แชร์ประสบการณ์สอบโทอิคTOEIC +เห่อคะแนน

2 69

พอดีเพิ่งมีโอกาสไปสอบใหม่อีกครั้ง หลังจากที่สอบครั้งแรกไปเมื่อ3-4 ปีก่อนตอนเริ่มเรียนจบใหม่ๆ การสอบครั้งแรกแค่ 800 บาทเอง แล้วเนื้อหาที่สอบค่อนข้างง่ายกว่าตอนนี้เยอะเลย

สำหรับคนที่สนใจการสอบเกี่ยวกับtoeic วันนี้ขอมาเล่าลายละเอียดซักนิดละกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจอยากลองสอบดู
ก่อนไปสอบพอดีได้เข้าไปหาข้อมูล เจอบล๊อคนี้ เป็นประโยชน์มากเลย แต่อาจจะเก่าไปนิด แต่โดยรวมพูดได้ดีค่ะ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=merveillesxx&group=4&month=05-2007&date=24&gblog=45

ขอเอาข้อมูลจากบล๊อคมาใส่ตรงนี้นะคะ ขอแก้ไขบางส่วนที่ไม่อัพเดทค่ะ
ข้อสอบ TOEIC (Test of English for International Communication) เอาไว้ยื่นคะแนนสำหรับสมัครงาน คนทั่วไปอาจเข้าใจว่าไว้สำหรับสมัครสจ๊วตหรือแอร์โฮสเตท แต่จริงๆ  พวกงานโรงแรมก็ต้องใช้ หรือแม้แต่บริษัททั่วๆ ไปก็อาจใช้ด้วย เพราะว่ายุคสมัยนี้ประเทศเราเต็มไปด้วยบรรษัทข้ามชาตินั่นเอง ไม่แน่ใจว่าแต่ละบริษัทเค้ากำหนดเกณฑ์ไว้เท่าไร ส่วนใหญ่ที่เจอ requirement ก้จะราวๆ 550-600 แต่ถ้าเป็นพวกตรงสายservice หรือส่วนด้าน inter จะrequire ที่ราวๆ 700+

ลักษณะข้อสอบก็จะแบ่งเป็น 2 PART ใหญ่ๆ คือ Listening กับ Reading ทั้งสองมีคะแนนเท่ากันคือ 495 คะแนน เพราะฉะนั้นคะแนนรวมก็คือ 990

PART 1 Listening จำนวน 100 ข้อ เวลา 45 นาที
1.1 Picture 20 ข้อ
1.2 Question-Response 30 ข้อ
1.3 Short Conversations 30 ข้อ
1.4 Short Talks 20 ข้อ

PART 2 Reading จำนวน 100 ข้อ เวลา 75 นาที
2.1 Incomplete Sentences 40 ข้อ
2.2 Error Recognition 20 ข้อ
2.3 Reading Comprehension 40 ข้อ

รวมแล้ว 200 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 120 นาที

สำหรับการสมัครสอบ TOEIC ก็ต้องโทรไปจองก่อน (เบอร์ 02260-7061,02664-3131) ล่วงหน้าสัก 2-3 วัน หรือลองถามเวลาที่ว่างก็ได้ มันมีจัดสอบ จันทร์-เสาร์ มีให้เลือกสองรอบคือ เช้า (09.00) กับบ่าย (13.00) ถ้าจองแล้วเบี้ยวไม่ไป พอไปสอบจริงๆ คราวหน้าเค้าจะปรับเรา 500 บาทนะ จากนั้นพอถึง วัน-เวลาที่จองเอาไว้ก็ไปที่ตึกสอบ เอาบัตรประชาชน กับเงิน 1200 บาท (ค่าสมัคร) ไปด้วยล่ะ โอ้วถ้าจะให้เค้าส่งคะแนนมาทาง ems ติดเงินไปอีก 50 บาทค่ะ ใช้เวลา 1-2 วันทำการ(ไม่ต่างจากธรรมดาเล้ย ช้ากว่าด้วย ฮ่าแต่ไม่มีให้เลือก)

วันสอบ
สถานที่สอบคือ ตึก BB building อยู่ระหว่างตึกQ house กับ GMM  แผนที่  หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบล๊อคด้านบนจ้ะ

