My life in 2022 ... " To Live The Real Life "
beautyzista3416คำถามในปี 2022 ที่คนถามอ้อมากที่สุด คือถามว่า
" ใช้ชีวิตผ่านมาได้ยังไง "
ทำไมคนรอบตัวถึงถามแบบนั้น ขอเล่าย้อนไปนิดนึง ช่วง ปีก่อน อ้อต้องพบเจอกับความสุญเสียในชีวิต แทบจะทุกรูปแบบโดนโกงจากคนที่เราไว้ใจ จากชีวิตที่เคยปกติ กลับกลายต้องมาเป็นหนี้ กว่า 4 ล้านบาท เสียทั้งเงิน เสียทั้งเครดิต และแทบจะเสียสติ
ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่คิดวางแผนในเรื่องงานใหม่ เพราะธุรกิจที่ทำโดนโกงมีอันต้องล้มเลิกไป และคิดวางแผนการใช้หนี้ และการประนอมหนี้
ร่างกายผิดปกติ มีภาวะเครียดหนัก และ ตรวจภพว่าเป็น SLE และ Rheumatoid arthritis ทำให้การดำเนินชีวิตต้องเปลี่ยนไป
อุบัติเหตุขาหัก เดินไม่ได้ กว่า 5 เดือน
กลางปี 2564 ตรวจพบเชื้อโควิด 19 ชนิด เดลต้า + ซาร์ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ คุณแม่เสียที่โรงพยาบาล ขณะที่คุณแม่กำลังจะสิ้นใจ เราได้แต่ฟังเสียงคุณหมอและคุณแม่ทางโทรศัพท์ และสุดท้าย เราต้องตัดสินใจ ว่าจะปั๊มหัวใจคุณแม่ต่อหรือพอแค่นี้ (บีบหัวใจขั้นสุด)
จากนั้นไม่นาน คุณพ่อ (เป็นผู้ป่วยติดเตียง) พอหายจากโควิด ออกจากรพ. ก็มีอาการตรอมใจและตายตามคุณแม่ไปภายใน 2 เดือน
🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘🌘
ช่วงเวลาที่เราติดโควิดรอบนั้น อาการเราหนักมากค่ะ
พูดได้ว่ามีช่วงที่แบบเป็นตายเท่ากัน
อาการหนักหายใจไม่ได้ต้องใส่เครือ่งช่วยหายใจอยู่เกือบ 2 อาทิตย์
เลือดออกทางประจำเดือนจนต้องให้เลือดแทบจะทุก 6 ชม. ด้วยความที่เป็นแพ้ภูมิตัวเอง ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างลำบาก แต่เราก็ไม่ท้อนะไม่เคยคิดท้อแท้ในโชคชะตา ไม่คิดไปไกลกลัวความตาย ก็รักษาตามอาการไปในที่สุด บุญยังมีรักษาจนสำเร็จ เรียกได้ว่า ผ่านเหตุการเฉียดตายมาในที่สุด
ช่วงนั้นบอกได้เลยว่าภายในจิตใจเหมือนคนตายทั้งเป็นก่อนพ่อเสียหลังจากออกจากรพ เรามีอาการลองโควิดแบบรุนแรง ความจำเสื่อมระยะสั้นกล้ามเนื้ออ่อนแรง
เดินได้ไม่เกิน 3 ก้าวล้ม แต่ต้องดูแลพ่อ และอยู่กันสองคน
เพราะคนอื่นยังออกจากรพ.ไม่ได้ ช่วงนั้น เราไม่กล้าคิดถึงแม่เพราะกลัวว่า จะร้องไห้ และเสียใจจนไม่มีแรงดูพ่อ สุดท้ายเราได้แต่นอนกอดพ่อ
ตอนพ่อหล้บแล้วแอบร้องไห้เอา ส่วนพ่อ ก็นอนคุยกับรูปแม่ ทุกคืน
🖤🤍🖤🤍🖤🤍🖤🤍🖤🤍🖤
คืนก่อนที่พ่อจะจากไปพ่อพูดกับเราว่า ป๋ากับแม่ จากไปแค่ร่างกายยังไง ก็จะคอยอยู่คุ้มครองเราเสมอ " มึงเป็นคนเก่งเข้มแข็ง อยู่ให้ได้ ปล่อยวางให้เป็น ทุกสิ่งอย่างมีเกิดมีดับ ป๋าอยากให้ใช้ชีวิตให้มีความสุขมากที่สุดนะลูก "
จากนั้นพ่อก็จากเราไป
จากนั้นพ่อก็จากเราไป
🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍
หลังจากพ่อเสีย เราจมอยู่กับตัวเอง 3 วัน ร้องไห้กอดพี่ชายพี่สาว
แบบสามวันสามคืน ไม่หยุด เอาให้สุด.....
