เครียดและเศร้ามาก ๆ ค่ะ ขอคำแนะนำด้วย
greenmelon9เรื่องก็คือเรากับพี่ชายทะเลาะกันเมื่อเดือนก่อนตอนวันงานเชงเม้งค่ะ
วันนั้นเราอดนอนทั้งคืน แล้วรีบไปงานเชงเม้งตั้งแต่เช้ามืด
พอกลับมาถึงบ้านเราก็ไม่ได้นอนเลยทั้งวัน เดินไปเดินมาทำงานไปเรื่อย ๆ
พอตกเย็น ๆ เริ่มไม่ไหวปวดหัวมาก (แบบคนนอนไม่พอ)
เราเลยตัดสินใจนอนที่บ้าน ไม่ได้ออกไปซื้อเก้าอี้กับพ่อแม่
แล้วปกติเวลาเราอยู่บ้านคนเดียวเราจะล็อกห้องค่ะ
เพราะบ้านเรามันเปลี่ยวเราล็อกจนเป็นนิสัยแล้วค่ะ
ทีนี้เราก็นอนหลับไปเลยเพราะง่วงมาก ๆ
พอซักหัวค่ำ ๆ พี่ชายกลับมาจากฟิตเนส (แต่พ่อแม่ยังไม่มา)
มันก็เกิดเรื่องค่ะ คือ ทีวีของห้องพี่มันต้องมาเปลี่ยนช่องที่ห้องเรา เพราะห้องพี่มันเป็นเครื่องพ่วง
แล้ววันนั้นรายการโปรดของมันกำลังจะมา แต่เรานอนล็อกห้องและนอนหลับสนิทมาก ๆ เพราะไม่ได้นอนเลย
เรามาสะดุ้งตื่นอีกทีนึง ตอนพี่มันเคาะหนัก ๆ แบบจะพังประตูเข้ามาแล้ว เราก็ตกใจ + งัวเงีย ๆ
พอเราเริ่มรู้สึกตัว เราก็หงุดหงิดมาก ๆ (นึกออกมั้ยนอน ๆ อยู่โดนปลุกด้วยเรื่องปัญญาก่อน - -*)
เราก็ไม่สนจะหลับต่อ จนมันเคาะหนัก ๆ เข้าเราก็ตะโกนด่ากลับไป และไม่ยอมเปิดให้เพราะโมโห
จนไปๆมาๆ มันก็เอาค้อนมาบอกจะทุบห้องถ้าเราไม่เปิด เรายิ่งปรี๊ดมากขึ้น -*-
แล้วมันก็ทุบจริง ๆ อ่ะค่ะ ตอนนั้นเรานอนตัวสั่น หัวใจเต้นเหมือนจะหลุดออกมาเลย
เรารีบโทรหาพ่อแม่ร้องไห้เหมือนคนบ้าเลยอ่ะ ให้พ่อแม่รีบกลับมา ตอนนี้เราไม่กล้าเปิดห้องแล้ว
เรากลัวจะโดนฆ่าจริง ๆ (ตอนนั้นกลัวมาก ๆ กลัวจนตัวสั่นเลย) พอพ่อแม่กลับมาเราถึงสงบลงได้
และหลังจากวันนั้นเราโกรธมากและก็ไม่คุยกะมันอีกเลย (เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว)
จนมาวันนี้เกิดเรื่องอีก ...
