

2020 ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงและก้าวเข้าสู่โลกที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเดิมๆถูกจำกัด รูปแบบการใช้ชีวิตใหม่ๆหรือที่เรียกว่า “นิวนอร์มอล” จึงเกิดขึ้น ผนวกกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสุดล้ำ นำมาซึ่งการปฎิวัติวงการบิวตี้โดยสิ้นเชิง
2018 ที่ผ่านมา ลอรีอัลได้ทำการซื้อกิจการ โมดิเฟส (MODIFACE) บริษัทสัญชาติแคนาดา ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AR และ AI (AUGMENTED REALITY & ARTIFICIAL INTELLIGENCE) ที่ประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมความงาม เป็นการนำเทคโนโลยีมาต่อยอด รับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้
โมดิเฟส ได้เริ่มก่อตั้งที่เมือง TORONTO เมื่อ 11 ปีก่อน โดย PARHAM AARABI ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงในการทำ 3D VIRTUAL MAKE-UP ทำให้จำลองการแต่งหน้าเสมือนจริงทั้งสีผิว และสีของเครื่องสำอาง ซึ่งตอนนี้แบรนด์ความงามใหญ่ๆ ของโลกได้เลือกใช้เทคโนโลยีนี้เช่นกัน
เทคโนโลยีนี้จะเป็นช่องทางใหม่ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับประสบการณ์เสมือนทดลองผลิตภัณฑ์จริงและสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ได้อย่างเสมือนจริง ความโดดเด่นของเทคโนโลยีนี้ก็คือ ความสมจริงสุด!ของภาพแสดงผล การแสดงเฉดสีที่แม่นยำ และความสามารถในการเปรียบเทียบเฉดสีแบบอัตโนมัติผ่านระบบ AI
ล่าสุด อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้ ได้นำเทคโนโลยีที่เป็นการร่วมพัฒนาระหว่างลอรีอัลและโมดิเฟส นำเสนอประสบการณ์การทดลองสินค้ารูปแบบใหม่ หรือ VIRTUAL TRY ON โดยสามารถทดลองสินค้าได้ทุกไอเทมโดยไม่ต้องมีการสัมผัส หรือสามารถครีเอทลุคสุดชิคได้ภายในคลิกเดียว
VIRTUAL TRY ON นี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเว็ปไซต์หลักของแบรนด์ แต่สำหรับลูกค้าคนไทยเริ่มใช้งานระบบนี้ได้แล้วผ่านไอแพดในทุกสาขา แต่สำหรับทางเว็ปไซต์ http://www.YSLBEAUTYTH.COM จะเปิดตัว VIRTUAL TRY ON อย่างเป็นทางการวันที่ 8 กันยายนนี้ ผ่านวีดีโอสุดเฟียซจาก YSL BEAUTY MUSE คนแรกของเมืองไทย “เจสซี ชูว์เทอร์” ที่มานำเสนอประสบการณ์การทดลองสินค้าในแบบลักชัวรีสำหรับโลกนิวนอร์มอล ด้วยการเลือกลองเฉดสีลิปจากคอลเล็กชั่นลิปตัวแม่ TATOUAGE COUTURE VELVET CREAM 204, 211, 212 และ 216 เฉดสีที่สาวก YSL ตัวจริงต้องมี และโลกของการช้อปปิ้งของคุณจะถูกเปลี่ยนแปลงตลอดไป
นอกจากนั้น โมดิเฟสและลอรีอัล ได้พัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำร่วมกันในการวิเคราะห์อายุและสภาพผิว โดยการรวบรวมฐานข้อมูลจากสภาพผิวของผู้คนต่างๆกว่าหมื่นรูป ประกอบด้วย 4,560 รูปเซลฟี่และ 5,834 จากคลินิกผิวหนัง โดยมีการทดสอบเฉพาะ 3 เชื้อชาติ เอเชียน, อัฟริกัน-อเมริกัน และคอเคเซียน ซึ่งเป็นภาพเซลฟี่ใน 5 โทนสีที่แตกต่าง นับว่าเป็นการวิเคราะห์ผิวจากข้อมูลมหาศาลและได้รับการรับรองจากผู้เชียวชาญทางด้านผิวหนังและนักวิทยาศาสตร์
ในโอกาสนี้ อีฟส์ แซ็งต์ โลร็องต์ โบเต้ จึงเปิดตัวแอพลิเคชั่น URBAN SKIN CHECK โดยอาศัยเทคโนโลยีที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง MODIFACE และลอรีอัล ในการวิเคราะห์อายุและสภาพผิวภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งในการวิเคราะห์ผิวครั้งนี้นำไปสู่ประสบการณ์การดูแลผิวด้วยสกินแคร์ที่ถูกเลือกให้สำหรับสภาพผิวนั้นๆโดยเฉพาะ
วิธีการตรวจสภาพผิว สำหรับ URBAN SKIN CHECK เริ่มต้นง่ายๆจาก 5 คำถามเกี่ยวไลฟ์สไตล์, สิ่งแวดล้อมและอายุ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่ออายุผิว จากนั้นสามารถถ่ายรูป โดยระบบ AI จะทำการวิเคราะห์และให้คะแนนคุณภาพผิว จาก 7 ปัญหาผิวสำคัญ ได้แก่ ความมัน, ความเรียบเนียน, หยาบกร้าน, หลุมสิว, รูขุมขน และโครงสร้างของผิว หลังจากได้รับการวิเคราะห์และทราบถึงปัญหาผิวต่างๆแล้ว ระบบจะวิเคราะห์สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับแต่ละบุคคลอย่างชาญฉลาด โดยนำเสนอสกินแคร์ที่ถูกออกแบบอย่างเป็นพิเศษสำหรับคนเมือง ในตระกูล PURE SHOTS อันประกอบด้วย NIGHT REBOOT SERUM ช่วยรีบู๊ตผิวในชั่วข้ามคืน, LIGHT UP SERUM ช่วยปรับผิวให้แลดูสว่างขึ้นพร้อมลดความหมองคล้ำ, LINES AWAY SERUM ช่วยลดเลือนริ้วรอย, Y SHAPE SERUM ช่วยปรนนิบัติผิวที่ดูหย่อนคล้อย, HYDRA BOUNCE ESSENCE-IN-LOTION โลชั่นช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวให้รู้สึกไม่แห้งตึง และ PERFECT PLUMPER CREAM ครีมที่ช่วยดูแลผิวจากความร่วงโรย เติมเต็มผิวให้ดูอิ่มเอิบและเปล่งปลั่ง