เราเอาคำของพ่อก่อนตาย มาเป็นพลัง จากนั้น ก็ค่อยๆ ทะยอยเขียนปัญหาและสิ่งที่เราจะต้องแก้ไขและจัดการในหลายเรื่อง ลงกระดาษ เพราะ ช่วงนั้น เรามีภาวะความจำเสื่อมระยะสั้น จากอาการลองโควิด และ มีอาการซึมเศร้าร่วมด้วย จากการช็อคภายใน เราเลยต้องเขียนทุกเรือ่งไว้ในกระดาษ
และเริ่มต้นแก้ไขและลงมือทำไปทีละเรื่อง
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ช่วงที่เราดูแลพ่อ เราทำคลิปเล่าเหตุการณ์
จากโควิดลงช่องของเรา (เราเคยลงลิงค์ในจีบันไว้ด้วย)
ทำให้หลายคนที่ดูคลิปนั้นมีกำลังใจ
และติดต่อเข้ามาคุย เข้ามาขอกำลังใจปรึกษาอาการ
ช่วงนั้นเราให้คำปรึกษากับผู้ที่คิดจะฆ่าตัวตายจากอาการโควิดหลายราย
บางคนถึงขั้นสูญเสียปอด เสียงานเพราะทำงานต่อไม่ได้
บางคนเสียแฟนไปเพราะแฟนดูแลไม่ไหว จนกระทั่งมีหน่วยงานของรัฐเชิญเราไปออกสัมภาษณ์ เล่าเหตุการณ์และวิธีการใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็งของเรา
มีคนทักมาปรึกษาเราไม่ต่ำกว่า 100 คน เรารู้สึกว่า คุ้มแล้วที่เรามีชีวิตรอด และไม่จมอยู่กับความทุกข์
เราใจเย็นมากขึ้น นิ่งมากขึ้นและ ปล่อยวางได้มากขึ้น
เราเปลี่ยนความคิดถึงแม่และพ่อ เป็นกำลังใจ เพื่อจะใช้ชีวิตต่อไป
จากเรือ่งราวที่เกิดขึ้น สิ่งที่เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป
ความตายจะมาตอนไหนไม่รู้
เราตั้งมั่นใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวัน
มีปัญหาก็แก้ไป อยากทำอะไรก็ให้รีบทำ
อะไรที่ทำแล้วมีความสุข เราจะไม่ลังเลที่จะทำ
เปิดปี 2565 มา ด้วยการพักใจเรา จัด Road Trip ให้ตัวเอง ขับรถขึ้นเหนือ
แวะไปทีละจังหวัด ค่ำไหนนอนนั่น เป็นระยะเวลา 20 วัน
โดยการไปครั้งนี้ พกถุงสังฆทานไปด้วย 20 ชุด และ อาหารแมว อาหารหมา อีก 3 ถุง
(และแน่นอน พกรูปพ่อกะแม่ไปด้วย)
กะว่า เจอวัดป่าที่ไหนก็ถวายสังฆทาน เจอหมาแมวที่ไหน ก็ให้อาหาร
(และแน่นอน พกรูปพ่อกะแม่ไปด้วย)
กะว่า เจอวัดป่าที่ไหนก็ถวายสังฆทาน เจอหมาแมวที่ไหน ก็ให้อาหาร
เป็นการเดินทางที่มีความสุขมากๆๆๆๆๆ เราได้เปิดโลกในมุมมองใหม่ๆ ได้อยู่กับตัวเอง และอยู่กับธรรมชาติ เราเริ่มรู้สึกถึงความสุขอีกครั้ง
ทุกครั้งที่เราแวะทำบุญ คนท้องถิ่น จะมอบของท้องถิ่นและอวยพรให้เราทุกครั้ง
หลังจากไปปรับสมดุลย์ในชีวิต ก็กลับมาสู้กับชีวิตอีกครั้ง
คำขวัญประจำตัวของอ้อ ที่เพื่อนสนิท รู้จักดี
คือ
" คนสวย ตกอับไม่นาน 😁"
ไปค่ะไปสู้ชีวิตกันต่อ
ด้วยแนวคิดที่อยากจะทำในสิ่งที่ตัวเองรักในชีวิตที่เหลือ
เลยมุ่งมั่น ในเรื่องการทำรีวิวการท่องเที่ยว และ แน่นอน
Beauty Review
ในจีบันแห่งนี้ก็เป็นความสุขที่ได้ทำเช่นกัน♥️♥️♥️
นอกจากความชอบด้านรีวิวแล้ว ....
