ทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดี เพื่อนๆคนไหนมีเพื่อนขี้โกหกไม๊

0 23
...... คือมีเพื่อนอยู่คนนึงเธอเป็นคนจัดว่าสวย หุ่นดี ขาวออร่า  ชอบยิ้มถักทายและดูเป็นมิตรกับทุกคนไปอ่า

ครั้งแรกที่เจอหล่อน ดูเฟรนลี่มากมาย แต่มันมีปัญหาอยู่ว่าหล่อนตอแหลเก่งเหลือเกิน

ตอแหลมากมายก่ากองจริงๆนะคะ ตั้งแต่เกรดสมัยเรียนมัธยม  คือที่แรกหลอนก็บอกว่าหล่อนมาจากโรงเรียนดังและอยู่ห้องคิงมาโดยตลอด เกรดที่จบก็ 3.8 กว่า  ฮืมมมมมม  เก่งจังเลยเธอ.......(ตอนนั้นคิดในใจ)มิหน่ำซ้ำ หลอนก็สอบติดวิศวม.เกษตร สอบติดเถสัช อีก และอีกเยอะแยะมากมาย  มากว่านั้นยังบอกอีกว่าพ่อเป็นอธิการมหาลัยๆนึง ซึ่งดีกว่าที่เธอและเราเรียนตอนนี้  ไอ้เราก็ถามว่าเก่งขนาดนี้เล้นก็ใหญ่ซะขนาดนั้นทำไมไม่เรียนม.ที่พ่อเป็นอธิการล่ะ  หล่อนก็ว่าอยากอยู่ห่างบ้าน..... อ่านะ ก็ฟังดูเแม้งๆชอบกลๆ อีกทั้งยังบอกว่าที่บ้าน ขายทอง มีโรงไอติม สารพัดสารเพอ่า  อ่าน่ะ
ตอนนั้นไอ้เราก็เชื่อ เพราะเธอดูผู้ดีจริงๆ แถมบอกว่ามีรถยนต์ยี่ห้อดังขับไว้ไปกลับบ้าน กับที่ม.  ดูชีวิตเธอเลืศหรูอลังการยิ่งกว่านั้นเพราะเธออบอกว่าว่าแฟนเธอหล่อขาวตี๋....แถมเป็นทนายอีกนะคะ  แถมหลอนยังบอกว่าซื้อนาฬิกาให้แฟนเป็นหมื่นๆ    ไอ้เราก็คิดรวยจริงๆนะเนี่ย  และอีกมากมายที่สารพัดจะอวดโอ้ ตั้งแต่บอกว่าโมเดลลิ่งมาติดต่อตอนไปสมัครไทยซุปเปอร์ โมเดล  แถมหลอนยังเข้ารอบสามสิบคนสุดท้ายมิสไทยแลนด์เวิลด์อีกแต่กลับสละสิทธิ์เพราะอ้างว่าพ่อเป็นห่วงเรื่องการเรียน มือ ถือก็บีบีอันนี้เราก็คิดหลายคนก็ใช้หลอนคงไม่สตอหรอกนะ .....ตั้งแต่วันแรกเราก็ไม่สงสัยว่าเธอจะโกหกอะไรเลย.  และคิดว่าเธอเป็นเพื่อนจิริงๆอ่าค่ะ จนมาวันนึงเรากับเพื่อนเริ่มรู้สึกอึดอัดจากพฤติกรรมของหลอน คือเราเรียนคณะถาปัต  มันก็มีงานปฏิบัติในชั่วโมงมากมาย      ซึ่งหล่อนก็มาช้ามากๆ อย่างอาจารย์เดดไลน์4โมงเย็นหล่อนก็จะมาสัก3โมงแล้วก็มานั่งๆโอ้เอ้ๆ แล้วก็ไปบอกให้คนนั้นคนนี้มาดูงานให้ มาช่วยสอนให้มั่งเป็นหล่อนก็จะบอกว่า  ทำไม่เป็นไหนทำให้ดูหน่อย  แล้วสุดท้ายก็บอกว่าแกมาทำให้เลยดีกว่า ทั้งที่งานเรากับเพื่อนยังค้างอยู่เลย   เธอจะพยายามหาข้ออ้างให้คนอื่นเขียนแบบ หรือทำงานให้ตลอด  ในขณะที่คนอื่นทำงานให้หล่อนก็ไปพบปะทักทาย และพูดคุย กับเพื่อนคนอื่นโยไม่สนใจงานเลย บ้างครั้งก็อ้อนวอนให้เรารอเธอเป็น3-4ชั่วโมงโดนที่หลอนนั่งเล่นนั่งเขี่ยๆงานไม่ทำอะไรสักอยู่เป็นชั่วโมง  เวลาที่หล่อนชวนเราไปนู้นไปนี้ และเราก็ติดร่างแหไปนั้นหล่อนจะให้เราไปเป็นเพื่อนทุกที่...ย้ำว่าทุกที่จริงๆนะ บางที่เรานักแฟนไว้กินข้าวเย็น2ทุ่ม หล่อนก็เราไปจนเวลา3-4ทุ่ม ทั้งที่เราบอกว่าเรารีบแค่หล่อนก็กับยืนรอพนักงานไปเช็คบาร์โค้ดลูกชิ้นลดราคาเน่าๆ เป็นชั่วโมงๆ แถมยังไปดูเครื่องสำอางค์ต่อเป็นชั่วโมง โยใช้เวลาในการดมกลิ่นครีมอาบน้ำแค่อย่างเดียว..................