เล่าประสบการณ์ไปทำวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมาค่า

วันนี้ตัดสินใจไปตรวจสุขภาพพร้อมคุณแม่มาค่ะ
จริงๆแล้วเรื่องของการตรวจสุขภาพเนี่ยะ
ก็เป็นเรื่องที่นิไม่เคยใส่ใจกับมันมาก่อนเลยนะคะ
เพราะคิดว่า อายุยังไม่เยอะ ไว้ซํก 30 กว่าๆค่อยคิดเรื่องนี้
แต่ไปๆมาๆ หลังจากได้ศึกษาข้อมูลอะไรเยอะแยะ
จากทั้งจีบันเอง และอีกหลายๆเว็บด้านสุขภาพ
ก็เริ่มที่จะรู้สึกกลัวๆอนาคตอยู่เหมือนกัน


ก็เลยตัดสินใจว่า เริ่มตรวจเช็คสุขภาพซะตั้งแต่ตอนนี้เลย จะดีกว่า
เผื่อว่ามีโรคร้ายอะไร จะได้รู้ตัวเอาไว้ และรักษาได้ทัน




นิเลือกที่จะตรวจกับโรงพยาบาลกรุงเทพค่ะ
เพราะเคยมีประวัติอยู่ที่นี่แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำประวัติใหม่
วันนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับวันแม่ด้วย





สำหรับโปรแกรมตรวจสุขภาพก็จะมีโปรโมชั่นคือ
ชุดที่ 1 จะมีส่วนลด 40%
ชุดที่ 2 จะมีส่วนลด 50%
ซึ่งวันนี้นิไปตรวจสุขภาพพร้อมคุณแม่ ก็เลยจ่ายแบบ โปรแกรมของคุณแม่เป็นชุดที่ 1
และโปรแกรมของนิจะเป็นชุดที่ 2 ค่ะ








สำหรับนิ ซึ่งอายุน้อยกว่า 35 ปี ก็ตรวจสุขภาพในโปรแกรมเบสิคค่ะ
ขั้นตอนก็จะมีตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และก็พวกปอด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งระบบเลือด และระบบภายใน ตับ ไต อะไรพวกนี้แหละค่ะ










นิขอข้ามในส่วนของการตรวจสุขภาพมาพูดถึงเรื่อง มะเร็งปากมดลูก กันดีกว่า
สิ่งแรกเลยที่นิเริ่มมาใส่ใจกับเรื่องของมะเร็งปากมดลูก
เกิดจากโฆษณาอันนึง นิจำไม่ได้ว่าเป็นโฆษณาของบริษัทหรือมูลนิธิอะไร
แต่เป็นภาพทีู่ผู้หญิงคนนึง นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
แล้วเค้าก็ถ่ายซูมมาเรื่อยๆจนถึงปากของผู้หญิงคนนั้นแล้วบอกว่า มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้
อะไรประมาณนี้แหละ คือเริ่มรู้สึกว่า น่ากลัวจัง
เพราะเชื้อที่ก่อมะเร็งชนิดนี้ ใช้เวลาฟักตัวนานถึง 10-15 ปี
ก่อนจะแสดงอาการ ตอนนี้เราอาจจะดูปกติ
แต่อนาคตใครจะไปรู้จริงมั้ยคะ
มาจนถึงช่วงระยะนี้มีโครงการณ์ women protect women
ที่สาวๆบล๊อคเกอร์คนดังไปร่วมงานกันหลายคน
และมีโฆษณาออกสื่อทางทีวีบ่อยๆ




ผู้หญิง 50-80% มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคนี้ได้
โดยมีปัจจัยดังนี้ค่ะ


           - การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
           - การมีคู่นอนหลายคน หรือฝ่ายชายที่เราร่วมหลับนอนมีคู่นอนหลายคน
           - การคลอดบุตรจำนวนหลายคน
           - การสูบบุหรี่
           - การมีภาวะคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะเป็นโรคเอดส์ 
           - การสูบบุหรี่
           - พันธุกรรม
           - การขาดสารอาหารบางชนิด
 





           ปัจจัยเสี่ยงจากฝ่ายชาย ที่อาจทำให้ผู้หญิงเป็น มะเร็งปากมดลูก


           - ผู้ชายที่มีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
           - ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
           - ผู้หญิงที่มีสามีเป็นมะเร็งองคชาติ
           - ผู้หญิงที่มีสามีเคยมีภรรยาเป็น มะเร็งปากมดลูก
           - ผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน



