

ฉีกทุกกฎเดิมๆ ของการฟังเพลงด้วยหูฟังไร้สาย CX 400BT True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดจากเซนไฮเซอร์ที่กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้งด้วยสุดยอดเทคโนโลยีด้านเสียงอะคูสติกขั้นสูงเพื่อมอบประสบการณ์ฟังเพลงผ่านหูฟังในทุกๆ วันของคุณให้น่าตื่นเต้นกว่าที่เคย ด้วยระบบควบคุมที่ปรับแต่งได้ง่าย การออกแบบที่พิถีพิถันให้ใส่ได้สบายหูทั้งวันตลอดการใช้งานที่ยาวนานต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง และนานสูงสุด 20 ชั่วโมงหากชาร์จผ่านเคส เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คนรักเสียงเพลงตัวจริงห้ามพลาด
“หูฟังไร้สาย CX 400BT True Wireless จะทำให้คุณสัมผัสคุณภาพเสียงเหนือระดับได้อย่างง่ายดาย” นายคริส โลว์ รองประธานฝ่ายค้าปลีก เซนไฮเซอร์ เอเชีย กล่าว “ที่ผ่านมา หูฟังไร้สายระดับพรีเมียมของเราได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการหูฟังไร้สายด้วยเทคโนโลยีด้านเสียงอะคูสติกขั้นสูง และในวันนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอคุณภาพเสียงขั้นสูงนี้ในรูปแบบของหูฟังไร้สายสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะเราเชื่อว่าคุณภาพเสียงไม่ควรถูกตัดทอนไปพร้อมกับสาย หูฟังไร้สาย CX 400BT True Wireless จึงตอบโจทย์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
หูฟังไร้สาย CX 400BT True Wireless ส่งมอบประสบการณ์เสียงเหนือระดับอันเป็นเอกลักษณ์ของเซนไฮเซอร์ด้วย ไดนามิก ไดรเวอร์ขนาด 7 มม. เอกสิทธิ์ของเซนไฮเซอร์ที่เป็นที่กล่าวขานอย่างทั่วถึง อย่างเช่นในหูฟัง MOMENTUM True Wireless 2 ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ด้วยระบบเสียงสำหรับหูฟังไร้สายระดับพรีเมียมที่พัฒนามาเพื่อผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงโดยเฉพาะ หูฟังรุ่นนี้จึงสามารถส่งมอบระบบเสียงสเตอริโอที่มีความแม่นยำสูง (High-fidelity Stereo) พร้อมเสียงเบสที่หนักแน่นกับเสียงแหลมที่ใสเป็นธรรมชาติ เก็บครบทุกรายละเอียด เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยแอปพลิเคชัน Sennheiser Smart Control ปรับแต่งหรือสร้างชุดเสียงได้ตามต้องการด้วยอีควอไลเซอร์ที่ติดตั้งอยู่ในตัวหูฟัง นอกจากนี้หูฟังไร้สาย CX 400 BT True Wireless ยังรองรับตัวแปลงสัญญาณไม่ว่าจะเป็น SBC, AAC และ aptX ซึ่งสามารถรับประกันคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์มือถือได้ทั้งระบบ iOS และระบบ Android
● ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน
หูฟังไร้สาย CX 400 BT True Wireless ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา สัมผัสความบันเทิงและเชื่อมต่ออย่างง่ายดายไม่ติดขัดด้วยระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ปรับแต่งได้ของหูฟังรุ่นนี้ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถออกแบบวิธีการควบคุมเสียง การโทร หรือระบบการสั่งงานด้วยเสียง เช่น Google Assistant หรือ Siri ได้ตามต้องการ
สำหรับการรับสายและการใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะบนอุปกรณ์มือถือ หูฟังไร้สาย CX 400 BT True Wireless ตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้วยฟังก์ชั่นไมโครโฟนลดเสียงรบกวนรอบข้างเพื่อให้การโต้ตอบเป็นไปอย่างธรรมชาติ แม่นยำ และชัดเจน อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ไม่ติดขัดด้วยการส่งสัญญาณไร้สายอย่างไร้ที่ติผ่านเทคโนโลยีบลูทูธ 5.1 ที่สามารถใช้และจัดการได้อย่างสะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชัน Sennheiser Smart Control
● สวมใส่สะดวกสบาย สัมผัสความบันเทิงได้ตลอดทั้งวัน
หูฟังไร้สาย CX 400BT True Wireless การันตีความสบายยามสวมใส่ พร้อมมอบความเพลิดเพลินให้ผู้ใช้ตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 7 ชั่วโมง และนานสูงสุด 20 ชั่วโมงเมื่อชาร์จผ่านเคสระหว่างการเดินทาง