วันนี้ตอนกลับบ้านจากห้าง เราก็ปวดฉี่แหละ เพราะกินน้ำเข้าไปเยอะมาก ๆ
แต่เราก็ไม่ได้เข้าห้องน้ำก่อนเพราะคิดว่าแปปเดียวก็ถึงบ้านแล้ว เราทนไหว
แต่ดันรถเกิดติด - -" เราก็เริ่มปวด ๆ มากขึ้นอีก เหอะ ๆ ๆ
จนเข้าซอยบ้านแล้ว แม่ดันบอกว่าขอเติมน้ำก่อนน้ำที่บ้านหมดแล้ว (ไม่ใช้เครื่องกรองอ่ะค่ะ)
เราก็บอกแม่ไปว่าเออเติมแค่ 2 - 3 ขวดก่อนได้มั้ยเพราะเราเริ่มไม่ไหวแล้ว
(ก่อนหน้านี้เคยเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบค่ะ)
แม่ก็บอกได้ ๆ ให้รีบเติม ๆ จะได้กลับบ้าน ไม่ต้องเติมเยอะก็ได้
พอจอดรถเติมไอ้คุณพี่ชายเรา (เรายังไม่คุยกับมันอยู่)
มันแกล้งเราอีกแล้วค่ะ -*- มันเติมเงินลงตู้ประมาณ 30 กว่าบาท
แล้วก็แกล้งยืนเติมนาน ๆ ไม่ยอมไปซะทีค่ะ จนเราไม่ไหวแล้ว
เราก็เริ่มโวยวาย ๆ แล้วมันยังใส่เงินเพิ่มอีกเราเลยแบบฉุนขาด
ไม่ไหวแล้ว ต่อมน้ำตาแตก อย่างแรง - -"
จนมาถึงบ้านนี่แหละค่ะ แล้วเราไม่เลิกร้องอ่ะนะ แบบร้องแล้วไม่หยุดง่าย ๆ
เราก็บ่น ๆ กับแม่ว่าเราเกลียดพี่เรามาก ไม่อยากเห็นหน้าอีกแล้ว อยากแยกไปอยู่หอพัก
แล้วเรากลับต้องเครียดกว่าเดิมตอนแม่ร้องไห้...แม่เราเสียใจมากเลยที่พี่กะเราทะเลาะกัน
ปกติแม่ไม่เคยร้องไห้เลยอ่ะ เราไม่เคยจำได้ว่าเห็นแมร้องไห้อ่ะ
หัวใจเรางี้หล่นไปถึงตาตุ่มเลย T T
แถมหมู่นี้แม่เราไม่ค่อยแข็งแรงด้วย เราเสียใจมากที่เราทำให้แม่เราต้องร้องไห้
แต่เราก็ทำใจไปคืนดีกับไอ้พี่บ้าไม่ได้ ต่อให้เฟคต่อหน้าแม่ก็ไม่ได้จริง ๆ
เราควรจะทำไงดี เรารู้ว่ามันเป็นแค่ทิฐิของเรา ที่เราไม่ยอมอ่อนให้คนอื่นบ้าง
เรารู้ว่าเรื่องมันโคตรไร้สาระแค่เด็กสองคนที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมมาทะเลาะกันอ่ะ เฮ้อออออ...
วันนั้นเราอดนอนทั้งคืน แล้วรีบไปงานเชงเม้งตั้งแต่เช้ามืด
พอกลับมาถึงบ้านเราก็ไม่ได้นอนเลยทั้งวัน เดินไปเดินมาทำงานไปเรื่อย ๆ
พอตกเย็น ๆ เริ่มไม่ไหวปวดหัวมาก (แบบคนนอนไม่พอ)
เราเลยตัดสินใจนอนที่บ้าน ไม่ได้ออกไปซื้อเก้าอี้กับพ่อแม่
แล้วปกติเวลาเราอยู่บ้านคนเดียวเราจะล็อกห้องค่ะ
เพราะบ้านเรามันเปลี่ยวเราล็อกจนเป็นนิสัยแล้วค่ะ
ทีนี้เราก็นอนหลับไปเลยเพราะง่วงมาก ๆ
พอซักหัวค่ำ ๆ พี่ชายกลับมาจากฟิตเนส (แต่พ่อแม่ยังไม่มา)
มันก็เกิดเรื่องค่ะ คือ ทีวีของห้องพี่มันต้องมาเปลี่ยนช่องที่ห้องเรา เพราะห้องพี่มันเป็นเครื่องพ่วง
แล้ววันนั้นรายการโปรดของมันกำลังจะมา แต่เรานอนล็อกห้องและนอนหลับสนิทมาก ๆ เพราะไม่ได้นอนเลย
เรามาสะดุ้งตื่นอีกทีนึง ตอนพี่มันเคาะหนัก ๆ แบบจะพังประตูเข้ามาแล้ว เราก็ตกใจ + งัวเงีย ๆ