นับว่าเป็นแบรนด์เครื่องสำอางกูตูร์ลักชัวรีแบรนด์แรก ที่นำเสนอเทคโนโลยีทั้งในส่วนของเมคอัพและสกินแคร์ได้สมบูรณ์แบบ พร้อมนำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบใหม่ๆโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และปรับตัวเข้ากับยุคนิวนอร์มอลได้อย่างรวดเร็ว
เคาน์เตอร์ YSL BEAUTY ทั้ง 18 สาขา
- สยามพารากอน โทร. 02-610-9090 ชั้น G
- ดิ เอ็มควอเทียร์ โทร. 02-003-6427 ชั้น G
- เดอะมอลล์ บางกะปิ โทร. 02-363-3061 ชั้น G
- เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โทร. 06-5951-9273
- เซ็นทรัล ชิดลม โทร. 02-655-7873
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 02-937-1254
- KIS Beauty สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 02-937-0616
- เซ็นทรัล บางนา โทร. 02-398-5106
- เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า โทร. 02-884-8092
- เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์ โทร. 02-100-9277
- เมกาบางนา
- เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์
- เซ็นทรัล นครราชสีมา โทร. 044-002-924
- เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา โทร. 038-043-420
- เซ็นทรัล ภูเก็ต โทร. 076-209-231
- เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสตา โทร. 076-209-231
- เซ็นทรัล ป่าตอง โทร. 076-603-201
- เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ โทร. 053-288-631
- E-Boutique: https://www.yslbeautyth.com
- YSL Beauty Official Fanpage: https://www.facebook.com/YSLBeautyTH/
- Line @YSLThailand
ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบสไตล์การแต่งตัวแบบไหนหรือมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างไร เชื่อว่าทุกคนต้องมีกางเกงขาห้าส่วนตัวโปรดเป็นหนึ่งในไอเทมชิ้นเบสิกติดตู้เสื้อผ้า เพราะนอกจากจะโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นที่ช่วยเสริมลุคให้ดูสมาร์ทแล้ว ยังเพิ่มความคล่องตัวอย่างมีสไตล์ในทุกๆ โอกาสได้อย่างลงตัว
จากความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่นที่ยึดมั่นหลักปรัชญาไลฟ์แวร์ในการผลิตเสื้อผ้าที่เรียบง่ายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้เดินหน้าพัฒนากางเกงตัวโปรดของทุกคนอีกขั้น พร้อมแนะนำ “UNIQLO SMART ANKLE PANTS” กางเกงสมาร์ทขาห้าส่วนสุดอเนกประสงค์ สวมใส่สบาย และยังดูแลง่าย ออกแบบมาภายใต้แนวคิด“Design for Style, Made for Comfort” หรือ #รู้ใจทุกสไตล์สบายทุกโอกาส
● เพราะรู้ใจว่าชีวิตมีหลายด้าน ทั้งงาน ทั้งเล่น กางเกงเลยต้องแมทช์ง่าย เข้าได้กับทุกชุด ทุกโอกาส
สไตล์การแต่งตัวนอกจากจะบ่งบอกถึงตัวตนและรสนิยมแล้ว ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในการทำงาน หนุ่มสาวชาวออฟฟิศอาจหลบหลีกความจำเจจากกางเกงขายาวแบบเดิมๆ แล้วหันมาจับคู่เสื้อเชิ้ตสุดเนี้ยบกับกางเกงสมาร์ทขาห้าส่วนที่ยังคงสะท้อนความเป็นมืออาชีพอย่างมีสไตล์ ในขณะเดียวกันยังช่วยให้ช่วงขาดูเพรียวยาวยิ่งขึ้น
ด้วยดีไซน์ทรงกางเกง และการเลือกใช้เนื้อผ้าคุณภาพสูงในการผลิตด้วยเส้นด้ายและเทคนิคการย้อมแบบเดียวกับสูทระดับพรีเมียมจากฝรั่งเศส จึงการันตีความหรูหราในทุกสัมผัส UNIQLO SMART ANKLE PANTS ถือเป็นไอเทมชิ้นเบสิกที่สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้ง่าย สวมใส่ได้หลากหลายโอกาส ไปได้ทุกที่ได้ตลอดวัน ไม่ว่าจะเป็น การจับคู่กับเสื้อเบลเซอร์สำหรับเข้าประชุมนัดสำคัญ หรือคู่กับเสื้อยืดสุดสบายในวันศุกร์แบบสมาร์ทแคชชวล พร้อมลุยปาร์ตี้ต่อหลังเลิกงาน
● เพราะเข้าใจว่าเวลาทุกนาทีมีความหมาย กางเกงตัวโปรดจึงต้องดูแลง่าย ซักง่าย ไม่ต้องรีด
ยูนิโคล่รู้ใจว่าทุกเวลาของคุณมีค่า จึงคิดค้นกางเกงสมาร์ทขาห้าส่วนด้วยฟังก์ชั่น Easy Care ทำให้ดูแลง่าย ยับยาก หยิบมาใส่ก็ออกไปใช้ชีวิตได้เลย
● เพราะเข้าใจว่าชีวิตต้องแอคทีฟ ยืดหยุ่นกับกิจกรรมหลากหลาย กางเกงเลยต้องใส่สวย สบาย และรองรับทุกการเคลื่อนไหว