หูฟังไร้สาย CX 400BT True Wireless ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และดีไซน์ที่เรียบง่ายและสมดุลอย่างลงตัวนี้มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำและสีขาว พร้อมมอบความสบายขณะสวมใส่ตลอดทั้งวัน ผนวกกับคุณภาพในการผลิตขั้นสูงที่การันตีการใช้งานอย่างทนทาน นอกจากนี้ หูฟังรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับอะแดปเตอร์ที่มีให้เลือกถึง 4 ขนาดเพื่อการสวมใส่ที่พอดีกับหูและการลดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้ ที่เซนไฮเซอร์ ออนไลน์ สโตร์ (https://th.sennheiser.com) และร้านตัวแทนจำหน่ายของเซนไฮเซอร์ ในราคา 7,990 บาท
ครั้งแรกในเมืองไทยที่ LINE STICKERS และ LINE MELODY จับมือกันสร้างอุโมงค์ Art Gallery ที่ยาวที่สุด มาพร้อมคอนเซปต์ JOIN THE JOY ให้ทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์แบบจอย จอย กันได้เต็มที่ กับแกลเลอรี่ที่เต็มไปด้วยคาแรคเตอร์ยอดนิยมจาก LINE STICKERS ในหลากหลายสไตล์ จัดเต็มทั้งลายเส้นน่ารัก ลายเส้นเก๋ๆ คูลๆ หรือจะสายหวานก็มี แถมงานนี้ยังเอาใจสายถ่ายภาพ กับมุมถ่ายภาพที่ยาวกว่า 100 เมตร จากผลงานของครีเอเตอร์และศิลปินชั้นนำรวมกว่า 180 คน นอกจากจะได้ไปตามหาสติกเกอร์ที่ชอบ ไปเช็คอินได้รูปเก๋ๆ คู่กับคาแรคเตอร์ตัวโปรดแล้ว ยังสามารถสแกน QR Code เพื่อซื้อสติกเกอร์ที่ชื่นชอบได้ทันที หรือถ้าใครเป็นสายฟังเพลง ภายในอุโมงค์ Art Gallery นี้ก็ยังมีเมโลดี้ฮอตฮิตจาก LINE MELODY จากกว่า 30 ศิลปินให้ได้ไปดาวน์โหลดเป็นเสียงรอสาย เสียงเรียกเข้ากันได้อีกด้วย ง่ายๆ แค่นี้ ก็คงต้องบอกว่าไม่ไปไม่ได้แล้ว
วันหยุดยาวนี้ ใครยังไม่มีแพลนไปไหน แนะนำให้ปักหมุดที่งานนี้ได้เลย เปิดตัวปังๆ ก่อนใครที่แลนด์มาร์คนี้ รับรองว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน เปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ 4 – 30 กันยายนนี้ เวลา 6 โมงเช้า – เที่ยงคืน ที่ MRT พหลโยธิน ทางออก 3
ติดตามอัพเดทความเคลื่อนไหวของ LINE STICKERS และ LINE MELODY ได้ที่ LINE Official Account @linestickersth และ @linemelodyth
#JOINTHEJOY #LINEThailand #อุโมงค์สติกเกอร์ไลน์
ชมวีดีโอจำลองอุโมงค์ Art Gallery ได้ที่ https://tv.line.me/v/15542293
วาโก้ดำเนินธุรกิจมาครบ 50 ปีในปี 2563 นี้ โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยด้านสรีระและวัตถุดิบ รวมถึงพัฒนาการออกแบบ ตัดเย็บมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ สวมใส่สบาย คุ้มค่าต่อการซื้อ จึงเป็นแบรนด์ที่ผู้หญิงทุกช่วงวัยให้ความไว้วางใจ การันตีด้วยรางวัลล่าสุด No.1 Brand Thailand 2019-2020 หมวด Woman Underwear แบรนด์ยอดนิยมสูงสุดอันดับ 1 ในหมวดหมู่ชุดชั้นในสตรี โดยรักษาแชมป์อย่างต่อเนื่องมาตลอด 9 ปี
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นแบรนด์ชุดชั้นในอันดับ 1 ล่าสุดเราได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เจาะกลุ่มวัยนักเรียน นักศึกษา ระดับมัธยมปลายถึงมหาวิทยาลัย อายุระหว่าง 16-22 ปีและกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน กับคอลเลกชัน Wacoal Super Bra ปรับเป๊ะ ให้ทุกรูปอกสวย ด้วย AUTO ADAPTIVE MOLD เพราะวัยรุ่นเป็นกลุ่มที่ความหลากหลายทางด้านความคิด การแสดงออกและไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเอง อีกทั้งต้องการความมั่นใจด้วยการมีสรีระที่โดดเด่น Wacoal Super Bra คือคอลเลกชันที่ดีที่สุดของวาโก้ในปี 63 นี้เพราะเป็นบราที่คิดค้นและวิจัย จนได้มาเป็นนวัตกรรม AUTO ADAPTIVE MOLD โมลพิเศษปรับสรีระให้ทรงอกสวยได้รูป พร้อม 5 ความพิเศษที่ให้มากกว่าที่เคยมี ได้แก่ 1. บราไร้โครงโค้งรับลำตัว 2. ขอบบนเต้ายืดหยุ่นไม่กดทับ 3. ฟองน้ำไล่ตามระดับอกสวยทุกคัพ 4. ข้างกระชับ อกชิด 5. สวย เป๊ะ ใส่สบาย นอกจากพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว Wacoal Super Bra ยังปรับราคาเบาๆ เพราะเข้าถึงและเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มวัยรุ่น ด้วยความซุปเปอร์พิเศษเหล่านี้มั่นใจว่าจะทำให้ตลาดชุดชั้นในกลับมาคึกคักและได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเคย ประกอบกับวิกฤติต่างๆ เริ่มคลี่คลายน่าจะกระตุ้นยอดขายปลายปี 63 นี้ได้” ธรรมรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