พอเราเริ่มรู้สึกตัว เราก็หงุดหงิดมาก ๆ (นึกออกมั้ยนอน ๆ อยู่โดนปลุกด้วยเรื่องปัญญาก่อน - -*)
เราก็ไม่สนจะหลับต่อ จนมันเคาะหนัก ๆ เข้าเราก็ตะโกนด่ากลับไป และไม่ยอมเปิดให้เพราะโมโห
จนไปๆมาๆ มันก็เอาค้อนมาบอกจะทุบห้องถ้าเราไม่เปิด เรายิ่งปรี๊ดมากขึ้น -*-
แล้วมันก็ทุบจริง ๆ อ่ะค่ะ ตอนนั้นเรานอนตัวสั่น หัวใจเต้นเหมือนจะหลุดออกมาเลย
เรารีบโทรหาพ่อแม่ร้องไห้เหมือนคนบ้าเลยอ่ะ ให้พ่อแม่รีบกลับมา ตอนนี้เราไม่กล้าเปิดห้องแล้ว
เรากลัวจะโดนฆ่าจริง ๆ (ตอนนั้นกลัวมาก ๆ กลัวจนตัวสั่นเลย) พอพ่อแม่กลับมาเราถึงสงบลงได้
และหลังจากวันนั้นเราโกรธมากและก็ไม่คุยกะมันอีกเลย (เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว)
จนมาวันนี้เกิดเรื่องอีก ...
วันนี้ตอนกลับบ้านจากห้าง เราก็ปวดฉี่แหละ เพราะกินน้ำเข้าไปเยอะมาก ๆ
แต่เราก็ไม่ได้เข้าห้องน้ำก่อนเพราะคิดว่าแปปเดียวก็ถึงบ้านแล้ว เราทนไหว
แต่ดันรถเกิดติด - -" เราก็เริ่มปวด ๆ มากขึ้นอีก เหอะ ๆ ๆ
จนเข้าซอยบ้านแล้ว แม่ดันบอกว่าขอเติมน้ำก่อนน้ำที่บ้านหมดแล้ว (ไม่ใช้เครื่องกรองอ่ะค่ะ)
เราก็บอกแม่ไปว่าเออเติมแค่ 2 - 3 ขวดก่อนได้มั้ยเพราะเราเริ่มไม่ไหวแล้ว
(ก่อนหน้านี้เคยเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบค่ะ)
แม่ก็บอกได้ ๆ ให้รีบเติม ๆ จะได้กลับบ้าน ไม่ต้องเติมเยอะก็ได้
พอจอดรถเติมไอ้คุณพี่ชายเรา (เรายังไม่คุยกับมันอยู่)
มันแกล้งเราอีกแล้วค่ะ -*- มันเติมเงินลงตู้ประมาณ 30 กว่าบาท
แล้วก็แกล้งยืนเติมนาน ๆ ไม่ยอมไปซะทีค่ะ จนเราไม่ไหวแล้ว
เราก็เริ่มโวยวาย ๆ แล้วมันยังใส่เงินเพิ่มอีกเราเลยแบบฉุนขาด
ไม่ไหวแล้ว ต่อมน้ำตาแตก อย่างแรง - -"
จนมาถึงบ้านนี่แหละค่ะ แล้วเราไม่เลิกร้องอ่ะนะ แบบร้องแล้วไม่หยุดง่าย ๆ
เราก็บ่น ๆ กับแม่ว่าเราเกลียดพี่เรามาก ไม่อยากเห็นหน้าอีกแล้ว อยากแยกไปอยู่หอพัก
แล้วเรากลับต้องเครียดกว่าเดิมตอนแม่ร้องไห้...แม่เราเสียใจมากเลยที่พี่กะเราทะเลาะกัน
ปกติแม่ไม่เคยร้องไห้เลยอ่ะ เราไม่เคยจำได้ว่าเห็นแมร้องไห้อ่ะ
หัวใจเรางี้หล่นไปถึงตาตุ่มเลย T T
แถมหมู่นี้แม่เราไม่ค่อยแข็งแรงด้วย เราเสียใจมากที่เราทำให้แม่เราต้องร้องไห้
แต่เราก็ทำใจไปคืนดีกับไอ้พี่บ้าไม่ได้ ต่อให้เฟคต่อหน้าแม่ก็ไม่ได้จริง ๆ
เราควรจะทำไงดี เรารู้ว่ามันเป็นแค่ทิฐิของเรา ที่เราไม่ยอมอ่อนให้คนอื่นบ้าง
เรารู้ว่าเรื่องมันโคตรไร้สาระแค่เด็กสองคนที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมมาทะเลาะกันอ่ะ เฮ้อออออ...