ไม่จำเป็นที่วันหยุดพักผ่อนต้องคู่กับกางเกงขาสั้นเพียงอย่างเดียวเสมอไป กางเกงสมาร์ทขาห้าส่วนจากยูนิโคล่ พิเศษยิ่งกว่าด้วยเนื้อผ้า 2-Way Stretch ที่ยืดได้ทั้งสองทิศทางทั้งแนวตั้งและแนวนอน มาพร้อมเอวยางยืด เพิ่มความสวมใส่สบายในทุกการเคลื่อนไหว ตอบโจทย์กางเกงสุดอเนกประสงค์เหมาะกับทุกกิจกรรม พร้อมพาคุณออกไปใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานและไร้ความกังวล
UNIQLO SMART ANKLE PANTS กางเกงสมาร์ทขาห้าส่วนจากยูนิโคล่วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านยูนิโคล่ ทุกสาขา หรือทางช่องทางออนไลน์ที่ http://www.uniqlo.com/th และแอปพลิเคชัน UNIQLO TH บน App Store หรือ Google Play Store
สามารถเลือกชมสินค้าทางเว็บไซต์พิเศษตามด้านล่าง
สำหรับผู้หญิง: https://www.uniqlo.com/th/store/women/bottoms/smart-pants.html
สำหรับผู้ชาย: https://www.uniqlo.com/th/store/men/bottoms/smart-pants.html
หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการและสร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งคอแก็ดเจ็ตและสายสุขภาพ-ฟิตเนสกูรู ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา HUAWEI Watch Fit สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดของหัวเว่ยก็ขึ้นแท่นไอเท็มเด็ดที่ต้องมี (must-have item) ทันที ด้วยความสามารถที่ครบครัน มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานหลักเพื่อตรวจจับวัดค่าและเก็บข้อมูลทางสุขภาพที่แม่นยำกว่าใคร ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าว (จังหวะการเคลื่อนไหว) ระยะทาง ระดับความเครียด ไปจนถึงคุณภาพในการนอนหลับ รองรับการออกกำลังกายที่หลากหลายสูงสุดถึง 96 โหมด มีโค้ชแบบเสมือนที่จะมาสอนการขยับ ออกกำลังกายแบบเอ็กซ์คลูสีฟถึง 12 คอร์ส (Animated Fitness Course) และดีไซน์หน้าจอ AMOLED ที่คมชัดระดับ HD แสดงผลเต็มตา แจ้งเตือน notification พร้อมอ่านข้อความบนหน้าจอได้ทันที ในราคาที่สัมผัสได้ 3,499 บาท เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์สุดคุ้มสำหรับทุกคน ในราคาที่ใกล้เคียงกับแอคทีฟแบนด์ทั่วไป แต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานระดับสมาร์ทวอทช์รุ่นท็อป โดยหัวเว่ยตั้งใจที่จะสนับสนุนให้ทุกคนหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพและมีแอคทีฟไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น งานนี้ได้คู่รักสายแอคทีฟ ที่เป็นแฟนของแบรนด์อย่าง ลิเดีย - ศรัณรัชต์ และแมทธิว ดีน มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ พร้อมทริคแอนด์ทิปส์ในการใช้งาน HUAWEI Watch Fit ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลังทดลองใช้ก่อนใคร เผื่อใครที่กำลังเล็งสมาร์ทวอทช์
โดยมี 3 ข้อหลักๆ ต่อไปนี้ ไว้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาก่อนซื้อ
- การวัดผลที่แม่นยำส่งผลต่อการดูแลสุขภาพและทำให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพ
- รองรับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน
- ดีไซน์อัจฉริยะที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง อ่านผลการวัดค่าต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ลิเดีย กล่าวว่า “เราทั้งคู่เป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว สมาร์ทวอทช์จึงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลการออกกำลังกายและวัดค่าสุขภาพต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ คนที่ออกกำลังกายจะต้องการทราบอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) เพราะว่ามีผลต่อการเผาผลาญแคลอรี่ และอย่างถ้าเราวิ่งก็ต้องการทราบระยะทาง ระยะเวลา และแคลอรี่ที่เผาผลาญ ตรงนี้ HUAWEI Watch Fit ก็จะสามารถช่วยได้ ที่เดียชอบคือผลค่อนข้างแม่นยำ อย่างเรื่องระยะทาง บางทีเราวิ่งในสวน เราทราบระยะทางอยู่แล้ว เท่าที่เช็คของหัวเว่ยคือใกล้เคียงมาก เป๊ะสุดในเรื่องของการวัดผล”
ซึ่งความแม่นยำในการเก็บข้อมูลและวัดค่าต่างๆ ของสมาร์ทวอทช์ ถือเป็นคุณสมบัติหลักที่ผู้ใช้สมาร์ทวอทช์ต้องการ เพราะการเก็บข้อมูลทางสุขภาพ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถประเมินและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ รวมถึงการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกายได้ ดังนั้นการเก็บข้อมูลคุณภาพการนอน ระดับความเครียด ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ไปจนถึงรอบเดือน จะยิ่งช่วยให้เราเห็นวงจรสุขภาพที่ครบสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
