อุธาหรณ์ หน้าพัง!!! ภาค2

11 20

จากกระทู้ก่อนหน้า ได้บอกถึงสาเหตุของการหน้าพังมาแล้วนะคะ

https://www.jeban.com/viewtopic.php?t=161258

 

คราวนี้เราจะมาเล่าถึงการรักษา ทุกอย่างเลยค่ะ 

ขอให้กระทู้ที่เขียนขึ้นนี้เป็นบทเรียน หรืออุธาหรณ์ให้สาวๆนะคะ 

และขอให้เราไม่ต้อพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ

 

เริ่มจากเรารักษาเป็นประจำอยู่แล้วที่คลินิคแห่งหนึ่งค่ะ หน้าดีค่ะ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆทั้งหลายแหล่

ต่อจากกระทู้ก่อนว่า เรารีบบึ่งไปหาหมอค่ะ คิวนานมากกกกกกกกกกกกกกกก

ก็ได้พบหมอ 2-3 นาที อย่างว่าคลินิคไม่มีเครื่องมืออะไรค่ะ หมอแค่ดูหน้าแล้วสั่งยาจบ กลับบ้าน

ซึ่งเมื่อก่อนเราก็ชอบการรักษาแบบนั้นเพราะ ถูกและไม่ต้องวุ่นวายมาคราวหลังมาก็แค่ซื้อยาอย่างเดียว

 

ช่วงนั้นปิดเทอมพอดีค่ะ เลยเก็บตัวไม่ออกจากบ้าน หมอให้ยาเป็นแป้งน้ำพอกหน้า 

หมอบอกว่าพอกไว้ตลอดเลยก็ได้ ไอ้เราก็อยู่บ้านทั้งวัน พอกไว้เลยค่ะล้างหน้าเช้าเย็น หลังล้างหน้าทายา ต่อด้วยพอกทำประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ

 

ก็มีเหตุการณ์จะต้องไปเที่ยว ต่างจังหวัดกับที่บ้านด้วยการนั่งรถไฟกับกลับค่ะ

เราก็คิดว่าหน้าเราดีแล้ว ส่องกระจกที่บ้านด้วยแสงหรืออะไรต่างๆ มันทำให้เราคิดว่าหน้าเราดีขึ้นแล้ว

 

เช้าวันไปเที่ยวก็แต่งหน้ากลบสิวมิดค่ะ ออกเดินทางๆไปเที่ยว 

ทุกคนทักเป็นเสียงเดียวว่า หน้าไปทำอะไรมา สิวเยอะขนาดนี้!!!

โดนทักตั้งแต่เช้าเราไม่กล้ามองหน้าใครเลยค่ะ เอากระจกมาส่องตลอดทางไป

แถมโดนลงหน้ายังเห่อขึ้นมาอีก ลูบหน้าแล้วอยากจะร้องไห้ค่ะ ทริปนั้นก้มหน้าตลอดทางค่ะ ไม่กล้ามองหน้าใครเลย

 

กลับมาบ้านแม่ถามว่า จะเปลี่ยนหมอไหม

ไอ้เราก็คิดว่าหน้าเราแพ้หนักอาจจะต้องใช้เวลาแถมหมอคนนี้ยังเคยรักษาเราหายตอนนั้นอีกด้วย

ตัดสินใจใช้ต่อค่ะ ก็พอกหน้าทำเป็นกิจวัตร ก็ไม่เห็นผลว่าดีขึ้นได้แต่หลอกตัวเองไปวันๆ

 

อารมณ์ตอนนั้น : ร้องไห้ตลอดเวลานึกถึงค่ะ ส่องกระจกไปร้องไห้ไป คิดถึงหน้าเดิมๆ ลูบหน้าก็ร้องไห้

สภาพจิตใจแย่มาก ถึงมากที่สุดค่ะ สิ่งที่อยู่เป็นเพื่อนเราคือ

น้องหมาที่น่ารัก แต่ไม่กล้าเอาหน้าไปคลุกคลี กลัวติดไรมา และโน๊ตบุค 1 เครื่องค่ะ เอาไว้ดูหนังฟังเพลง

เพื่อให้จิตใจตัวเองมีที่ยึดเหนี่ยว เวลาดูหนังจะได้ไม่ต้องคิดถึงหน้าตัวเองค่ะ

 