ในปัจจุบันสื่อออนไลน์มีอิทธิพลอย่างมากในคนทุกกลุ่มและเพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกวัย ในวีดีโอโฆษณา Wacoal Super Bra วาโก้ได้ดึง Ogilvy เอเยนซี่แถวหน้าของไทยมาร่วมสร้างสรรค์วีดีโอโฆษณาบนออนไลน์ ด้วยศักยภาพและความครีเอทีฟจากผลงานต่างๆ ที่ได้รับรางวัลมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ วีดีโอโฆษณา Wacoal Super Bra ชุด Ant Ant Ant โดย Mood and Tone ได้นำกลิ่นอายความเป็นป๊อปอาร์ตสีสันสดใส นอกจากสร้างความน่าสนใจยังกระตุ้นให้คนดูเกิดความรู้สึกสนุกสนาน ด้วยรูปแบบการสื่อสารตรงไปตรงมาเข้าใจง่าย ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นสามารถจดจำผลิตภัณฑ์ได้ดี โฆษณาชุด Ant Ant Ant นำเสนอเรื่องราวความน่ารักของคู่รักวัยรุ่น ที่แฟนหนุ่มต้องตะลึงในความเป๊ะเพราะไม่ว่าเธอจะคัพไหนก็ปรับเป๊ะทุกรูปอก เธอทำอย่างไรถึงได้อกเป๊ะ! ติดตามได้ทาง Facebook, YouTube : Wacoal Thailand
Wacoal Super Bra มีจำหน่ายแล้วที่วาโก้ช็อปและเคาน์เตอร์วาโก้ ทั่วประเทศ พร้อมช่องทางออนไลน์ Wacoal Shop Online, Lazada, Shopee, JD central, Central Online ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/wacoal.th และ Line @wacoal.th
“ราโด ทรู ทินไลน์ เลส์ คูล์เลอร์ เลอ กอร์บูร์ซิ เย่” อานุภาพแห่งสีสันองค์ประกอบที่ลงตัวของการออกแบบและชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมบนเรือนเวลา
หลังจากที่ RADO ผู้สรรสร้างนวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลก สุดยอดงานออกแบบล้ำสมัย ผู้นำเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์ของวงการนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับเลอ กอร์บูร์ซูซี่ (Les Couleurs Suisse) องค์กรที่อยู่ภายใต้ Foundation Le Corbusier ซึ่งถือสิทธิ์ในการออกใบอนุญาตการใช้ชุดสีเชิงสถาปัตยกรรม “Architectural Polychromy” ของนักออกแบบชื่อดังอย่าง เลอ กอร์บูร์ซิเย่ (Le Corbusier) แต่เพียงผู้เดียว และประสบความสำเร็จโดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากเมื่อปีที่ผ่านมา ในปีนี้ RADO จึงได้ผนึกกำลังร่วมมือกับพันธมิตรเดิมอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อยอดความท้าทายด้านการออกแบบในโลกแห่งนวัตกรรมเรือนเวลาให้พัฒนาไปอีกระดับ
สีสันถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีความสำคัญต่อการออกแบบอย่างแท้จริง อานุภาพของสีได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยฟังก์ชั่นและเอฟเฟกต์ด้านการออกแบบสีนั้นได้รับการพัฒนาและวางแนวคิดใหม่ โดย เลอ กอร์บูร์ซิเย่ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ส่งมอบสีสันให้กับงานด้านการก่อสร้าง ส่งมอบประสบการณ์จากความว่างเปล่าสู่ชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มอบความกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติและสามารถผสมผสานได้ทุกแนวทาง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องให้ความสำคัญต่อผลลัพธ์ของสีที่มีอิทธิพลต่อการออกแบบและการออกแบบสีเชิงสถาปัตยกรรม
ซึ่ง Charles Edouard Jeanneret Gris (ชื่อโดยกำเนิดของ Le Corbusier) หนึ่งในสถาปนิกและนักออกแบบระดับตำนาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานศิลปะ ภาพวาด กราฟิก ประติมากรรมและสิ่งทอ และเป็นผู้ที่สามารถจำแนกเฉดสีได้ถึง 63 เฉดสี จาก 2 คอลเลคชั่น ซึ่งทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 9 กลุ่มด้วยเฉดและโทนสีที่ต่างกัน ระบบสีและสี 63 เฉดของ Le Corbusier นำไปสู่การพัฒนาชุดสีเชิงสถาปัตยกรรม “Architectural Polychromy” ที่ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันและได้รับการพิสูจน์โดยสถาปนิกและนักออกแบบชั้นนำว่าเป็นชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น
