คุณว่าเรื่องนี้ใครผิด

พี่มีประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัวเองมาเล่าให้ฟังค่ะ อยากถามความเห็นสมาชิกจีบันซิว่าเรื่องนี้ใครน่าจะเป็นคนผิด เรื่องอาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่อยากให้อ่าน


ในที่ทำงานพี่เราจะเที่ยวกันในช่วงวันพ่อของทุกปีค่ะ คือเป็นการเดินทางไปทำบุญในต่างจังหวัดพร้อมกับเที่ยวไปด้วย ซึ่งปีนี้ ทุกคนตกลงกันว่าเราจะไปแม่ฮ่องสอนกัน แน่นอนว่าเรารู้ดีว่าช่วงหน้าหนาวเป็นช่วงท่องเที่ยวจังหวัดทางเหนือ การจองที่พักเป็นเรื่องยาก ก็เลยดำเนินการในเรื่องการหาที่พักก่อนล่วงหน้า 6 เดือน ซึ่งขนาดว่าจองล่วงหน้านานอย่างนั้นแล้วก็ยังหาได้ยากมากสำหรับการไปพักที่ปาย เพราะมันเป็นเมืองที่กำลังบูมสุดขีด ทางคณะเราที่ไปเที่ยวมีน้องคนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการจัดการทั้งหมด ตั้งแต่การจองที่พัก จัดรถ จัดโปรแกรม ( น้องคนนี้เค้าเคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อนค่ะ ไม่ใช่ครั้งแรก ) ทีนี้ เราอยู่กรุงเทพฯ กัน การจะไปสำรวจถึงพื้นที่มันเป็นเรื่องยากมาก น้องเค้าก็เลยใช้วิธีหาทางเน็ตค่ะ จนไปเจอรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ชื่อว่า "****"  (มา edit ชื่อออกภายหลังเนื่องจากมีการส่ง comment ข้อมูลแย้งเข้ามา แต่ขอยืนยันว่าชื่อที่ใส่ไปในตอนแรกไม่ใช่การใส่ร้ายใครแน่นอน)   ซึ่งจากภาพในเน็ตดู OK และ perfect มากๆ เพราะเป็นเรือนไทยรูปแบบชนบท ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำปาย ดูร่มรื่นน่าพัก และจากรีสอร์ทนี้สามารถเดินทางลัดไปหาถนนคนเดินของปายได้ในระยะไม่ไกลนัก น้องเค้าก็เลยโทร.ไปคุย ทางเจ้าของรีสอร์ทยืนยันว่าสามารถรับคณะของเราได้ น้องเค้าก็เลยจองที่นี้ไว้ 1 คืน ( คณะของเราจะตระเวนพัก แม่ฮ่องสอน ปาย และเชียงใหม่ แห่งละ 1 คืนค่ะ และค้างบนรถเที่ยวไป 1 คืน ) สำหรับทั้งคณะ 32 คน  โดยมีการส่งใบจองห้องพักล่วงหน้า 6 เดือนอย่างที่บอกข้างต้น และทางรีสอร์ทเองก็มีหนังสือตอบยืนยันมา จนกระทั่งประมาณปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคมจำได้ไม่แน่ชัด ทางรีสอร์ทก็ขอให้ทางคณะโอนเงินค่าที่พักไปให้ก่อน ซึ่งทางเราก็โอนให้ทันทีไม่ได้มีอิดออดแต่อย่างใด และทางน้องที่เค้าจองที่พักก็ติดต่อกับทางรีสอร์ทเป็นระยะๆ เพราะกลัวจะมีข้อผิดพลาด ก็ไม่พบว่าจะมีปัญหาอะไร

