ต่อให้ไม่ได้นั่งแทกซี่คนเดียว ก็ใช่จะปลอดภัย

0 20

เรากับเพื่อนโบกแทกซี่กลับมอค่ะ ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่ม หิ้วของพะรุงพะรัง เรานั่งกันเบาะหลัง

แทกซี่ขับไปยังไม่ถึงครึ่งทาง เราก็เริ่มเวียนหัว มึนๆ จะหลับ เลยเข้าใจว่า อาจจะเมารถ หรือไม่ก็ความดันตก

เลยสะกิดบอกเพื่อนว่า แก ชั้นเวียนหัวแล้วก็ง่วงๆมึนๆ สงสัยชั้นจะเป็นลมแน่ะ

เพื่อนเรา เป็นผู้หญิงนะ แต่ตัวใหญ่ค่ะ และแข็งแรงด้วย บอกเรามาเสียงอ่อยๆว่า ชั้นเวียนหัว ...เหมือนแกน่ะ

เราตอนนั้นก็อึ้งๆนะ คิดว่าเป็นได้ไง ก็เลยนั่งเงียบกันไปต่างคนต่างมึนตลอดทางทั้งที่ปกติจะเม้ากันตลอดทาง

เราก็ไม่คิดว่าเป็นเพราะแทกซี่นะ แต่ก็นึกไม่ออกว่าจะเป็นเพราะอะไร เนื่องจากเรากะเพื่อนกินข้าวเย็นกันตอนบ่าย3
ไอว่า จะเมารถเพราะกินข้าวมา มันก็ไม่ใช่

แต่ที่เรารู้สึกแปลกๆคือ พอรถเข้ามาในมอ หลังจากที่คนขับรับบัตรจากยามไปแล้ว ก็ไปจอดรถตรงทางมืดๆ

แล้วบอกเราว่า ประตูรถปิดไม่มิด
เราก็แอบคิดในใจว่า ทำไมเพิ่งมารู้ว่าปิดไม่มิดตอนนี้  รถก็ไม่ได้เป็นแบบมีระบบเตือน ต่อให้มี ทำไมไม่พูดแต่แรก
 มันบอกให้เรา ปิดประตูฝั่งเราให้แน่นขึ้น
เราก็ปิดค่ะ ตอนนั้นยังซื่อบื้ออยู่
คนขับบอกว่าไม่ใช่ฝั่งเรา เป็นฝั่งเพื่อนเราต่างหาก ให้เพื่อนเราปิดประตูใหม่ เพื่อนเราก็ปิดให้
มันก็บอกว่า ไม่ใช่อีก บอกว่า เป็นฝั่งข้างคนขับ แล้วมันก็เดินลงไปปิด จากนั้นก็เดินมานั่งข้างตัวเอง ปิดประตูปัง
แล้วเริ่มออกรถ

เพื่อนเราเริ่มนึกได้ กระซิบเราบอกว่า
*ถ้าเค้าอยากปิดประตูให้แน่นจริง มันน่าจะเป็นฝั่งแกที่ปิดไม่แน่น เป็นไปไม่ได้ที่ฝั่งชั้นจะปิดไม่แน่น
เพราะว่าชั้นกะแกก็ขึ้นมาข้างเดียวกัน*

ตอนนั้นเราแบบ เออว่ะ เหมือนมันต้องการให้ประตูรถ 4 ด้านปิดแน่นขึ้น ในที่สุด เพื่อนเราตัดสินใจไขกระจกลง

คนขับแหวมา
*เปิดกระจกทำไม*
*หนูเมารถค่ะ* เพื่อนเราตอบ
*ทำไมถึงเมาได้ละ* คนขับถาม
ตอนนั้นแม่งเราอยากด่ามันมาก แต่มึนๆ นึกไรไม่ออกเลย
แล้วมันก็พยายามชวนๆเพื่อนเราพูด อยากให้เพื่อนเราปิดกระจก ถามว่า เพิ่งกินข้าวมาเหรอ..เอ..ไม่น่าเมาได้นา บลาๆๆ
แต่เพื่อนเราก็ไม่ยอมปิดค่ะ มันก็เลยเงียบไป

พอเปิดกระจกแล้ว อาการมึนของเรากับเพื่อนก็หาย

ในที่สุด ก็กลับมาถึงหอโดยสวัสดิภาพ เฮ้อ

ฝากเตือนทุกคน นั่งแท็กซี่ สังเกตสังกาให้ดีๆนะคะ


littlestar84

littlestar84

sawadeenaka

FULL PROFILE