นอกจากนี้ระบบสีของ Le Corbusier ยังเป็นที่ยอมรับว่าสามารถถ่ายทอดข้อมูลด้านจิตวิทยาในทุกๆ เฉดสี โดยสีสันแห่งสถาปัตยกรรมของ Le Corbusier ได้ถูกคิดค้นและเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1931 ก่อนพัฒนาต่อเนื่องและสร้างความฮือฮาอีกครั้งในปี 1959 ได้รับการพิสูจน์โดยสถาปนิกและนักออกแบบชั้นนำว่าเป็นชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มอบความกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติและสามารถผสมผสานได้ทุกแนวทาง อีกทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านการบุกเบิก เนื่องจากชุดสีนี้ยังคงได้รับการใช้งานอยู่ในปัจจุบันโดยสถาปนิกและนักออกแบบทั่วโลก และยังคงได้รับการยกย่องว่ามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและมีความสำคัญกับการออกแบบอย่างแยกกันไม่ได้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 90 ปีหลังจากที่ชุดสีเหล่านี้ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรก
ขณะที่ RADO ผู้สรรสร้างนวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลก เป็นผู้คิดค้นสุดยอดการออกแบบที่มีความล้ำสมัย เป็นที่รู้จักในนามว่า "ผู้นำเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์” ของวงการนาฬิกาในยุคปัจจุบัน ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านการสร้างสีสันที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จในการสร้างสีสันลงบนวัสดุไฮเทคเซรามิกถึง 14 สี นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้ไฮเทคเซรามิกครั้งแรกในปี 1986 และได้กลายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาสีในวัสดุไฮเทคเซรามิกนับแต่นั้นเป็นต้นมา
เพื่อเฉลิมฉลองสีสันแห่งตำนานและพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบ ในปีนี้ RADO มีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอนาฬิการุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นจำนวน 9 สี 9 เรือน ในคอลเล็คชั่น True Thinline Les Couleurs™ Le Corbusier ที่มีชุดเซ็ตสีแบบพิเศษ ทำจากไฮเทคเซรามิก แต่ละเรือนเป็นตัวแทนของสีหนึ่งสีจากเก้ากลุ่มที่อยู่ในชุดสี แต่ละเรือนแสดงถึงความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีของ RADO ในการฉีดขึ้นรูปไฮเทคเซรามิกแบบเป็นชิ้นเดียว ถือเป็นการปฏิวัติวงการการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านการบุกเบิกของแบรนด์ โดยมีเพียง RADO เท่านั้นที่สามารถผลิตสีเหล่านี้บนตัวเรือนเวลาระดับโลกได้
“เคที่ดอลล์ (Cathy Doll)” แบรนด์เครื่องสำอางในใจสาวไทยเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Cathy Doll Nude Matte Series เมคอัพสายมินิมอลสุดคิ้วท์สะดวกพกพาง่ายที่เป็นคัลเลอร์เมคอัพเอาใจสาวๆ โดยได้หนุ่มหล่อหน้าใสสุดฮอต วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ Cathy Doll Nude Matte Lipstick , Lip & Cheek Nude Matte Tint, Glow Gel Tint และบลัชออน Nude Matte Blusher เสริมทัพให้กับคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดนี้
1. เคที่ดอลล์ นู้ดแมทท์ลิปสติก (Cathy Doll Nude Matte Lipstick) ลิปสติกเนื้อกำมะหยี่แมทท์ เนียนละเอียดนุ่มละมุนปาก บางเบา สีชัด สัมผัสลื่นเกลี่ยง่าย ไม่ตกร่อง เติมสีได้อย่างแนบสนิท รู้สึกสบายริมฝีปากราวกับปากที่เปลือยเปล่า ไม่แห้งตึงระหว่างวัน พร้อมแต่งแต้มสีปากออกแบบตัวแท่งบรรจุมาค่อนข้างเรียบหรูดูมินิมอล ฝาเปิดปิดแบบล็อคแม่เหล็กดูด เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ มีให้เลือก 12 เฉดสี ราคาแท่งละ 239 บาท
- สี 01 BUDDY BEIGE
- สี 02 EASY PEACH
- สี 03 BABY BOY
- สี 04 BARELY PINK
- สี 05 NAKED HEART
- สี 06 PINK SECRET
- สี 07 CALM BROWN
- สี 08 BEING BRICK
- สี 09 SO HOT
- สี 10 TOUCH CORAL
- สี 11 CANDY POP
- สี 12 COMA RED
2. เคที่ดอลล์ ลิปแอนด์ชีคนู้ดแมทท์ทินท์ (Cathy Doll Lip & Cheek Nude Matte Tint) ลิปทินท์เนื้อนู้ดแมทท์ให้สีชัดกลบสีปากได้เนียนสนิทแนบฟิตไปกับปาก บางเบาเกลี่ยง่าย และเพิ่มการบำรุงด้วยน้ำแร่ธรรมชาติจากเกาะเชจู ที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากดอกแมกโนเลีย ดอกซึบากิ และดอกคาโมมายล์ ซึ่งช่วยให้ริมฝีปากกระจ่างใสแลสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติสามารถทาได้ทั้งปากและแก้มในแท่งเดียว มีให้เลือก 12 เฉดสี ราคาแท่งละ 169 บาท