ปรากฏว่าพอถึงวันจริง คณะเดินทางไปถึงปายคืนวันที่ 5 ธันวาคม ประมาณทุ่มกว่าๆ เห็นจะได้ บรรยากาศมืดมิดเพราะเป็นหน้าหนาว รถของเรา (รถตู้ 3 คัน แต่ไปถึงไม่พร้อมกัน) พยายามมองหาทางเข้ารีสอร์ท พบว่าเป็นป้ายชื่อเล็กจิ๋วอยู่ใต้สุดของป้ายอื่นๆ ชี้ให้เข้าไปในถนนแคบๆ เส้นทางขรุขระๆ เฉอะแฉะ และแสนจะวกวน เราก็ยังอุตส่าห์เอารถตะลุยเข้าไป และแล้ว เราก็พบว่ารีสอร์ท **** ที่เราจองไว้ ยังสร้างไม่เสร็จค่ะ!!!  สิ่งที่พวกเราเห็นตรงหน้าคือ กองวัสดุก่อสร้างระเกะระกะ บ้านที่ขึ้นโครงไว้แต่เสา 1 หลัง รถปิ๊กอัพที่มีที่นอนกองอยู่บนกระบะหลัง 4-5 อันมั้ง จากนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งมาแสดงตัวว่าเป็นพี่สาวเจ้าของรีสอร์ท ออกมาบอกว่า น้องชาย (ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของรีสอร์ท) ออกจากงานที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นึกอยากทำรีสอร์ทแต่ไม่มีประสบการณ์ ก็เลย หัดทำ โครงการนี้ก่อน (โดยเอาเราเป็นหนูทดลองเนี่ยนะ)  และมีปัญหาบางอย่างทำให้สร้างไม่เสร็จ ซึ่งปัญหาตามที่เค้าอ้างมาก็คือ 1) อบต. ไม่อนุมัติแบบก่อสร้าง ( อ้าว! แล้วที่ขึ้นโครงไปแล้ว แปลว่าสร้างก่อนขออนุญาตทางการสิ แล้วบ้านอันสวยงามที่นำไปโชว์ในเน็ตล่ะ มาจากไหน )   และ 2) ช่างที่ปายค่อนข้างเล่นตัว ทำงานช้า และเจรจาด้วยยาก ถ้าไม่อยากทำก็ไม่ทำซะงั้น  ( จริงเร้อ....มันอาชีพเค้านะ ) ทางพี่สาวเจ้าของรีสอร์ทก็บอกว่า ขอโทษ และอยากขอให้พวกเราอภัยให้กับ เด็กหัดทำ ด้วย (พูดง่ายมากเลย)

เราถามถึงวิธีแก้ปัญหา เพราะเราจะไปหาที่พักในช่วง peak อย่างนี้แบบปัจจุบันทันด่วนมันเป็นไปไม่ได้ ขนาดลานวัด+โรงเรียนยังมีคนไปกางเต็นท์กันเต็มเลย ถ้าให้คณะเรากางเต็นท์ ไม่มีพื้นที่แน่ๆ และพวกเราก็ไม่ได้เตรียมเต็นท์หรืออุปกรณ์ยังชีพสำหรับกรณีนั้นไป ทางผู้หญิงคนนี้ก็บอกว่าได้แก้ปัญหาไว้ให้เราแล้ว คือ ได้เจรจารีสอร์ทข้างเคียง ขอบ้านไว้ให้เราได้ 6 หลัง ซึ่งจะรับคนได้หลังละ 2 คน 2 หลัง และ 3 คน อีก 4 หลัง เท่ากับว่ารับได้เต็มที่ไม่เกิน 18 คน แต่ปัญหาก็คือว่า ขณะที่คณะเราไปถึงนั้น ไฟดับ ซึ่งเค้าบอกว่าที่นั่นไฟดับเป็นปกติ ดับอยู่บ่อยๆ ทำเหมือนเรื่องธรรมดางั้นแหละ ผลจากไฟดับทำให้บ้านทั้ง 6 หลังที่จัดไว้ให้แล้วไม่มีไฟฟ้าและไม่มีน้ำใช้ด้วย (ต้องใช้ไฟกับเครื่องปั๊มน้ำหรืออะไรก็ไม่รู้)  ที่นี้จะพักกันยังไง ถามหาไฟฉาย ทางเค้าก็ไม่มีไฟฉายให้ ( ทั้งๆ ที่บอกไฟดับเป็นปกติเนี่ยนะ)  รวมทั้งคนที่เหลืออีกล่ะจะจัดการยังไง  คณะมีตั้งสามสิบกว่าคน

สักพักใหญ่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ ไฟฟ้ามา เป็นอันว่าบ้าน 6 หลังมีน้ำมีไฟล่ะ แต่คนที่เหลือยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะนอนที่ไหน สรุปแล้วสิ่งที่เค้าจัดให้เรา (ซึ่งด้วยสภาวการณ์บังคับทุกคนก็ต้องยอมรับ) คือ คนส่วนหนึ่งได้พักในบ้าน 6 หลังที่เค้าขอความอนุเคราะห์รีสอร์ทข้างเคียงมาได้ ( ค่าใช้จ่ายที่คิดจากเราไปล่วงหน้าคือ คืนละ 1800 บาท ) สภาพบ้าน OK แต่เป็นบ้านเปล่าๆ กล่าวคือ มีเตียง 1 เตียง สำหรับบ้านที่ให้พัก 2 คน และเตียง 2 เตียง สำหรับบ้านที่ให้พัก 3 คน มีราวแขวนผ้า 1 ราว ไม่มีตู้ โต๊ะ หรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ  สิ่งอำนวยความสะดวกมีทีวี 1 เครื่อง  พัดลม 1 ตัว (ซึ่งถ้าไปหน้าร้อนคงจะเสี่ยงมากเพราะติดพัดลมไว้ใกล้กับหัวมุ้งแบบกลมๆ ครอบลงมา แบบกลดพระธุดงค์น่ะค่ะ ถ้าพัดลมช๊อตก็ไฟลุกติดมุ้งคลอกคนตายได้เลย บ้านเป็นไม้อีกต่างหาก เชื้อเพลิงชั้นดีเลย )  ยังดีว่าบ้านส่วนนี้มีห้องน้ำในตัวและมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ แต่ถ้าอาบๆ อยู่ เกิดไฟดับกะทันหันก็ซวยไป อ้อ! ยังมีผ้าเช็ดตัวสีเหลืองมอๆ ให้คนละ 1 ผืน  เอาล่ะ พอถูไถ บางคนก็เอาผ้าเช็ดตัวของตัวเองไปก็ไม่ต้องเสี่ยงกับผ้าของเค้า