ข้อมูลจาก : http://hilight.kapook.com/view/37597







หลังจากอ่านแล้ว อาจจะรู้สึกว่า เราไม่ได้มีปัจจัยไหนเสี่ยงเลย
ยังไม่ต้องทำก็ได้ แต่ของแบบนี้ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ
คุณหมอบอกว่า มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในบรรดามะเร็งของผู้หญิงในเมืองไทย
มีคนตายเพราะโรคนี้เฉลี่ยถึงวันละ 7 คนเลยทีเดียว (โอ้วว น่ากลัวมาก)
และด้วยความที่วัยรุ่นสมัยนี้มีพฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรเยอะขึ้น
จึงจำเป็นมากที่จะต้องรีบทำวัคซีนป้องกันไว้ก่อนค่ะ







วัคซีนนี้เริ่มทำได้ตั้งแต่ช่วงประถมหรือมัธยมต้นนี่แหละ นิก็จำไม่ค่อยได้แล้ว
แต่เริ่มทำได้ตั้งแต่ยังเด็กเลยค่ะ
ที่นิตัดสินใจทำเป็นแบบ Full Course
คือมีทั้งหมด 3 เข็ม
เข็มที่ 1 ฉีดเมื่อไหร่ก็ได้
เข็มที่ 2 จะฉีดเพื่อกระตุ้นวัคซีน จะฉีดหลังจากเข็มแรกประมาณ 1-2 เดือน
และเข็มที่ 3 ฉีดเพื่อกระตุ้นเช่นกัน แต่จะฉีดหลังจากเข็มที่ 2 ประมาณ 5 เดือนค่ะ
รวมระยะทั้งหมดที่ทำวัคซีนคือประมาณ 6 เดือน
ซึ่งเมื่อฉีดครบทั้ง 3 เข็มแล้ว จะสามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกนานถึง 10 ปี!!
คุ้มมากกกกก!!!
นิทำวัคซีนแบบป้องกัน 4 สายพันธ์ ราคาโปรโมชั่นก็อยู่ที่ 6949 บาทค่ะ






สำหรับสาวๆที่อายุต่ำกว่า 26 ปี
นิแนะนำว่า ให้รีบไปทำวัคซีนไว้เลยจะดีกว่าค่ะ
เพราะจะได้ผลมากกว่าคนอายุเกิน 26 ปีแล้ว
และถ้าหากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็จะยิ่งได้ผลเกือบ 100% เลยทีเดียว
แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีครอบครัวแล้วจะทำไม่ได้นะคะ
ทำได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพอาจจะลดหลั่นลงไป









สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ
ยิ่งทุกวันนี้มันมีสารพัดโรคร้าย
รีบดูแลตัวเองก่อนดีกว่าเนอะ
วัคซีนนี้เพิ่งมีมาไม่นานเองนะคะ
รีบไปทำวัคซีนก่อนดีกว่า ราคาแค่นี้ คุ้มค่าเกินกว่าที่จะเสี่ยงเนอะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับสาวๆบ้างนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^


 

Discussion (16)

 ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ แสดงผลการเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกัน ของวัคซีนทั้งสองชนิด
ทดสอบในสตรีอายุ 18-45 ปีค่ะ ผลที่ได้คือ Cervarix มีระดับภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าค่ะ
ที่มาจาก 
http://mchnetwork.thaihealthykids.com/site_data/thaihealthykids_mchnetwork/1/schedual_53/pdf/10_6VittayaT.pdf




เรา ฉีดวัคซีนของ Cervarix ค่ะ
ช่วงอายุที่ฉีดได้คือ 10-55 ปี ถ้าใครเกิน 26 ปีแล้วก็ฉีดของ Cervarix ได้อยู่นะ
ได้รับการรับรองจาก FDA แล้วด้วยจ้า
ป้องกันได้นาน 6-7 ปีค่ะ
ป้องกัน HPV สายพันธุ์ที่ก่อมะเร็งสายพันธุ์ 16 18 45 31 ค่ะ



นิโดนพี่พยาบาลหลอกอ่ะ
นิถามว่า ปวดมั้ยคะ? พี่พยาบาลบอก
ไม่เลยจ้าาาา
คือเรื่องของเรื่องจะได้เตรียมใจ
เพราะนิยังจำความรู้สึกของการทำวัคซีนกันบาดทะยักได้
มันปวดมากกกกกกกกก
สรุปว่า พอฉีดแล้วเดินยา แอบปวดกว่าที่คิด
ไม่เท่าบาดทะยักหรอก แต่ก็แอบปวดง่า >"<
ทำครบสามเข็มแล้วค่า
สองเข็มแรก ปวดมาก จำไม่ได้ว่าเข็มไหนทำให้เป็นไข้ไปเลย 3-4 วัน

เคยได้ยินมาว่า ก่อนมีเพศสัมพันธ์ให้ฉีดก่อนเลย

ได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะแยะเลย

ขอบคุณมากนะค้า

ไว้จะรบเร้าผู้ปกครอง ให้พาไปฉีดหน่อย