- สี 01 CHARMING PINK
- สี 02 MELLOW PINK
- สี 03 MAROON PINK
- สี 04 SCORE PINK
- สี 05 SOFTLY PEACH
- สี 06 PEACH UP
- สี 07 SALMON ROLL
- สี 08 CHIC SAND
- สี 09 BROWN CARAMEL
- สี 10 BRICK CARNIVAL
- สี 11 HOLD ON RED
- สี 12 VINTAGE RED
3. เคที่ดอลล์ โกลว์ เจลทินท์ (Cathy Doll Glow Gel Tint) ลิปทินท์เนื้อเจล ที่มอบสัมผัสชุ่มชื่นสีชัดติดทนนาน ช่วยเนรมิตเรียวปากให้สวยสดใสตลอดวัน พร้อมบำรุงริมฝีปากไปในตัวด้วยคุณสมบัติของไฮยาลูรอนและวิตามินอี ที่มอบความอิ่มเด้ง เนียนนุ่มไม่แห้งกร้าน ให้ริมฝีปากตึงกระชับดูสดใสสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเชอร์รี่ให้ความรู้สึกสดชื่น มีสีให้ได้เลือก 8 เฉดสี ราคาแท่งละ 59 บาท
- สี 01 PINK MOMENT
- สี 02 PEACH KISS
- สี 03 OH ORANGE
- สี 04 HOT BABE
- สี 05 SUGAR PEACH
- สี 06 LIKE BRICK
- สี 07 WONDER RED
- สี 08 SASSY RED
4. เคที่ดอลล์ นู้ดแมทท์บลัชเชอร์ (Cathy Doll Nude Matte Blusher) บลัชเชอร์เนื้อแมทท์ เกลี่ยง่ายให้สีชัดสวยละมุน แถมยังติดทน ด้วยนวัตกรรมของเม็ดผงแบบอณูทรงกลมขนาดเล็ก ช่วยให้แนบฟิตติดผิวได้อย่างดีเยี่ยม ให้เนื้อสัมผัสละเอียดและเนี่ยนนุ่ม เบลอผิวปกปิดรูขุมขน มีเฉดสีให้ได้เลือกถึง 8 สี ราคา 159 บาท
- สี 01 BUDDY BEIGE
- สี 02 EASY PEACH
- สี 03 BABY BOY
- สี 04 PINK IDOL
- สี 05 SASSY GIRL
- สี 06 MAROON LIKE
- สี 07 SAHARA
- สี 08 SANDY
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้าน KARMART หรือช่องทางออนไลน์ www.karmarts.com , Facebook: CathyDoll , Instagram: Cathy Doll และ Line: @Karmarts_onlineshop เป็นต้น
เนื่องด้วยแพนดอร่า (Pandora) เครื่องประดับและจิวเวลรีชื่อดังสัญชาติเดนมาร์ก ผู้สร้างสรรค์สร้อยข้อมือและชาร์มอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ และครองใจผู้หญิงทั่วโลกมานานกว่า 20 ปี พร้อมฉลองโอกาสพิเศษนี้ด้วยการส่ง 3 คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด เพื่อแทนคำขอบคุณและเอาใจแฟนๆแบรนด์แพนดอร่า
Wake up with Amazing Skin with IT
Confidence in Your Beauty Sleep Night Cream ช่วยให้คุณตื่นขึ้นมาพบกับผิวที่แลดูอ่อนเยาว์และสวยขึ้น! มอยซ์เจอไรเซอร์สูตรนี้ทำงานตลอดคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีของการผลัดเซลล์ผิว^ของคุณ เพื่อเผยผิวดูใหม่ เรียบเนียบปล่งประกาย มีชีวิตชีวา ผ่านการทำให้เซลล์ผิว^ที่เสื่อมสภาพแล้วหลุดลอกออก มอยซ์เจอไรเซอร์ซึ่งใช้เทคโนโลยี Rest & Restore Technology สูตรนี้ช่วยให้สัญญาณบ่งชี้ผิวร่วงโรย 5 อันดับต้นๆ อันได้แก่ ริ้วรอยตื้น ๆ ริ้วรอยลึก ความแห้งกร้าน ความหมองคล้ำ และผิวดูไม่กระชับ ฟื้นบำรุง/ดูแล/ลดเลือนอย่างเห็นได้ชัด
หลังใช้เพียงหนึ่งคืน^^ ผิวของคุณจะรู้สึกชุ่มชื่นขึ้น เรียบเนียน และนุ่มนวล และหลังจากใช้ต่อเนื่อง 7 คืน ริ้วรอยลดเลือนลง* ผิวรู้สึกกระชับขึ้น** แลดูอิ่มเอิบขึ้น**
IT Cosmetics ทำงานร่วมกับศัลยแพทย์ตกแต่งและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผิวและสูตรผสมที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้ว
^ผิวชั้นนอก ^^ผลการทดสอบความพึงพอใจในอาสาสมัครจำนวน 52 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ โดยสถาบันวิจัยลอรีอัล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสิงหาคม 2019
*ผลการทดสอบทางคลินิกด้วยวิธี Clinical grading ในอาสาสมัครจำนวน 44 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 7 วัน โดยสถาบันวิจัยลอรีอัล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสิงหาคม 2019
**ผลการทดสอบความพึงพอใจในอาสาสมัครจำนวน 52 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 7 วัน โดยสถาบันวิจัยลอรีอัล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสิงหาคม 2019
● Key Benefits
✓ Rest and Restore Technology ทำงานเพื่อลดเลือนสัญญาณบ่งชี้ผิวร่วงโรยอย่างเห็นได้ชัดในเวลาเพียง 7 คืน!
