เพื่อนๆ jeban ตรวจสุขภาพครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เอ่ยยยยย ???

0 14

สวัสดีค่ะ

ที่ป้าเจนตั้งกระทู้แบบนี้ เพราะว่า....อยากจะเตือนเพื่อนๆบางคนที่ไม่เคยไปตรวจสุขภาพเลย (แบบว่า..เป็นห่วงกลัวจะเป็นแบบป้าเจน)

ป้าเจนเพิ่งออกจากโรงพยาบาล หลังจากได้รับการผ่าตัด ก้อนซีด ในรังไข่แบบฉุกเฉิน


ที่บอกว่าฉุกเฉิน เพราะ...ป้าไม่เคยรู้ตัวเลยว่าตัวเองมี ซีดในรังไข่ เพราะ...ฮ่ะ ๆ เท่าที่จำได้ไม่เคยไปตรวจสุขภาพเลย

(เพราะหลงระเริงว่าตัวเองแข็งแรง ทั้ง ถึก ทั้ง ทน)

จนในที่สุด เมื่อวัน ศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม อยู่ๆ เย็นวันนั้น ป้าก็ปวดท้องอย่างรุนแรง ขณะที่ป้ากำลังนั่งเม้าส์กับลูกค้าขาประจำของป้านางหนึ่ง  ซึ่ง อยู่ๆ ป้า ก็รู้สึก เจ็บแบบ....มันรู้สึกว่า เจ็บเหมือนมีอะไรกระทุ้งๆ อยู่ในช่องคลอด ตอนแรกคิดดีใจ นึกว่า ประจำเดือน ฉันมาแล้ววว .... เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อเช็คความเรียบร้อยซักหน่อย...


และทันใดนั้นเอง....เมื่อป้าลุกขึ้น และเดินไปได้แค่ 2-3 ก้าว ป้าก็ปวดมาก จนเดินต่อไม่ไหว (ทั้งๆที่ เมื่อ 2-3 นาทีก่อน ไม่ได้ปวดมากมายอะไรเลย) จนป้าต้องเดินไปพิงผนัง (แบบเอาหัวไปพิงผนังไว้ เนื่องด้วยเดินต่อไม่ไหว จะก้มลงนั่งก็ทำไม่ได้เจ็บเหลือเกิน)


จากนั้นซักครู่ ป้าก็ล้มลงนอนดิ้นไปดิ้นมา ขณะนั้น อาการ ปวดแบบกระทุ้ง บรรเทาลงแล้ว แต่อาการปวด ที่เกิดขึ้น มันคือ ปวดแบบแสบท้อง (แสบกระเพาะแบบคนเป็นโรคกระเพาะ) แสบมาก เหมือนกระเพาะจะทะลุ แล้วอาการอีกอย่างคือ มันหายใจไม่ออกค่ะ จุกที่ลิ้นปี่ จุกจนหายใจไม่ออก นอนดิ้นไปดิ้นมา น้ำตาไหล ลูกค้านั้นด้วยความต้องใจ (แต่นางทำอะไรไม่ถูก) ก็เลยหยิบมือถือป้า โทรหาตาแก่ (สามีป้าเอง) ให้รีบกลับมาที่ร้านด่วน (ซึ่งขณะนั้นสามีป้าอยู่ดูแลร้านอีกสาขานึงอยู่ ซึ่งห่างกันไม่เท่าไหร่ค่ะ ขับรถประมาณ 10 นาที)


เมื่อตาแก่มาถึง ก็หามป้าขึ้นรถไปโรงพยาบาลทันที (ตอนนั้นป้าโดนลูกค้าจับปลดตะขอกางเกง กระดุมเสื้อหมดแล้ว ค่อนข้างโป๊  แต่ต้องขอขอบคุณนางเพราะว่า หล่อนเห็นป้าหายใจไม่ออก เลยต้องทำ แบบนั้นอย่างน้อย ป้าจะได้รู้สึกสบายตัวขึ้น เพราะดิ้นได้ถนัดขึ้น หล่อนบอกมาอย่างนั้น)