ส่วนคณะที่เหลือถูกจัดให้ไปนอนในบ้านที่ประกอบไว้อย่างคร่าวๆ  เท่าที่พี่ได้เดินไปดู 1 หลัง พบว่า ฝาเป็นไม้ขัดแตะที่สั่นไหวได้ตามแรงลมพัด ประตูที่ทำมาก็เหมือนจะผิดขนาดกับกรอบประตู เพราะมีช่องว่างระหว่างขอบประตูด้านล่างกับพื้น ช่องนี้กว้างประมาณคืบหนึ่ง ความยาวก็ตามแนวประตู  ช่องนี้คนนอกสามารถสอดมือเข้าไปดึงขาคนข้างในได้สบายๆ กลอนประตูไม่มี ใช้ลวดเกี่ยวแทนค่ะ  ส่วนห้องก็เล็กมาก วางที่นอนเดี่ยว (แต่ให้นอน 2 คน) ได้ 1 อัน แบบวางกับพื้น ไม่มีเตียง มีพื้นที่รอบๆ ที่นอนให้พอวางกระเป๋าได้แค่นั้นแหละ ถ้าจะเดินก็ต้องหลบกระเป๋าข้ามไปข้ามมาเอาเอง บ้านที่ให้คนที่เหลืออยู่นั้นก็ไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่กระจายกันอยู่  ที่สำคัญคือไม่มีห้องน้ำค่ะ ต้องเดินออกมาใช้ห้องน้ำรวมกับพวกที่ไปกางเต็นท์นอน ระยะทางการเดินไกลพอสมควร นี่คือบ้านที่เค้าคิดเงินเราแบบให้โอนไปล่วงหน้าในราคาคืนละ 1500 บาทค่ะ บ้านหลังอื่นๆ พี่ไม่ได้เดินไปดูนะคะ แต่มาถามคนที่เหลือในวันต่อมาก็ดูเหมือนว่าจะสภาพไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรนัก พี่โชคดี (ที่อาวุโส) เลยได้พักบ้านในกลุ่มแรก แต่พวกเค้าต้องทนพักทุเรศๆ อย่างนั้น เพียงแค่ให้มีที่ซุกหัวนอนกันหนาวไปคืนหนึ่ง  อาหารเย็นก็ต้องเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปายไปหากินกันเอาเองตามยถากรรมเพราะที่นั่นไม่รับทำอาหารค่ะ ถ้าต้องการอาหารต้องแจ้งล่วงหน้าแล้วเค้าจะไปขอให้รีสอร์ทข้างเคียงช่วยทำให้

 วันรุ่งขึ้นพวกเราก็รีบเช็คเอ๊าท์กันตั้งแต่ตีสี่ครึ่งเลยค่ะ เรียกว่าทำไงก็ได้ขอให้ไปพ้นจากที่นั่นเร็วที่สุด เช้าวันนั้นมีการทำข้าวต้มมาให้คณะกิน  (ซึ่งตรงนี้จะอ้างเป็นบุญเป็นคุณไม่ได้ คณะเราจ่ายไปตั้งเท่าไหร่) มีกาแฟและน้ำขิง (ตั้งบนเตาไฟฟ้า แต่น้ำเย็นเจี๊ยบ จนเราไปพบทีหลังว่าเด็กคนงานไม่ได้เปิดสวิทช์เตา) ยืนกินกันระเกะระกะเพราะมีเก้าอี้อยู่สิบกว่าตัวเท่านั้นเอง  และก่อนเดินทางออกมา เจ้าของรีสอร์ทซึ่งมาปรากฏตัวให้เราเห็บแว๊บๆ เมื่อคืน ( ให้พี่สาวออกหน้าตลอด...แมนมากกกก ) ก็เอา postcard มาให้เป็นที่ระลึก บอกว่า ภาพใน postcard เป็นภาพเดียวกับภาพที่ลงเว็บไซต์  ซึ่งในภาพไม่ได้มีระบุเลยว่าเป็น ภาพจำลองสถานที่จริง เพราะของจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เป็นการเสริมแต่งภาพให้ดูดี และลบสิ่งที่เป็นจริงอันเลวร้ายออกไป (ในภาพไม่มีกองเกะกะอะไรเลย โล่ง+ร่มรื่นมาก)  สำหรับพวกเรา มันก็คือฝันแหละ แต่เป็นฝันร้าย
 