แมทธิว กล่าวเสริมว่า “คนที่ชอบออกกำลังกายอย่างผม หรือแม้แต่คนที่เพิ่งเริ่มสนใจออกกำลังกาย เราต่างก็ต้องการความแปลกใหม่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกกำลังกายในแต่ละวัน เพื่อให้การออกกำลังกายสนุกมากยิ่งขึ้น HUAWEI Watch Fit รองรับการออกกำลังกายได้สูงสุดถึง 96 โหมด 11 โหมดการออกกำลังกายปกติ และอีก 85 โหมดที่เราปรับเองได้ตามสไตล์ ช่วยกระตุ้นให้เราอยากออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น”
สมาร์ทวอทช์ที่มีประสิทธิภาพจะต้องสามารถวัดผลการออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน นอกจากนี้การมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยส่งเสริมการออกกำลังกายอย่างโปรแกรมแนะนำการออกกำลังกายที่ถูกต้อง หรือการแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้ไม่ได้ขยับร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้มีแอคทีฟไลฟ์สไตล์ได้
“หน้าจอของสมาร์ทวอทช์มีส่วนสำคัญมาก เพราะผู้ใช้ต้องอ่านค่าต่างๆ อยู่ตลอดเวลา การที่มีหน้าจอแบบ Always On จะช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องมาค่อยแตะเพื่อเปิดดูเวลา อย่างผมวิ่งอยู่ข้างนอก บางทีอยากดูเวลา HUAWEI Watch Fit ก็คือดูได้เลย เพราะว่าหน้าจอมีการปรับอัตโนมัติให้สามารถแสดงผลได้ทุกสภาพแสง” แมทธิวกล่าว
หน้าจอแสดงผลของสมาร์ทวอทช์ควรถูกออกแบบให้สามารถอ่านการวัดค่าต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องในทุกสภาพแสง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงโหมด Always On ที่แสดงผลได้แม้สมาร์ทวอทช์หลับอยู่ นอกจากนี้หากสามารถจัดเรียงฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้งานบ่อยไว้บนหน้าปัดได้จะยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้
ลิเดียกล่าวเสริม “เรื่องของสีสันและตัวเรือนก็มีส่วนสำคัญต่อการใช้งาน อย่างหน้าจอที่โค้งทำมุมและมีตัวเรือนบาง น้ำหนักเบาแบบ HUAWEI Watch Fit ก็สามารถใส่ออกกำลังกายได้ทุกรูปแบบจริงๆ มีหลายสีให้เลือกตามสไตล์ อย่างของลิเดียจะใช้สีชมพู Sakura Pink หรือส้ม Cantaloup Orange ก็ได้ ถ้าเป็นพี่แมทก็มีสีเขียว Mint Green และดำ Graphite Black ให้เลือก ไม่ลิมิตอยู่แค่สีใดสีหนึ่ง สายสามารถถอดเปลี่ยนได้ คุ้มค่ามากค่ะ”
นอกจาก 3 คุณสมบัติหลักที่กล่าวไปข้างต้น ทั้งเรื่องการวัดผลที่แม่นยำ ความสามารถในการรองรับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ และดีไซน์อัจฉริยะ ฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อื่นๆ เช่น ความสามารถในการเป็นรีโมท กดถ่ายภาพระยะไกลจากสมาร์ทวอทช์ได้ ความสามารถในการแจ้งเตือนและกดอ่านข้อความมือถือจากสมาร์ทวอทช์ได้ เก็บและเล่นเพลงได้ รวมถึงความสามาถในการช่วยค้นหาโทรศัพท์ เป็นไฟฉาย หรือตั้งปลุก เป็นต้น ล้วนช่วยให้สมาร์ทวอทช์ HUAWEI Watch Fit เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า โดย HUAWEI Watch Fit มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Graphite Black, Mint Green, Cantaloupe Orange และ Sakura Pink ราคา 3,499 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ หัวเว่ย ออนไลน์ สโตร์ และหัวเว่ยแบรนด์ช็อปทุกสาขา
สงครามแห่งดวงดาวจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง ในรูปแบบของเครื่องประดับแห่งกาแลคซี่ Pandora ร่วมกับดิสนีย์ ส่งคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดเอาใจแฟนคลับสุดยอดภาพยนตร์มหากาพย์ชื่อดัง “สตาร์วอร์” (Star Wars)
แพนดอร่า (Pandora) เครื่องประดับและจิวเวลรีชื่อดังสัญชาติเดนมาร์ก ผู้สร้างสรรค์สร้อยข้อมือและชาร์มอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ และครองใจผู้หญิงทั่วโลก มานานกว่า 20 ปี เดินหน้าสร้างสีสันอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมออกคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดร่วมกับดิสนีย์ กับการนำคาแรคเตอร์ของตัวละครสำคัญ และสัญลักษณ์จากมหากาพย์ชื่อดัง “สตาร์วอร์” ที่ครองใจแฟนๆ มาสร้างตำนานบทใหม่ให้เกิดขึ้นผ่านครื่องประดับ 10 ชิ้นพิเศษของแพนดอร่าเป็นครั้งแรก
