Beaty Arrival

การ์มิน เปิดตัว “APPROACH S12” จีพีเอสสมาร์ทวอทช์เรือนล่าสุด เติมเต็มกลุ่มสินค้าซีรีส์ APPROACH

การ์มิน ประเทศไทย ภายใต้ Every Beat of Life – นวัตกรรมที่ก้าวทันทุกจังหวะของชีวิต ตั้งเป้าดัน GARMIN GOLF ECOSYSTEM เจาะตลาดกอล์ฟไทย ชู 3 จุดเด่นของสินค้าการ์มินกลุ่มกอล์ฟ ได้แก่ 1) แบตเตอรี่ทรงพลัง 2) ที่สุดของความแม่นยำกับเทคโนโลยีสำรวจดาวอังคารระบบ LIDAR-Lite 3) พัฒนาทักษะการเล่นได้อย่างตรงจุดกับแอปพลิเคชั่น GARMIN GOLF ตอกย้ำวิถีการพัฒนาของการ์มินภายใต้นวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักกอล์ฟได้อย่างครบครัน

วันนี้การ์มินพร้อมเติมเต็มสินค้าซีรีส์ APPROACH ให้ครบครันมากยิ่งขึ้น เดินหน้าเปิดตัว APPROACH S12 สมาร์ทวอทช์ระบบจีพีเอสสำหรับนักกอล์ฟ ตอบรับความต้องการของผู้ใช้งานด้วยการพลิกโฉมสเปกดีไซน์ที่มาพร้อมหน้าจอ ความละเอียดสูงอ่านง่ายแม้อยู่ใต้แสงอาทิตย์ พร้อมฟีเจอร์ที่รวบรวมข้อมูลสนามกอล์ฟกว่า 42,000 สนามทั่วโลก และฟีเจอร์มุมมองอุปสรรค (Hazard View) พร้อมช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจสนามมากขึ้น รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน ช่วยให้ผู้เล่นสนุกไปกับเกมกอล์ฟได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เหล่านักกอล์ฟยังสามารถอัปโหลดสถิติการเล่นของตนเองผ่านแอปพลิเคชั่น GARMIN GOLF เพื่อรีวิวและพัฒนาทักษะการเล่นของตนเองให้ดีมากยิ่งขึ้น

สำหรับจุดเด่นของสินค้าการ์มินกลุ่มกอล์ฟ ที่ทำให้ GARMIN GOLF ECOSYSTEM นั้นแตกต่างและโดดเด่น ทั้ง 3 ข้อ ได้แก่ 1) แบตเตอรี่ทรงพลัง - ใช้งานได้อย่างยาวนาน มอบความสนุกให้กับนักกอล์ฟได้อย่างต่อเนื่องในทุกๆ เกม 2) ที่สุดของความแม่นยำกับเทคโนโลยีสำรวจดาวอังคารระบบ LIDAR-Lite – เทคโนโลยีสำหรับกล้องเลเซอร์วัดระยะของการ์มินได้รับเลือกจากองค์กร NASA ในภารกิจสำรวจดาวอังคาร 3) พัฒนาทักษะการเล่นได้อย่างตรงจุดกับแอปพลิเคชั่น GARMIN GOLF - อัปโหลดสถิติการเล่นได้แบบเรียลไทม์ ใช้สำหรับรีวิวผลการเล่นเพื่อพัฒนาทักษะการเล่นได้อย่างตรงจุด

GARMIN GOLF ECOSYSTEM จะทำให้ผู้เล่นได้สนุกไปกับเทคโนโลยีสุดล้ำของการ์มินที่พร้อมจะยกระดับการตีกอล์ฟให้เหนือไปอีกขั้นในทุกๆ เกม

● APPROACH S12 – นาฬิกากอล์ฟระบบจีพีเอสรุ่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยวางแผนการเล่นให้มั่นใจขึ้นในทุกสนาม โดดเด่นด้วยหน้าปัดทรงกลมแบบใหม่ขนาดใหญ่ 1.3 นิ้ว แสดงผลผ่านหน้าจอที่มีความละเอียดสูงเพื่อให้ผู้เล่นอ่านข้อมูลได้อย่างง่ายดายแม้อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ ซึ่งมาพร้อมกับข้อมูลสนามกอล์ฟกว่า 42,000 สนามทั่วโลก ผู้เล่นสามารถเดินเกมได้อย่างมั่นใจขึ้นด้วยโหมดการแสดงตัวเลขที่ชัดเจน (Big Numbers Display Mode) ทำให้สามารถอ่านค่าหลาในสนามได้อย่างแม่นยำ และมีความสะดวกมากขึ้นเมื่อใช้คู่กับแอปพลิเคชั่น GARMIN GOLF ที่สามารถอัปเดตข้อมูลสนามที่นักกีฬาเล่นบ่อยที่สุดไว้ให้พร้อมอยู่เสมอ นอกจากนี้ด้วยแบตเตอรี่ในตัวแบบชาร์จซ้ำได้ ทำให้ APPROACH S12 ช่วยให้ผู้เล่นสนุกกับเกมกอล์ฟได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 30 ชั่วโมงในโหมดจีพีเอส

● APPROACH S62 – นาฬิกากอล์ฟระบบจีพีเอสระดับพรีเมี่ยม รวมทุกความต้องการเพื่อเกมที่เหนือชั้นของนักกอล์ฟ ถูกออกแบบได้อย่างเรียบหรูด้วยการเลือกใช้ตัวเรือนเป็นวัสดุเซรามิกชนิดกันรอยขีดข่วนที่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพของนักกอล์ฟให้ดูโดดเด่นทั้งในและนอกสนาม มาพร้อมกับหน้าจอสีระบบสัมผัส ที่รวบรวมข้อมูลสนามกอล์ฟแบบสีกว่า 41,000 สนามและเหนือชั้นด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ ฟีเจอร์ระยะ PlayLikes ที่ช่วยให้การตีช็อตขึ้นหรือลงเนินเขาเป็นไปได้อย่างแม่นยำ และฟีเจอร์มุมมองอุปสรรค (Hazard View) ที่ให้ผู้เล่นหลีกเลี่ยงแต่ละอุปสรรคบนแผนที่และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วในแต่ละเกม รวมถึงฟีเจอร์แคดดี้เสมือนจริง (Virtual Caddie) โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญพร้อมให้คำแนะนำในแต่ละเกม เช่น ความเร็วและทิศทางลม ช่วยเลือกไม้กอล์ฟที่เหมาะกับระยะทางที่ผู้เล่นมักจะสวิงได้ในระยะนั้นๆ ในแต่ละช็อต เพื่อให้นักกอล์ฟพัฒนาจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งของตนเองได้อย่างตรงจุด