จริงๆ แล้ว พี่พยายามจะถ่ายรูปมาให้ดูเป็นหลักฐาน ( แม้ว่าจะโดนเหล่พอสมควร) แต่ถ่ายมาแล้วรูปมันมืดมากๆๆ เลย กล้องที่ใช้เป็นของมือสมัครเล่นค่ะ ประกอบกับไฟที่เค้าใช้เป็นไฟหลอด แสงมันออกเหลืองๆ ไม่สว่างเหมือนนีออนค่ะ ตอนนี้ก็กำลังขอรูปกับน้องที่เป็นคนจองที่พักซึ่งเค้ามีกล้องที่มีคุณภาพดีกว่า ถ้าได้แล้วจะมาลงแทรกรูปให้ดูทีหลังนะคะ

บอกตรงๆ ว่าพี่โมโหมาก คนในคณะหลายๆ คนก็โมโห ไม่ใช่ว่าเราทนความลำบากไม่ได้ หลายๆ คนในคณะเคยนอนเต็นท์ หรือบุกป่าฝ่าดงมาแล้ว แต่นั่นคือเรารู้ตัวก่อน และมีการเตรียมอุปกรณ์ไปพร้อม ( สำหรับพี่เอง มีอุปกรณ์สำหรับการนอนกลางดิน กินกลางทราย เพียบ แต่งานนี้ไม่รู้ตัวจึงไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย )

อยากถามความเห็นสมาชิกว่าเรื่องนี้ใครน่าจะเป็นคนผิดที่สุดคะ

1)      น้องคนจองผิดมั้ย ที่เชื่อข้อมูลและภาพในเน็ตว่าจริง โดยไม่ได้ตะกายจากกรุงเทพฯ ไปดูสถานที่จริงที่ปาย ( จังหวัดแม่ฮ่องสอน ) ล่วงหน้า -- แต่จริงๆ แล้ว การจองทางเน็ตก็เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำกันนะ
2)      หรือว่าเจ้าของรีสอร์ทผิด ที่สร้างรีสอร์ทก่อนที่จะขออนุมัติจากอบต. แถมรีสอร์ทยังสร้างไม่เสร็จ แต่กลับนำภาพที่ตกแต่งขึ้นมาไปลงโฆษณาในเน็ต  (เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนมั้ยเนี่ย)  และยังกล้ารับออร์เดอร์ลูกค้า ทั้งๆ ที่ไม่มีความสามารถ ( ต่อให้สร้างเสร็จ รีสอร์ทของเขาก็มีแค่ประมาณ 10 หลัง ไม่สามารถรองรับคน 32 คนได้แน่นอน ) รวมทั้งการไม่มีการแจ้งปัญหาให้ผู้สำรองห้องพักได้ทราบล่วงหน้า ปล่อยจนเค้าเดินทางมาถึง และต้องยอมรับสภาพแบบที่เป็น โดยไม่คิดรับผิดชอบอะไรมากกว่าจัดที่ซุกหัวนอนให้ตามยถากรรม ไม่มีการพูดถึงเงินที่เราโอนไปแล้วในราคาที่น่าจะได้พักดีกว่านี้

3)      คุณเชื่อมั้ยว่าช่างที่ปายเล่นตัว อยากหยุดก็หยุด อย่างที่เค้าบอกจริงๆ  ( มีคนหนึ่งในคณะคิดว่า เรื่องนี้อาจเป็นแค่ข้ออ้าง จริงๆ แล้ว น่าจะหมดทุนมากกว่า อาจหมายน้ำบ่อหน้าว่าลงเน็ตให้คนจองเข้ามาแล้วโอนเงินก่อน เพื่อนำเงินนั้นมาเป็นทุนก่อสร้าง คือ ขายก่อนสร้างว่างั้นเถอะ กะว่าจะได้ลูกค้าเยอะๆ มีเงินเข้าเยอะๆ  แต่บังเอิญมีคณะเราเท่านั้นที่ซวย จองเข้ามาเพียงคณะเดียว เงินเลยไม่พอ)

