์ จาก ลูเมเน Lumene เป็นเครื่องสำอางค์ ฟินแลนด์ ตัวนี้เราได้มาฟรีค่ะ ส่วนตัว จะไปว่าไปแล้ว ยังหาปากกากรีดตา ที่ดีที่สุดแล้ว ยังหาไม่เจอค่ะ แต่เอาตามเท่าที่เรามีอยู่ในกรุ ตัวนี้มันเยี่ยมสุดแล้วค่ะ ปากกาด้ามจับถนัดมือ ปากกาเป็นปากกาหัวเล็ก ลากเส้นได้ง่าย ที่สำคัญคือกันน้ำ กันหิมะได้สบายค่ะ ไม่มีแพนด้ามาทักให้จิตตกค่ะ
 
8. ที่ดัดขนตา จาก Shisedo
ใช้มาสองปีแล้วค่ะตัวนี้ เราชอบตรงที่เวลาดัด มันเข้าใกล้โคนเส้น ขนตา เวลาไม่รู้สึกเจ็บค่ะ ขนตาจากที่ยาวอยู่แล้ว พอดัดเรียงเป็นเส้นงอนสวยงามค่ะ ส่วนยางเราใช้ของ ชิเซโด เราจะเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือนค่ะ


 
ถึงตา มาสคาร่า กันบ้างค่ะ
 
 
 
 
 

 
 
1-2. Dejavu Fiberwig
มาสคาร่าไฟเบอร์ สองตัวนี้ มันมาเป็นแบบกิ๊ฟเซ็ท holiday  ตัวสีแดงอ้วนเน้นวอลลุ่ม ส่วนตัวผอมๆ เน้นเรื่องความยาว ทำให้ขนตายาวขึ้น ปัดแล้วขนตายาวเป็นธรรมชาติ แต่ต้องปัดซ้ำๆ หลายๆ รอบ ต้องใช้ความอดทนในการปัดนะคะ ถ้าอยากให้ยาวมากๆ โดยส่วนตัวเป็นคนขนตายาวอยุ่แล้ว เลยปัดแค่2รอบค่ะ  รุ่นนี้ ไม่ได้ทำให้ขนตาหนา แค่ขึ้นยาวเฉยๆค่ะ ใช้แล้วเพื่อนทักว่าต่อขนตามาเหรอ55 ชอบตรงที่ล้างออกด้วยน้ำอุ่นง่ายดี ไม่ต้องใช้รีมูฟเวอร์ค่ะ
 
3. L'Oreal Mega Volume Miss Manga
ปัดแล้วตาดูหวาน สวยมากๆ ไม่จับเป็นก้อน ดูโตๆ ขนตาหนาขึ้น ปัดตรงขนตาล่าง แลดูเหมือนติดขนตาปลอมค่ะ

4. DiorShow Maximizer Lash Plumping Serum
เราใช้ตัวนี้ลงก่อน แล้วปัดมาสคาร่าตาม ขนตางอนอยู่ได้นานค่ะ ที่สำคัญบำรุงขนตา ด้วยค่ะ

5. Diorshow Iconic Mascara
ตัวนี้เน้นความยาว ไม่เน้นหนาเท่าไร ไม่เป็นก้อน ปัดขนตาล่าง เรียงเป็นเส้นสวย ปลื้มมากกกก ><

 
 
มาถึง แผนก ลิปสติกสีต่างๆกันบ้าง
 
 
 
 
 

 


Swatch ออกมาเป็นงี้
 

 
1.  Tom Ford Lip Color #01 Spanish Pink
ลิปสติก ลุงทอม อันเลอค่า (เพลง ทอมฟอร์ด ของป๋า เจย์ ซี ตื้ดเข้ามาในหัวทันใด I don’t pop molly, I rock Tom Ford เย้แม๊นนนน 55) จากในกรุลิปสติก 21 แท่ง รักตัวนี้สุดแล้ว อันนี้พี่ที่รู้จักกันให้เป็นของขวัญวันเกิดค่ะ แท่งนี้เป็นแท่งที่สองค่ะ ที่เรามีจากลุงทอม คิดนานมากระหว่าง Tom Ford สี  true coral กับ Spanish pink แต่เลือก สแปนิช พิ้งค์ เพราะทาบ่อย เนื้อครีมทาแล้วไม่มีงานขุย สีนู้ดสวย ดูไม่ป่วยค่ะ