เฮ้อ   ตอนนั้นเราก็เข้าใจว่าเธอต้องการเพื่อน  เธอเป็นอย่่างี้ประมาณสองเดือน ไม่ทำงานเอง มาสาย มากไม่มีเรียนเลคเชอร์    .......ให้คนอื่นรอเป็น3-4ชั่วโมง   ทุกๆอย่างทำเป็นกิจวัตรประจำวัน  แถมยังโกหกเพื่อนว่ามาเรียนเลคเชอร์  โกหกว่าไปติวกับเพื่อน โกหกว่าไปฟิตเนสกับเพื่อน โกหกว่าทำงานครบแล้ว โกหกว่าได้ตังอาทิตย์ละห้าพัน
โกหกว่าเคยไปจีน  โกหกว่าเคยไปเมกากับดาราชื่อดังคนหนึ่งตอนสมัยเรียนร.ร.เดียวกัน.......   และโกหก และโกหก ทุเรื่องค่ะ ทุกคำที่ออกจากปากเธอล้วนแล้วแต่โกหก     ที่เราจับได้คือพอดีหล่อนบอกหล่อนไปติวกับเพื่อนอีกคนนึงปต่เพื่อนคนนั้นบอกว่าหล่อนไม่เคยมา........  จนกลุ่มเพื่อนเราเริ่มสังเกตและก็พบว่าหลอนโกหกไปหมด  เรื่องว่าพ่อเป็นอธิการ นั้น  หล่อนแถไปบอกว่าพ่อหล่อนทำงานที่ตึดอธิการ เราเข้าใจผิดเอง.......... อ่านะ เรื่องรถก็พอดีเพื่อนอีกคนไปเห็นจะๆเลยว่าหล่อรบอกว่ารถคนนี้ล่ะรถของหล่อน จอดไว้ที่ตรงลายจอดรถที่หอเพื่อนก็เชื่อนะ ก็ไปรับหล่อนออกไปซื้อของด้วยกัน แต่พอกลับมาพร้อมกันกับหลอน ....................ปรากฏว่ารอดมันหายไปจากโรงจอดรถแล้ว ...................เอ่อเจ้าของก็ไปด้วยกันแต่รถเลื่อนไปเอง เหอะๆๆ แล้วเรื่องติดสามสิบคนสุดท้ายมิสไทยแลนด์เวิล์ดก็อีก  สรุปไปอ่านชื่อในเวบติดคนที่ร้อยกว่าเกือบสองร้อย  หึหึ  มิน่าล่ะ .....เรื่องเกรดก็โกหกค่ะไปดูระเบียนประวัติมาได้หนึ่งกว่าๆเอง เลขหนึ่งเป็นทิวแถว
แล้วที่มันสุดจะทนก็คือตอนทำไฟนอลโปรเจคหล่อนไม่ชวยเพื่อนทำงานเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เพื่อนนัดล่วงแล้วกลับไม่มา และบอกว่าเพื่อนว่าไปประกวดไทยซุปเปอร์โมเดล แต่กลับบอกเพื่อนอีกคนและอาจารย์ว่าไปงานศพญาติ และพอมาพูดอีกที่กับเป็นงานศพแหนเพื่อน ......................................  ซึ่ง เอ่อ  ทำเป็นไม๊ ที่ไม่ช่วยเพื่อนงานไฟนอลโปเจค    และต่อมายังเอางานเพื่อนไปถ่ายเอกสารแล้วเพื่อนก็โทรตามเป็นร้อยๆรอบ จิงๆนะไม่ได้เวอร์เพื่อนโทรหากันกระหน่ำแต่หล่อนกลับไปอยู่บ้านเพื่อนอีกคนและปิดโทรศัพท์หนีจนถึงตีสามถึงเอางานมาให้เพื่อน ซึ่งงานต้องส่งตอนนเช้า  แล้วยังมีหน้ามาถามเพื่อนว่า ยังไม่ทำอีกหรอ ทำไมไม่ทำล่ะ  โหยมันน่านัก....... แล้วปรากฏว่าตอนนที่มันไปอยู่บ้านเพื่อน คือมันใช้เพื่อนทำงานจนถึงตีห้าแล้วตัวเองก็ไปนอนที่ของเค้าปล่อยให้เค้านอนบนโต๊ะคอม   พี่เจ้าของบ้านเค้าบอกว่าที่จริงหล่อนไปเข้าห้องน้ำตั้งหลายรอบ แต่ไม่เรียกเพื่อนมานอนด้วยเลย.....  ใจดำมากๆค่ะ แล้วเพื่อนก็อตส่าห์ไปส่งงานให้ไม่คิอตังสักแดงเดียว
..... แล้วต่อมาหมวกกับแว่นเพื่อนที่ทำงานให้เธอก็หายซึ่งเพื่อนบอกว่าหาซื้ออยากมากกว่าจะได้และหล่อนก็คือผู้ต้องสงสัย ไม่มีผุ้ใดเข้าออกบ้านหลังนั้นนอกจากหลอน .......................