4)      หรือสุดท้าย คณะที่ไปนี้ผิดเอง ที่ไว้ใจน้องคนที่ให้จอง ปล่อยเค้าดำเนินการโดยอิสระไม่คอยถาม แต่เค้าก็เคยจัดทัวร์สำเร็จด้วยดีมาแล้วหลายครั้งนะคะ  และสำหรับครั้งนี้ เรื่องที่พักที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนกับเชียงใหม่ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ แม้จะไม่ใช่ห้าดาวแต่ก็ได้ที่พักที่ดีมากๆ  -- ส่วนที่ปาย แม้มีปัญหาก็เข้าใจว่ากว่าจะรู้มันก็สายเกินแก้แล้ว

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เราจะร้องเรียนใครได้บ้าง อยากจะร้องเรียน สคบ. เพราะหลักฐานเอกสารการจอง-การยืนยันยังเก็บอยู่ แต่ก็กลัวว่าเค้าจะรีบสร้างให้เสร็จเพื่อกลบเกลื่อนทำลายหลักฐาน จะกลายเป็นเราแจ้งเท็จไป

ช่วยกันออกความเห็นหน่อยนะคะ แล้วจะกลับเข้ามาอ่าน ตอนนี้ขอไปส่ง mail หาเพื่อนที่ทำงานบริษัททัวร์  2-3 แห่งก่อน ตอนนี้ยิ่งใกล้เทศกาลอยู่ด้วย กลัวพาลูกค้าไปเจอแบบพี่จะโดน complain เสียงานเปล่าๆ  

จะว่าไปแล้วรีสอร์ทนี้ถ้าเค้าอดทนรอสักนิดให้สร้างเสร็จจริงๆ แล้วค่อยรับแขกมาพัก จะเป็นที่พักที่น่าจองที่สุด เพราะแบบที่ออกไว้ก็ดูสวยงามดี และอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ ด้วย ไม่น่าทำแบบนี้เลย


 

Discussion (17)

ตอนนี้เอารูปที่ว่าถ่ายเองแล้วมืดๆ มาให้ดูก่อนแล้วกันนะ ติดต่อน้องที่จองไปหลายรอบแล้วอยากได้เอกสารกับรูปส่วนของเค้ามาเหมือนกัน เมื่อวานตอนเย็นก็ย้ำด้วย sms ไปอีกสองรอบ  พี่ไม่อยากถูกกล่าวหาว่ามากุเรื่องขึ้นเหมือนกันแหละ

อันนี้คือรูปตอนที่ไปนั่งรอชะตากรรมค่ะ



รูปนี้ได้ยังไม่มืดมาก เพราะเป็นตอนเพิ่งไปถึง แต่จะเห็นว่ามีการเตรียมนำไฟฉายมาวางให้ที่โต๊ะแล้ว

ต่อไปค่ะ



ถ่ายตอนคณะที่เหลือตามมาถึง (เวลาห่างจากรูปแรกประมาณ 45 นาที)  กำลังชุลมุนอยู่หน้าเค้าท์เตอร์ต้อนรับ 

ภาพแรกกับภาพที่สอง มัวแต่เน้นการถ่ายคน ลืมถ่ายสภาพแวดล้อมของพื้นที่ตรงนั้นเลยได้เห็นเพียงเล็กน้อย ไม่ทราบใครที่เคยไปแล้ว จากเท่าที่เห็นแบ็คกราวด์อยู่ คิดว่าใช่ที่เดียวกันหรือเปล่าคะ

อีกรูปเป็นรูปห้องพักทึ่แคบๆ ซึ่งเค้าจัดให้กับคนที่เหลือจากบ้านที่ดีกว่าที่ขอจากพื้นที่ข้างเคียงมาได้เพียง 6 หลัง



ตอนที่พี่และคณะส่วนหนึ่งได้บ้านแล้ว คณะที่เหลือยังเจรจากันไม่จบ พี่เลยออกไปกินข้าวก่อน กลับมาอีกทีสี่ทุ่มก็เลยเดินไปดูว่าคนที่เหลือได้บ้านลักษณะไหน แต่ดูเพียง 1 หลัง เพราะบ้านที่จัดมาให้พักแก้ขัดไปก่อนไม่ได้อยู่ติดกัน ไม่อยากเดินไปไกลในที่มืดค่ะ จากบ้านในรูป (พยายามเพิ่มความสว่างของกล้องตอนถ่ายรูป และปรับแสงตอน save file แล้ว ได้เต็มที่แค่นี้แหละ)  จะเห็นว่าพื้นที่แคบมาก มีที่นอนวางบนพื้นแบบไม่มีเตียง 1 ที่นอน เป็นที่นอนเดี่ยวแต่กำหนดให้นอน 2 คน พื้นที่ด้านข้างที่นอนมีเท่าที่เห็นนั่นแหละ วางกระเป๋าลากของคนพัก 2 คนก็แทบไม่เหลือที่ให้เดินแล้ว ฝาเป็นไม่ขัดแตะ ประตูยังไม่ได้ติดตั้งกลอน ไม่มีห้องน้ำ คนพักต้องเดินออกไปใช้ห้องน้ำรวมกับพวกกางเต๊นท์ -- นี่คือที่พักที่จัดให้สำหรับคนที่คิดเงินล่วงหน้าไปแล้วในราคาคืนละ 1500 บาทนะเนี่ย