จนวันหนึ่งถึงวันเปิดเทอมค่ะ ก็ต้องไปเรียนที่ ต่างจังหวัดค่ะ

ก็ไปเรียน แล้วส่องกระจกดูหน้า ตกใจหน้าตัวเองค่ะ เพราะกระจกที่มหาลัยนั้นต่างกับที่บ้าน

เลยรู้ว่าหน้าเราไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเปิดเทอมก็แล้ว ต้องเจอเพื่อนอีกจะทำยังไงดี

 

ตัดสินใจโทรหาแม่ แล้วร้องไห้เลยค่ะ ว่าจะกลับบ้านจะเปลี่ยนหมอ

คืนนี้ที่มหาลัยไม่ได้นอนเลยค่ะ หารีวิวร้านหมอดีๆ ราคาไม่เกี่ยงค่ะ หาที่จะทำให้หาย

แต่กลับสภาพจิตใจแย่ลงไปอีกเพราะดันไปเจอโรคต่างๆที่รักษายากกับใบหน้า กลัวว่าจะเป็นโรคนั้นค่ะ

ตัดสินใจเจอที่นึงเป็นโรงพยาบาลเอกชนค่ะ (ขอไม่เอ่ยชื่อนะคะ เพราะไม่ได้รีวิวเพื่อโฆษณาแต่อย่างใดค่ะ)

 

มีรีวิวว่าดีมาก รักษาหายทุกราย เราก็โทรบอกแม่ว่าจะไปหาที่นั่น ขอเรียกว่า รพ.ก แล้วกันนะคะ 

ก็ไปได้พบคุณหมอผู้หญิงท่านหนึ่ง สวยมาก ใจดีอีกต่างหากค่ะ

 

ต่อไปจะเริ่มรีวิวการรักษาที่รพ.ก อย่างละเอียดนะคะ (เกริ่นมายาวมากกกก)

ครั้งแรกที่ไป : สภาพหน้าเยินมากๆค่ะ คุณหมอคงตกใจนิดหน่อย5555 

เราก็เล่าอาการให้ฟัง แล้วคุณหมอก็ใช้วิธีการใช้ไม้จิ้มฟันมั้งคะ ไม่ทันมอง สะกิดสิวที่หน้าไปตรวจค่ะ

ว่าแพ้อะไรยังไง แปปเดียวรู้ผลเลยค่ะ หมอบอกว่าเราเป็นผิวแพ้ระคายเคือง

อาจจะมาจากยาหมอคนเดิมที่พอกหน้าทั้งวันทั้งคืน และการแพ้เครื่องสำอางค์ค่ะ

ก็ได้ยามา และความสบายใจกลับมาค่ะ ว่าไม่ได้เป็นโรคอะไรอย่างที่คิดไว้ 

 

หมอนัด 5 วันมาค่ะ : หน้าเห่อน้อยลง แต่ยังมีสิวอักเสบ สิวทุดตัน สิวผด อยู่ค่ะ แต่ลูบหน้าแล้วรู้สึกเป็นหน้าค่ะ

เพราะก่อนหน้าที่รักษากับหมอที่คลินิคลูบหน้าแล้วแห้งผาก สากๆ ด้วยเหมือนหยุดหน้ามันไปเลยค่ะ

ก็เห็นสิวอักเสบชัดขึ้น (หมอบอก เหมือนมันถูกกดเอาไว้ข้างใน)ผิวหน้าเดิมเริ่มกลับมาหมอว่างั้นค่ะ

สเตปเดิม ก็ได้ยาแล้วกลับบ้านค่ะ

 

อาทิตย์สองค่ะ : หน้าไม่เห่อ มีสิวอักเสบ สิวอุดตันเหมือนเดิมค่ะ สิวผดลดลงนิดดดดดนึง คราวนี้ได้กดสิวค่ะ 

กดสิว เจ็บมากกกกกกกกกกกกกกกกก ร้องไห้คลอเลยค่ะ นานมากเพราะหลายเม็ดอยู่จัดเต็มค่ะ 

ออกมาส่องกระจก ช็อค! ค่ะ แดงเถือก เลือดซิบ โอ้ย หน้าฉัน แต่พอกลับบ้านมาล้างหน้า ลูบหน้าแล้วเรียบค่ะ 