● APPROACH G80 - เรดาร์ติดตามความเร็วระบบจีพีเอสแบบออลอินวัน สะดวกในการออกรอบด้วยปุ่มลัดเข้าถึงการใช้เรดาร์เพื่อเปิดฟีเจอร์ Launch Monitor ติดตามความเร็วของหัวไม้ ความเร็วลูก Smash Factor เทมโปการสวิง และระยะทางโดยประมาณ เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว พกพาง่ายด้วยรูปทรงการออกแบบที่เพรียวบางพร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจไปในทุกสนามเพื่อพัฒนาฝีมือของนักกอล์ฟ ทั้งโหมดวอร์มอัพที่พร้อมให้คำแนะนำในการเล่นอย่างทันที และโหมดการออกรอบเสมือนจริงที่ช่วยจำลองการตีกอล์ฟในสนามที่มีการโหลดไว้แล้วกว่า 41,000 สนาม ให้ผู้เล่นได้ทดสอบตัวเองพร้อมพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น

● APPROACH Z82 – กล้องเลเซอร์วัดระยะระบบจีพีเอส ยกระดับการเล็งเพื่อให้ทุกการสวิงเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำ ด้วยฟีเจอร์หาตำแหน่งธง (Flag Finder) ที่ช่วยระบุตำแหน่งของหลุมได้อย่างง่ายดาย พร้อมเสริมความมั่นใจในการตีด้วยฟีเจอร์กรีนวิว (Green View) บอกระยะทางจากด้านหน้า ตรงกลาง และด้านหลังของกรีน รวมถึงฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ข้ามอุปสรรคในแต่ละเกมไปได้อย่างเหนือชั้นกับฟีเจอร์วัดข้อมูลแรงลม พร้อมแนะนำไม้กอล์ฟและทิศทางที่เหมาะกับการสวิงให้ลงหลุม รวมถึงฟีเจอร์การแสดงตำแหน่งของพิน (Pin Pointer) ช่วยบอกทิศทางการตีในจุดบอดที่ผู้เล่นมองไม่เห็นลูกได้อย่างแม่นยำ

การ์มิน ประเทศไทย จัดงาน ‘GARMIN APPROACH DAY – THE GREATEST SWING EXPERIENCE’ เปิดตัว APPROACH S12 นาฬิกากอล์ฟรุ่นใหม่ล่าสุด อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีเหล่านักกอล์ฟและผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟชั้นแนวหน้าของไทยเข้าร่วมงานมากมาย อาทิ โปรเจย์ – วันปีย์ สัจจมาร์ค กูรูชื่อดังแห่งวงการกอล์ฟ, โปรชุ้ง - อรรณพ ตั้งกมลประเสริฐ นักกีฬากอล์ฟและผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ที่มาร่วมสร้างสีสันและเพิ่มความตื่นเต้น ด้วยการดวลวงสวิงไปกับ APPROACH S12 กันภายในงาน สร้างภาพความสนุกสนานและความประทับใจให้แก่ผู้ร่วมงาน

APPROACH S12 และสินค้าซีรีส์ APPROACH เปิดให้ทุกคนเป็นเจ้าของแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของการ์มินทุกสาขา ติดตามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://www.garmin.co.th/minisite/garmin-technology/golf-science/

Jurlique’s New Activating Water Essence+

เพราะหัวใจสำคัญของผิวสุขภาพดีไม่ใช่แค่การเติมเต็ม แต่การโอบอุ้มความชุ่มชื้นภายในผิวยิ่งสำคัญกว่า

นี่คือเหตุผลที่เราอัพเกรดผลิตภัณฑ์เอสเซ้นส์ยอดนิยม
เพราะเราได้ค้นพบวิธีที่ดียิ่งกว่าในการเติมเต็มและโอบอุ้มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยส่วนผสมอันทรงพลังจากธรรมชาติ

Jurlique (เจอร์ลีค) ได้แรงบันดาลใจจากนวัตกรรมและค้นหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาให้รูปลักษณ์ ความรู้สึกสัมผัสตลอดจนการทำงานภายในผิวคุณให้ดีขึ้นกว่าเดิม เราอยากขอแนะนำ Activating Water Essence+ ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Jurlique เป็นการยกระดับเอสเซนส์ให้ความชุ่มชื้นยอดนิยมของแบรนด์ ที่อัดแน่นด้วยคุณค่าของพืชพรรณจากไบโอไดนามิคฟาร์มอันทรงพลัง ซึ่งมอบผลลัพธ์ในการให้ความชุ่มชื้นและความกระจ่างใสที่ดียิ่งขึ้น พร้อมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซนต์

Activating Water Essence+ คือผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพและทำให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว:
● สารสกัดจากรากมาร์ชแมลโลว์ (Marshmallow Root) อันทรงพลังสองชนิดที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวแต่ยังช่วยโอบอุ้มความชุ่มชื้นไว้อย่างต่อเนื่องยาวนาน
● Jurlique Radiance Blend ของแบรนด์ มาจากส่วนผสมของพืชพรรณจากไบโอไดนามิคฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็น ดอกลาเวนเดอร์, โรซ่ากัลลิก้า, คาเลนดูล่า และรากมาร์ชแมลโลว์ ทั้งหมดล้วนเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและปกป้องผิวด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ
● เพิ่มส่วนผสมที่ช่วยเสริมการโอบอุ้มความชุ่มชื้น เพื่อให้ผิวอิ่มฟู อยู่ในสภาวะที่เหมาะสมพร้อมรับการบำรุงผิว
● สูตรการทำงานเพื่อผิวสวยเปล่งปลั่งอย่างยั่งยืน ปราศจากสารระคายเคืองที่พบได้บ่อย เช่น Silicones, Petrolatum, Mineral Oil, Paraffin Wax, PEGs, Synthetic Glycols, Parabens, Formaldehyde Donors, GMOs, สีสังเคราะห์ และน้ำหอม จึงปลอดภัยและเหมาะกับทุกสภาพผิว