ยังไงถ้าน้องเค้าส่งรูปมาให้เพิ่มจะเอามาลงอีกนะคะ เผื่อจะมีอะไรที่ชัดเจนขึ้นค่ะ
น้องคนที่จองสถานที่ยังมีlinkกับเบอร์โทรของที่พักอยู่ไหมคะ ลองเอามาลงให้สมาชิกท่านอื่นๆดูว่า มันเป็นที่พักที่เดียวกัน หรือเกิดความเข้าใจผิดหรือเกิดการแอบอ้างขึ้นหรือเปล่า
ไม่ทันอ่านเลยไม่ทราบว่าที่ไหน คงจะคนละที่ที่หลายๆคนเค้าบอกว่าสร้างเสร็จแล้วมั้งคะชื่อคล้ายๆกัน ถือซะว่าไปทำบุญอย่าขุ่นเคืองเลยคะ แต่ถ้าให้ดีเอารูปมัวๆที่ว่าถ่ายไปค่อยได้มาให้ดูกันคะ เพราะช่วงนี้ปายบูมอาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่เค้าอยากไป แล้วไปเจออย่างพี่ จขกท เค้าจะได้เลี่ยง ส่วน น้องที่จองให้จะไปโทษเค้าก็ไม่ได้หรอกคะ เพราะส่วนใหญ่ที่พักทุกที่ต้องเอาความสวยงามและน่าอยู่มาลงและก็มีบางส่วนเหมือนกันที่fake  คนไปจองทางเน๊ตหรือโทรศัพท์ก็ต้องเข้าใจตามนั้น เพราะเค้าเองก็ไม่ใช่คนพื้นที่ ที่สามารถจะไปดูถึงสถานที่ได้ ประสบการณ์แย่ๆแต่อาจจะช่วยเหลือคนที่อยากไปเที่ยวได้คะ หรือไม่ถ้าพี่คิดว่ามันไม่ไหวจะเคลียร์จริงโทรไปคุยกับเจ้าของเค้าเลยแล้วบอกไปเลยว่าเสียความรู้สึกมากๆเผื่อเค้าอาจจะมีการตอบรับขึ้นมาบ้าง อย่างเช่นคืนเงินส่วนที่คิดว่าเกินมา หรือเค้าอาจจรีบปรับปรุงสถานที่แล้วลงตามความจริง(อันหลังนี่อยากให้เค้าทำเพราะเค้าอาจเจอลูกค้าที่ไม่ง่ายเค้าอาจจะต้องเสียหายยับเยินแน่ๆ)

ตอบคุณ iamijung  - ไปมาเมื่อวันที่ 5 ธันวา ที่ผ่านมานี้เองค่ะ เพิ่งกลับถึงกรุงเทพฯ เมื่อคืนนี้ตอนตีหนึ่งกว่าๆ

ชักจะงงเหมือนกันว่าทำไมมีคนเข้ามาบอกว่าสร้างเสร็จแล้ว เพราะที่เจอมันเป็นอย่างนี้จริงๆ มันไม่น่าจะมีรีสอร์ทอะไรที่จะมาเลียนแบบหรือชื่อคล้ายกันนะ หรือจะมีหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางไปปาย ไม่เคยรู้จักเมืองนี้มาก่อน เคยเห็นแต่ในทีวีว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่สำหรับหน้าหนาวที่บูมมาก

ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม -- เหตุผลของคนที่มารับหน้าที่ว่าเป็นพี่สาวเจ้าของรีสอร์ท เค้าบอกว่าที่อบต.ไม่อนุมัติแบบ เพราะว่าตามแบบ บ้านจะมีหลังคาเป็นใบตองตึง แล้วทางเหนือจะมีการปล่อยโคมลอย ทางอบต.เลยเกรงว่าโคมจะไปตกใส่หลังคาบ้านแล้วจะเป็นอันตรายน่ะค่ะ  ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ไม่รู้ จะเป็นงานเฟสแรก หรือเฟสเพิ่มเติม หรืออะไรยังไงอันนี้ไม่รู้