Discussion (9)
ตัวเราเองก็ไม่ค่อยกินเส้นกับน้องชายเท่าไหร่ ถึงขนาดเคยลงมือใส่เราด้วย
ตอนนั้นเราก็จะไปแจ้งความ (กะให้โดนจับเลย) แต่ถึงโดนจับไป คนเดือดร้อนก็แม่เราอยู่ดี
ก็เลยปล่อยมันไป พ่อกับแม่ก็บังคับให้มาขอโทษเรา แล้วก็บังคับให้เราอภัยให้
เราก็ไม่อยากให้พ่อแม่ทุกข์ใจมาก ก็คุยๆ กับมันไป ทำเป็นลืมๆ ไป
น้องเราเป็นถึงขนาดที่พูดอะไรด้วยนิดหน่อย ก็หาว่าด่า
แค่บอกว่า "กลับบ้านเร็วๆ หน่อย อย่าทำให้พ่อกับแม่เป็นห่วง"
มันก็บอก "แค่นี้ทำไมต้องด่ากันด้วย" (-"-)
ตอนนี้อะไรที่เราเลี่ยงได้ เราก็เลี่ยง ถ้ารู้ว่าพูดอะไรไปแล้วต้องทะเลาะกัน เราก็ห่างๆ มันไว้
อย่างน้อยๆ จะได้ไม่เกิดเรื่อง และเราก็ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย
ทุกวันนี้ก็คุยกันนิดหน่อย แค่บางเรื่อง
พ่อแม่ก็ไม่ต้องเครียดมาก เค้าเองก็สบายใจ ที่เห็นเราไม่มีปัญหากัน (ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนสร้าง)
คุยกันเถอะค่ะ อย่างน้อยๆ ให้แม่สบายใจ เค้าก็จะได้ไม่เครียดมาก
พี่ก็จะได้ไม่แกล้งเรามากด้วย อย่างน้อยๆ เวลาเค้าจะแกล้งเรา เค้าก็จะสำนึกบ้างสักนิด (เหมือนน้องเราตอนนี้)
ตอนนั้นเราก็จะไปแจ้งความ (กะให้โดนจับเลย) แต่ถึงโดนจับไป คนเดือดร้อนก็แม่เราอยู่ดี
ก็เลยปล่อยมันไป พ่อกับแม่ก็บังคับให้มาขอโทษเรา แล้วก็บังคับให้เราอภัยให้
เราก็ไม่อยากให้พ่อแม่ทุกข์ใจมาก ก็คุยๆ กับมันไป ทำเป็นลืมๆ ไป
น้องเราเป็นถึงขนาดที่พูดอะไรด้วยนิดหน่อย ก็หาว่าด่า
แค่บอกว่า "กลับบ้านเร็วๆ หน่อย อย่าทำให้พ่อกับแม่เป็นห่วง"
มันก็บอก "แค่นี้ทำไมต้องด่ากันด้วย" (-"-)
ตอนนี้อะไรที่เราเลี่ยงได้ เราก็เลี่ยง ถ้ารู้ว่าพูดอะไรไปแล้วต้องทะเลาะกัน เราก็ห่างๆ มันไว้
อย่างน้อยๆ จะได้ไม่เกิดเรื่อง และเราก็ไม่ต้องเจ็บตัวด้วย
ทุกวันนี้ก็คุยกันนิดหน่อย แค่บางเรื่อง
พ่อแม่ก็ไม่ต้องเครียดมาก เค้าเองก็สบายใจ ที่เห็นเราไม่มีปัญหากัน (ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนสร้าง)
คุยกันเถอะค่ะ อย่างน้อยๆ ให้แม่สบายใจ เค้าก็จะได้ไม่เครียดมาก
พี่ก็จะได้ไม่แกล้งเรามากด้วย อย่างน้อยๆ เวลาเค้าจะแกล้งเรา เค้าก็จะสำนึกบ้างสักนิด (เหมือนน้องเราตอนนี้)