การทดสอบทางคลินิกพบว่าสูตรปรับปรุงใหม่ของ Jurlique ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ถึง 155 เปอร์เซนต์ทันทีหลังการใช้ โดยผลิตภัณฑ์ Activating Water Essence+ ให้ความชุ่มชื้นมากกว่า Activating Water Essence รุ่นเดิมมากถึง 29 เปอร์เซนต์ เพียงใช้ Activating Water Essence+ บนผิวหลังทำความสะอาดและฉีดพรมมิสท์ (Mist) การใช้เอสเซนส์สูตรใหม่นี้ก่อนทาเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ยังช่วยเพิ่มการความสามารถของผิวในการรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สัมผัสกับขั้นตอนเตรียมผิวกับ Jurlique Activating Water Essence+ ผลิตภัณฑ์สูตรใหม่อันเป็นกุญแจสำคัญในการมีผิวสวย เปล่งปลั่ง เปล่งประกายอย่างมีสุขภาพดี และมีความสุขที่สุด
Jurlique Activating Water Essence+ Size 150 ml 2,400 THB และ Size 75ml 1,500 THB

*ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองไบโอไดนามิก (Biodynamic) โดย National Association for Sustainable Agriculture ประเทศออสเตรเลีย ผลิตภัณฑ์และฟาร์มของ Jurlique ไม่ได้รับการรับรองหรือเป็นพันธมิตรกับ Demeter® USA หรือ Demeter International ** จากการศึกษาในหลอดทดลองโดยใช้การเพาะเลี้ยงเซลล์ผิวหนังเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมงและ 3 วัน ที่ดำเนินการโดยบริษัท POLA Chemical Inc
** อ้างอิงจากผู้ทดลอง Activating Water Essence + จำนวน 32 คน หลังจากผ่านไป 10 นาที
*** อ้างอิงจากผู้ทดลอง 32 คนที่ใช้ Activating Water Essence+ และ Activating Water Essence สูตรเดิมหลังจากผ่านไป 10 นาที


Experience the essential skin-prep step: NEW Jurlique Activating Water Essence+ is available in store and online at
1) Jurlique Gaysorn Village FL.2 Call 02-656-1480
2) Jurlique Groove Central World FL.2 Call 090-906-1134
3) Jurlique Central Ladprao FL.1 Call 064-184-2730
4) Jurlique Central Phuket FL.1 Call 063-850-4403
5) Jurlique Beauty Hall Siam Paragon FL. M Call 097-061-9062
6) Jurlique The Mall Ngamwongwan FL.1 Call 093-809-7264
Instagram: @Jurlique_th/ Facebook: JurliqueThailand / Line: @Jurliquethailand / Lazada: Jurlique Official

#jurliquethailand #Jurlique

RADO เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ Captain Cook x Marina Hoermanseder

หลังจากใช้เวลาหลายปีในการเฟ้นหาวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลา เพียบพร้อมด้วยที่สุดแห่งความแข็งแกร่ง และแฝงด้วยความลึกลับที่น่าหลงใหล ล่าสุด Rado ผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิสเซอร์แลนด์ได้เปิดตัวไลน์คอลเลคชั่นใหม่เพื่อผู้หญิงและใส่ความเป็นผู้หญิงในรูปแบบต่างๆ มากมาย โดยในครั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุได้ผนึกกำลังร่วมกับ Marina Hoermanseder นักออกแบบชาวฝรั่งเศส- ออสเตรีย (เกี่ยวกับความพิเศษของสสารในครั้งนี้) เพื่อรังสรรค์นาฬิการุ่นใหม่ของ Captain Cook ให้มีความโดดเด่นและเพิ่มขีดความสง่างามให้กับเรือนนาฬิกา เพื่อก้าวไปข้างหน้าต่อไป โดยการทดลองในครั้งนี้ Marina ได้รวบรวมความชื่นชอบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปแบบ และวัสดุ จนกลายเป็นการออกแบบที่เร้าใจและน่าทึ่ง ในกลไก การเดิน และความล้ำสมัยของนาฬิการุ่นใหม่จากราโด

ความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และความคิดริเริ่ม ถือเป็นจุดเด่นทั้งหมดของสุภาพสตรีที่ RADO ใส่ใจมาโดยตลอด โดยได้มุ่งเน้นคุณค่าเหนือกาลเวลาควบคู่ไปกับ Marina Hoermanseder ในรูปแบบที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทำให้คอลเลคชั่นนี้เป็นการเฉลิมฉลองที่สนุกสนานและสะท้อนบุคลิกที่แท้จริง

RADO Captain Cook x Marina Hoermanseder นาฬิการุ่นใหม่มีสไตล์ขนาด 37 มม. มีองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Marina เช่น หัวเข็มขัดที่เป็นสัญลักษณ์การค้าของเธอ สายหนังสีชมพูที่แสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาและความร่าเริง พร้อมตัวเรือนนาฬิการูปทรงกลมที่เข้ากันได้อย่างลงตัว มีการประดับประดาด้วยโลโก้ของ Marina Hoermanseder นาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาที่มีทั้งความสง่างามและทรงพลังในหนึ่งเดียว โดยใส่ความกล้าในการสร้างสรรค์ผลงาน และรวมเอาสไตล์ทุกอย่างของ Marina เข้าไว้ด้วยกัน สิ่งเหล่านี้เองที่คนดังระดับโลกหลายต่อหลายคนพากันหลงใหลในสไตล์ของเธอ ไม่ว่าจะเป็น Lady Gaga หรือ Paris Hilton เห็นได้ชัดว่าในฐานะผู้หญิงแล้ว นี่เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงคาแร็กเตอร์ ความคิดริเริ่ม และความกล้าหาญซึ่งเป็นแง่มุมที่ Rado ต้องการมุ่งเน้นในการทำงานร่วมกับนักออกแบบที่มีพลังในหลายแง่มุม นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสดีที่นาฬิการุ่นนี้ยังได้แสดงออกถึงศิลปะ ถือเป็นการทำงานในระยะยาวของแบรนด์ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันวิจิตรงดงาม เช่น รายละเอียดของสีโรสโกลด์ในเข็มนาฬิกา ตัวบ่งชี้เวลา และตัวเรือน เป็นต้น

สำหรับตัวเลือกต่างๆ ที่เป็นความชื่นชอบของผู้หญิง นาฬิกา Rado รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับสายนาฬิกาให้เลือกถึงสามแบบในสายสีชมพู สีดำ และสีชมพูแบบดั้งเดิม ที่มีความยาวเป็นพิเศษ เพื่อการพันสองรอบบนข้อมือ การออกแบบอย่างชาญฉลาดนี้ทำให้นาฬิกาและหัวเข็มขัด MH อยู่ที่ด้านเดียวกันบนข้อมือผู้สวมใส่ ซึ่งเป็นสัมผัสที่ให้ความเนี๊ยบและมีลูกเล่นสนุกสนาน สายนาฬิกาทั้งหมดเป็นแบบ Easy Clip สามารถเปลี่ยนสายได้อย่างรวดเร็ว ตามอารมณ์ของผู้สวมใส่ ทุกชิ้นส่วนมีสไตล์ที่ลงตัว และส่วนประกอบต่างๆ สามารถจัดเก็บได้อย่างปลอดภัยบรรจุในกระเป๋าสีชมพูสุดหรูที่มาพร้อมกับหัวบัคเคิ้ลสำหรับเปิดปิด