ตกใจเลย เรียบลื่นขึ้นมากกกก 

 

อาทิตย์ที่สาม : มีสิวอักเสบเพิ่มขึ้นจากที่กดค่ะ คือว่ากดหายไปแล้ว มีมาใหม่ค่ะ มีสิวอุดตันเหมือนเดิม มีสิวผดลดลงอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญหน้านิ่มมากเลยค่ะ วันนี้กดสิวอีกเช่นเคยค่ะ ยังคงกดเจ็บและกดเยอะเหมือนเดิมค่ะ

ครั้งนี้หมอได้พูดถึงเรื่องเลเซอร์ค่ะ เพราะเรามีสิวอุดตันเยอะมาก กดไม่ออกต้องเลเซอร์ ไอ้คนก็ไม่มีความรู้เลยแล้วราคาก็ใช่ย่อยอยู่ เลยกลับมาบ้านหารีวิวการเลเซอร์สิวค่ะ จากที่อ่านไม่ค่อยมีใครพอใจในการรักษาเท่าไหร่ เพราะนอยด์และรอยจะตามมาค่ะ แต่เราตัดสินใจแล้วค่ะ เลเซอร์จัดไปเลยค่ะ

 

อาทิตย์ที่สี่ : ครั้งนี้มาเลเซอร์สิวอุดตันออกค่ะ หลังจากฟังราคาค่าใช้จ่าย ลมจับค่ะ เหยียบหมื่น แถมเรายังอยากเลเซอร์รอยแดงไปพร้อมกันเลย ราคาเลยสูงมากค่ะ ก็เป็นอันตกลงที่เลเซอร์สิว 150 จุด (หมอบอกว่าหน้าเราต้อง 200 จุด แต่เรางบไม่พอ) พร้อมเลเซอร์รอยแดงอีก 50 จุดค่ะ ตอนเลเซอร์นี่ไม่เจ็บเท่าไหร่นะคะ ไม่โป๊ะยาชาด้วย มีลงเย็นๆเป่าตลอดค่ะ แต่ที่จะทนไม่ไหวคือกลิ่นค่ะ เหม็นไหม้มาก ต้องคอยกลั้นหายใจ ต่อด้วยเลเซอร์รอยแดงต่อเลยค่ะ ตอนเลเซอร์รอยแดง เหมือนมีใครเอาหนังยางมาดีดที่หน้าเหมือนที่ใครเค้าว่าจริงๆค่ะ เจ็บนิดๆ แต่เหม็นไหม้เหมือนกันค่ะ เลเซอร์เสร็จก็ระบมนิดหน่อย ไปกดสิวต่อค่ะ หน้าแดงค่ะ แต่ก็พอๆกับกดสิวแหละนะ 

 

** ช่วงนี้พักหน้าค่ะ อยู่บ้านหยุดเรียน 1 อาทิตย์ เพราะเห็นว่าเค้าบอกว่า สะเก็ดจะหลุด แต่ที่ รพ.ก นี้ไม่บอกอะไรเราค่ะเราก็ งง ๆ ว่าจะมีสะเก็ดไหม แต่พนักงานบอกแค่ว่าใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่เราคงไปไม่ได้หรอกหน้าเยินขนาดนี้ ที่ใครเค้าว่านอยด์เราคิดว่า ไม่มีอะไรนอยด์ไปได้มากกว่านี้แล้วล่ะ นอยด์มากค่ะ พ่อแม่คอยถามตลอดว่าเมื่อไหร่จะหาย จะหายไหม ร้องไห้ทุกวันค่ะ แต่คิดว่าเป็นได้ก็หายได้ค่ะ **

 

อาทิตย์ที่ห้า : คิดว่าจะหมดแล้วค่ะ หมอบอกยังเหลือสิวอุดตันเหลืออยู่ ประมาณ 20 เปอร์เซนต์ เราก็โอเคทำเลย ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว เลเซอร์ไปอีก 50 จุด เป็นทั้งหมด 200 จุดพอดีค่ะหน้าเรา คราวนี้กดสิวน้อยลงค่ะ เจ็บน้อยลงด้วย จนเรา งง เอ๊ะเส็ดแล้วหรอ ในใจแอบดีใจว่าสิวฉันน้อยลงแล้ว

 