เราว่านะ คุยกันไปเหอะ อคติ+ทิฐิ แบกไปก็เหนื่อย บอกพี่ชายไปตรงๆเลยก็ได้ ว่าที่พี่ทำตอนนั้นน่ะ ไม่พอใจนะ แล้วเราไม่เปิดประตูห้องเพราะอะไร บอกเหตุผลกันไป คุณจะได้ฟังเหตุผลของพี่ชายคุณด้วย
เมื่อก่อนเราก็ตีกันกับพี่ชายเหมือนกัน พี่ชอบชวนให้เล่นต่อสู้ ไอเราก็เด็กผู้หญิง จะไปสู้แรงอะไรได้ ก็เลยต้องยอมเล่นไป พอเจ็บตัว ไปฟ้องแม่ โดนแม่ตีซะงั้น เลยเคืองพี่ชายสุดๆ แล้วช่วงม.ปลาย เรากับพี่ก็ไม่ค่อยคุยกัน เพราะเหมือนว่า พี่ชายค่อนข้างเอาแต่ใจ งี่เง่า เลยขี้เกียจคุย แต่พอโตขึ้น ก็เหมือนต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลมากขึ้น ก็เลยคุยกัน แถมสนิทกันกว่าเดิมอีก เวลามีเรื่องก็จะถอยกันคนละก้าว แล้วค่อยมาคุยกันใหม่
เมื่อก่อนเราก็ตีกันกับพี่ชายเหมือนกัน พี่ชอบชวนให้เล่นต่อสู้ ไอเราก็เด็กผู้หญิง จะไปสู้แรงอะไรได้ ก็เลยต้องยอมเล่นไป พอเจ็บตัว ไปฟ้องแม่ โดนแม่ตีซะงั้น เลยเคืองพี่ชายสุดๆ แล้วช่วงม.ปลาย เรากับพี่ก็ไม่ค่อยคุยกัน เพราะเหมือนว่า พี่ชายค่อนข้างเอาแต่ใจ งี่เง่า เลยขี้เกียจคุย แต่พอโตขึ้น ก็เหมือนต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลมากขึ้น ก็เลยคุยกัน แถมสนิทกันกว่าเดิมอีก เวลามีเรื่องก็จะถอยกันคนละก้าว แล้วค่อยมาคุยกันใหม่
เราว่าถ้าทำใจไม่ได้จริงๆ ก็อย่าทะเลาะกันต่อหน้าพ่อแม่อีกค่ะ
เลี่ยงให้ได้มากที่สุด
ทำเป็นเฉยๆไปดีกว่า ถ้าเถียงกัน เราว่าพ่อแม่ฟังแล้วเค้าจะเครียดอะค่ะ
เราว่าจริงๆแล้วคุณก็รักพี่มากเลยน้า เพียงแต่เห็นว่าสิ่งที่เค้าทำกับคุณไม่ถูกต้องเท่านั้นเอง
เลยไม่ยอม ซึ่งเป็นเราเราก็ไม่ยอมหรอก
แต่ว่าทุกปัญหามีทางออกค่ะ
เราว่าพูดไปตรงๆเลยคะ ว่าเค้าทำไม่ถูกยังไง พูดเหตุผลให้เค้ายอมรับว่าผิดยังไง
ส่วนตัวคุณคิดว่าคุณผิดตรงไหน ไม่ต้องอายก็พูดไปตรงๆเลยค่ะ
คนเห็นกันมาตั้งแต่เกิด
เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ผ่านเลยค่ะน้อง แล้วทำตัวตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อ่านจากที่น้องเขียนเหมือนพี่ชายของน้องนิสัยขี้งอนเหมือนผู้หญิงมาก ยิ่งเราไปเจ้าแง่เจ้างอนใส่เขาอีกเรื่องไม่จบแน่ๆ ลองเขางี่เง่าใส่อีกแต่เราลองทำตัวเฉยๆเขาก็หยุดเองแหละ