ดื่มด่ำความงามได้ด้วยตัวของคุณเองกับการรองรับระดับความลึกได้ถึง 100 เมตร ในโลกที่สนุกสนาน และกล้าหาญไปกับนาฬิการุ่นใหม่ Rado Captain Cook x Marina Hoermanseder

พบกับ Captain Cook x Marina Hoermanseder รุ่นใหม่ล่าสุด ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ช่องทางออนไลน์ Shopee และ Lazada หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official: @Radothailand หรือ โทร. 02-610-0200

- ROUGE DIOR - FOREVER LIQUID LONG-LASTING TRANSFER-PROOF COLOUR

ในฐานะผลิตภัณฑ์ความงาม อันทรงแบบฉบับด้วยการทำหน้าที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ หรือตัวแทนบ่งบอกถึงสไตล์ และบุคลิกเฉพาะตัว Rouge Dior ได้รับการรังสรรค์สูตร และเฉดโทนแห่งสีสันให้รองรับกับวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้หญิงทั้งหลายทั่วโลกมานับแต่แรกเริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 1953

สำหรับผู้หลงรักสีสันอันหรูหรา บ่งบอกถึงรสนิยม และให้ความชัดเจน สมจริงระดับสูงผ่านเนื้อสัมผัสที่ไม่อาจห้ามใจหยุดยั้งในการแต่งเติม ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์วิกฤติของโลกปัจจุบัน ด้วยการชี้นำจากปีเตอร์ ฟิลิปส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ และภาพลักษณ์ประจำแผนก Dior Makeup ลิปสติกอันทรงเอกลักษณ์ของ Dior ได้มาถึงยุคปฏิวัติ สู่การเป็น Rouge Dior Forever Liquid ผ่านสูตรลิควิดอุดมเม็ดสีที่มอบความชัดเจน สมจริงระดับสูงในปริมาณเข้มข้น ติดทนนาน ไม่ลอกตัวเลอะติดวัตถุใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาสก์ หรือหน้ากากอนามัย

“Rouge Dior Forever Liquid โดดเด่นเหนือชั้นด้วยสูตรกันเลอะสุดอัศจรรย์ ที่ช่วยให้ผู้หญิงทั้งหลายสามารถใช้เฉดสีที่ตนชื่นชอบทาปากได้ผลลัพธ์ซึ่งแสดงถึงความชัดเจน สมจริงผ่านเนื้อสัมผัสบางเบา คลี่ตัวราบรื่น เนียนผิว ทั้งหมดนี้คือผลลัพธ์ที่ทำให้ Rouge Dior Forever Liquid กลายเป็นความคลาสสิกสำหรับชีวิตวิถีใหม่ขนานแท้ด้วยคุณสมบัติติดทน ไม่ลอกเลอะติดมาสก์” ปีเตอร์ ฟิลิปส์

● สูตรกันเลอะระดับปรากฏการณ์
Dior แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในเชิงวิทยาการชั้นนำผ่าน Rouge Dior Forever Liquid ลิปสติกเนื้อลิควิด ซึ่งขยายขอบเขตคุณสมบัติแนบสนิทติดทนนานผ่านสูตรผสมกันเลอะ มอบสัมผัสบางเบา สบายผิวเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยการพัฒนาสูตรอันทรงแบบฉบับ*หลอมรวมบรรดาน้ำมันอุดมเม็ดสีเข้ากับสารประกอบก่อพันธะยึดตัวระหว่างส่วนผสม เนื้อสีสว่างสดใสจึงคลี่ตัวเคลือบผิวริมฝีปากอย่างกลมกลืน และแนบเนียนจนไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของการแต่งเติม ในขณะเดียวกันก็ไม่ฝังตัวลองร่องเส้นริ้วรอยบนผิวริมฝีปาก ไม่จับตัวเป็นก้อน หรือเลือนจาง คงความชัดเจน สมจริง และสดใสสะดุดตาอย่างต่อเนื่องจากสูตรติดทนนานกันลอกตัวเลอะเพราะสัมผัสกับวัตถุอื่น

Rouge Dior Forever Liquid มอบความรู้สึกสบายผิวล้ำลึกผ่านเนื้อสัมผัสบางเบาราวกลีบดอกไม้ อันเป็นผลจากการใช้ส่วนผสมซึ่งมีความยืดหยุ่นในระดับพิเศษ ริมฝีปากนุ่มละมุน ต้องแสงเป็นประกายสว่างสดใสด้วยเนื้อสีที่ยืดหยุ่น เคลือบตัวอย่างสม่ำเสมอรองรับทุกอณูรูปทรงผิวริมฝีปากอย่างกลมกลืน และแนบเนียน ไม่รู้สึกเหนอะหนะ หรือหนักผิวราวปราศจากการแต่งเติม

งานออกแบบทิป หรือแอพลิเคเตอร์สำหรับแต่งเติมซึ่งผลิตจากอณูใยโฟมเนื้อละเอียดแบบฉบับ Dior ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของกลีบดอกไม้ มอบความมั่นใจในการลำเลียงเนื้อสีให้คลี่ตัวเคลือบผิวริมฝีปากอย่างสม่ำเสมอ และทั่วถึงผ่านการทาเพียงครั้งเดียว แอ่งเว้าของรูปทรงกลีบดอกไม้ อำนวยต่อการลำเลียงผลิตภัณฑ์ลงสู่ผิว ในขณะที่ส่วนโค้งช่วยเกลี่ยไล้ให้กลมกลืน และปลายแหลมเรียวมอบความแม่นยำในการลากเส้นขอบปาก

Rouge Dior Forever Liquid เผยความงดงามของสีสันผ่านขวดใสประดับแถบคาดสีเงินลายขัดสานสไตล์ Dior งานออกแบบประกอบโลหะเคลือบเงาตัวแทนความทันสมัย แสดงให้เห็นเฉดสีต่างๆ ของ Rouge Dior Forever Liquid ผ่านหลอดบรรจุได้อย่างงดงาม