✓ เนื้อครีมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ Confidence in Your Beauty Sleep สร้างสรรค์ขึ้นให้มีความเข้มข้นและห่อหุ้มผิว เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่หรูหรา
✓ สูตรเสริมความชุ่มชื้น ไม่อุดตัน (Non-Comedogenic) เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท ใช้ได้แม้ในผิวบอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย ผสานด้วยอนุพันธ์ไฮยาลูรอนิก แอซิด (SODIUM HYALURONATE) และอะดีโนซีน (adenosine) เสริมด้วยเซราไมด์ (ceramide) เพื่อช่วยซ่อมแซมและฟื้นบำรุงปราการคุ้มกันผิวตามธรรมชาติ
IT Cosmetics ร่วมกับคณะศัลยแพทย์ตกแต่งพัฒนาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นมิตรกับผิว และสูตรผสมที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้ว
● วิธีใช้
ทาครีมปริมาณมากพอสมควรลงบนใบหน้า โดยลูบจากล่างขึ้นบน เป็นประจำทุกคืน ไม่ต้องล้างออก
● เคล็ดลับความงาม
ใช้ Confidence in Your Beauty Sleep Night Cream เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการบำรุงผิว ก่อนเข้านอน! เนื้อครีมจะไม่ย้ายจากผิวไปอยู่บนหมอน จึงทำงานบนผิวคุณ ไม่ใช่บนหมอน!
IT Cosmetics มีวางจำหน่ายที่ร้าน Sephora ทุกสาขาในประเทศไทย และ Sephora.co.th
Confidence in Your Beauty Sleep Skin-transforming Pillow Cream Moisturizer เริ่มจำหน่ายวันที่ 20 สิงหาคม 2563
แบรนด์กีฬาแบรนด์แรกที่ออกแบบหน้ากากผ้าเพื่อให้เรากลับมาออกกำลังกายด้วยกันได้อีกครั้ง
หลังจาก Under Armour เปิดตัวหน้ากากผ้าสำหรับการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนเป็นที่พูดถึงในหมู่นักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายทั่วโลก และเปิดโอกาสให้แฟนๆ ชาวไทยได้เป็นเจ้าของหน้ากากผ้า UA SPORTSMASK ไปแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา และได้ผลตอบรับดีเกินความคาดหมาย ล่าสุด Under Armour ทำตามเสียงเรียกร้องแฟนๆ ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของหน้ากากผ้าสุดพิเศษ เปิดจำหน่ายรอบใหม่ในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 นี้
นับเป็นครั้งแรกของวงการกีฬาและการออกกำลังกายที่แบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง Under Armour ได้พัฒนา UA SPORTSMASK หน้ากากผ้าสำหรับออกกำลังกายที่ถูกออกแบบมาเพื่อใส่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายโดยเฉพาะ โดยทีมนวัตกรรมของ Under Armour ได้คิดค้นหน้ากากผ้าที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ กันน้ำ และออกแบบมาเพื่อการหายใจได้ดียิ่งขึ้น ลดการแพร่กระจายของละอองของเหลวจากระบบทางเดินหายใจของผู้สวมใส่ ด้านบนของหน้ากากมีโครงที่สามารถปรับให้รับกับจมูก ทำให้สามารถสวมใส่ได้อย่างกระชับ ลดการรั่วไหลของอากาศขึ้นสู่ด้านบนดวงตา ช่วยลดการเกิดฝ้าสำหรับคนที่ใส่แว่นตา หน้ากาก UA SPORTSMASK ยังสามารถซัก ตาก และนำกลับมาใช้ซ้ำได้ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าหน้ากากที่ใส่แบบครั้งเดียวทิ้ง ซึ่ง Under Armour กำลังอยู่ในขั้นตอนของการจดสิทธิบัตรดีไซน์และวิธีการผลิตหน้ากากนี้ด้วย