เราก็ยังหลงไหลในศาสตร์ของการดูดวงอีกด้วย
ปีนี้ ได้ลงเรียนวิชาหัตศาสตร์เพิ่มเติม หลังจากจบหลักสูตร โหราศาสตร์ และ ลายเซนต์มาเรียบร้อยเมื่อสองปีก่อน
และก็แน่นอนค่ะ สร้างอีก 1 อาชีพให้เราอีกด้วย
เมื่อเราได้ทำอะไรที่มีความสุขที่เราชอบ
อุปสรรคต่างๆที่เข้ามา
ก็ไม่ท้อใจที่จะคอยแก้มัน การจัดการปัญหาเรื่องการเงินและหนี้สินที่โดนโกง
ตอนนี้จัดการได้ดีในระดับนึง เราใช้ความรู้ในการจัดการและบริหารหนี้
จากการทำธนาคารมา 15 ปี มาวางแผนและแก้ไข
อีกไม่เกินปีหน้า ก็กลายเป็นคนหมดหนี้แล้วค่า
ในส่วนของเรื่องสุขภาพนั้นตอนนี้
ยังมี Effect จากอาการ Long Covid และ โรคประจำตัว อยู่บ้าง
แต่เนือ่งจากยังไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้
เลยปล่อยตัวเองให้กินและนอนอย่างมีความสุขไปก่อน
ตั้งใจไว้ว่า ปีหน้าจะออกกำลังกายให้มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ
สรุปได้ว่า
เรื่องราวในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่เรียกได้ว่าใช้ชีวิตได้มีค่าและมีความสุขขึ้นกว่าเดิม
กับคำถามที่ว่า แกผ่านมาได้ยังไงกับปัญหาที่เกิดขึ้น
คำตอบ คือ
1. ใจค่ะ เข้าใจในชีวิตให้มากขึ้น ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน จงอยู่กับปัจจุบัน อย่ายึดติดกับอดีตที่มันผ่านมาอย่าไปนึกย้อนว่าอะไรที่เราเคยมี เคยเป็น เคยเห็นและเคยอยู่ อดีตเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ทำได้เพียงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ ก็สามารถจบลงได้ หากเราทำทุกอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว อะไรจะเกิด ก็ปล่อยให้มันเกิด สุดท้าย ทางออกของการแก้ปัญหา ก็จะมาให้เราเห็นเอง
2. กำลังใจ ที่มีจากคนใกล้ชิดพี่ชาย พี่สาว เพื่อนรัก และ แมว พวกเขาเหล่านี้เป็นกำลังใจสำคัญและคอยอยู่เคียงข้างกันเป็นพลัง ในการฮึบเพื่อฝ่าฟันปัญหาจนมาถึงจุดนี้ได้อย่างดี
สุดท้ายนี้หวังว่าการรีวิวชีวิตของตัวเองในปีที่ผ่านมานี้
จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า ♥️♥️
Discussion (16)