Francesco Terzo และ A. Flippo Ficarelli ประธานกรรมการฝ่ายสร้างสรรค์คนสำคัญของแบรนด์แพนดอร่า กล่าวว่า “เราต้องการจะนำเสนอให้เห็นถึงอีกมิติหนึ่งของสตาร์วอร์ ที่เดินทางจากภาพยนตร์ไตรภาคที่คนทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี มาถึงยุคใหม่ของภาพยนต์ซีรีย์ล่าสุดดิสนีย์ สตาร์วอร์: “The Mandalolian” โดยครั้งนี้ทีมออกแบบได้บรรจงสร้างสรรค์ เพื่อจะแปลงโฉมคาแรคเตอร์ตัวละครสำคัญของสตาร์วอร์ให้กลายมาเป็นเครื่องประดับมาสเตอร์พีซ ที่ยังคงเน้นความปราณีต รายละเอียดดีเทลงานฝีมือทุกชิ้นที่ทำขึ้นโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญ”
คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Star Wars x Pandora นำเสนอชาร์มสุดพิเศษถึง 10 แบบ โดยชาร์มแต่ละชิ้นได้ถูกออกแบบมาด้วยความใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงคาแรคเตอร์สำคัญของเรื่อง อาทิ ชาร์ม Darth Vader (ดาร์ธ เวเดอร์) ซิธลอร์ดแห่งกาแลคซี่ วายร้ายแห่งจักรวาล , ชาร์มหุ่นยนต์คู่หูคู่ซี้ C-3PO และ R2-D2 ที่ส่วนหัวและแขนขาสามารถขยับได้, ชาร์มหุ่นยนต์แอนดรอย์ BB-8 (บีบีเอท), ชาร์ม Chewbacca (ชิวแบคคา หรือ ชิวอี้) บัดดี้ขนยาว เจ้าสัตว์อวกาศแสนน่ารักที่โดดเด่นตรงดีไซน์เข็มขัดในรูปแบบ 3มิติ, ชาร์ม The Child ตัวละครใหม่จากภาพยนตร์ซีรีย์ดิสนีย์ สตาร์วอร์ : The Mandalorian
นอกจากนี้ยังมีชาร์มรุ่น Limited Edition ออกมาให้สะสมกันอีกด้วยคือ Pandora Shine ชาร์มโลโก้สตาร์วอร์ สุดคลาสสิคสีทอง โดดเด่นด้วยวัสดุงดงามชุบทอง 18k
1 ตุลาคมนี้ เตรียมพบกับปรากฎการณ์ตำนานสตาร์วอร์ กับคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด Star Wars x Pandora ที่พร้อมเปิดฉากให้แฟนๆได้เป็นเจ้าของแล้วที่ร้านแพนดอร่าทุกสาขาทั่วประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. Call Center 02.264.5080 หรือทางออนไลน์ Line @pandora.th
#PANDORATH #STARWARSxPANDORA #TANACHIRA
สมาร์ตโฟนเปี่ยมสไตล์ ในดีไซน์ที่บางและเบาอย่างเหลือเชื่อ สมาชิกใหม่ล่าสุดของครอบครัว Vivo V ซีรีส์ พร้อมยกระดับความบางเบาของสมาร์ตโฟนขึ้นไปอีกขั้น ทีมดีไซน์ของ Vivo เสาะแสวงหาการออกแบบเพื่อสร้างสรรค์สมาร์ตโฟนที่เหล่าคนยุคโซเชียลสามารถพกพาได้อย่างสะดวกสบายและเพียบพร้อมด้วยดีไซน์เก๋ในขณะเดียวกัน ด้วยแรงบันดาลใจจากข้าวของที่ใช้ในชีวิตประจำวันและจากธรรมชาติ เพื่อนำเสนอดีไซน์ที่ท้าทายกับกรอบนิยามของ ‘ความบาง’ จะบางได้สักแค่ไหน เท่าชิ้นพิซซ่า เท่าใบว่านหางจระเข้ หรือเท่าเลนส์แว่นกันแดด? ด้วยความบางเพียง 7.39 มิลลิเมตร สมาร์ตโฟน V20 Pro เป็นโมเดลใหม่เอี่ยมจาก V20 ซีรีส์ จึงขึ้นแท่นเป็นสมาร์ตโฟนที่เพรียวบางที่สุดในปี 2563 นี้ และหนักเพียง 170 กรัม ตอกย้ำการออกแบบสมาร์ตโฟนสุดล้ำสมัยที่ควรค่าแก่การเป็นรุ่นเรือธงอย่างแท้จริง
ด้านสมาร์ตโฟน V20 Pro พร้อมสื่อตัวตนของผู้ใช้และนำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยของ Vivo ด้วยความบางเพียง 7.39 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 170 กรัม ครองตำแหน่งสมาร์ตโฟน 5G ที่เพรียวบางที่สุดในโลก
ภายใต้ดีไซน์บางเฉียบของสมาร์ตโฟน V20 ซีรีส์ มาพร้อมนวัตกรรมการถ่ายภาพบนมือถือสุดล้ำสมัยของ Vivo อย่างกล้องหน้าคู่พร้อมฟีเจอร์ Eye Autofocus เพื่อโฟกัสติดตามดวงตาอัตโนมัติ ในแง่การออกแบบเพื่อยกระดับความโฉบเฉี่ยว Vivo ยังได้พัฒนาดีไซน์ Dual Tone Step ที่เพิ่มมิติความลึกแต่ยังคงความเพรียวบางในสมาร์ตโฟน V20 ซีรีส์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวกล้องที่นูนออกมาให้เทอะทะเหมือนสมาร์ตโฟนเรือธงด้านการถ่ายภาพรุ่นก่อนๆ โดยส่วนบนมีเลนส์กล้องหลักสีดำ ในขณะที่ส่วนล่างดีไซน์มาในรูปแบบวงแหวนพร้อมโทนสีเดียวกันกับฝาหลัง เมื่อนำมาประกอบรวมกันจึงเป็นดีไซน์ที่เพียบพร้อมทั้งประโยชน์ใช้สอยและสุนทรียศาสตร์ เป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพกับแฟชั่น วิทย์กับศิลป์ และเทคโนโลยีกับมนุษย์ นับเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถในการประดิษฐ์และพัฒนาของ Vivo อย่างแท้จริง
สมาร์ตโฟน Vivo V20 ซีรีส์ จะเปิดตัวในไทยใน 21 กันยายน 2563 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vivo.com/th/about-vivo/news