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ UA SPORTSMASK คือ มี 3 ชั้น และถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อนักกีฬาสวมใส่ขณะเล่นกีฬา
● ชั้นที่ 1 – ผ้าสเปเซอร์ (Spacer Fabric) มีน้ำหนักเบาแต่ยังสามารถคงรูปทรงช่องอากาศไว้ได้ จึงทำให้ไม่แนบทับปากและจมูก ช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น
● ชั้นที่ 2 – โฟมโอเพ่นเซลล์ (Open-Cell Foam) แผ่นโฟมชั้นกลางที่ระบายอากาศได้ดี แต่ไม่ทำให้ความชื้นหรือเหงื่อแพร่กระจายออกไป
● ชั้นที่ 3 – UA ISO-CHILL ชั้นผ้าที่ทำให้รู้สึกเย็นเมื่อสัมผัสกับผิวหน้า มีความยืดหยุ่น และผลิตจากเทคโนโลยี PROTX2™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยียับยั้งการเกิดจุลินทรีย์และแบคทีเรียบนวัตถุที่ไม่ใช่โลหะ ทำให้หน้ากากสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอ
คุณสมบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจของ UA SPORTSMASK
- ผลิตด้วยผ้า 3 ชั้น ตามคำแนะนำเกี่ยวกับหน้ากากผ้าขององค์การอนามัยโลก
- ผลิตจากวัสดุประสิทธิภาพสูงจาก Under Armour ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับสวมใส่ได้ทั้งวัน และในขณะเล่นกีฬา
- มีรูปทรงสำหรับช่องอากาศ ทำให้หน้ากากไม่แนบทับปากหรือจมูก สวมใส่สบาย หายใจได้สะดวก
- ผ้าชั้นนอกกันน้ำ ทำจากผ้านิ่ม ทำให้หายใจได้ดียิ่งขึ้น
- ผ้าชั้นในผลิตด้วยเทคโนโลยียับยั้งการเกิดจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสาเหตุของแบคทีเรีย ทำให้หน้ากากสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอ
- ชั้นโพลียูรีเทนโอเพ่นเซลล์โฟม (Polyurethane Open-Cell Foam) แผ่นโฟมชั้นกลางที่ระบายอากาศได้ดี แต่ไม่ทำให้ความชื้นหรือเหงื่อแพร่กระจายออกไป
- ชั้นผ้า UA ISO-CHILL ที่ใช้ประกอบด้านในสุดของหน้ากากและส่วนสายคล้องหูให้ความรู้สึกเย็นสบายทุกครั้งที่สวมใส่
- เนื้อผ้านุ่มลื่น ไม่ระคายเคืองผิวหน้า สวมใส่สบาย ระบายความชื้นจากปากได้ดี
- รูปทรงหน้ากากเข้ากับใบหน้า สอดรับกับทรงจมูก
- ส่วนโครงด้านบนของหน้ากากมีความนุ่มและสามารถปรับให้กระชับกับจมูกได้
- สายคล้องหูและส่วนข้างของหน้ากากมีความยืดหยุ่น
- สามารถซัก ตาก และนำกลับมาใช้ซ้ำได้
- มาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กที่สามารถซักได้ ผลิตจากเทคโนโลยียับยั้งการเกิดจุลินทรีย์
สำหรับแฟนกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายในที่สาธารณะหรือกลางแจ้ง และกำลังมองหาหน้ากากผ้าสำหรับใส่ออกกำลังกายโดยเฉพาะ สามารถเป็นเจ้าของ UA SPORTSMASK ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป ที่ร้าน Under Armour ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาศูนย์การค้าจังซีลอน) ร้าน Hoops Station ร้าน Dilok ร้าน SportsWorld และ ร้าน Project Beyond ในเครือสหพัฒน์ (สินค้ามีจำนวนจำกัด และจำกัดการซื้อคนละไม่เกิน 5 ชิ้น)
สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Under Armour และโปรโมชันพิเศษก่อนใครได้ที่ช่องทางต่อไปนี้
- เว็ปไซต์ www.ua.com
- Line Official Account @Underarmourth
- ร้านค้าทางการของ Under Armour บน Lazada
- ร้านค้าทางการของ Under Armour บน Shopee
เฟียซไปให้สุดแล้วหยุดที่ YSL ?
