ชีวิตหลังที่ได้คบกับผู้ชายคนหนึ่ง

29 26
วันนี้มีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เคยคบกับผู้ชายคนหนึ่งมา...

เรื่องราวมีอยู่ว่า..

เราเป็นนักศึกษาอยู่กำลังเรียนอยู่เอกดนตรีที่มหาลัยแห่งหนึ่งแล้วเราก็มีแฟนอยู่คนหนึ่ง
แน่นอนใช่ไหมค่ะเพื่อนๆ การที่เราเรียนดนตรี เราก็ต้องทำงานกลางคืน คือการเล่นดนตรี ซึ่งเราเป็นนักร้อง
เราร้องเพลงตามร้านอาหาร ร้านเหล้าเล็กๆ หรือเรียกดนตรีชนิดนี้ว่าโฟร์คซอง แน่นอนค่ะว่าการเป็นนักร้อง
ต้องเอนเตอร์เทรนลูกค้า เอาใจ เจ้าของร้าน เอาใจ ลูกค้า เพราะว่ามันคืออาชีพที่ต้องใช้การเอนเตอร์เทน
จึงทำให้มีคนมาชอบติดพันเยอะ แต่ก็รู้ว่าตัวเองมีแฟนอยู่แล้วไม่เคยคิดนอกใจค่ะ บางวันก็กลับดึกบ้าง ลูกค้า ชวนคุย
เจ้าของร้านชวนคุย บางทีมันก็ถือว่าเป็นมารยาทของนักดนตรี บางทีเราก็ไม่ได้อยากจะนั่งคุย แต่ บางทีมันติดพันจะหนีก็ไม่ได้ -*-แต่ในทุกๆคืนเราจะกลับไปหาแฟนตลอดแฟนเราอยู่ไกลกว่าที่พักของเราอีกแต่เราก็ยังไปหาเขา ไม่เคยเหลวไหล แต่ เรากับแฟน จะทะเลาะกันบ่อยมาก
เพราะว่า เขาว่า ว่าเราไม่มีเวลาให้เขาเอาแต่ทำงาน แต่เราก็มีเหตุผลของเราค่ะ เราทำงานเพราะเราเก็บตังอยากมีอนาคต บ้านเราไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง แล้วน้องสาวก็พักอยู่ด้วย ค่อนข้างต้องดูแลน้องช่วยพ่อแม่ที่อยู่ต่างจังหวัด เวลาทำงานกลับมาเหนื่อยๆก็จะได้แต่คำพูดที่ว่า "ทำไมกลับดึก เหลวไหล ทำไมร้านมันใช้ให้เธอไปทำงานหรือไง ทำไมไม่เลือกเวลาให้เช้าหน่อยคือรอบหัวค่ำ 1ทุ่ม เป็นต้นไป (แต่จะบอกว่าเราไม่สามารถเลือกได้เองค่ะร้านจะเป็นคนเลือกเวลาให้ถ้าเราเวลาชนหรือไม่ว่างเท่ากับเราหลุดออกจากงานทันที รายได้ก็จะหายไป)"ซึ่งเราได้อธิบายให้แฟนฟังแล้วแต่เขาก็ยังไม่ฟัง เขาก็เอาแต่ว่าเราหาว่าเราเป็นผู้หญิงดึกๆดื่นๆ และอีกคำนึงที่เขาเคยพูดกับเราคือผู้หญิงที่ทำงานตั้งแต่หลังเที่ยงคืนใครก็มองว่าไม่ดี เหมือนอี ... อย่างว่าอ่าค่ะ แล้วก็พูดรามไปถึงพ่อแม่ว่า จะบอกพ่อแม่เขายังไง
ถ้าวันใดวันนึงพ่อแม่เขาถามว่าเราทำงานอะไร เขาประมาณว่าเขาคงอายพ่อแม่ที่เราทำอาชีพแบบนี้ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจ
เราทำงานแบบนี้แล้วเราผิดอะไร เราหาเงิน รู้ว่าเป็นห่วงแต่เราไม่สามารถเลือกงานได้ เมื่อเราเรียนมาสายนี้แน่นอนว่าเราก็ต้องทำงานสายนี้มันไม่มีทางเลือกได้ เราคิดว่าถ้าเรายังพอมีแรงจะหาเงินด้วยตัวเองช่วงเวลาที่เราเรียนเราก็จะทำถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง แต่การเรียนก็ไม่เสียแน่นอน ถ้าในความคิดของเราตอนนี้คือ 1.คือการเรียน 2. คืองาน 3. คือแฟน
แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากแฟนมีแต่คำบั่นทอนเรา บางทีเราก็หมดกำลังใจจะทำงาน เราไม่ได้อยากจะทำให้เขาลำบากใจหรอกแต่มันคือหน้าที่และคือสิ่งที่เราชอบ เราเรียนดนตรีมาจะให้เราไปเป็นพนักงานแบงค์หรอ หรือว่าจะให้ไปเป็นลูกจ้างบริษัท ซึ่งเราเลือกเรียนด้านนี้เพราะชอบจริงๆแต่แฟนไม่เคยเข้าใจเรา เวลาเขาทำงานกลางวันเราไม่เคยไปก้าวก่ายเขาเลย เข้าใจว่าทำงานกลางวันมีแต่จะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงอย่ากลัวว่าเราจะเหงา เราให้เขาทำงานได้เต็มที่แต่พอเราทำงานกลางคืนกลับเอาแต่ว่าเราหาว่าเราไม่มีเวลา แต่อย่าลืมมันคือหน้าที่เรา เราต่างคนต่างมีเส้นทางของแต่ละคน จะมาบังคับบงการชีวิตเราได้อย่างไร ก็เลยกลายเป็นว่าเราเวลามีไม่ตรงกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วอะไรๆก็จะมาลงที่เรา หาว่าเราไม่มีเวลา หาว่าเราเล่นดนตรีกลางคืนดึกๆมันน่าเกลียด พ่อแม่เขาจะคิดยังไง แต่เลิกงานทีไรเราไปหาเขาทุกที แต่เขากลับไม่เคยมาหาเรา แล้วบอกไม่มีเวลารอให้เราไปหาแต่ฝ่ายเดียว เราพยายามจะแบ่งเวลาไปหาเขาให้ได้มากที่สุดบางทีมันก็เหนื่อยนะ ผลสุดท้ายเราก็รับหมดทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่อง เรียน เรื่อง งาน  เรื่องแฟน เรื่องครอบครัวแฟน บางทีมีงานเข้ามากระทันหันงานมันไม่แน่นอน เราก็อาจจะไม่ได้ไปหาบางวัน แทนที่จะเข้าใจแต่กลับพูดประชดว่า " เออ แล้วแต่เธอ ไปเหอะ " นี่คือต้องการให้เราทิ้งงานและหน้าที่ของเราเพื่อไปหาเขาใช่ปะ คือเราก็ไม่รู้ว่าเราเห็นแก่ตัวไหมกับการที่เราทำงานแบบนี้ คิดแล้วก็น้อยใจ เคลียปัญหาชีวิตตัวเองไม่จบทั้งๆที่เราอยากเจอเขาแทบตาย แต่เขากลับมองไม่เห็นค่า


