รีวิว Pure Health Life 3 โดนใจเพราะวัดความดันได้

AeyAey19 Jun 232418

สวัสดีค่ะ วันนี้ป้าจะมาแชร์ประสบการณ์จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสใช้นาฬิกาสุขภาพของ Pure Health HR 2 ซึ่งป้าว่ามันดีมากๆทั้งคุณภาพและราคาที่เอื้อมถึง จนมาวันนี้มีคนที่บ้านป้ามีปัญหาความดันโลหิตสูงหลายคน แน่นอนว่าป้าต้องแนะนำ Pure Health Life ให้คนที่บ้านอยู่แล้ว แต่ก็แอบดูของยี่ห้ออื่นไปด้วยนะ ถึงได้รู้ว่าเค้าออกตัวใหม่มาแล้ว น้องคือ Pure Health Life 3 ซึ่งรอบนี้ น้องมากับการวัดค่าสุขภาพได้มากเหมือนเดิม แต่ที่พิเศษเพิ่มเติมเข้ามาคือ น้องสามารถคุยโทรศัพท์ได้จ้า รอช้าอยู่ใย จัดเลยสิจ๊ะสาวววววว

ตัวเรือนนาฬิกาถือว่าบางมาก น้ำหนักเบา ถ้าเทียบกับนาฬิกาที่คุยโทรศัพท์ได้ ใส่แล้วไม่หนักมือ สายนาฬิกาถึงจะเป็นซิลิโคน แต่คุณภาพดีไม่ไก่กานะจ๊ะ ไม่อมเหงื่อ ไม่กัดผิว

เอาหล่ะ!!! เริ่มที่การนับก้าวเลยดีกว่า อยากจะบอกว่ากว่าจะเดินได้ครบวันละ 10,000 ก้าวนี่มันยากมาก ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น นั่งเฉยๆบางทีจำนวนก้าวเดินก็เพิ่มขึ้นเอง (ก้าวทิพย์อ่ะเธอ) ไม่ถึงเย็นก็ได้เกินแล้ว แต่เจ้า Pure Health Life 3 เนี่ยรู้สึกเลยว่ามันขึ้นตามที่เราเดินจริงๆ ไม่เดินไม่ขึ้นเด้อ เลยรู้สึกว่ามันนับแม่นดี เป็นก้าวที่เราเดินจริงๆ

ต่อมาฟังก์ชั่นหลักที่ทำให้ตัดสินใจซื้อเลย เพราะเค้าบอกว่าแม่นยำ 90% ขึ้นไป พอเอามาตั้งค่าแล้วลองวัดดู ก็ปรากฏว่าผลออกมาใกล้เคียงกับค่าที่เคยวัดไว้จริงๆ แต่แค่นั้นมันยังไม่พอสำหรับป้าหรอก เรามันนักสู้เนอะสาว ก็เอาไปลองวัดกับคนอื่นเลยสิค้า เออมันก็ได้ค่าความดันโลหิตของคนๆนั้นจริงด้วยแฮะ

อีกฟังก์ชั่นที่ชอบก็คือการวัดไข้ หรือการวัดอุณหภูมิร่างกาย เค้าจะมีเซนเซอร์โลหะอยู่ใต้นาฬิกา เวลาใส่จะแนบกับผิวเรา เวลากดวัดก็จะวัดว่าผิวเราอุณหภูมิอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วเอาไปคำนวณอุณหภูมิร่างกายอีกที ความแม่นยำเทียบเท่ากับเครื่องวัดที่ใช้ยิงที่หน้าผากเลยเธอ

ส่วนฟังก์ชั่นการวัดชีพจรกับอ็อกซิเจน อันนี้ป้ารู้สึกว่าก็เหมือน Smart Watch รุ่นอื่นๆ โดยส่วนตัวไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่

อ้อ แล้วค่าสุขภาพที่วัดได้ จะถูกเก็บไว้ที่แอปฯ เราสามารถเก็บไว้ดูย้อนหลังได้ แล้วก็มีโหมดวัดอัตโนมัติสำหรับให้นาฬิกาวัดเอง โดยที่เราไม่ต้องกดบ่อยๆ มันจะวัดทุกๆ 5 นาที แล้วเก็บข้อมูลไว้ในแอปฯ

อีกเรื่องที่ชอบคือ การติดตามการนอนหลับ มันจะบอกเวลานอน หลับลึก หลับตื้น ถือเป็นข้อมูลในการดูว่าเราพักผ่อนได้ดีแค่ไหนด้วย

ส่วนเรื่องการโทรออก รับสาย คุยโทรศัพท์ เท่าที่ทดลองดู เสียงลำโพงก็ดังใช้ได้ ปลายสายก็ได้ยินเราชัดเจน แสดงว่าไมค์ค่อนข้างดี แล้วก็รับข้อความภาษาไทยได้จากทุกแอปฯเลย อันนี้ชอบมาก สรุปโดยรวมแล้ว หลักๆก็คือเอามาใช้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลสุขภาพ เรื่องความแม่นยำจากการที่ได้ลองทดสอบดูถือว่ายอมรับได้ เป็นการดูแลสุขภาพตัวเองเบื้องต้น ถ้ามันผิดปกติ เราค่อยไปตรวจกับหมอให้ชัวร์อีกครั้ง ถือว่ามีประโยชน์อยู่นะเออ กับราคาที่ 2,290 บาทนี่ ป้าให้ 4.5 ดาว ก็แล้วกัน เผื่อน้องๆหนูๆคนไหนกำลังมองหา Smart Watch ดีๆในราคาประหยัด ก็ลองเปิดใจให้เจ้า Pure Health Life 3 นี่ดูนะจ๊ะเด็กๆ ^^