บริษัท เอคโค่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้า ECCO แบรนด์คุณภาพชั้นนำระดับโลกจากประเทศเดนมาร์ก เปิดตัวรองเท้า ECCO ST.1 (เอคโค่ เอสที.วัน) สนีกเกอร์รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับคอลเลคชั่นประจำฤดูกาล Autumn/Winter2020 ที่ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานในรูปแบบสวมใส่ได้ทั้งชีวิตประจำวันผสมผสานลุคสปอร์ตเข้าไว้กับความแอคทีฟ คงไลฟ์สไตล์ที่ดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
และสำหรับรองเท้า ECCO ST.1 สนีกเกอร์คอลเลคชั่นประจำฤดูกาล Autumn/Winter2020 นั้นได้เพิ่มความโดดเด่นด้วยกลุ่มสี color block ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ทำให้ง่ายต่อการมิกซ์แอนด์แมทซ์กับการแต่งกายในทุก ๆ วัน
● สวมใส่สบายในทุกวัน
ECCO ST.1 เป็นรองเท้าผลิตจากหนังแท้คุณภาพพรีเมียมจากโรงงานผลิตหนังของเอคโค่เอง ผสมผสานกับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่าง FLUIDFORM™ เทคโนโลยีที่เป็นรากฐานแห่งความสบายและยืดหยุ่นของรองเท้าเอคโค่ อีกทั้งยังช่วยรองรับสรีระของเท้าได้อย่างลงตัว นอกเหนือจากนั้นยังมีเทคโนโลยีที่เป็นจุดไฮไลท์สำคัญของรองเท้ารุ่น ECCO ST.1 อย่าง SHOCK-THRU ที่รองรับการกระแทกในเวลาเดินทำให้สวมใส่สบายไม่ว่าจะทำกิจกรรมใด
รองเท้าจาก Autumn / Winter 2020 Collection เริ่มวางจำหน่ายแล้วที่ร้านเอคโค่สาขา CENTRAL WORLD ,CENTRAL BANGNA , MEGA BANGNA , ZPELL , CENTRAL FESTIVAL PATTAYA , CENTRAL FESTIVAL CHIANG MAI และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับรองเท้ารุ่น ECCO's ST.1 รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆจากแบรนด์เอคโค่ สามารถติดตามข่าวสารที่ www.facebook.com/EccoThailand และ Instagram ECCO_THAILAND
#ECCOSHOES #ECCOTHAILAND #ECCOST1
อีกระดับของเทคโนโลยีเพื่อสุดยอดประสบการณ์เซลฟีกับกล้องหน้าชัดระดับ 44 ล้านพิกเซล มาพร้อมเทคโนโลยีระบบโฟกัสด้วยสายตา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความสุขในทุกช่วงเวลาชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน Vivo เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงV20 ซีรีส์ ที่ทุกคนเฝ้าคอย เพื่อยกระดับการถ่ายเซลฟีที่คมชัดกว่าและโฟกัสได้ดีขึ้นในดีไซน์สุดบางเบา สมาร์ตโฟน Vivo V20 ซีรีส์ ชัดระดับ 44 ล้านพิกเซล มาพร้อมเทคโนโลยีระบบโฟกัสด้วยสายตา (Eye Autofocus) เพื่อการถ่ายภาพบุคคลได้อย่างสวยงาม เต็มที่ในทุกรายละเอียดของสีสันและความลึกของภาพ
จัดเต็มกับกล้องหน้าสองตัวบน Vivo V20 ซีรีส์ ด้วยกล้องหลัก Super Definition ความละเอียดสูง 44 ล้านพิกเซล ที่เก็บได้ครบทุกรายละเอียดในระยะใกล้สูงสุดถึง 15 เซนติเมตรและซูมได้ไกลกว่าด้วยระยะโฟกัสแบบไม่จำกัด พร้อมด้วยกล้อง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอีกตัวเพื่อเก็บรายละเอียดภาพมุมกว้างได้ดียิ่งขึ้น การเปิดตัวสมาร์ตโฟนV20 ซีรีส์ ล่าสุดจาก Vivo พร้อมแล้วที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ของกล้องหน้าบนมือถือ และนำเสนอนวัตกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค
สุดยอดความคมชัดทั้งโฟกัสใกล้และไกล ถ่ายได้นิ่งกว่าในทุกความเคลื่อนไหวและสภาพแสง
เพราะดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ Vivo V20 ซีรีส์จึงใส่ฟีเจอร์ระบบโฟกัสด้วยสายตา (Eye Autofocus) เพื่อสุดยอดความคมชัดทุกรายละเอียดของดวงตา โดยจะสามารถตรวจจับทุกความเคลื่อนไหวและการแสดงอารมณ์ พร้อมสำหรับการถ่ายเซลฟีในทุกที่ทุกเวลา โดยฟีเจอร์ Eye Autofocus จะโฟกัสติดตามดวงตาได้อย่างแม่นยำเมื่อมีการเคลื่อนไหว และจะสลับระยะโฟกัสได้อย่างราบรื่นทั้งใกล้และไกล คุณสมบัติสุดล้ำนี้ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องมองที่เลนส์กล้องเมื่อถ่ายเซลฟี แต่สามารถแสดงความรู้สึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อเก็บทุกรายละเอียดภาพอย่างง่ายดายในทุกๆ ช่วงเวลาที่น่าจดจำ
สมาร์ตโฟน Vivo V20 ซีรีส์ ติดตั้งอัลกอริทึม AI ทรงพลังที่ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลขณะแสงน้อยในโหมด Super Night Selfie เพิ่มความสว่างของใบหน้าโดยรวม เพื่อสุดยอดความคมชัดของการถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait ด้วยกล้องหน้าแม้ในสภาพแสงน้อย นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Selfie Softlight Band ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่องจะมอบอุณหภูมิสีที่สมบูรณ์แบบ และให้โทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติ โดยปรับตามสภาพแสงแวดล้อมโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟีในสภาพแสงน้อยหรือเวลากลางคืนได้เป็นเรื่องง่ายและจัดภาพได้คมชัด