เมื่อถึงโรงพยาบาล ก็ถึงนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที.... มองถามอาการป้า  ป้าได้ยิน แต่ป้าไม่มีแรงตอบแล้วในขณะนั้น สามีป้าและลูกค้าแสนดี ช่วยตอบคำถามคุณหมอให้ โดยเฉพาะลูกค้าป้า ซึ่งหล่อนอยู่ในเหตุการณ์ตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนเกิดอาการจนกระทั้งป้าเข้าโรงพยาบาล

เมื่อหมอถามเสร็จ ก็นำตัวป้าไปเอ็กซเรย์ หนแรกได้ฟิมล์มา 3 ใบ ไม่เจออาการผิดปกติใดๆ เลยให้ไปถ่ายอีกรอบ คราวนี้ถ่ายอีก 2 ใบ ก็ไม่เจออะไรผิดปกติอีก ตรวจเลือด กับผลฉี่ ไม่เจอสิ่งผิดปกติเลย (ป้าโดนของอ่ะป่าวเนี้ยะ!! ลูกค้านางนั้นพูดติดตลกเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียดของป้าและสามีป้า) แต่ทำไมป้ายังปวดอยู่ และใกล้จะหมดสติเต็มทีแล้ว

หมอหนุ่มคนนั้น เลยต้องไปตามอาจารย์หมอมาดูอาการป้า ได้ยินเสียงหมอหนุ่มรายงานอาจารย์หมอว่า...
เคสนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ไม่แน่ใจว่าจะกระเพาะหรือสำไส้อักเสบ หรือ เป็นการติดเชื้อที่เชิงกรานหรือเปล่า เพราะญาติคนไข้บอกว่า ประจำเดืนไม่มา 2 เดือนแล้ว ถ้าเป็นการติดเชื้อที่เชิงกราน ต้องส่งคนไข้ไปให้สูติรักษา แต่  เอ็กซเรย์ ไม่เจอสิ่งผิดปกติ เลือดปกติ ฉีไม่มีเชื้อใดๆ คนไข้มีอาการช็อค ความดันต่ำมาก

อาจารย์หมอบอกว่า ผ่าเลย (แทบจะลืมตาขึ้นมาดูหน้าหมอ) รอซักพักให้ความดันคนไข้คงทีกว่านี้  แล้วให้งดน้ำ-อาหาร 6-8 ช.ม. แล้วนำเข้าห้องผ่าตัด

ป้าเข้าโรงพยาบาล ตั้งแต่ 6 โมงเย็น ป้าได้เข้าห้องผ่าตัด ตอน เที่ยงคืนครึ่ง หมอมาเช็คความดันป้า ทุกๆ ครึ่งชั่วโมง แต่ ก็ต้องผิดหวังเพราะความดันป้าไม่พร้อมเข้ารับการผ่าตัด อีกทั้งพร้อมให้ยาแก้ปวดเข้าเส้น ซึ่งไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการปวดมากนัก

จนประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ความดันป้าดีขึ้น แต่ไม่ดีมากนัก แต่ก็ต้องเข้ารับการผ่าตัด เพราะป้าซีดไปทั้งตัว ปากเขียวเล็บเริ่มเขียว ยาแก้ปวดที่ฉีดเข้าเส้น เริ่มไม่ช่วยอะไรแล้ว

เมื่อเขาพาป้าเข้าห้องผ่าตัด ได้ยินหมอ ผู้หญิงกับหมอผู้ชายคุยกัน เท่าที่จำได้เค้าคุยกันว่า...

หมอผู้หญิง.... คนไข้ ความดันไม่คงที่นะ

หมอผู้ชาย.... มีอาการช็อค ตอนที่รับเข้ามา

หมอผู้หญิง....ประจำเดือนขาดนิ?...กลัวว่าจะเป็นการติดเชื้อที่เชิงกราน

หมอผู้ชาย...ผมก็เกรงว่าแบบนั้น แต่คนไข้มีอาการปวดแสบคล้ายกระเพาะ ผมว่าไม่กระเพาะก็ลำไส้อักเสบ

หมอผู้หญิง...คนไข้...คนไข้ค่ะ ได้ยินหมอไหมค่ะ

ป้า...(พยักหน้า ลืมตาขึ้นมาดูแบบลอยๆ)

