Review make up NARS ที่ซื้อมาล่าสุดค่ะ

4 13
สวัสดีค่ะชาว JEBAN ที่น่ารักทุกท่าน เราชื่อเอ๊ะนะคะ ดูอยู่เงียบ ๆ มานาน ตั้งใจจะลงกระทู้ต่าง ๆ มาหลายครั้งแต่ยังไม่ค่อยพร้อมโดยเฉพาะเรื่องรูปที่จะมาลง เลยได้มาลงกระทู้นี้ครั้งแรกเพื่อแชร์ข้อมูลกับเพื่อน ๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

สัปดาห์ที่แล้วเกิดอยากไปดูสีบลัชโทนชมพูของ NARS ว่าแต่ละสีมันต่างกันยังไง เพราะอยากได้บลัชชมพูตัวใหม่ที่สีแจ่ม ๆ ในใจคิดว่าน่าจะได้ซื้อ DESIRE แน่ๆ แต่ยังไงต้องขอไปดูให้เห็นกับตาพร้อมลอง ก็เลยได้อย่างอื่นติดไม้ติดมือมาแบบอ่วม กรอบไปเลยทีเดียว มาเริ่มที่ภาพหมู่ก่อนนะคะ
' (เพิ่งไปลงรีวิวนี้ที่ห้องแป้งมาด้วยค่ะ)


พยายามจะทำภาพให้ดู art สุด ๆ เนื่องจากใช้กล้องมือถือถ่าย ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ค่ะ

No.1 NARS Yachiyo brush
No.2 NARS smudge proof eyeshadow base
No.3 NARS blush on "DESIRE"
No.4 NARS Highlighting blush powder "ALBATROSS"
No 5 NARS Sheer Glow foundation "SANTA FE"
No.6 FOUNDATION Pump
เริ่มจากเบอร์ 1 แปรงยาชิโย สำหรับปัดบลัชออนและไฮไลท์ เป็น option เสริมที่ได้มาเพราะทนแรงเชียร์ของพี่ BA ที่ present แปรงสุดขีดว่ามันเป็นแปรงที่ทำขึ้นมาเพื่อปัดบลัชออนเนื้อแมทของนาร์สโดยเฉพาะ กระจาย pigment ได้สม่ำเสมอ ไม่กินเนื้อบลัช ขนนุ่ม อายุยืน ดีไซน์เก๋ไก๋ มีบลัชออนนาร์สต้องมียาชิโยเป็นคู่บุญ ซื้อไปไม่เสียชาติเกิดแน่ ๆ แถมให้ลองปัดเทียบกับแปรงหน้าตาปกติทั่วไป ว่าเรารู้สึกถึงความแตกต่างไหม มียาชิโยที่ไหนก็เหมือนมี make up artist มาแต่งหน้าให้ที่นั่น หลังจากสอยมาด้วยความเบลอ ก็เอามาใช้งานและได้ข้อสรุปตามนี้
ข้อดี
1.รูปแบบแปลกตา เหมือนไม้กวาดของ Harry Potter ก็ไม่ปาน   เพราะพี่บีเอบอกว่าขนแปรงทำมาจากขนแพะภูเขา ส่วนด้ามพันด้วยเถาวัลย์ ดูๆ ไปเหมือนของขลังยังไงก็ไม่รู้ แต่เราโอเคนะเพราะส่วนตัวชอบอะไรที่ดูทำจากวัสดุธรรมชาติอยู่แล้ว
2.ขนแปรงนิ่ม ปัดบลัชออนสีแน่น ๆ ของนาร์สได้สวยมาก เพราะขนแปรงไม่กินผงบลัช กระจายสีได้ดีกว่าแปรงเบสิคทั่วไป
3.ดูท่าทางจะก๊อบเลียนแบบยาก
ข้อเสีย
1.ราคาสูง
2.ขนแปรงร่วงบ้างถ้าเผลอปัดแรง
3.ไม่มีซองถนอมแปรงให้เลย