2. L'Oreal Paris Color Riche #Orange Power
สีส้ม(ชานมเย็น)นู้ด เนื้อแน่น สีติดทนในระดับกลาง อันนี้แม่ส่งให้จากไทยค่ะ อืม… ของฟรี มีแต่คนให้555

3. MAC Cosmetics #Spirit
เราบ้ากับการแต่งหน้า ของ Kylie Jenner เราชอบสีปากนางมาก ชอบปากอิ่มๆของนางด้วยยยย เป็นลิปสีแมทสวย ตอนไปดู สี Whirl หมด เลยได้สีนี้แทน รวมๆแล้ว ชอบค่ะ เราใช้ควบคู่ กับ MAC สี Spice เริ่ดดดด!

4. MAC Cosmetics #Russian Red
ลิปสติกสีแดง เนื้อแมท ใช้มาเป็นแท่งที่ 3 แล้ว สำหรับสีนี้ pigment เยอะสะใจเราดี สีแดงที่เราคิดว่าเข้ากับ ทุกสีผิว แต่ถ้าเป็นคนริมฝีปากแห้ง อาจจะไม่ชอบค่ะ อาจเป็นรอยขุยได้

5. Rimmel London #210 Pink Fame
สีชมพูนู้ดบาร์บี้ เกลี่ยง่าย ติดทน ราคาไม่แพงด้วยค่ะ สองปีแล้วยังไม่หมดสักที ยี่ห้อนี่ มีหลายตัวที่เด็ดๆนะเราว่า

6. YSL Rouge Pur Couture #36
ลิปสติกสีพีช อมนู้ด เนื้อนิ่ม สีชัดกลบสีปาก ทาแล้วปากไม่แห้ง เนื้อสีชัดเจนค่ะ
 
 
สาดแฟลช ชะแว้บๆ
 


ต่อไปเป็นลิปไลเนอร์+ลิปกลอส จ้า
 

 

Swatch ออกมาเป็นอย่างนี้

 
 
 
1. Rimmel London #050 Tiramisu
สีม่วงกะปิอมน้ำตาลหน่อย ช่วงนี้เราบ้าพวกลิปสี ยุค 90s

2. MAC Cosmetics #Spice
ดินสอเขียนปาก เนื้อแมท สีงาม ติดทนนาน ตัวนี้ เค้าว่ากันว่า เป็นสีที่มีมานาน จนทุกวันนี้ ยิ่งช่วงปี 2002 อเมริกา เค้าขาดตลาด ทำไม่ทันไปพักนึง

3. MAC Cosmetics #Redd
ลิปไลเนอร์สีแดงแสบๆ ทาเดี่ยวๆ ก็เริ่ดค่ะ เราเป็นคนปากไม่แห้ง ตัวนี้เดี่ยวๆ เอาอยู่ค่ะ

4.  Dior Addict Lip Maximizer #001
ลิปกลอสผสมคอลลาเจน ช่วยบำรุงริมฝีปากให้อวบอิ่ม ทาก่อนนอน ตื่นมา ปากนิ่มขึ้นค่ะ BA เคยแนะนำ ให้ทาก่อนนอน ถ้าต้องการให้ปากอวบอิ่ม และนิ่มขึ้น

5. Guerlain KissKiss Gloss #847
ลิปกลอส สีน้าตาลเหลือบชมพู มีชิมเมอร์วิ้งๆหน่อย ทาแล้วอาจจะเหนียวปากหน่อยนึง แต่สีมันสวย ฉ่ำๆ ดีค่ะ

6. DuWop Lip Venom
เป็นลิปกลอสประเภท Plumping Gloss  ช่วยทำให้ปากดูอวบขึ้น เราเป็นคนชอบให้ปากดูอิ่มๆ ทาตอนแรกๆ ความรู้สึกยิบๆ แต่สักพัก โอ้ ปากขุ่นแม่โจลี่ มาเข้าสิงดั๊นหรือนี่55

7. YSL Glossy Stain #10
กลอสเนื้อละเอียด เลเยอร์ แรก ทาออกมาจะเป็นเนื้อลิปสติก ถ้าอยากได้แบบกลอส ทาไปอีกเป็นชั้นที่สองค่ะ