หยิบกระเป๋าแซ็งต์โลร็องต์ขึ้นมา แล้วฟาดด้วยที่สุดของกูตูร์คุชชั่น
YSL Le Cushion Encre De Peau กลับมาอีกครั้ง อัดแน่นด้วยส่วนผสมใหม่ แต่ยังคงฟินิชแมทท์และปกปิดแบบงานผิว
แรงบันดาลจากกระเป๋าหนังสีดำสุดคลาสสิคของ แซ็งต์ โลร็องต์ จึงเป็นมากกว่าคุชชั่น เป็นมากกว่าแอคเซสซอรี่ เพราะนี่คือที่สุดของกูตูร์คุชชั่น ที่สาวก YSL ตัวจริง ต้องมี
*ที่แรกก่อนใคร 21 สิงหาคม 63 Central Online : https://bit.ly/2Yc2hNm (2,750.-)
1 กันยาฯ พร้อมกันประเทศ
#OneAndOnly #YSLBeautyth
ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น ประกาศวางจำหน่ายคอลเลคชั่นล่าสุดกับ อิเนส เดอ ลา เฟรซองจ์ (Ines de la Fressange) แฟชั่นไอคอนแถวหน้าระดับโลกที่มาร่วมออกแบบ เตรียมวางจำหน่ายในทุกสาขาทั่วประเทศไทยและทางเว็บไซต์ uniqlo.com/th ในวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป โดยสินค้าแต่สาขาอาจแตกต่างกันออกไป สำหรับคอลเลคชั่นนี้ยังคงลักษณะเด่นในสไตล์เสื้อผ้าที่หรูหราและล้ำลึก โดยได้ผสานรวมเข้ากับความเชื่อในการออกแบบของอิเนส ดีไซเนอร์ผู้ตั้งใจเนรมิตเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงเพื่อให้ทุกคนสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายตัว พร้อมกับเผยเอกลักษณ์ความงามของแต่ละคน นอกจากนี้ คอลเลคชั่นดังกล่าวยังได้ยึดหลักปรัชญาไลฟ์แวร์ (LifeWear) จากยูนิโคล่ที่มุ่งสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายเปี่ยมคุณภาพ โดดเด่นด้วยนวัตกรรม ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ทั้งในแง่การออกแบบและความสวมใส่สบาย อีกทั้งยังตรงกับทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน
● อุทิศแก่ผู้นำวงการแฟชั่นยุค 70s
สำหรับคอลเลคชั่นนี้ อิเนสได้รับแรงบันดาลใจจากบรรดาผู้หญิงที่เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพในกลุ่มสตรีและวงการแฟชั่นในช่วงปี 1970 กลุ่มคนเหล่านี้รวมถึง เจน เบอร์กิ้น (Jane Berkin) นักแสดง นักแต่งเพลง และนางแบบ และนักแต่งเพลงอย่าง ฟรองซวส แมดแลน ฮาร์ดี (Françoise Madeleine Hardy) อิเนสได้บรรยายถึงเหตุการณ์ในสมัยนั้นว่า “ในช่วงยุค 70s ผู้หญิงหลายคนต้องการปลดแปลื้องออกจากขนบธรรมเนียมเดิมๆ กลุ่มคนที่รักอิสระเหล่านี้ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการแฟชั่นและนำเสนอแนวการใช้ชีวิตในทิศทางใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น” อาจกล่าวได้ว่าคอลเลคชั่นนี้ได้ร่วมยกย่องเหล่าผู้หญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายจิตวิญญาณอันรักอิสระ
● สาม แนวทางเบื้องหลังจากการออกแบบ
คอลเลคชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วง/ ฤดูหนาวในครั้งนี้ได้สานต่อแนวคิดการออกแบบหลัก 3 แนวทาง แนวทางแรก แฝงกลิ่นอายในแบบโบฮีเมียนซึ่งได้แรงบันดาลจากการวัฒนธรรมเสรีนิยมในช่วงปี 1970 โดดเด่นด้วยกระโปรงและชุดเดรสจับจีบด้วยมือมาในลวดลายพาสลีย์ (Paisley) หรือ ลายลูกน้ำและโพลกา ดอท และเพื่อช่วยเติมความอบอุ่นให้กับฤดูกาลที่กำลังมาถึง ยูนิโคล่ได้นำเสนอไอเทมหลักจากผ้าถัก (Knitwear) ด้วยลาย Fair Isle ที่มอบความรู้สึกพื้นบ้านเฉพาะตัว คอลเลคชั่นนี้ยัง ถือเป็นครั้งแรกที่ UNIQLO/ INES DE LA FRESSANGE ได้ร่วมมือกันนำเทคโนโลยี 3D Knit มาใช้ เพื่อมอบความสบายแบบเหนือระดับในการสวมใส่และสร้างสรรค์กรรมวิธีการถักทอลายผ้าที่ชัดเจน แนวคิดถัดมาคือ ธีมนีโอบูร์ชัวร์ (Neobourgeois) ซึ่งนำเสนอไอเดียการออกแบบผ่านเสื้อเบลาส์ผ้าไหมแท้ 100% และเดรสผูกเอวซึ่งถือเป็นไอเทมที่ผู้หญิงทุกคนต่างๆ ต้องมีติดตู้เสื้อผ้า เหมาะสำหรับการจับคู่ทั้งกับแจ็คแก็ตปกขนสัตว์ เสื้อคาร์ดิแกนตัวยาว และกางเกงคูลอตสำหรับโอกาสแบบสบายๆ ปิดท้ายด้วยสไตล์การออกแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายและได้รับความนิยมจำนวนมากในกลุ่มผู้หญิงในยุค 70s ไม่ว่าจะเป็น เสื้อโค้ท แจ็คแก็ตผ้าทวีดแบบคลาสสิก กางเกงลูกฟูก (couduroy) และไอเทมต่างๆ ตามแบบฉบับเสื้อผ้าผู้ชายอีกมากมาย
ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.uniqlo.com/ines/20fw/th/
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม