เล่าประสบการณ์ไปทำวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมาค่า
minipandaz16วันนี้ตัดสินใจไปตรวจสุขภาพพร้อมคุณแม่มาค่ะ
จริงๆแล้วเรื่องของการตรวจสุขภาพเนี่ยะ
ก็เป็นเรื่องที่นิไม่เคยใส่ใจกับมันมาก่อนเลยนะคะ
เพราะคิดว่า อายุยังไม่เยอะ ไว้ซํก 30 กว่าๆค่อยคิดเรื่องนี้
แต่ไปๆมาๆ หลังจากได้ศึกษาข้อมูลอะไรเยอะแยะ
จากทั้งจีบันเอง และอีกหลายๆเว็บด้านสุขภาพ
ก็เริ่มที่จะรู้สึกกลัวๆอนาคตอยู่เหมือนกัน
ก็เลยตัดสินใจว่า เริ่มตรวจเช็คสุขภาพซะตั้งแต่ตอนนี้เลย จะดีกว่า
เผื่อว่ามีโรคร้ายอะไร จะได้รู้ตัวเอาไว้ และรักษาได้ทัน
นิเลือกที่จะตรวจกับโรงพยาบาลกรุงเทพค่ะ
เพราะเคยมีประวัติอยู่ที่นี่แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำประวัติใหม่
วันนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับวันแม่ด้วย
จริงๆแล้วเรื่องของการตรวจสุขภาพเนี่ยะ
ก็เป็นเรื่องที่นิไม่เคยใส่ใจกับมันมาก่อนเลยนะคะ
เพราะคิดว่า อายุยังไม่เยอะ ไว้ซํก 30 กว่าๆค่อยคิดเรื่องนี้
แต่ไปๆมาๆ หลังจากได้ศึกษาข้อมูลอะไรเยอะแยะ
จากทั้งจีบันเอง และอีกหลายๆเว็บด้านสุขภาพ
ก็เริ่มที่จะรู้สึกกลัวๆอนาคตอยู่เหมือนกัน
ก็เลยตัดสินใจว่า เริ่มตรวจเช็คสุขภาพซะตั้งแต่ตอนนี้เลย จะดีกว่า
เผื่อว่ามีโรคร้ายอะไร จะได้รู้ตัวเอาไว้ และรักษาได้ทัน
นิเลือกที่จะตรวจกับโรงพยาบาลกรุงเทพค่ะ
เพราะเคยมีประวัติอยู่ที่นี่แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำประวัติใหม่
วันนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับวันแม่ด้วย
สำหรับโปรแกรมตรวจสุขภาพก็จะมีโปรโมชั่นคือ
ชุดที่ 1 จะมีส่วนลด 40%
ชุดที่ 2 จะมีส่วนลด 50%
ซึ่งวันนี้นิไปตรวจสุขภาพพร้อมคุณแม่ ก็เลยจ่ายแบบ โปรแกรมของคุณแม่เป็นชุดที่ 1
และโปรแกรมของนิจะเป็นชุดที่ 2 ค่ะ
สำหรับนิ ซึ่งอายุน้อยกว่า 35 ปี ก็ตรวจสุขภาพในโปรแกรมเบสิคค่ะ
ขั้นตอนก็จะมีตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และก็พวกปอด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งระบบเลือด และระบบภายใน ตับ ไต อะไรพวกนี้แหละค่ะ
นิขอข้ามในส่วนของการตรวจสุขภาพมาพูดถึงเรื่อง มะเร็งปากมดลูก กันดีกว่า
สิ่งแรกเลยที่นิเริ่มมาใส่ใจกับเรื่องของมะเร็งปากมดลูก
เกิดจากโฆษณาอันนึง นิจำไม่ได้ว่าเป็นโฆษณาของบริษัทหรือมูลนิธิอะไร
แต่เป็นภาพทีู่ผู้หญิงคนนึง นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