*ที่ Dior

● สีแฟชันสะกดสายตา
สูตรผสมระดับปฏิวัติกรรมของ Rouge Dior Forever Liquid สร้างแรงบันดาลใจให้ปีเตอร์ ฟิลิปส์ออกแบบ 11 เฉดสีใหม่เนื้อแม็ตทอประกายสว่างสดใสภายใต้ความชัดเจนสมจริง และแนบสนิทติดทนนาน ไม่ว่าจะเป็นโทนสว่าง หรือโทนกลาง สีอ่อน หรือสีเข้ม ก็ล้วนโดดเด่น เต็มไปด้วยความหมายจากสีนู้ดจนถึงน้ำตาลอมแดงอย่าง Forever Unique อันเหมาะแก่การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้แก่ลุคการแต่งหน้า หรือสีฟูเชียสดสว่างของ Forever Glam ตัวแทนเสน่ห์หรูหราของสีชมพู พร้อมกันนั้น ยังมีสองเฉดสีที่ทรงแบบฉบับ อันได้แก่สีนู้ดของ 100 Forever Nude ซึ่งเป็นการนำสีเบจอมเทารุ่นต้นแบบจากชุดนิวลุคที่คริสเตียน ดิออร์ออกแบบไว้เมื่อปี 1947 มารังสรรค์ใหม่ให้คงความร่วมสมัย และที่สุดแห่งสีแดง Forever Dior ผลงานรุ่นเนื้อลิควิดของเฉด 999 สีแดงอันอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัย ซึ่งถูกตั้งชื่อด้วยการใช้เลข 9 สามตัวจากลิปสติกสองเฉดในยุคแรกที่คริสเตียน ดิออร์เริ่มวางจำหน่าย นั่นคือเฉดสีหมายเลข 9 และ 99

ไม่ว่าลุคการแต่งหน้า และสไตล์การแต่งกายของคุณจะเป็นอย่างไร มีสีผิวอยู่ในโทนไหน หรือมีความปรารถนาเช่นใด Rouge Dior Forever Liquid ก็สามารถเติมเต็มทุกความต้องการของคุณได้ครบครัน

“11 เฉดสีได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการอันหลากหลาย ผู้หญิงทุกคนจะได้พบกับเฉดสีที่ตนชื่นชอบจากคอลเลคชันนี้” ปีเตอร์ ฟิลิปส์

● ตัวแทนแห่งความเป็นผู้หญิง
Rouge Dior เริ่มจารึกบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของตนเมื่อปี 2020 และต่อเนื่องมาจนถึงยุคของ Rouge Dior Forever Liquid ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่นาตาลี พอร์ตแมนได้มาสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงทั่วโลกด้วยบทบาท และสถานภาพของการเป็นนักแสดง, แม่ และนักกิจกรรม ทูตความงามตัวแทนความเป็นผู้หญิงยุคใหม่เผยมุมมองอันสดใส กับทัศนคติสุดท้าทายของเธออย่างโดดเด่น เช่นเดียวกับสูตรติดทนนานของ Rouge Dior Forever Liquid ที่ก้าวผ่านจากการเป็นเมคอัพมาสู่สถานะของเครื่องประดับแฟชัน รองรับแง่มุมอันหลากหลายในชีวิตประจำวัน

เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญอันจะขาดเสียมิได้สำหรับชีวิตวิถีใหม่ของผู้หญิงทั้งหลายที่เหมือนกับนาตาลี พอร์ตแมน นั่นก็คือหนึ่งวันกับบทบาทชีวิตที่มากมาย

@DIORMAKEUP
@PETERPHILIPSMAKEUP
@DIORBEAUTYLOVERS
#ROUGEDIOR
#WEWEARRROUGE

ยาสีฟัน 'Benedent' (เบเนเดนท์) ปากหอมสดชื่นยาวนาน ใส่แมสก์ทั้งวันก็เอาอยู่

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันการใส่หน้ากากอนามัยกลายเป็น New Normal ของคนไทยเพื่อป้องกันตนเองจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส C0VID-19 แต่การใส่แมสก์เป็นประจำตลอดวันทำให้เราได้กลิ่นเหม็นจากลมหายใจและกลิ่นปากของตนเองอย่างชัดเจน การดูแลสุขภาพช่องปากและลมหายใจให้สะอาดปราศจากกลิ่นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

กลิ่นปากเกิดได้หลายสาเหตุ ทั้งจากแบคทีเรียที่สะสมในช่องปาก การรับประทานอาหารกลิ่นแรง เศษอาหารที่ตกค้าง แผลในช่องปาก ฟันผุ การใส่ฟันปลอมและรีเทนเนอร์ รวมถึงคราบหินปูนและคราบที่เกิดจากการสูบบุหรี่ และดื่มชา กาแฟ ดังนั้นเพื่อลมหายใจที่หอมสะอาด ลดกลิ่นปาก เราจึงต้องดูแลเหงือกและฟันให้แข็งแรง ปราศจากคราบและการผุกร่อน ด้วยการเลือกใช้ 'ยาสีฟันสูตรเข้มข้น' ที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยทำความสะอาดแบบครบวงจรเป็นประจำในทุกเช้าและก่อนนอน

ยาสีฟัน Benedent (เบเนเดนท์) อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติเข้มข้น 14 ชนิด และสารสำคัญที่ช่วยป้องกันฟันผุ กำจัดกลิ่นปาก ขัดฟันขาว สมานแผลในช่องปาก ลดการอักเสบของเหงือกและฟัน ร่วมกับนาโนเทคโนโลยี 'Nanoxim Innovation' นวัตกรรมเพิ่มสารเคลือบฟันและลดการสึกกร่อน บรรเทาอาการเสียวฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อครีมสูตรเข้มข้น กลิ่นหอมเย็นสดชื่น ช่วยขจัดกลิ่นปากทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ปากหอมสะอาดยาวนานให้ความสะอาดที่แตกต่าง ฟื้นคืนลมหายใจหอมสดชื่นในทุกเช้าและก่อนนอน เสริมบุคลิกภาพเพื่อให้คุณมั่นใจในทุกกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน

ยาสีฟันเบเนเดนท์ (Benedent) ปริมาณ 100 กรัม ราคา 220 บาท สามารถขอรับสินค้าตัวอย่างและสั่งซื้อสินค้าได้ที่
- Facebook: https://m.facebook.com/benedenttoothpaste พิเศษในทุกการกด like หรือ share ตั้งแต่วันนี้-15 มิถุนายน 2564 รับสิทธิ ซื้อ 1 แถม 1 ทันที
- Line @benedent
- Shopee : https://bit.ly/3o9vRiw
- สินค้ามีวางจำหน่ายที่ คลีนิคทันตกรรมแฟมิลี่ (Family Dental Clinic) บางกะปิ โทร. 02-7331201