 
เปิดแฟลชกันบ้างค่ะ
 
 
 
 

 

ถัดมาเป็น ลิปบำรุงริมฝีปากค่ะ
 
 
 
 
 

 
 
1. Maybelline Bayby Lips  #Cherry Me
ลิปชุ่มชื้นไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นสีชมพูอมส้มหน่อยๆ เป็นลิปที่ราคาน่ารักน่าคบ ขายดิบขายดีเหลือเกิน เด็กนักเรียนที่นี่ซื้อกันให้ซัดเลย ยิ่งตอนนี้มันมีเป็นเซ็ท ช่วงวันหยุด เราเห็นพ่อแม่ ซื้อตัวนี้ให้ลูกๆ เป็นของขวัญค่ะ

2. Burt's Bees Rejuvenating Lip Balm #Acai Berry
ปกติไม่เราเป็นคน มีปัญหาเรื่องปากแห้ง ริมฝีปากแตก เพราะเราชอบดื่มน้ำบ่อยๆ พวกลิปมัน เราชอบวางๆ ใกล้ๆโต๊ะคอม โต๊ะโซฟา วางคู่กับขวดน้ำ เวลาเหลือบๆหันไปเจอ จะได้เอามาทา หอมส่วนลิปมันตัวนี้ผลไม้ ส่วนผสมธรรมชาติสารพัด แบรนด์นี้ยังเคลมอีกว่า ไม่ทำการทดลองกับสัตว์ค่ะ บรรจุภัณฑ์ รีไซด์เคิลได้ ตัวนี้ประทับใจมากค่ะ กลิ่นหอมดี ทาแล้วปากไม่มันมาก แท่งนึงใช้ได้ เราใช้ได้ 7-8 เดือน

3. Blistex Medilip Lip Balm
ชอบมาก แท่งนี้ ตัวนี้เราพกไว้ในกระเป๋าตลอดค่ะ แต่สาวๆหนุ่มๆที่ไม่ชอบ เปเปอร์มิ้นท์ ทาแล้วเย็นๆ อาจจะไม่ชอบ แต่เนื้อลิปมันแบบนุ่ม ลื่นเวลาทาไม่สะดุด 

4. Dior Addict Lip Glow
เราได้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เราได้ Gift card ประมาณ 200ยูโร ช้อปพวกความงาม จนมันมือเลยค่ะคุณขา… ตัวนี้ใช้แล้วสีออกชมพูๆ ระเรื่อ เนื้อนุ่มแบบครีมมี่ ให้ความ ชุ่มชื้นสีชมพูออกวาวๆหน่อย วันไหนเรารีบๆ ทาตัวนี้ออกจากบ้านเลยค่ะ

5. Mentholatum Lip Ice Sheer Color #Strawberry
อันนี้แม่เราส่งมาให้ค่ะ เราชอบตรงที่สีมันสวย ทาแล้วเหมือนเป็นคนมีริมฝีปากชมพูธรรมชาติ เราชอบทาในบ้าน วางใกล้ๆคอม เวลาเหลือบไปเห็นจะได้เอามาทา

6. Elizabeth Arden Eight Hour Cream Nourishing Lip Balm
Elizabeth Arden สามัญประจำตัวจริง ดูจากขวดนี่คือหลักฐานผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน เค้าว่ากันว่า ขุ่นแม่ Beyonce เวลาไปทัวร์คอนเสริ์ต นางจะใช้ตัวนี้ทาปาก เราชอบใช้ตัวนี้ก่อนลงลิปสติก กับทาช่วงก่อนนอน ตื่นมา ปากนุ่ม เรารู้สึกพอใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ มันช่วยเรื่อง ทำให้ริมฝีปาก ไม่คล้ำ ด้วยค่ะ ตอนนี้มันเหลือแค่จิ้ดเดียว เอาไว้ช่วงหนาวๆ ติดลบ เกิน 10 องศา เราอาจจะต้องซื้อมาใช้อีกขวดค่ะ

 
 
 
 
 
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ เดี๋ยวแยกมาทำ กระทู้ Pt.2 ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและ ทุกๆความคิดเห็นค่ะ ไว้เจอกันกระทู้รีวิวตอนหน้าค่ะ ชาวจีบัน :)
 
 
 
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 


annabeg

annabeg

FULL PROFILE