ส่วนสภาพสถานที่ ไม่ได้สังเกตว่าใกล้กับอะไรนะคะ เพราะไปถึงตอนที่โดยรอบมันมืดแล้วค่ะ (แล้วก็อย่างที่บอกคือตอนแรกไฟดับอยู่เป็นชั่วโมงเลยค่ะ) ตอนเช้าก็ออกมาตอนตีสี่ครึ่ง มองอะไรไม่เห็นอีก   แต่จำได้ว่าทางเข้าขรุขระมากๆ และแคบมาก ตรงปากทางเข้ามีป้ายบอกชื่อบ้านพักที่ขึ้นต้นว่า "ปาย" หลายชื่อมากๆ ค่ะ โดยอันของเราที่เอ่ยถึงนี้ชื่ออยู่ใต้สุด เป็นแผ่นไม้เล็กๆ สีที่เขียนจะเป็นสีแดงแก่ๆ ตัวป้ายเป็นไม้สีค่อนข้างคล้ำๆ หน่อย  พอเข้าไปแล้วก็จะผ่านบ้านที่เปิดเป็นบ้านพักรับนักท่องเที่ยวหลายราย ตั้งเรียงกันไปแต่ไม่ได้สังเกตชื่อนะคะ มัวแต่หัวสั่นหัวคลอนกับสภาพถนน  ทีนี้จากตรงส่วนต้อนรับจะเดินออกไปหาถนนคนเดิน จะต้องข้ามสะพานไม้ที่เดินแล้วนิ่มๆ โยกๆ ค่ะ ไม่รู้ทำจากไม้อะไร เหมือนจะเป็นลายสานๆ ราวสะพานเป็นไม่ไผ่  ไม่แน่ใจมีชื่อสะพานหรือเปล่า ไม่ได้สังเกต พอเดินพ้นสะพานจะเป็นซอยแคบๆ เปลี่ยวๆ นิดนึง ซอยไม่ยาวเท่าไหร่ พ้นซอยนี้เป็นซอยแคบเท่าเดิมแต่มีความสว่างมากขึ้นเล็กน้อย แล้วก็มีวัดอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ ไม่ได้สังเกตชื่อวัดอีกแหละ และมีถนนคนเดินขวางอยู่ข้างหน้าเลย โดยที่ถ้าเดินเลี้ยวไปทางซ้าย (คือทางด้านวัด) จะเป็นช่วงปลายถนนซึ่งผ่านด้านหน้าวัด ต่อไปจนเป็นสะพานคอนกรีต จากสะพานนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายอันแรกจะเป็นซอยเข้าไปยังบ้านพักรับรองนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ โดยซอยเล็กและขรุชระที่กล่าวถึงว่าเป็นทางเข้าไปหาที่ที่เราจองพักและมีปัญหาก็จะแยกย่อยจากถนนซอยเล็กนี้อีกที ส่วนจากสะพานทางลัดที่ว่านิ่มๆ โยกๆ ถ้าเดินผ่านซอยแคบๆ แล้วเลี้ยวไปทางขวาถึงจะเป็นด้านที่เดินออกไปได้ไกลๆ หน่อย เท่าที่จำได้เป็นแบบนี้ค่ะ

พี่ไม่ได้มีเหตุผลอะไรจะไปใส่ร้ายใครนะคะ ไปเที่ยวไปทำบุญไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร  ที่พักแห่งนี้ก็เพิ่งรู้จักเพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรกตอนที่ไปนี่แหละ  วันที่ไปเจอปัญหาก็ไม่ได้ไปวีนอะไรใส่คนที่มารับหน้า ยอมรับล่ะว่าไม่พอใจ แต่ก็พยายามหาทางแก้ไขอย่างอื่นเพื่อให้ผ่านปัญหาเรื่องที่พักไปให้ได้ คิดถึงขนาดว่าจะเดินที่ถนนคนเดินให้ถึงสว่างเลยเพื่อเอาห้องพักที่อยู่ได้สบายกว่าไปให้คนอื่นในคณะ แต่พอถามรายละเอียดแล้วถนนมันเดินได้แค่สี่ทุ่มเท่านั้นเอง   จริงๆ เรื่องนี้ก็ไม่ได้คิดว่ามีใครตั้งใจจะให้เกิด คนจองก็จองไปตามสภาวการณ์เท่าที่เค้าทำได้ คนที่เป็นมารับหน้าคิดว่าเค้าก็คงลำบากใจเหมือนกันและดูเหมือนจะพยายามแก้สถานการณ์อยู่ (บ้าง)  เพราะตอนแรกที่ไฟยังดับอยู่โดยไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ทางเค้าก็บอกว่าจะช่วยเกลี่ยคนไปพักที่เกสต์เฮ้าส์ในตัวเมืองซึ่งเป็นของน้องชาย (ไม่รู้เป็นน้องคนเดียวกับที่เป็นเจ้าของที่ที่มีปัญหาหรือเปล่านะ) ซึ่งมีห้องพอจะพักได้อยู่ 2 ห้อง ส่วนคนอื่นๆ ก็เกลี่ยให้ลงกับห้องที่จัดไว้ให้ 6 หลัง กับบ้านที่พอจะพักได้ที่มีอยู่   แต่ทีนี้พอไฟมาก็เลยไม่มีใครต้องไปไหน อยู่กันตรงนั้นทุกคนตามที่จัดที่ให้อยู่  แล้วก็รีบเช็คเอ๊าท์แต่เช้าไปที่อื่นซะ ที่มาโพสต์ไว้ตรงนี้ก็เพียงแค่อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์ว่าการจองที่พักทางเน็ตบางทีมันก็ไม่เป็นอย่างที่เราเห็น และแอบหงุดหงิดว่าไม่พร้อมแล้วลงโฆษณาในเน็ตทำไม หรือทำไมไม่แจ้งล่วงหน้าว่าไม่พร้อม เราจะได้เปลี่ยนโปรแกรมหรือหาที่อื่นทัน ส่วน เรื่องหลักฐานเอกสารการจองนั่นน้องที่จองเค้าเอามาให้ดูแล้วว่ามีการยืนยันกลับมาแน่นอน เพราะเค้ากลัวใครๆ จะตำหนิเค้าเหมือนกันว่าติดต่อไม่จริงหรือว่าโอนเงินล่าช้าหรือเปล่าถึงไม่มีบ้านให้พัก

