Bad Hair Day สวยไม่เสร็จ
Salon Guru8ทุกวันนี้ สำนวนที่ว่า A Bad Hair Day แทบจะกลายเป็นวลีที่ใช้กันทั่วโลกแล้ว นั่นเพราะเราทุกคนให้ความใส่ใจต่อทรงผมของเราอย่างมาก หากวันใดที่ทรงผมดูไม่ดี เราก็จะมี Bad Hair Day ไปทั้งวัน ทำให้เราต้องพยายามแก้ไขด้วยการจัดทรงให้ดีขึ้น พยายามปกปิด ซ่อนเร้นด้วยการสวมหมวก มัดผมหรือกระทั่งยอมเก็บตัวอยู่กับบ้าน
มีคำกล่าวว่า “ความสวยนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครมอง” หรือ “ความงามที่แท้จริงนั้น มาจากภายใน” จริงอยู่ที่ความเป็นจริงตามคำกล่าวนี้ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ แต่อย่างไรก็ตามเรายังคงตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่นและมีอิทธิพลอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่าตัวตนของเราเป็นอย่างไรนั้นไม่เพียงมีความสำคัญต่อผู้เฝ้ามองเราเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อตัวเราเองในการรู้สึกได้อย่างที่เราเป็น
ตัวตนของเราดูเป็นอย่างไรมีอิทธิพลโดยตรงกับความรู้สึกของเรา ดังนั้น Bad Hair Day แท้จริงแล้วจึงหมายถึงวันที่เรารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีบทความเกี่ยวกับความสวยความงามให้เห็นอยู่ดาษดื่น และแม้ว่าเราจะให้ความสำคัญกับทรงผมของเราเพียงใด แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่ามีบทความเกี่ยวกับการดูแลความงามของเส้นผมน้อยมากเมื่อเทียบกับบทความด้านการดูแลผิวพรรณ เครื่องสำอาง เครื่องประดับตลอดจนเสื้อผ้าอาภรณ์ต่างๆ
ความงามไม่อาจสมบูรณ์(ครบถ้วน)อย่างแท้จริง หากคุณไม่ได้มีเส้นผมที่สวยและสุขภาพดี แม้ว่าสไตล์ผมของคุณจะเป็นทรงเรียบง่ายแบบคลาสิคอย่างผมตรงเหยียดยาว หรือทรงที่ซับซ้อนอย่างสไตล์ไล่ระดับและดูมีมิติก็ตาม
ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มคุยกันเรื่องผมที่สวยงาม ให้เราลองพิจารณาถึงประเด็นบางอย่าง ที่เรายังเข้าใจไม่ถ่องแท้เสียทีเดียว นั่นคือเรื่องความแตกต่างระหว่างแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ชนิดที่ใช้สำหรับ ในร้านซาลอน (Professional Shampoo) กับผลิตภัณฑ์ที่ขายตามร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป (Consumer Shampoo)
คุณอาจจะสามารถเติมแต่งเครื่องสำอางให้มากเท่าที่ต้องการเพื่อสรรสร้างรูปแบบตามใจปรารถนา แต่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับผิวพรรณที่ดี นั่นคือคำตอบว่าเหตุใดคลีนเซอร์ (ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า) โทนเนอร์ และมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ (ครีมบำรุงผิว) จึงมีความสำคัญและจำเป็นมาก เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นพื้นฐานของการมีใบหน้าที่งดงาม
แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ และทรีทเม้นท์ก็เช่นเดียวกัน ล้วนเป็นพื้นฐานของการมีผมสวย ดังนั้นความเข้าใจว่าสิ่งใดที่ดีและมีประสิทธิภาพจึงสำคัญมากมาก แชมพูทุกชนิดไม่ได้ถูกสร้างมาให้เท่าเทียมกัน ไม่ใช่ว่าทั้งหมดจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมและหนังศีรษะอย่างแท้จริง
ตอนบนของหัวข้อนี้มักปรากฏคำถามอยู่บ่อยๆ ว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพกับผลิตภัณฑ์ที่ขายตามร้านค้าทั่วไป บางคนอาจจะทึกทักเอาและตั้งความหวังว่า ยิ่งยอมควักกระเป๋ามากเท่าไร (สำหรับผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพในร้านซาลอน (Professional Shampoo) ก็น่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น คำตอบสั้นๆ ที่ตรงประเด็นคือ “ถูกต้อง” หรือถ้าจะให้ตอบแบบยืดยาวคือคุณจะได้รับ “ตามที่คุณจ่ายนั่นเอง”
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาหลายประการ อาทิ
1. แชมพูและคอนดิชั่นเนอร์สำหรับมืออาชีพมีจำหน่ายเฉพาะในร้านซาลอนชั้นนำ ประเด็น