ขึ้นไปชั้น19 ห้อง 1906-7 (ไปตามเวลาที่เค้านัดลงทะเบียน) แล้วก็ไปตาม step เริ่มจากลงทะเบียนถ่ายรูป อ้อไม่ต้องแต่งสวยนะคะ ขาวดำและใช้เว็ปแคม ให้ตัวจริงสวยยังไงก็ด๋อยค่ะ เห็นจากคนข้างๆ อีกสองสามคน ฮ่าๆๆ หน้าตาเป็นคาบอนเชียว รวมถึงตัวเองฮ่าๆ
แล้วก็เดินไปจ่ายตัง 1200 แล้วก็เดินมาลงชื่อสอบพร้อมฟังรายละเอียดข้อห้ามต่างๆ และรับบัตรเข้าห้องสอบ

ตอนนี้เค้ามีห้องจัดให้นั่งรอเป็นห้องแอร์ ไม่ต้องนั่งแก่วตามพื้นอีกแล้ว เป็นห้อง 1912 แต่เปิดเป็นช่วงเวลา พอดีเลือกสอบบ่าย เค้าเปิดให้เข้าไปนั่งเที่ยงๆ

การเตรียมตัว(คำแนะนำจากประสบการณ์ตูนน์)
เรื่องการแต่งตัว พยายามอย่าใส่โลหะไป เพราะเค้าจะมีการใช้เครื่องตรวจก่อนเข้าห้อง มันร้องทุกอย่าง แม้กระทั่ง "ตะขอ บรา"  ไม้กะทั่งอากาศปล่าวๆยังร้อง ฮ่าๆๆ มันมาร้องตรงกระเป๋ากางเกงยีนส์ ก็ล้วงออกมาทุกอย่างแล้วจะร้องทำไม(ฟระคะ) ส่วนเรื่องเสื้อคลุมกันหนาว เอาตัวบางๆก็พอ แต่เค้าต้องตรวจละเอียดก่อนเข้า

สิ่งที่นำเข้าไปได้มีแค่ ดินสอ ยางลบ ปากกาและกระเป๋าตังค์ ของอื่นๆให้วางไว้หลังเค้าเตอร์(ไม่มีการรับฝาก ไม่ประกันของหาย) แต่พวกเครื่องเขียนมีให้ในห้อง ถ้าไม่อยากพกมา

การเตรียมตัวมาสอบ ตูนน์ว่าการสอบแบบนี้อาศัยประสบการและการฝึกฝนประจำมากกว่าที่จะมาติวๆๆ เพื่อสอบ ไม่รู้สินะ บางคนอาจจะได้คะแนนดีก็ได้ถ้าติว แต่ส่วนตัวไม่เคยเตรียสมตัวไปสอบ อาศัยบทเรียนทั้งชีวิตที่มีเนี่ยล่ะ
ตูนน์ไม่ได้เรียนด้านภาษามาเลยตั้งแต่เด็กจนโต เพิ่งได้มาเรียนสายภาษาเอาตอนป.โท นี่ล่ะ ก็ทำได้พอสมควรนะคะ เนื่องจากพยายามใช้ พยายามฝึกพูด ฟัง อ่านบ้างเขียนอีกนิด
ครั้งแรกปี 48 ตูนน์ได้
part listening 495/495
part reading 335/495

ครั้งที่สอง ปี 52
part listening 480/495
part reading 420/495

ข้อสอบอันนี้ขอพูดทีละ part+ ขอบ่นหน่อย ไอ้เรื่องที่บอกว่ายาก 
Part 1.1 picture
อันนี้ยังเบๆ ก็จะยากตรงที่บางรวมมันกำกวมเกินไป คือเรามองได้สองคำตอบเลย เช่น จะมีรูปอยู่ในกระดาษ


ส่วนตรงคำตอบเราจะต้องฟังจากเทปพูด ประมาณว่า
a. A red balloon is flying up
b. There is a path for bikes
c. The restaurant is full with people
d. A dog is running in the yeard

คือด้วยความที่เราคิดมาก เราก็ว่า b ก็ถูกนี่หว่า มีทางให้จักรยานปั่น(จริงป้ะ) แหะๆ แต่ที่ถูกก็เป็น C. ประมาณนั้น

ต่อๆ
1.2 Question-Response
อันนี้ก็สนุกดีนะ แนวๆว่า เค้าจะเปิดเทปที่เป็นคำถามมา และพูดคำตอบมา 4 ข้อ หรือ 3 หว่า(ประมาณนั้น) เช่น

(เทป) Don't you want to go to Disney Land
ในกระดาษคำตอบเราจะไม่มีคำตอบให้นะ ก็คือจะต้องฟังเค้าพูดคำตอบจากเทป
a. Yeah! but I can't effort it.
b. Someone took it
c. There's someone at the door
d. Yes, I want to see him
ต้องตอบ a ไป เป็นต้น

1.3 Short conversation
รู้สึกว่าอันนี้จะมีบทสนทนาของคนสองคนในเทปให้ฟัง แล้วมีคำถามและ คำตอบในกระดาษคำตอบให้เรา 4 ข้อ เช่น
(เทป)Man: Linda, could you call Mr. Potter this evening?
Woman: yes Mr. Guns, what do you want me to tell him?
Man: tell him that Mrs. Hans is not going to be at the Bella restaurant tonight.