เอางี้แล้วกัน เพื่อให้ยุติธรรมกับเค้า เผื่อจะมีการลอกเลียนแบบชื่อสถานที่ หรือเป็นงานคนละเฟส  เดี๋ยวจะกลับไป edit ตรงชื่อรีสอร์ทในกระทู้ต้นเรื่องให้เป็น *** ไปซะ ให้รู้เฉพาะคนที่อ่านในช่วงแรกก็แล้วกัน ไม่ต้องแพร่หลายไปกว่านี้ คนที่เชื่อมั่นในรีสอร์ทแห่งนี้ว่ามีอยู่และเสร็จแล้วจริงก็จะได้ไม่คิดว่าพี่ไปใส่ร้ายที่ที่เค้าเคยไปพักมา    ส่วนเรื่องรูปถ้าทางน้องที่จองเค้าส่ง e-mail มาให้ก็จะนำมาลงให้ดู เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจอมาจริงๆ  (ต้องใช้ mail หากันเพราะที่ทำงานพี่มีหลายสาขาค่ะ)  ภาพส่วนที่พี่ถ่ายมาได้มันมีเฉพาะตอนที่ทุกคนต้องนั่งรอกันเป็นกลุ่มๆ กับภาพห้องส่วนของที่ว่าแคบๆ ที่ส่วนที่เหลือถูกจัดให้พัก  แต่ภาพมันค่อนข้างจะมืด ถ้าไม่ลืมพรุ่งนี้ลงรูปมืดนี่ให้ดูก่อนก็ได้ วันนี้ไม่มีสาย USB ของกล้องติดมาด้วย
 

 

รบกวนสอบถามเพื่อความแน่ใจค่ะว่าใช่ "ปายในฝัน" แน่ๆ หรือเปล่าค่ะ เพราะที่ปายในฝันเค้าทำเสร็จแล้วนะคะ เอาแน่ๆ นะคะ "ปายในฝัน" จะอยู่ติดกับ "อินเดียน่า คอทเทจ" ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็น "ริมปาย คอทเทจ" ค่ะ และถ้าจะไปพักที่ปายในฝันต้องจอดรถที่ลานจอดรถวัดป่าขามแล้วเดินเข้าไปในซอยด้านข้างวัดป่าขามนะคะ เพราะทางเข้าค่อนข้างแคบอ่ะค่ะ แล้วก็จะเจอสะพาน "ปายในฝัน" ให้ข้ามเข้าไปที่รีสอร์ทเลยค่ะ รีสอร์ทนี้ไม่สามารถนำรถเข้าไปถึงได้เลยนะคะ ต้องข้ามสะพานเท่านั้น

ขอส่ง link จากห้องสมาชิก BP จากเว็ปพันทิปมาให้ดูกันนะคะ จขกท. เพิ่งไปพักมาและมารีวิวไว้เมื่อต้นเดือน พย. นี่เอง เวลาไม่ได้ห่างกันมากมายค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8517742/E8517742.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8534901/E8534901.html#21

ลองเช็คดูนะคะ ยิ่งถ้าให้แน่นอนก็น่าจะมีหลักฐานเช่นหลักฐานการจองหรืออะไรก็ตามมาเป็นเครื่องยืนยันด้วยอ่ะค่ะ เพื่อความมั่นใจของเพื่อนชาว jeban จะได้ไม่หลงเชื่อรีสอร์ทที่ไม่มีจรรยาบรรณในการให้บริการค่ะ