เบอร์ 2 ตามมาติด ๆ กับoption เสริมที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปหาซื้อ แต่ได้พ่วงมาด้วย มันคือรองพื้นอายแชโดว์นั่นเอง หลังจากฟังปาฐกถาจากพี่ BA เรื่องแปรงยาชิโย ก็นึกได้ว่าอยากได้ eyeshadow base ที่ช่วยทำให้ อายแชโดว์ติดทนนานทั้งวัน ไม่เลือนไม่ปลิ้นไม่เป็นร่องเป็นคราบ เพราะตั้งแต่ urban decay ที่เพื่อนซื้อให้วันเกิดปีที่แล้วหายไปพร้อมกระเป๋าคสอ.สุดเลิฟก็ไม่ได้ซื้อ eyeshadow base ที่ดี ๆเริ่ด ๆมาเพราะกะจะฝากเพื่อนซื้อurban decay หรือ too faced แบบพี่โมเมใช้ ส่งมาให้จาก New York แต่เพื่อนบอกว่าจะซื้ออะไรให้ฝากทีเดียวเป็นลอตใหญ่ จะได้ส่งมาทีเดียว ก็เลยคิดว่าน่าจะรอนาน แต่เราแต่งตาทุกวัน ต้องใช้อายแชโดว์เบสอย่างด่วนเพราะที่ผ่านมาใช้ของ Botanics แต่คุณภาพไม่ดีเลย ทาไปครึ่งวันตาเละเป็นรอยพับ แถมทำให้อายแชโดว์สีเพี้ยนด้วย พี่BAหยิบมาให้ลองเป็นการใหญ่พร้อมฟันธงว่าทาเบสตัวนี้เสร็จพอลงอายไชโดว์แล้วโดนน้ำก็ไม่ลบ แถมสีอายแชว์โดชัดขึ้น ติดทนตลอดวันเลย

รูปลักษณ์เหมือนแท่งกลอส ข้างในเป็นเนื้อครีม ๆ สีขาว ไม่ข้นมาก เวลาใช้ให้เอามาแต้มไว้ที่หลังมือก่อน แล้วค่อยเอานิ้วปาดไปเกลี่ยบนเปลือกตา ไม่ควรเอาแปรงไปทาที่เปลือกตาโดยตรงเพราะถ้าแปรงเปื้อนจะทำให้เนื้อครีมเสื่อมสภาพเร็ว หลังจากลองใช้เราว่ามันคล้ายของ urban decay แต่ของ urban decay สีเข้มกว่า เหนียวกว่า แห้งเร็วกว่า เจ้าตัวนี้
เกลี่ยไปสีจะกลืนไปกับผิว ไม่แห้งเร็วมากกำลังพอดี

ในรูปด้านขวาจะเทียบให้ดูค่ะว่าลงเบสแล้วสีอายแชโดว์จะชัดเจนกว่าไม่ลง สรุปผลการใช้งาน คือ
ข้อดี
1. พกพาสะดวก บรรจุภัณฑ์แข็งแรง คงทน
2. คุณภาพดีสมราคา หาซื้อง่าย ใช้ทนแทนแบรนด์ต่างประเทศที่ไม่ได้นำเข้าได้ดีเลยทีเดียว
3. เนื้อครีมเกลี่ยง่าย สีกลมกลืนไปกับผิว แห้งแล้วไม่เป็นคราบ กันน้ำให้อายแชโดว์ด้วย

ข้อเสีย
1. ตัวบรรจุภัณฑ์เป็นสีขาว เปื้อนหรือหม่นหมองง่าย
2. แท่งผอมสูงเกินไปทำให้ควักเนื้อครีมออกยาก ได้ทีละนิด
3. แอบแพง 950 อ่ะ


ต่อมาตัวหลักที่ตั้งใจมาดู อย่างที่โปรยไว้หัวกระทู้ว่าอยากจะมาดูบลัชออนโทนชมพูของนาร์สว่าตัวจริงโอเคไหม สาละวนอยู่พักใหญ่ก็เลยเอา DESIRE กลับมาทั้งที่ในใจคิดว่าสีเหมือน Radiance ของ Smashbox ที่มีอยู่แต่ไม่ค่อยได้ใช้เพราะตลับพังฝาหลุดเลยต้องห่อเก็บไว้ แต่พี่ BA บอกว่าถ้ามียาชิโยไปไว้ปัดล่ะก็ไม่ต้องกลัวว่าสีจะไม่สวยไม่เริ่ด ก็เลยตกลงเอา DESIRE เพราะ ANGELIKA มันหมองๆ สำหรับเรา ส่วน MATAHARI ก็อมม่วงเกิน ปัดแล้วเดี๋ยวประชาชีนึกว่าโดนของ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของเบอร์ 3 และ เบอร์ 4