ติดตามข่าวสารและข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่
- Facebook: https://m.facebook.com/benedenttoothpaste
- Instagram: www.instagram.com/benedenttoothpaste
- Call Customer Service: 089-612-9512 , 082-824-4922


#Benedent #เบเนเดนท์ #nanoXIM

Cath Kidston ยกขบวนเชอร์รี่ สร้างความสดใส เฟรชสุดๆรับซัมเมอร์

แคท คิดสตัน (Cath Kidston) แบรนด์ไลฟ์สไตล์สัญชาติอังกฤษ ที่โดดเด่นด้วยลายปริ้นท์เอกลักษณ์แนววินเทจ ส่งคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด “Cherry” น่ารัก น่าช็อปสุดๆทุกไอเท็มมาอยู่บนลายปริ้นท์เชอร์รี่สุดคิ้วท์ประจำซีซั่นนี้

โดยคอลเลคชั่นนี้ ดีไซเนอร์ได้นำลายปริ้นท์ยอดนิยมที่สุดของแบรนด์แคท คิดสตันประจำฤดูกาล อย่างลายเชอร์รี่ มาเพิ่มลูกเล่นและสีสันลงบนลายปริ้นท์ ตั้งแต่กระเป๋า เสื้อผ้า ไปจนถึง Home Collection ในโทนสีพื้นขาว, แดง, ชมพู และลาย Gingham หรือลายตารางคลาสสิคเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและสีสันความสนุกได้อย่างลงตัว

ความพิเศษที่พลาดไม่ได้คือ ไอเท็มเด็ด Must-Have เอาใจสาย Home และคนที่ชื่นชอบการปิคนิค จะ Picnic at Home หรือ Cooking at Home รับรองถูกใจทุกชิ้น โดยเฉพาะ Cherry Picnic Basket ชุดเซ็ทปิคนิคสุดคิ้วท์ที่มีอุปกรณ์ครบชุด นอกจากนี้ ยังมี Cherry Salad Bowl ชามใหญ่, ผ้ากันเปื้อน, จานชาม, แก้วมัค และอีกมากมาย รวมถึงกระเป๋ารุ่นใหม่ล่าสุด Milly Tote ที่ออกแบบมาเป็นครั้งแรกในปีนี้เพื่อให้ใช้งานตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ว่าจะลุควันทำงานหรือวันพักผ่อน

เติมเต็มความสดใสและความมีชีวิตชีวาในทุกๆวัน กับคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจากแคท คิดสตัน ที่ไม่ว่าจะเลือกซื้อให้ตัวเอง หรือจะซื้อเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ รับรองว่าทุกๆคนจะต้องหลงรักลายปริ้นท์เชอร์รี่ที่แสนน่ารักของคอลเลคชั่นนี้อย่างแน่นอน

หาซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ร้านแคท คิดสตันทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือช้อปสบายๆผ่านทางเว็บไซต์ที่ www.cathkidston.co.th


#CathKidstonTH #TANACHIRA

โลตัส สาขา เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ฉลองเปิดสาขาใหม่ จัดโปรโมชั่น สุดพิเศษ !!!

โลตัส สาขา เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ฉลองเปิดสาขาใหม่ ชวนช้อป สินค้า คุณภาพดี กับเทคโนโลยีและนวัตกรรม “โลตัสสมาร์ทซิตี้ซูเปอร์มาร์เก็ต” แห่งแรกในประเทศไทย” ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการช้อปปิ้ง พิเศษโปรโมชั่นสุดคุ้ม!!! เฉพาะ สาขา เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เท่านั้น!!!

- ช้อปครบ 500 บาท ลดทันที 40 บาท ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 27 พฤษภาคม 2564
- รับฟรี!!! กระเป๋าช้อปปิ้งโลตัส 1 ใบ เมื่อซื้อสินค้าโซนชุปเปอร์ครบ 300 บาท และ ดาวน์โหลดโลตัส แอฟพลิเคชั่น

พบกับ โลตัส สาขา เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ณ ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ชั้น G โซน M2 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook / Instagram : themarketbangkok

OPPO เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology เพื่อผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G

OPPO บริษัทอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Memory Expansion Technology หรือ RAM Expansion ใน OPPO Reno5 Series 5G โดยจะปล่อยให้อัปเดตผ่านทางการอัปเดตซอฟต์แวร์ ซึ่งผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G จะสามารถขยายหน่วยความจำเสมือนบนสมาร์ทโฟนได้สูงสุดถึง 7GB[1]

โดยการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง Memory Expansion Technology จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่เน้นผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G อีกทั้ง การเปิดตัวเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนของตน เพื่อปรับเปลี่ยนให้แหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้ได้ Memory Expansion Technology ของ OPPO เป็นฟังก์ชั่นเสริมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน ROM ที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนเป็นหน่วยความจำเสมือนได้ ด้วยการเปิดใช้งานฟังก์ชั่น “Ram Expansion” โดยผู้ใช้สามารถปรับระดับการขยายได้มากถึง 3 ระดับ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ปริมาณ ROM ที่ผู้ใช้เลือกไว้จะถูกแปลงเป็นหน่วยความจำเสมือนเมื่อผู้ใช้รีสตาร์ทสมาร์ทโฟน

โดย RAM Expansion จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเล่นเกมที่ต้องใช้ RAM จำนวนมาก หรือ แอปพลิเคชันมือถือในการตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ รวมถึงได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น เมื่อใช้งานแอปพลิเคชันมือถือหลายแอปฯ พร้อมๆ กัน

สามารถเลือกรายละเอียดการขยาย RAM เพื่อการใช้งานแอปพลิเคชันมือถือผ่านทางการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ โดยเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียด RAM ได้ที่หน้าจอการใช้งานล่าสุด

การอัปเดตซอฟต์แวร์จะพร้อมเปิดใช้งาน Memory Expansion Technology สำหรับผู้ใช้ OPPO Reno5 Series 5G โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด ดังนี้
- OPPO Reno5 : มิถุนายน 2564
- OPPO Reno5 5G : มิถุนายน 2564
- OPPO Reno5 Pro 5G : กรกฎาคม 2564

กรุงศรี ชวน 3 คนดัง เอกกี้-เจนนี่-เอแคลร์ เปิดพื้นที่ Clubhouse ชี้ช่องบริหารเงินโดนใจ ไขทุกข้อสงสัยชาว LGBTQ+

