Soft Glow Makeup Look | รีวิว Hourglass Palette คุ้มค่ากับการลงทุนมั้ย?
jinnysista66ใครที่ชอบงานผิวโกลว์นัวแบบหรู ๆ สไตล์ #Hourglass น่าจะรู้จักพาเลตต์ตำนาน Ambient Lighting Edit Unlocked (Leopard) ตัวนี้กันดี วันนี้เลยลองหยิบ “พาเลตต์เก่า” มาปัดลุค Soft Glow Makeup ให้ดูว่า…
✨ คุ้มค่ากับราคาที่ค่อนข้างสูงไหม?
✨ ฟินิชงานผิวที่ได้ยังสวยแบบวันแรกอยู่หรือเปล่า?
✨ ใช้แต่งตา–หน้า ครบจบในพาเลตต์เดียวได้จริงไหม?
✨ ประสิทธิภาพการติดทนเป็นยังไง? อยู่ได้กี่ชั่วโมง?
🔥 STEP-BY-STEP — แต่งลุคนี้ด้วย Hourglass Palette เดียว!
(มีคลิปแต่งหน้าแบบเต็ม ๆ แปะไว้ท้ายโพสนะคะ เผื่อใครอยากเห็นวิธีลงแปรงทีละสเตป)
1) เตรียมผิวก่อนแต่ง (สำคัญมาก)
เนื้อของ Hourglass จะค่อนข้าง “แห้ง” และเกาะผิวดี ดังนั้นต้องเตรียมผิวให้พร้อม
✔ บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
✔ ลง primer แบบเบลอรูขุมขน
✔ ใช้แป้งฝุ่นเฉพาะจุดสำหรับคนผิวมัน (เฉพาะ T-zone)
วิธีนี้ช่วยให้ฟินิชงานผิวยังดูนวล ไม่เป็นคราบ
2) แต่งตาด้วยพาเลตต์เดียว (Eye Makeup)
✔ Bronzer – ใช้เป็น contour ตา + เกลี่ยผ่าน crease ช่วยให้ดวงตาดูมีมิติแบบฟุ้งนัว ไม่เข้มไป แต่ชัดเป็นธรรมชาติ
✔ Iridescent Rose – แตะกลางเปลือกตา เพิ่มความ “pop” ให้ดวงตา สวยแบบผู้ดี ไม่หวานเกิน
✔ Celestial Strobe Light – แตะหัวตา (inner corner) ทำให้ตาดูสดใสและเปิดขึ้นทันที
ลุคตาเน้นความโกลว์ เบา แต่ดูแพงค่ะ
3) แก้ม (Cheeks) — จุดเด่นของพาเลตต์เลย
✔ ปัด บลัชโทนพีช–โรส ทั้งสองสีรวมกันก่อน → ได้ความอุ่นละมุน
✔ ต่อด้วย บลัชโทนชมพู ที่พวงแก้มเป็นวงกลม → หน้าเด็กขึ้นทันที
เนื้อบลัชเบลนด์ง่ายมาก ให้ผิวแบบ “soft flush glow” ที่สวยมากจริง ๆ
4) ฟินิชชิ่ง & ไฮไลท์ (Finish the Glow)
✔ Finishing Powder (Dim Light)
– เบลอผิวสวยเหมือนกล้องฟิล์ม
– ฟุ้ง เรียบ แต่ไม่วอก
✔ Highlight (Celestial Strobe Light)
– โกลว์ละเอียด ไม่เป็นเม็ด
– ทาซ้ำได้ไม่เป็นคราบ
รวม ๆ แล้วฟินิชงานผิวคือ นัวสุด ๆ แม้เวลาผ่านไป 9 ชม. ความโกลว์ยังอยู่ ไม่เป็นคราบ สีบลัชยังติดทน
สิ่งที่รู้สึกได้จากการใช้
Hourglass Ambient Lighting Edit Unlocked Palette (Leopard) 🐆
1) งานผิวนัวมาก — Soft Glow แบบดูแพง
• โกลว์เหมือนฟิลเตอร์บาง ๆ ไม่โป๊ะ
• ปัดซ้ำหลายเลเยอร์ก็ไม่เป็นปื้น
• ช่วยให้ผิวดูแพงแบบเป็นธรรมชาติมาก
2) ครบที่สุดในหนึ่งตลับ (Highlight / Bronzer / Blush / Finishing Powder)
• Finishing Powder ช่วยเบลอรูขุมขนดีมาก ผิวเนียนละเอียดขึ้นทันที
• Bronzer สีอ่อน เบลนด์ง่าย ดูสุภาพ
→ ถ้าอยากได้งานคอนทัวร์คม ๆ ต้องใช้ตัวอื่นเสริม
(ลุคนี้ใช้ Charlotte Tilbury Hollywood Contour Wand ก่อนลงพาเลตต์ค่ะ)
3) บลัช 3 สี ผสมกันได้ลื่นมาก
• สีฟุ้งง่าย ละมุน ไม่เป็นคราบบนรองพื้น
• ติดทนนานถึง 9 ชั่วโมง
• ผิวออกมาเป็นลุค soft flush glow ที่สวยมากจริง ๆ
4) ไฮไลท์ = ไอเทมเด่นที่สุดในตลับ
• ชิมเมอร์เนียน ละเอียดมาก
• ไม่เห็นเม็ดกลิตเตอร์
• ให้โกลว์แบบหรู ๆ และทับหลายรอบได้โดยไม่เป็นคราบ
5) ใช้เป็นอายแชโดว์ได้ด้วย
• Bronzer + Highlight ลงบนตาแล้วสวยมาก
• แต่เนื้อจะค่อนข้างแห้ง → ต้องบำรุงและลงอายไพรเมอร์ก่อน
ข้อดี: ติดทนมาก โดยเฉพาะคนเปลือกตามัน
6) แพคเกจแข็งแรงมาก
• กันกระแทกดี
• เคยทำตกหลายครั้ง เนื้อไม่แตกเลย
• เป็นตลับที่พกพาง่ายและทนทานจริง
7) เหมาะกับคนที่อยากได้ “ความคุ้ม” ในพาเลตต์เดียว
• ใช้แต่งตา–หน้า ได้ครบจบ
• เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความเรียบหรูและใช้งานง่าย
✨ สรุป — ควรซื้อซ้ำไหม?
ถ้าคุณชอบ…
✔ งานผิวโกลว์ใสแบบแพง ๆ สไตล์ Hourglass
✔ บลัชหลายเฉดที่ผสมได้ทุกวัน
✔ ไฮไลท์ & Finishing Powder ที่ปัดแล้วหน้าเนียนหรู
— ซื้อซ้ำได้เลยค่ะ คุ้มจริง!
เพราะพาเลตต์นี้ให้ฟินิชงานผิวแบบ “นัว เหนือผิวฉ่ำเล็ก ๆ ดูผู้ดีหรูหรา”
ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ที่หลายแบรนด์ทำได้ไม่เท่า Hourglass
ถึงราคาจะสูง แต่…
• ใช้งานได้ 2–3 ปี
• ติดทนนาน
• คุณภาพสมราคา
• ฟินิชลุคสวยอย่างเห็นได้ชัด
เป็นหนึ่งในพาเลตต์ที่ “คุ้มค่าสำหรับสายโกลว์” จริง ๆ ค่ะ 🤍
/jinnysista









Discussion (6)