หมอผู้หญิง...เหลือกตาป้าทั้งสองข้าง

หมอผู้ชาย....เดี๋ยวก็หายแล้วนะครับ หมอจะผ่าใหญ่นะ แผลจะยาวประมาณ 10 - 12 นิ้ว นะครับ

หมอผู้หญิง...เดี๋ยวหมอจะให้ยาสลบนะค่ะ ไม่ต้องกังวลนะค่ะ แค่ 1-2 ชั่วโมง เดี๋ยวก็จะหายแล้ว

แล้วเค้าก็เอาอะไรมาครอบจะจมูกป้า แล้ว ซักพักป้าก็รู้สึกชาไปทั้งตัว ชามาที่ปลายเท้า แล้วก็มืดไปหมด แต่ยังไม่ทนหมดความรู้สึกไปซะทีเดียว เพราะเสียงสุดท้ายที่ป้าได้ยิน หรือเสียงเหมือนเลื่อยไฟฟ้า และอาการเจ็บแปล๊บๆ ผิวหน้าท้อง แล้วก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย

ผ่านไปจนกระทั่ง ตี 2 ครึ่ง ป้าถึงนำตัวออกจากห้องผ่าตัด กลับไปยังห้องพักฟื้น

แล้วป้าก็ตืนขึ้นมาอีกที บ่ายๆ ของวันเสาร์ แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกตัวดีนัก กว่าจะแบบลืมตาได้เต็มลูกกะตาก็วันจันทร์

หมอที่เข้ามาตรวจอาการบอกป้าว่า....

ก้อนซีดในรังไข่อักเสบ และใกล้จะแตกเต็มที ซึ่งป้าไม่รู้ตัวเลยป้ามีมันอยู่ในร่างกายป้า  ดีที่ป้ามาทันเวลา เพราะ ถ้ามันแตกแล้วพวกเชื้อโรงน้ำหนองที่อยู่ในซีดซึมเข้ากระแสเลือดจะอันตรายมากถึงตายได้

หมอบอกว่า ตอนนี้มันแตกไปแล้วมันไม่มีแล้ว หมอได้ห้ามเลือด และ ต้องให้ป้าไปเช็ค ทุกๆ 15 วัน เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อติดตามอาการ

ตอนนี้ ป้าออกจากโรงพยาบาลมาได้ครบ 1 อาทิตย์แล้ว เข้า jeban ทุกวัน แต่ไม่ค่อยได้ตอบ เพราะนั่งนานๆไม่ได้เจ็บแผล เพราะแผลมันยาวมาก

ตอนนี้อาการดีขึ้น แผลเริ่มแห้ง แต่ยังไม่ได้ไปแกะแม็คออก ต้องรออีกซัก 2 อาทิตย์ กำลังดี ถึงจะแกะได้ กลัวว่าถ้าแกะเร็วไป แผลมันยังไม่ติดกันดี ก็กลัวว่ามันจะฉีกอีกครั้ง

ทั้งหมด.........ทั้งมวล........... ที่ป้าเล่ามานี้....

ป้าอยากให้เป็นอุทาหรณ์ แก่สาวๆ ที่ดื้อ หรืออายที่จะไปตรวจภายใน

อย่าปล่อยให้เป็นอย่างป้าเด็ดขาด

ป้ายังคิดว่า ป้าโชคดีแค่ไหน ที่วันนั้น มีคนอยู่กับป้า ถ้าป้าอยู่คนเดียว ป่านนี้ คงไม่มีคนเอาเรื่องนี้มาเล่าให้สาวๆ jeban ได้รู้กันแล้ว

ดังนั้น............อย่าละเลยตัวเองเด็ดขาดนะค่ะ

สวยแล้ว............ต้องมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงด้วย

ถึงจะเรียกว่า สวยครบสูตร จ๊ะสาวๆ


Jenista

Jenista

สาวปักษ์ใต้ค่ะ ทำงานเป็นแม่บ้าน แต่สนใจเรื่องความสวยความงาม รักการแต่งหน้า ชอบท่องอินเตอร์เน็ตเพราะหาเงินใช้ทางอินเตอร์เน็ตค่ะ

FULL PROFILE