กรุงศรี เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์สนุก ขำ มันส์ ฮา และข้อแนะนำดีๆ พิเศษสำหรับชาว LGBTQ+ โดยเฉพาะ ด้วยการเปิดห้องสนทนา Clubhouse แพลตฟอร์มสนทนาเรียลไทม์ยอดฮิต ในหัวข้อ “มีคู่ว่ายากแล้ว เรื่องเงินทองยากไปอีก” พูดคุยเรื่องการเงินให้เป็นเรื่องสนุก เข้าถึง และเข้าใจง่ายไปกับเหล่าคนดังในวงการบันเทิงและโซเชียลมีเดีย อย่างดีเจ เอกกี้ เจนนี่ ปาหนัน และ เอแคลร์ จือปาก เปลี่ยนช่วงเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่งให้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะผสมผสานไปกับสาระความรู้ด้านการเงินและการวางแผนชีวิต นำเสนอแนวทางออมเงิน และทางเลือกด้านการลงทุนที่หลากหลายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง พร้อมเผยโอกาสทางการเงินเพื่อคู่รักคู่เพื่อน สามารถกู้ร่วมซื้อบ้านด้วยกันได้กับกรุงศรี อีกทั้งไขทุกข้อข้องใจของผู้ร่วมฟัง Clubhouse ร่วม 500 คน นับเป็นการเปิดพื้นที่ทางการเงินให้กับ LGBTQ+ เข้ามาเรียนรู้กับทีมผู้บริหารจากธนาคารกรุงศรีอย่างเปิดใจและใกล้ชิด

บรรยากาศในการพูดคุยในหัวข้อ “มีคู่ว่ายากแล้ว เรื่องเงินทองยากไปอีก” เปิดฉากเรียกเสียงฮากับ 3 คนดัง โดยมีดีเจเอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ ในฐานะผู้ดำเนินรายการและยังเป็นกูรูในเรื่องการเงินด้วย ทักทายสองสาวแขกรับเชิญชาว LGBTQ+ อย่าง เจนนี่ ปาหนัน นักแสดง พิธีกรรายการเทยเที่ยวไทย ยูทูปเบอร์ช่อง Jennie Panhan และ เอแคลร์ จือปาก บิวตี้บล็อกเกอร์สุดชิค ยูทูปเบอร์ Juepak ที่มีผู้ติดตามสูงมากกว่า 5 แสน มาบอกเล่าประสบการณ์ทางการเงินของตัวเอง

เจนนี่ เล่าว่า เทคนิคในการบริหารเงินจะแบ่งออกเป็น 3 บัญชี คือ เงินเข้า ใช้จ่าย และเงินเก็บ แล้วก็มองหาวิธีการบริหารเงินในบัญชีให้งอกเงย เช่น ซื้อทองคำ ลงทุนในหุ้น แต่ก็ยังมีเรื่องคิดหนักกับที่พักอาศัย เพราะบ้านเช่าที่เคยเช่าร่วมกับเพื่อน แชร์ค่าห้องกันมาก่อน เมื่ออยู่คนเดียวแล้วยังไม่อยากย้ายไปที่อื่นเพราะเชื่อหมอดู ก็ต้องแบกรับค่าเช่าหลายหมื่นบาทต่อเดือน จึงคิดอยากจะซื้อบ้านแต่ก็ยังไม่มีความรู้มากพอ ในขณะที่เอแคลร์ เผยถึงวิธีจัดการเงินของตนเองว่า เป็นคนที่ประหยัดอดออมมาก หามาได้เท่าไรก็จะเก็บ ไม่ค่อยใช้จ่าย แต่เมื่อจะจ่ายเงินลงทุนไปกับสิ่งใด จะต้องดีที่สุด เธอจึงเลือกลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่าการซื้อบ้านเป็นการออมเงินวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจซื้อบ้านด้วยเงินสดทั้งหมดนั้นดีหรือไม่ เพราะตอนนี้รู้สึกเสียดายคิดว่าน่าจะแบ่งเงินบางส่วนมาลงทุนธุรกิจด้วย

กมลวรรณ อิ่มฤทัยเจริญโชค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์การลงทุนและผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ให้คำแนะนำกับผู้ร่วมรายการและผู้ฟังในห้อง Clubhouse ว่า สิ่งสำคัญในการบริหารเงินนั้นคือต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและมีความเป็นไปได้ รวมทั้งกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน อย่างเช่นการออมเงิน เมื่อตั้งเป้าว่าจะเก็บเงินให้ได้จำนวนเท่าไร ก็ต้องพิจารณาถึงความสามารถในการบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างไร ซึ่งวินัยการออมเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินจำนวนมากที่มีประสิทธิภาพเหมาะกับไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคน เช่น บางคนที่มองหาทางเลือกเก็บเงินเพื่อฉุกเฉิน เงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ บางคนต้องการทำเงินให้งอกเงยอาจนำไปลงทุนในกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือบางคนอาจมีความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนอาจเลือกการออมในรูปแบบประกัน เป็นต้น

หลังจากได้เทคนิคบริหารเงินออมกันไปแล้ว หลายคนก็ยังมองว่า ชาว LGBTQ+ มีเรื่องเงินๆทองๆที่น่ากังวลใจอยู่อีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะการกู้เงินซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือซื้อบ้าน หากจะกู้คนเดียวก็อาจแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว แต่ถ้าจะกู้ร่วมกับคู่รักของตน ก็เจอเงื่อนไขที่ว่าไม่ได้เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย นั่นทำให้การกู้ร่วมกับคู่ชีวิตคู่รักเพศเดียวกันนั้นเหมือนถูกปิดประตูใส่หน้า แต่ตอนนี้มีข่าวดีแล้วสำหรับ ชาว LGBTQ+ กับประตูบานใหม่ กรุงศรีให้ขอสินเชื่อบ้านร่วมกันได้ในฐานะคู่เพื่อน

ณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านเพื่อคู่เพื่อนที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นความตั้งใจที่เกิดขึ้นนานแล้ว ด้วยแนวคิดการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง คิดว่าไม่ควรมีกำแพงเรื่องเพศเข้ามาขวาง ธนาคารยุคใหม่ต้องให้บริการที่เหมาะสมกับลูกค้าที่แตกต่างกันได้ พร้อมฟังเสียงสะท้อนและตอบสนองความต้องการที่ซ่อนอยู่ จึงเป็นที่มาของการขอสินเชื่อบ้านร่วมกันได้ในฐานะคู่เพื่อนสำหรับลูกค้าธนาคารกรุงศรีโดยเฉพาะ