สีจริง ๆ จะเข้มกว่านี้นะคะ สาวก NARS หรือ คนที่ใช้บลัชออน NARS อยู่คงทราบดี สีDESIREจะเข้มมาก แต่ปัดออกมาจะชมพูsexyอ่ะค่ะ ไม่ชมพูเบบี้อาโนเนะเหมือนของเกาหลี ญี่ปุ่น เพราะเป็นเนื้อแมทไม่มีชิมเมอร์ กลิตเตอร์ใด ๆ จะปัดเดี่ยวหรือผสมกับสีอื่นก็สวยค่ะ ส่วนเจ้าเบอร์ 4 ที่ติดตามมาเป็นสหายคือตัวไฮไลท์ค่ะ พอดีพี่ BA บอกว่ามีโปรที่ซื้อ DESIRE คู่ ALBATROSS เหลือ 1700 ตอนแรกก็เฉยๆ ไม่อยากเอาเห็นมันขาว ๆ นึกว่าปัดแล้วจะขาววอกหน้าลอย แต่พอพี่บีเอปัดให้ดู มันแจ่มมาก ๆ เพราะเนื้อมันออกสีนวล ๆ ขาวครีมทองเป็นประกายสวยมาก ใช้ปัดให้หน้าดูโกลว์ ๆ หลังแต่งหน้าหรือจะทาเป็นอายแชโดว์เดี่ยว ๆ ก็ไม่มีปัญหา เมื่อเป็นดังนี้ก็ไม่ต้องคิดนานเอามาเดี๋ยวนี้เซ็ทนึง  ขอโทษที่รูปไม่ชัดนะคะ


 
มาต่อกันที่เบอร์ 5 กับ เบอร์ 6 ดีกว่าเนอะ จริง ๆ จะปิดการซื้อไปแล้วแต่พี่ BA บอกว่าซื้อครบ 5000 ได้เป็นสมาชิกนะ มี workshopทุกเดือน แต่งหน้าฟรี 6 ครั้ง โปรโมชั่นเยอะเลย แถมวันนี้ได้กระเป๋าด้วย เราได้ยินถึงกับหูผึ่ง พอดีว่ายอดซื้อสี่พันกว่าแล้วซื้ออีกอย่างก็ห้าพันได้เป็นสมาชิกด้วยอ่ะ น่าสนใจมากเลย ก็เลยตกจะซื้อให้ยอดเกินห้าพัน พี่เค้าก็แนะนำนู่นนี่ พวกลิป มาสคาร่า บรอนเซอน์ แต่เราพุ่งเป้าหมายไปที่ รองพื้น NARS Sheer Glow เพราะระลึกชาติได้ว่าเคยดูพี่โมเมรีวิวไว้ว่าดีเลิศประเสริฐศรีมณีเด้ง งั้นก็ขอลองซะเลย พี่BAก็แจ้งว่าตัวนนี้โมเมปลื้มมาก ฮิตสุด ๆ เค้าหยิบสีเดียวกับที่พี่โมเมใช้คือ PUNJAB Sheer Glow มาลองให้แต่สีมันยังไม่พอดีกับผิวเรามาก เพราะผิวเราเข้มกว่าเฉดนึง เลยได้ SANTA FE มาแทน พร้อมหัวปั๊มที่ต้องแยกซื้อต่างหาก ที่ซื้อหัวปั๊มมาด้วยเพราะคิดว่าปากขวดรองพื้นรูใหญ่มากถ้าเทเอาสงสัยจะกะปริมาณลำบาก รองพื้นตัวนี้เลยได้มาด้วยสโลแกน“ขอฮิตด้วยคน” อิอิ

จริง ๆ เราก็ไม่ได้ใช้รองพื้นประจำ ปกติจะใช้ BB มากกว่าเพราะกลัวใช้รองพื้นแล้วหน้าหนาหรืออุดตัน แต่ก็มี REVLON Photo Ready โทนสี 5 ที่ซื้อมาใช้ในวันที่ต้องการความคงทนหรือออกกลางแจ้ง พอเอารองพื้น NARS ที่ถอยมาลองทาดูผลได้คือ
ข้อดี
1.เนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายเนียนไปกับผิว บางกว่า Photo Ready
2.เฉดสีที่เลือกมาเหมือนสีผิวเด๊ะ เซ็ทตัวเร็ว
3.หลังเซ็ทตัวหน้าจะเด้ง ดูสว่างสมชื่อ Sheer Glow ปลื้มมาก กรี๊ดสุด ๆ ไม่เสียใจเลยที่ซื้อมา ทาไปทำงานคนที่ทำงานเริ่มทักว่าหน้าเนียนจังไปทำไรมา
4.ลดอาการหน้ามันหน้าหมองระหว่างวันได้เยอะเลย
5.ปริมาณเยอะดี เวลาใช้บีบแค่เม็ดถั่ว เลยคิดว่าน่าจะใช้ได้นานจนตีนกาขึ้นไปเลยทีเดียว
ข้อเสีย
1.น่าจะทำหัวปั๊มประกอบกันไปเลยในตัว ไม่น่าต้องมาซื้อให้ยุ่งยาก
2.ถ้าไม่มีหัวปั๊มมาให้ ตัวฝาก็น่าจะมีก้านตักเนื้อรองพื้น
3.พอใส่หัวปั๊มฝาปิดไม่ได้ แต่ดีหน่อยที่หัวปั๊มล็อคได้

ขอจบการรีวิวเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ


missae

missae

FULL PROFILE