ที่มักจะถูกลืมเมื่อพิจารณากันเรื่องผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพ กับผลิตภัณฑ์ขาย ปลีกตามร้านค้าทั่วไปคือความจริงที่ว่า ผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพนั้นมีจำหน่ายในร้านซาลอนชั้นนำเท่านั้น และนี่คือข้อได้เปรียบเหนือผลิตภัณฑ์ขายปลีกตามร้านค้าทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ ตรงที่คุณจะได้รับคำแนะนำและขอคำปรึกษาได้จากมืออาชีพ ที่เฉพาะเจาะจงกับสภาพและความจำเป็นของคุณ เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือทางด้านยารักษาโรค คุณไว้ใจการเลือกสรรของตัวคุณเองหรือเชื่อตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรล่ะ ทุกวันนี้ บริษัทผู้ผลิตนำเสนอตัวเลือกให้เรามากมาย ตัวเลือกที่เราต้องการเพื่อการดูแลเป็นพิเศษ
จากการศึกษาโดยทั่วไปแสดงให้เห็นว่าผู้คนมากกว่า 75% วิเคราะห์เส้นผมของตนเองไม่ถูกต้อง บางคนคิดว่าตนเองมีผมเส้นเล็กในขณะที่ความเป็นจริงเป็นผมธรรมดา ฯลฯ ทำให้พวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์ผิดประเภท
ฉะนั้น ประโยชน์มากที่สุดในการซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพคือความ
สามารถในการเข้าถึงคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญและได้รับคำแนะนำที่เป็นการเฉพาะ
2. ผลิตภัณฑ์สำหรับมืออาชีพมีส่วนผสมที่ใหม่กว่าและมีคุณสมบัติดีกว่า และยังมีปริมาณส่วนผสมหลักที่เข้มข้นกว่า
อย่าให้การมีปริมาณฟองที่มากมายทำให้คุณหลงเข้าใจผิด เพราะมีส่วนผสมหลายอย่างที่จะทำให้แชมพูมีฟองล้นเหลือ ในความเป็นจริงส่วนผสมหลักของแชมพูที่ขายตามร้านค้าทั่วไปเป็ฯส่วนผสมที่ทำให้ผมอยู่ทรง ทำให้ดูหนาขึ้นและทำให้เกิดฟอง
บางคนกล่าวว่าแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์สำหรับมืออาชีพใช้งานได้นานถึงห้าเท่า เพราะในการใช้แต่ละครั้ง คุณไม่จำเป็นต้องใช้ปริมาณมาก บางทีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ขายตามร้านค้าทั่วไป ราคาไม่กี่บาท สุดท้ายคุณอาจต้องใช้เงินสูงพอๆ กับผลิตภัณฑ์ราคา หลายร้อยบาท เพราะคุณจำเป็นต้องใช้ถึง 5 ขวด จึงจะมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน
3. แชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ที่ขายตามร้านค้าทั่วไป จะมุ่งเน้นที่การปรับปรุงแบบฉับพลันทันใดมากกว่า เช่น ทำให้ผมนุ่มและเพิ่มประกายโดยการเคลือบเส้นผม ในขณะที่คุณสมบัตินี้อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาของคนอีกจำนวนมาก หากคุณต้องการให้ผมของคุณสะอาดและรู้สึกเบาสบาย ดังนั้นผมจึงควรสัมผัสได้ถึงความนุ่มและโปร่งสบาย หรือหากคุณต้องการทำสีหรือดัดผมอย่างดีเพื่อให้คงอยู่นาน การเลือกแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์อย่างถูกต้อง เหมาะสม เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก
เฉกเช่นเดียวกับทุกสิ่ง หากคุณไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพและวัตถุประสงค์ที่ถูกต้องแล้ว คุณจะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีอย่างต้องการ ขอให้เชื่อเราว่าเส้นผมนั้นมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเท็กซ์เจอร์ ความหนาแน่น สุขภาพหรือสภาพเส้นผม การผ่านการทำเคมี หรือกระทั่งสภาพของหนังศีรษะ และคุณเองเป็นผู้เติมสิ่งที่คุณต้องการให้ผมของคุณสัมผัสได้ พลิ้วไหวและ จัดทรงได้ตามสไตล์ในท้ายที่สุด อันเป็นส่วนผสมชั้นยอด ซึ่งคุณอาจต้องการผู้เชี่ยวชาญที่เปี่ยมความสามารถในการเลือกแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ที่ เหมาะสมสำหรับคุณ
Discussion (8)
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่า
แต่ทุกวันนี้ ก็ยังมีปัญหากะผมอยู่ดี
เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
ไม่ยักกะดีขึ้น TT
สี อะ ไร หรอ ค่ะ
อยาก รุ้ จัง อิอิ
เกี่ยว กัน มั้น เนี่ยยยย
“ความสวยนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครมอง"
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะพี่จีน