..... สุดท้ายด้วยความที่เพื่อนทุกคนทนไม่ไหวค่ะเลยต้องไปพิสูจน์โดยทำที่เป็นว่าไปนั่งคุยกานที่ห้องหล่อน แล้วให้หล่อนกับเพื่อนอีกไปซื้อของกิน แล้วให้เรากับเพื่อน ค้นห้องหล่อน..... (ฮี่ๆๆๆๆ อาจนี้อาจดูเหมือนเป็นขโมยเองแต่มาจับขโมยนะค๊า)..และปรากฏว่าเปิดเข้าไปตู้หล่อนปุ๊บ.............หมวกค่ะพี่น้องหมวกเพื่อนคนนั้นจริงๆ   แถมแว่นอีก แว่นก็เสียบหาที่หน้าอกหล่อน พอค้นต่อไปเราก็ช๊อคอีก พู่กันที่หายไปนานของเราเองซึ่งราคาก้แพงอยู่หลอนเอาไปหมดเลยทุกเบอร์  แถมกระดานวาดรูปเพื่อนอื่นอีกมากมายก่ายกองที่ห้องเธอ  และงานที่เพื่อนส่งไปแล้วไม่ได้คืน อีหหนึ่งถุงใหญ่ ถาดสีอีกเป็นโหล....... ปากกาไฮไลท์สามชุดใหญ่ย้อห้อเดียวกันยังไม่ได้แกะกล่อง กระจกที่ติดชื่อเพื่อน งานที่สิดของพวกพี่ๆอีกเป็นกอง...........โมเดลบ้านของคนอื่นเป็นสิบๆ บีบีของเธอก็ของปลอมแล้วมาบอกว่าแท้..............พอถมยืมรถก็บอกว่าพี่ยืมไปทั้งปี   ตอนนั้นเราสึกว่าของในห้องหล่อนแทบจะไม่มีชิ้นไหนเลยที่ซื้อเองไม่ได้ซื้อ  ขโมยมาทั้งนั้นขนาดรองเท้าขาดๆไซสืเล็กกว่าเท้าเธอสักแปดเบอร์เธอยังเอามากองๆรวมกันไว้ มันมากจริงๆค่ะจนเขียนบรรยายไม่หมด ยังมีเรื่องโกหกเรื่องโขมยของเป็นร้อยๆเรื่องที่ยังไม่เล่า เล่าไม่หมดจริงๆค่ะ 
   
....................เมื่อวานทุกคนทนไม่ไหวเลยเปิดใจกันคิดว่าเธอจะยอมรับและเราจะพาเธอไปรักษา   แต่เธอก็มียอมรับขนาดเพื่อนที่มันขโมยกับแว่นไปยืนอยู่ตรงนั้นมันยังไม่ยอมรับและยืนยันว่าไม่ได้โกหกอะไรเลย..................ถึงขนาดว่าเราบอกว่าถ้าไม่พูดความจริงจะเสียเพื่อนทั้งกลุ่มไปหล่อนก็ไม่ยอมรับสักเรื่อง  ...............................  และยังยิ้มร่าเริ่งและยังพูดว่ารักเพื่อนและไม่รู้ว่าทำอะไรผิด ........จนเรทุกคนลุกออกมาจากโต๊ะเพราะคิดว่าไม่ไหวแล้ว ผู้หญฺิงคนนี้เกินเยียวยา  ........................  หล่อนถึงสารภาพว่าแว่นตานั้นเป็นของเพื่อน.......................  แต่ถึงวินาทีนั้นคือหล่อนถูกกดดันจึงจำเป็นต้องพูด        แต่ยังโกหกต่อไปว่าไม่เคยโกหกเรื่องอื่นเลยแม้แต่น้อย

ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำยังไงค่ะเราแค่อยากให้ยอมรับเอง อยากได้ความจริงใจจากเพื่อน .............. แต่นี้มันไม่ใช่เธอไม่ยอรับเองเลย...............................  เหนื่อยมากกับคนๆนี้     แล้วพอมาเจอวันนี้ก้ยังทำเป็นไม่เกิดอะไรขึ้นเสแสร้งมากมายค่ะ ไม่ได้สำนึกเลย   เธอยิ้มให้ตลอด ................ แต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นไม่รู้มีอะไรอยู่  เสียความรู้สึกมาก  เราและเพื่อน ดูแล และช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด แต่ทำทำอย่างนี้ขโมยของเรา โกหกเรา  เพื่อนคนไหนเคยเจอแบบนี้ช่วยบอกที่ทำไงดีเราไม่อยากจะพูดด้วยแล้วไม่อยากเจแแล้ว ผิดหวังและเสียใจมาก


last_life

last_life

FULL PROFILE