แล้วเค้าก็ถ่ายซูมมาเรื่อยๆจนถึงปากของผู้หญิงคนนั้นแล้วบอกว่า มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้
อะไรประมาณนี้แหละ คือเริ่มรู้สึกว่า น่ากลัวจัง
เพราะเชื้อที่ก่อมะเร็งชนิดนี้ ใช้เวลาฟักตัวนานถึง 10-15 ปี
ก่อนจะแสดงอาการ ตอนนี้เราอาจจะดูปกติ
แต่อนาคตใครจะไปรู้จริงมั้ยคะ
มาจนถึงช่วงระยะนี้มีโครงการณ์ women protect women
ที่สาวๆบล๊อคเกอร์คนดังไปร่วมงานกันหลายคน
และมีโฆษณาออกสื่อทางทีวีบ่อยๆ
ผู้หญิง 50-80% มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคนี้ได้
โดยมีปัจจัยดังนี้ค่ะ
- การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
- การมีคู่นอนหลายคน หรือฝ่ายชายที่เราร่วมหลับนอนมีคู่นอนหลายคน
- การคลอดบุตรจำนวนหลายคน
- การสูบบุหรี่
- การมีภาวะคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะเป็นโรคเอดส์
- การสูบบุหรี่
- พันธุกรรม
- การขาดสารอาหารบางชนิด
ปัจจัยเสี่ยงจากฝ่ายชาย ที่อาจทำให้ผู้หญิงเป็น มะเร็งปากมดลูก
- ผู้ชายที่มีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
- ผู้หญิงที่มีสามีเป็นมะเร็งองคชาติ
- ผู้หญิงที่มีสามีเคยมีภรรยาเป็น มะเร็งปากมดลูก
- ผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน
ข้อมูลจาก : http://hilight.kapook.com/view/37597
หลังจากอ่านแล้ว อาจจะรู้สึกว่า เราไม่ได้มีปัจจัยไหนเสี่ยงเลย
ยังไม่ต้องทำก็ได้ แต่ของแบบนี้ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ
คุณหมอบอกว่า มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในบรรดามะเร็งของผู้หญิงในเมืองไทย
มีคนตายเพราะโรคนี้เฉลี่ยถึงวันละ 7 คนเลยทีเดียว (โอ้วว น่ากลัวมาก)
และด้วยความที่วัยรุ่นสมัยนี้มีพฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรเยอะขึ้น
จึงจำเป็นมากที่จะต้องรีบทำวัคซีนป้องกันไว้ก่อนค่ะ
วัคซีนนี้เริ่มทำได้ตั้งแต่ช่วงประถมหรือมัธยมต้นนี่แหละ นิก็จำไม่ค่อยได้แล้ว
แต่เริ่มทำได้ตั้งแต่ยังเด็กเลยค่ะ
ที่นิตัดสินใจทำเป็นแบบ Full Course
คือมีทั้งหมด 3 เข็ม
เข็มที่ 1 ฉีดเมื่อไหร่ก็ได้
เข็มที่ 2 จะฉีดเพื่อกระตุ้นวัคซีน จะฉีดหลังจากเข็มแรกประมาณ 1-2 เดือน
และเข็มที่ 3 ฉีดเพื่อกระตุ้นเช่นกัน แต่จะฉีดหลังจากเข็มที่ 2 ประมาณ 5 เดือนค่ะ
รวมระยะทั้งหมดที่ทำวัคซีนคือประมาณ 6 เดือน
ซึ่งเมื่อฉีดครบทั้ง 3 เข็มแล้ว จะสามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกนานถึง 10 ปี!!
คุ้มมากกกกก!!!
นิทำวัคซีนแบบป้องกัน 4 สายพันธ์ ราคาโปรโมชั่นก็อยู่ที่ 6949 บาทค่ะ
สำหรับสาวๆที่อายุต่ำกว่า 26 ปี
นิแนะนำว่า ให้รีบไปทำวัคซีนไว้เลยจะดีกว่าค่ะ
เพราะจะได้ผลมากกว่าคนอายุเกิน 26 ปีแล้ว
และถ้าหากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็จะยิ่งได้ผลเกือบ 100% เลยทีเดียว
แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีครอบครัวแล้วจะทำไม่ได้นะคะ
ทำได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพอาจจะลดหลั่นลงไป
สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ
ยิ่งทุกวันนี้มันมีสารพัดโรคร้าย
รีบดูแลตัวเองก่อนดีกว่าเนอะ
วัคซีนนี้เพิ่งมีมาไม่นานเองนะคะ
รีบไปทำวัคซีนก่อนดีกว่า ราคาแค่นี้ คุ้มค่าเกินกว่าที่จะเสี่ยงเนอะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับสาวๆบ้างนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^
Discussion (16)
เรา ฉีดวัคซีนของ Cervarix ค่ะ
ช่วงอายุที่ฉีดได้คือ 10-55 ปี ถ้าใครเกิน 26 ปีแล้วก็ฉีดของ Cervarix ได้อยู่นะ
ได้รับการรับรองจาก FDA แล้วด้วยจ้า
ป้องกันได้นาน 6-7 ปีค่ะ
ป้องกัน HPV สายพันธุ์ที่ก่อมะเร็งสายพันธุ์ 16 18 45 31 ค่ะ
ช่วงอายุที่ฉีดได้คือ 10-55 ปี ถ้าใครเกิน 26 ปีแล้วก็ฉีดของ Cervarix ได้อยู่นะ
ได้รับการรับรองจาก FDA แล้วด้วยจ้า
ป้องกันได้นาน 6-7 ปีค่ะ
ป้องกัน HPV สายพันธุ์ที่ก่อมะเร็งสายพันธุ์ 16 18 45 31 ค่ะ
นิโดนพี่พยาบาลหลอกอ่ะ
นิถามว่า ปวดมั้ยคะ? พี่พยาบาลบอก
ไม่เลยจ้าาาา
คือเรื่องของเรื่องจะได้เตรียมใจ
เพราะนิยังจำความรู้สึกของการทำวัคซีนกันบาดทะยักได้
มันปวดมากกกกกกกกก
สรุปว่า พอฉีดแล้วเดินยา แอบปวดกว่าที่คิด
ไม่เท่าบาดทะยักหรอก แต่ก็แอบปวดง่า >"<
นิถามว่า ปวดมั้ยคะ? พี่พยาบาลบอก
ไม่เลยจ้าาาา
คือเรื่องของเรื่องจะได้เตรียมใจ
เพราะนิยังจำความรู้สึกของการทำวัคซีนกันบาดทะยักได้
มันปวดมากกกกกกกกก
สรุปว่า พอฉีดแล้วเดินยา แอบปวดกว่าที่คิด
ไม่เท่าบาดทะยักหรอก แต่ก็แอบปวดง่า >"<
ทำครบสามเข็มแล้วค่า
สองเข็มแรก ปวดมาก จำไม่ได้ว่าเข็มไหนทำให้เป็นไข้ไปเลย 3-4 วัน
สองเข็มแรก ปวดมาก จำไม่ได้ว่าเข็มไหนทำให้เป็นไข้ไปเลย 3-4 วัน
เคยได้ยินมาว่า ก่อนมีเพศสัมพันธ์ให้ฉีดก่อนเลย
ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะแยะเลย
ขอบคุณมากนะค้า
ไว้จะรบเร้าผู้ปกครอง ให้พาไปฉีดหน่อย
ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะแยะเลย
ขอบคุณมากนะค้า
ไว้จะรบเร้าผู้ปกครอง ให้พาไปฉีดหน่อย
ทดสอบในสตรีอายุ 18-45 ปีค่ะ ผลที่ได้คือ Cervarix มีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าค่ะ
ที่มาจาก
http://mchnetwork.thaihealthykids.com/site_data/thaihealthykids_mchnetwork/1/schedual_53/pdf/10_6VittayaT.pdf