สำหรับขั้นตอนการทำธุรกรรมและหลักประกันนั้น ณัฐพล เผยว่า การมีบ้านร่วมกันของคู่รักคู่เพื่อน LGBTQ+ นั้นง่ายมาก ขอเพียงหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าทั้งสองคนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ซึ่งนอกจากจะพิจารณารายได้ของทั้งสองฝ่ายแล้ว เพียงแค่มีบัญชีเงินฝากที่เปิดร่วมกัน บิลค่าใช้จ่ายที่ระบุที่อยู่เดียวกัน หรือเป็นเจ้าของกิจการซึ่งจดทะเบียนบริษัทร่วมกันมากกว่า 1 ปีขึ้นไป ก็เพียงพอที่จะนำมาแสดงถึงความมั่นคง สามารถประกอบการยื่นกู้ได้แล้ว และในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนอยากมีบ้าน และมีความสามารถในการซื้อ เพราะจะมีโอกาสได้เลือกบ้านที่พึงพอใจในราคาถูกกว่า แถมยังได้ดอกเบี้ยชำระสินเชื่อบ้านไม่สูงอีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะทำให้ LGBTQ+ รู้สึกคุ้มค่ามากขึ้น ด้วยการซื้อประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน หรือ MRTA ที่จะช่วยปกป้องความเสี่ยงในการซื้อบ้านได้ โดยประกันจะเข้ามาจ่ายเงินกู้ที่ยังค้างอยู่กับธนาคารให้แทน และถ้ายังเหลือเงินส่วนต่างก็จะมอบให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้ ซึ่งผู้กู้จะทำประกันทั้งคู่หรือเพียงคนใดคนหนึ่งก็ได้ แต่แนะนำว่าการซื้อด้วยกันทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างมอบผลประโยชน์ให้กัน ช่วยปกป้องความเสี่ยงได้มากยิ่งขึ้น แต่ในกรณีที่กู้ซื้อบ้านไปแล้วโดยไม่ได้ทำประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้าน แนะนำว่าอาจเลือกซื้อประกันคุ้มครองชีวิตประเภทอื่นๆที่เหมาะสม ก็จะช่วยแบกรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั่นเอง

การเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ “มีคู่ว่ายากแล้ว เรื่องเงินทองยากไปอีก” ใน Clubhouse นี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พบว่ามีจำนวนผู้เข้าฟังและมีส่วนร่วมกว่า 500 คน ยกมือตั้งคำถามมากมายที่ยังคงติดค้างอยู่ อาทิ อาชีพรับจ้างอิสระหรือ Freelance จะยื่นกู้ซื้อบ้านเพียงคนเดียวได้หรือไม่ หรือควรกู้ร่วมกับพี่สาวดีกว่ากัน ซึ่งผู้บริหารกรุงศรีให้ความเห็นว่า สามารถทำได้ทั้งสองวิธี เนื่องจากกู้ร่วมในฐานคู่เพื่อนได้ ส่วนในกรณีกู้เดี่ยว แนะนำให้จัดการกับ Statement นำรายรับเข้าบัญชีเป็นประจำต่อเนื่องตลอด 12 เดือน เป็นต้น และก่อนจะปิดห้องสนทนาก็ยังมีผู้สนใจส่งคำถามเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งทุกคำถามสะท้อนว่าผู้ฟัง Clubhouse ต่างมีความสนใจอยากรู้เรื่องการเงินกันอยู่แล้ว แต่ไม่มีพื้นที่ให้พวกเขามีส่วนร่วม ซึ่งการเสวนาครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ผู้บริหารธนาคารได้เข้ามาตอบทุกข้อสงสัย เพื่อให้ทุกคนโดยเฉพาะชาว LGBTQ+ มีเคล็ดลับบริหารการเงินที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการที่แตกต่างได้มากที่สุด

Birkenstock New Shades of Arizona

เพิ่มความสดใสรับฤดูกาลที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนอบอ้าวสู่ฤดูฝนโปรยกับรองเท้า Birkenstock (เบอร์เคนสต๊อก) รุ่นล่าสุด ที่นำเสนอมุมมองสดใหม่ด้วยการนำลวดลายกราฟิกมาผสมผสานกับโทนสีพาสเทล ลงบนไอเท็มรุ่นคลาสสิกของแบรนด์อย่าง รุ่น Arizona พร้อมตกแต่งด้วยหัวเข็มขัดที่เข้ากันกับโทนสีและพื้นผิวของตัวรองเท้า นอกจากนี้ยังนำโทนสีมินิมอลยอดนิยมอย่างสีดำและสีขาวกลับมาให้แฟนๆ ของแบรนด์ได้หายคิดถึงกันอีกด้วย

● Arizona Split BF White/ Bold Jade & Arizona Split BF White/Lime Sour (ราคาคู่ละ 3,990 บาท)
ลบภาพจำเดิมๆ ของรองเท้ารุ่น Arizona ที่มักเป็นโทนสีพื้นเรียบๆ มาคราวนี้ได้นำโทนสีพาสเทลหวานมาจับคู่เข้ากับสีขาวสุดคลาสสิกในสไตล์ทูโทน พร้อม Footbed และพื้นรองเท้าที่ดีไซน์เป็นสีขาวสะอาดตา ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้รองเท้ารุ่นนี้ดูทะมัดทะแมงและอ่อนหวานในคราวเดียวกัน

● Arizona BFDD Monstera White/Bold Jade & White/ Lime Sour (ราคาคู่ละ 3,690 บาท)
อีกหนึ่งรูปแบบใหม่ของรองเท้ารุ่น Arizona ด้วยการนำลวดลายกราฟฟิกต้น Monstera มาผสมผสานเข้ากับโทนสีพาสเทลและสีขาว ให้ความรู้สึกสนุกสนาน พร้อม Footbed และพื้นรองเท้าที่ดีไซน์เป็นสีขาวสะอาดตาเช่นเดียวกับรุ่น Arizona Split เหมาะสำหรับใส่รับช่วงหน้าร้อนนี้

● Arizona BF Triples Black & Triple White (ราคาคู่ละ 3,690 บาท)
ปิดท้ายด้วย Arizona โทนสีคลาสสิกอย่าง สีดำและสีขาว โดยเพิ่มความพิเศษด้วยหัวเข็มขัด, Footbed และพื้นรองเท้าสีเดียวกันกับตัวรองเท้า


คลิกเข้าไปช้อปฯ รองเท้าคอลเลคชั่นล่าสุดได้แล้วที่เว็ปไซต์ www.ikonthailand.com