อาทิตย์ที่หก : หน้าเรียบค่ะ ไปเลเซอร์และฉีดสิวที่ขึ้นมาตลอดไม่รู้เพราะอะไรอีก ลูบหน้าแล้วเรียบมากจริงๆค่ะ แต่รอยเพียบเลย เลยมาเลเซอร์รอยแดงไป 30 จุดค่ะ แค่นี้

 

อาทิตย์ที่เจ็ด : หน้าเรียบมากค่ะ เลเซอร์รอยแดงไปอีกค่ะ เห็นหมอบอกว่า เลเซอร์ครั้งนึงลดไปได้ 20 เปอร์เซนต์ เราต้องเลเซอร์รอยแดงหลายครั้งเลยค่ะ

 

อาทิตย์ที่แปด : หน้าเรียบค่ะ ไม่มีสิวขึ้นมารบกวนแล้ว แต่ที่ยังมีคือรอยแดง ระหว่างนี้ไปเรียนก็กลบคอนซิลเลอร์ค่ะ สบายๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่กล้ากลบอะไรเลยค่ะ กลัวอุดตัน ตอนนี้แฮปปี้แล้ว เป็นแค่รอยกลบได้สบายมาก 

 

อาทิตย์ที่เก้าถึงปัจจุบัน : ยังคงไปเลเซอร์รอยแดงอยู่เรื่อยๆค่ะ แต่ไม่ทุกอาทิตย์นะคะ หน้าบางมากแล้ว โดนอะไรนิดหน่อยแดงไว แดงนานมากด้วยค่ะ แต่รอยแดงยังคงมีนิดหน่อย ประปรายค่ะ แต่งหน้ากลบได้ค่ะ สบายใจขึ้นเยอะค่ะ

หาที่นี่หายจริงๆ ดีใจสุดๆ แต่ราคาก็สุดยอดแค่ รักษาไปทั้งหมดเกือบ 3 หมื่นได้ค่ะ จ่ายทีละหน่อยๆ แต่มาแพงเลเซอร์ค่ะ ไม่ใช่จ่ายตู้มเดียวนะคะ 

 

ลืมบอกค่ะ ว่าเรารักษาสิวทั้งหมด 1 เดือนที่นี่ค่ะ และรักษารอย ประมาณ 2 เดือนได้แล้วค่ะ

ทั้งหมดประมาณ 3 เดือนค่ะ

ปล.เราบอกเป็นอาทิตย์เพื่อจะได้ไม่ งง ค่ะ เพราะบางทีหลังๆ หมอก็นัด 2 อาทิตย์ครั้งแบบนี้ค่ะ 

 

ตอนนี้ก็ทำได้เพียงรอเวลาให้รอยจางลง และเริ่มดูแลทดลองผลิตภัณฑ์ทุกชนิดก่อนใข้ค่ะ พยายามแต่งหน้าเฉพาะเวลาที่จำเป็น ไม่ใช้โบกทุกวันคงไม่ไหวแล้วค่ะ ดูแลสุขภาพจิตให้ดีๆค่ะ 

 

อยากฝากถึงสาวๆที่กำลังเป็นสิวหรือคิดว่ากำลังแพ้อะไรอยู่นะคะ อยากให้ไปหาหมอค่ะ ตอนแรกเราก็รักษาเองเอานู้นมาใช้นี่มาใช้ เป็นไงคะ หน้าพัง หน้าเยินสุดๆเลยค่ะ เพิ่งมาคิดได้ว่าน่าจะไปหาหมอตั้งแต่เป็นน้อยๆ จะได้ไม่เปลืองเงิน และหายไวหวานี้อีกด้วย มาคิดได้ตอนที่สายค่ะ 

 

แต่ที่สำคัญ เป็นได้ก็หายได้ค่ะ  หายช้ายังดีที่หายค่ะ 

 

รีวิวหน้าจะมารีวิวการแต่งหน้ากลบรอยเลเซอร์ค่ะ ไม่ใช่เลเซอร์สิวอุดตันนะคะอย่างงั้นไม่ควรค่ะ จะอุดตันไปใหญ่แต่สำหรับเลเซอร์ไม่มีแผล เช่นเลเซอร์รอยแดงแบบนี้ค่ะ กลบได้ค่ะ เจอกันรีวิวหน้าค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 


sarinyas,

sarinyas,

FULL PROFILE