และคำถามในกระดาษเช่น
who should call Mr. Potter?

a. Mrs. Hans
b. Linda
c. Bella
d. Mr. Guns
ซึ่งต้องตอบ b

1.4 Short Conversation
อันนี้ขอ ตัวแดงเลย
ยากไปมั้ยคะพี่น้อง คือต่อให้เจ้าของภาษาเองก็ไม่ได้เต็มแน่ๆ
มันจะมีบทพูดให้ฟัง เหมือนเป็นประกาศ หรือโฆษณา แล้วก็มีคำถาม พร้อมกับคำตอบ 4 ข้อให้ บางข้อก็โอเค พอจะอ่านคำถาม ดูคำตอบล่วงหน้าได้ (ถ้าไวจริง) แต่บางข้อ....ต้องจบคำนวณป่าวเนี่ย ขอยกตัวอย่างข้อง่ายก่อนนะ ย้ำว่าง่าย

(เทป) Attention please, All passenger flight number GL112 to Florida, please attend to gate no. 65 for your flight bording, thank you for chosing Flory air.

Where's the destination
a. Texas
b. L.A
c. Florida
d. Ohio

ตอบ c. ก็ดูเหมือนง่ายใช่มั้ย แต่มันไม่ได้มีให้อ่านนะ คือเวลาฟังเนี่ย หัวมันหว่านมาก พยายามหา keyword ซึ่งแบบว่า พอเวลาจริงมัน ยากโคด
แต่ๆๆๆๆ มียากกว่านั้น

เช่นเทปพูดว่า ขอเป็นไทยเลยนะ ขอบอกว่าให้นึกตาม(เหมือนว่าไม่เห็นตัวอักษร) สวัสดีค่ะ ลูกค้าทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ห้างมีมอล วันนี้ทางห้างจัดโปรโมชั่นลด 20-60% ที่โซนเสื้อผ้าเด็ก โดยจะเริ่มทำการเซลตั้งแต่ สิบโมง ถึงบ่ายสามโมงเท่านั้น ขณะนี้เวลาเก้าโมงครึ่ง เหลือเวลาอีก ครึ่งชม.เท่านั้นก่อนนาทีทอง

แล้วถามว่า
ห้างทำการเซลล์กี่ชม. (นึกภาพตัวเลขเป็น ENG ที่ลอยเต็มหัว) มึนส์ ต่อให้อ่านโจทย์ทันก่อน ก็แบบ เอ่อ 10 ถึงบ่ายสาม มันกี่ชม.คะพี่.... พอคิดออก ก็ฟังข้อต่อไปไม่ทัน (ซะงัน)

ส่วน part reading อาศัยทักษะด้าน grammar/vocab เล็กน้อย สิ่งที่สำคัญเลยคือ การจัดการเวลา ขอบอกว่าpart สุดท้ายของ reading น่ากลัวมาก เพราะคุณต้องเสียเวลาอ่านเยอะ ส่วนใหญ่จะทำไม่ทันกันเพราะชะล่าใจ ซึ่งเกิดมาแล้วตอนสอบครั้งแรก

เพิ่งทำไปได้แค่ข้อเดียว(ตัวหนังสือน้อย) เค้าเตือนว่าเหลืออีก 30นาที ก็ยังชิล พอยิ่งเปิดไปเรื่อยๆ ทำไม text มันเยอะขึ้นเรื่อยๆฟระ แค่อ่านก็ไม่ทันแล้ว คือ แนะนำให้ระวังเลยจริงๆ เหมือนเป็นกับดัก

ส่วนตัวข้อสอบนี้ ก็หาตาม google ได้พวกแนวๆ แต่จะเก็งข้อสอบเลยก็ยาก เพราะต้องอาศัยประสบการณ์จริงๆ แบบว่า เจอศัพท์นี้บ่อยๆ หรือว่าgrammarแบบนี้แบบนั้นบ่อยๆ

ขอจบการสาธยาย ยาวยืดนี้ก่อนแค่นี้ละกันค่ะ ใครอยากถามอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีแชร์จ้า


tuniez83

tuniez83

i love cosmagic

FULL PROFILE