พี่น้องทะเลาะกันก็หยวนๆเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล
อ่านจากที่น้องเขียนเหมือนพี่ชายของน้องนิสัยขี้งอนเหมือนผู้หญิงมาก ยิ่งเราไปเจ้าแง่เจ้างอนใส่เขาอีกเรื่องไม่จบแน่ๆ ลองเขางี่เง่าใส่อีกแต่เราลองทำตัวเฉยๆเขาก็หยุดเองแหละ
พี่น้องทะเลาะกันก็หยวนๆเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล
เราว่า เรื่องนี้เกิดจากตัวคุณเองก่อนนะคะ เราเข้าใจนะว่าเวลาง่วงนอนมากกก มันคงหงุดหงิดที่โดนปลุก แต่ถ้าง่วงมากจริง ๆ เดินมาเปิด ล้มตัวลงนอนก็หลับต่อได้แล้วค่ะ
แต่มันเป็นเพราะคุณก็อยากเอาชนะพี่คุณ พี่คุณจากตอนแรก ไม่โมโหแต่เหมือนเจอคุณแกล้ง รู้ว่าเค้าต้องการจะดูทีวี ยิ่งเป็นรายการโปรด ก็คิดว่าคุณมาแกล้งเค้าก่อน เลยโมโหมากเรื่องราวเลยบานปลายใหญ่โต
คุณอาจจะมีข้อโต้แย้งว่า การที่พี่คุณมาเคาะประตูเรียกคุณ ด้วยเรื่องจะดูทีวี มันอาจจะไร้สาระ แต่ก็ใจเค้าใจเราค่ะ ถ้าสมมติว่าพี่คุณนอนอยู่ในบ้าน คุณเข้าบ้านไม่ได้ เรียกอยู่นานมากกกกกกก (แค่เรียกไม่ตื่นก็โมโหแล้ว ถ้ายิ่งรู้ว่าตื่นแล้วแต่ไม่ยอมมาเปิดนี่ คงโมโหมากกกกกกกกกเหมือนกันใช่มั้ยคะ )
เพราะฉะนั้นใจเค้าใจเราค่ะ อย่าคิดว่าเรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องของเราเป็นเรื่องใหญ่ (กรณีที่คุณปวดฉี่ ก็เป็นตัวอย่างได้ดีเหมือนกัน เพราะพี่คุณก็มองว่าคุณปวด เค้าไม่ได้ปวดหนิ )
สรุปเรื่องนี้ เราว่าก็ผิดทั้งคู่ แต่เราว่าจุดเริ่มมันมาจากคุณค่ะ ส่วนพี่คุณก็ไม่สมกับเป็นพี่เลยนะคะ แถมยังเป็นผู้ชายด้วย (เรื่องแค่นี้ ทำไมยอมน้องหน่อยไม่ได้ มาแกล้งอะไรกันเนี่ย )
สุดท้าย เรื่องนี้ไม่ยากเลยคะ แค่คุณเดินเข้าไปบอก พี่ชายคุณ อาจจะเขิน ๆ นิดหน่อย (ท่องไว้ เพื่อให้บ้านกลับมาสงบสุข ไม่ต้องให้พ่อแม่เสียใจ) ก็พูดน้ำเสียงเรียบ ๆ แหละ ประมาณว่า "อืมเรื่องวันนั้นอ่ะ เราขอโทษนะ ".คิดว่าถ้าพี่คุณยังมีสำนึกอยู่บ้าง เค้าก็ควรขอโทษคุณกลับ
วันแรก มันคงยังไม่หวานชื่น กลับมารักกัน เหมือนกับไม่เคยโกรธกัน แต่หลังจากนี้ ก็พยายามทำให้เหมือนปกติ ค่อยๆๆ ทีละนิด เดี๋ยวก็ดีกัน สนิทใจมากขึ้นค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ
ปล. ถ้าพูดอะไรทำให้จขกท. ไม่พอใจ ขอโทษด้วยนะคะ