หมดกังวลเมื่อต้องถ่ายวิดีโอด้วยกล้องเซลฟีบนสมาร์ตโฟน V20 ซีรีส์ ด้วยโหมด Steadiface Selfie Video โหมด Slo-Mo Selfie Video และโหมด 4K Selfie Video เพื่อบันทึกวิดีโอเซลฟีสุดคมชัดระดับ 4K อย่างมีศิลปะได้ง่ายๆ โดยสามารถถ่ายวิดีโอในชีวิตประจำวันสุดแอคทีฟได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาพเบลอจากการสั่นด้วยโหมด Steadiface Selfie Video ไม่ว่าคุณจะวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้า เข้าคลาสออกกำลังกายสุดเข้มข้น หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง สมาร์ตโฟนV20 ซีรีส์ ก็สามารถบันทึกวิดีโอในทุกช่วงเวลา ด้วยกล้องพอร์ทเทรตที่นิ่งกว่าเดิมอีกระดับสมาร์ตโฟน Vivo V20 ซีรีส์ จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 21 กันยายน 2563
ติดตามข่าวสารของ Vivo ได้ที่ https://www.vivo.com/th/about-vivo/news
การผสมผสานความเรียบหรูและใส่สบายได้อย่างลงตัว
ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น เตรียมวางจำหน่ายคอลเลคชั่นล่าสุดของ ยูนิโคล่ ยู (Uniqlo U) ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวปี 2020 ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนนี้ คอลเลคชั่นนี้ออกแบบโดยผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ คริสตอฟ เลอแมร์ (Christophe Lemaire) ร่วมกับทีมงานที่ศูนย์วิจัยและพัฒนา ยูนิโคล่ (UNIQLO R&D) ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส โดยได้เสริมความคลาสสิกด้วยเฉดสีกลางๆ ที่เข้ากับหลายโทนผิว พร้อมผสานหลากสีสันที่เข้ม เรียบ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและสบาย โดยคอลเลคชั่นนี้มีเสื้อผ้าผู้หญิง 38 ไอเทม เสื้อผ้าผู้ชาย 39 ไอเทม และเครื่องแต่งกายอื่นๆ อีก 4 ไอเทม
● พัฒนาเพื่อผู้หญิง: รายละเอียดและความสบาย
ไอเทมสำหรับผู้หญิงได้แรงบันดาลใจมาจากความเรียบง่ายแบบมินิมัล ด้วยการออกแบบที่ดูคลีนสบายตา เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน เข้ากับการแต่งกายในยุคปัจจุบัน ไอเทมที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกฤดูกาลมาพร้อมการเพิ่มรายละเอียดและการให้ความรู้สึกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อสวมใส่ การใช้โทนสีกลางๆ ที่สามารถสวมใส่ได้สำหรับทุกโทนผิว ช่วยเสริมบรรยากาศอบอุ่นและสบาย การใช้เฉดสีฟ้าอมเทาช่วยตัดสีได้อย่างมีเสน่ห์ ความมันวาวจากผ้าซาตินและผ้าวิสคอสย่นยังช่วยเสริมสไตล์ให้ดูหรู พร้อมให้ลุคประณีตด้วยทรงตรงเรียบๆ
เสื้อโค้ทยาวบุผ้าผสมผสานความเรียบหรูเข้ากับความอบอุ่นได้อย่างลงตัว เดรสสไตล์วินเทจยังได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตบรรจง ใส่สวยแถมยังสบาย ส่วนเสื้อผ้าถัก (Knit) ใส่แล้วเข้ารูปดูดี ขณะที่แจ็คเก็ตผ้าเจอร์ซี่ผสมผ้าวูลทรงบ็อกซีแม้ทรงจะคล้ายเสื้อผู้ชายแต่ก็เข้ากับรูปร่างผู้หญิงได้เป็นอย่างดี
● พัฒนาเพื่อผู้ชาย: เสริมความอบอุ่นอย่างมีระดับ
ไอเทมสำหรับผู้ชายได้แรงบันดาลใจมาจากพลังแห่งวัฒนธรรมสตรีทของวัยรุ่นยุโรปหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งความคลาสสิกและความสปอร์ตอยู่ในเสื้อผ้าทรงบ็อกซีและชุดโอเวอร์ไซส์ทรงหลวม โดยยังคงความเรียบหรูด้วยสีดำ สีขาว และ
สีฟ้าเข้ม รวมถึงสีส้มเข้มและสีม่วงแดงที่ให้กลิ่นอายของยุคนั้นได้ดี สำหรับเนื้อผ้าและผ้าชั้นนอกที่ให้ความอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็นผ้าคอร์ดูรอย ผ้าฟลีซผสมผ้าวูล และเจอร์ซี่ผ้าวูล ยังช่วยเสริมความสบายยิ่งขึ้นเมื่อสวมใส่
แจ็คเก็ตทรงบลูซอนบุผ้าคอร์ดูรอยที่มาในทรงกลมยังช่วยเสริมความอบอุ่นและดูดีมีระดับ ส่วนเสื้อโค้ททรงบ็อกซีครึ่งตัวยังมีปกเสื้อแบบโอเวอร์ไซส์และเพิ่มผ้าอีกชั้นด้านหน้าเพื่อช่วยกันลม (storm placket) ขณะที่ผ้าฟลีซขนนุ่มยังช่วยเสริมให้เสื้อเชิ้ตทรงแจ็คเก็ตสามารถสวมใส่ได้ทั้งด้านนอกและด้านใน ส่วนแจ็คเก็ตตัวสั้นสุดเก๋ยังเสริมความอบอุ่นด้วยผ้าฟลีซผสมผ้าวูล
สามารถดูรายละเอียดของคอลเลคชั่นนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.uniqlo.com/uniqlo-u/20fw/th