และมีอีกเรื่องหนึ่งคือ หลังจากที่คบมาได้ 5เดือนกว่าๆ มีช่วงนึงที่เขาติดบาคาร่า(พนันในอินเตอร์เน็ต)ยิ่งเล่นยิ่งหนัก
เราก็เตือนเขาแล้ว สักพักมารู้อีกทีว่าเป็นหนี้คนอื่นอีกไปยืมมาใช้หนี้บาคาร่า พอเรารู้เราก็โกรธ เราก็โอเคให้อภัยเขาบอกว่าเขาจะไม่เล่นอีก พอ 2-3วันได้ คราวนี้มาใหม่อีกละ เปลี่ยนจากบาคาร่าไปแทงบอล แล้วเหตุผลที่แทงบอลของเขาคือ เพื่อเอาตังมาใช้หนี้พี่จากคนที่ยืมมา คือมันก็ไม่ได้แตกต่างกัน มันก็เหมือนการเล่นพนันต่อไปแค่เปลี่ยนชนิด แล้วขอบอกว่า เราได้ตังอาทิตย์ใช้ อาทิตละ 1300 บาทเองนอกนนั้นเราหาเอง ส่วนเขาได้อาทิตย์ละ 5000 เพื่อนๆลองลบดู ต่างกันกี่เท่า แต่กลับเอาไปลงกับอะไรไม่รู้ที่ไม่เกิดประโยช์ จะบอกก่อนว่าที่บ้านเขาเป็นคนมีฐานะมาก รวยเลยก็ว่าได้ ได้ตังใช้กินของดีๆ อยู่คอนโด แต่กลับเอาเงินไปทำอะไรก็ไม่รู้ ผิดกับเราที่บ้านเราไม่ค่อยมีตังเท่าไหร่ แต่พยายามจะลดค่าใช้จ่ายอะไรหาเองได้ก็หาเองไม่ขอเพิ่ม แล้วเรามาคิดดูอีกทีว่าถ้ายังงั้นทำไม แฟนเราไม่เก็บตัง จากการได้เงินอาทิตย์มาใช้หนี้ ถ้าเขาบอกว่าจะเลิกเล่นจริงๆ แต่กลับไปหาตังจากกันแทงบอลแทน เราคิดว่าทำไมหาตังกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ ไม่เคยจะมีความพยายามที่จะเก็บเองบ้าง เรื่องมันไม่จบแค่นี้ค่ะ รามมาเดือดร้อนเราอีก ขอยืมตัง ประจำหลังๆนี่บ่อย เดี๋ยว 500 เดี๋ยว 1000 ซึ้งกว่าเราจะหามาได้เล่นดนตรีแทบจะกะอักเลือดตาย แต่เขามีข้อดีอย่างหนึ่งคือยืมแล้วคืนตลอด แต่เราไม่ชอบไงค่ะที่มายืมบ่อยๆ แล้วเอาไปเสียกับอะไรที่ไม่เป็นเรื่องเป็นราว รู้สึกโกรธและโมโหมาก เพราะเราเป็นคนหาตังเองจะเข้าใจทุกอย่างค่ะ เราเตือนแล้วค่ะแต่เขาก็ไม่ฟัง บอกว่าอย่าเล่นเก็บตังเองสิ เงินอาทิตย์ก็ได้ตั้งเยอะ -*- วันนี้ก็เลยทะเลาะกันเรื่องยืมเงินอีกแล้วค่ะ ผลสุดท้ายเราทนไม่ไหวก็เลยเลิกเลย แล้วเราก็ไปปรึกษาพ่อแม่ว่า มีแฟนแบบนี้ควรจะคบต่อไหม พ่อแม่เราบอกว่าถึงเขาจะรวยแต่ถ้าเขาไม่รู้จักใช้ สักวันมันก็ไม่เหลือค่ะ พ่อแม่บอกว่า เราหาเองด้วยความบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ ผลสุดท้ายเราเลิกค่ะแบบเด็ดขาด เราเชื่อฟังพ่อกับแม่เรา เพราะว่าพ่อแม่มักจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกอยู่แล้ว กับแค่ผู้ชายคนเดียวไม่ได้ทำให้ชีวิตเราแย่ลง และหวังว่าเขาจะคิดได้รู้ตักคุณค่าของเงิน อย่าไปทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน ส่วนตัวเราก็ยังจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงานต่อไปค่ะ เพราะเราคิดว่าผู้ชายแบบนี้ไม่สามารถมาเป็นพ่อของลูกและดูแลเราไม่ได้ค่ะ เราเลยมาขอระบายให้เพื่อนๆฟังนะค่ะ  หากยาวไปอย่างไรก็ขอโทษด้วยค่ะ




alohachat

alohachat

สวัสดีค่ะ ^^

FULL PROFILE