ไม่ว่าคุณจะมีผิวแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของความสะอาด ซึ่งนับว่าเป็นการดูแลผิวขั้นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวอ่อนแอแพ้ง่าย ยิ่งต้องดูแลล้างหน้าให้สะอาด เพราะผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย หากมีสารตกค้าง แต่ยิ่งทำความสะอาดผิวมากเท่าไหร่ ผิวยิ่งกลับแห้งและระคายเคืองได้ง่าย เพราะสารทำความสะอาดผิวทั่วไป อาจทำร้ายให้ผิวบอบบาง และเสียความชุ่มชื้น
ครั้งแรก ของการทำความสะอาดผิวหน้าด้วย ไฮยาลูรอน (Hyaluron) ที่ช่วยให้ทั้งสะอาด และอ่อนโยน พร้อมเติมความชุ่มชื้นขั้นสุด ในหนึ่งเดียว ด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วย APG Complex พร้อมพลังไฮยาลูรอน สารเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ที่สูญเสียความชุ่มชื้นไปในระหว่างการทำความสะอาดผิว ผิวจึงนุ่มชุ่มชื้นอิ่มน้ำทันทีหลังใช้ พร้อมช่วยฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ให้ผิวแข็งแรงขึ้น
สูตรอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย ปราศจาก SLS, สารสบู่, แอลกอฮอล์, พาราเบน และน้ำหอม ด้วยสองขั้นตอนง่ายๆ
● ขั้นตอนที่ 1 – ยูเซอริน อัลตร้าเซ็นซิทีฟ [ไฮยาลูรอน] ไมเซลล่าร์ วอเตอร์ โฟม (Eucerin Ultrasensitive [HYALURON] Micellar Water Foam) เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วยไมเซลล่าร์ โฟมเนื้อนุ่ม จึงช่วยลดการเสียดสีจากสำลี ลดการทำร้ายเกราะปกป้องผิว ขนาด 150 ml ราคา 540 บาท
● ขั้นตอนที่ 2 – ยูเซอริน อัลตร้าเซ็นซิทีฟ [ไฮยาลูรอน] คลีนซิ่ง เจล (Eucerin UltraSENSITIVE [Hyaluron] Cleansing Gel) ล้างทำความสะอาดสิ่งตกค้างบนผิวหน้าอีกครั้งด้วยเนื้อเจลไฮยาลูรอน สะอาด อ่อนโยน ไม่แห้งตึง พร้อมให้ความชุ่มชื้น ขนาด 200 ml ราคา 540 บาท
พิสูจน์ผลรับจากผู้ใช้จริง 98% รู้สึกผิวเด้ง ชุ่มชื้นขึ้น สามารถหาซื้อกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ยูเซอริน อัลตร้าเซ็นซิทีฟ (ไฮยาลูรอน) ได้แล้วในวัตสัน, บู๊สท์ และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป ข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อออนไลน์ที่ https://bit.ly/34fbgRZ
บริษัท Casio Computer Co., Ltd. ประกาศเปิดตัวนาฬิกาโครโนกราฟโลหะรุ่นใหม่ในไลน์นาฬิกาสมรรถนะสูง EDIFICE ได้แก่รุ่น EQB-1100AT และ ECB-20AT ซึ่งมาพร้อมคอนเซปต์ "ความเร็วและอัจฉริยะ" ของทางแบรนด์ โดยเป็นผลงานสร้างสรรค์ที่เกิดจากความร่วมมือกับทีมแข่งรถฟอร์มูล่าวัน Scuderia AlphaTauri เจ้าของแชมป์ 2020 Italian GP
Casio เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ Scuderia Toro Rosso มาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่ง EQB-1100AT และ ECB-20AT นับเป็นนาฬิการุ่นแรกหลังจากที่ทีมเปลี่ยนชื่อเป็น Scuderia AlphaTauri ในฤดูกาลนี้ ตัวหน้าปัดของนาฬิกาใช้สีกรมท่าไล่เฉดไปสีขาว ซึ่งเป็นสีประจำทีม Scuderia AlphaTauri และยังเป็นสีน้ำเงินกรมท่าเดียวกับสีของแบรนด์ EDIFICE นาฬิการุ่น ECB-20AT โดดเด่นด้วยตัวเรือนและสายสีน้ำเงินกรมท่า ขณะที่ทั้งสองรุ่นมีโลโก้ของทีมประดับอยู่บนหน้าปัด ฝาหลัง และสายนาฬิกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบที่ผสมผสานกับมุมมองระดับโลกของ Scuderia AlphaTauri
นาฬิการุ่น EQB-1100AT มีตัวเรือนบาง 9.6 มม. และกรอบทรงแปดเหลี่ยมที่ทำจากคาร์บอน ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในวงการมอเตอร์สปอร์ต และแสดงเวลาได้พร้อมกันในสองเมือง นาฬิการุ่น ECB-20AT มาพร้อมกับตัวจับเวลาแบบ Schedule Timer และสายนาฬิกาหนังที่มีโลโก้ของทีมสลักอยู่ สำหรับหน้าปัดนาฬิกาทั้งสองรุ่น ทำจากคริสตัลแซฟไฟร์กันรอยขีดข่วน ซึ่งแข็งแรงพอสำหรับกลไกลของทีม ตัวนาฬิกายังสามารถปรับเวลาโดยอัตโนมัติเมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟนผ่านแอปเฉพาะ อีกทั้งยังปรากฏโลโก้ของทีมบนหน้าปัด ฝาหลัง และสายนาฬิกาของทั้งสองรุ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบที่ผสมผสานกับมุมมองระดับโลกของ Scuderia AlphaTauri นาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้จึงเป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่สนับสนุนเหล่าสมาชิกในทีมที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกและจัดตารางเวลาอย่างแม่นยำ ไม่พลาดแม้นาทีเดียว
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม