Balenciaga เจอด่าอ่วม ใช้เด็กมาถ่ายแบบโฆษณาแฝงเรื่องเพศ

40 15
การตลาดที่ใช้ดึงดูดความสนใจจากสังคมในรูปแบบ Shockvertising  อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการแฟชั่น   ยิ่งสร้างความฮือฮาจากเรื่องที่ดูหมิ่นเหม่หรือยั่วยุให้เกิดความรู้สึกต่อต้านและขัดแย้ง ก็เปรียบเหมือนกับเครื่องมือ PR ปั้นยอดขายให้พุ่งกระฉูด

แต่สำหรับดราม่าโฆษณาล่าสุดจาก Balenciaga     หลายฝ่ายฟันธงว่าครั้งนี้ล้ำเส้นไปมากจริงๆ    

เด็กไร้เดียงสา  ตุ๊กตาหมี และเครื่องหมาย BDSM

ดีไซน์จาก Balenciaga ภายใต้การกุมบังเหียนของDemna Gvasalia เคยสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ่อยซะจนนับเป็นเรื่องปกติกหากจะเห็นผลงานของเขากลายเป็น viral ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าที่ดูเหมือนถุงIkea, ถุงขยะ, กระเป๋าลายทางสำเพ็ง, sneakers ที่ดูยับเยินเหมือนกับว่าควรโยนทิ้งถังขยะ, ห่อมันฝรั่ง Lays และอีกหลายอย่าง


แต่ภาพกระเป๋าตุ๊กตาหมีที่ถูกพันธนาการด้วยอุปกรณ์ซึ่งทำให้นึกถึง BDSM ก็อาจจะทำให้บางคนสงสัยว่า นี่คือผลงานที่สร้างมาจากบันดาลใจแบบ teddy bears meet Fifty Shades of Grey หรือเปล่า!! และยิ่งแบรนด์ได้นำเสนอนายแบบหลายคนหิ้วกระเป๋าหมี bondage และมีบาดแผลบนใบหน้าใน fashion show ที่จัดขึ้นไม่นานมานี้ ก็ยิ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า นี่ไม่ต่างจากการใช้ไอเดียเรื่องความรุนแรงมาเป็นจุดขายสร้างกระแสให้กับสินค้า 

แต่ภาพของกระเป๋าหมีจาก Paris Fashion Week ไม่ได้กลายเป็นกระเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ เพราะในขณะนั้น ยังไม่มีภาพของเด็กน้อยวัยไร้เดียงสามาเกี่ยวข้อง...


ตุ๊กตาหมีที่ใส่เสื้อตาข่าย สายบังเหียน  โซ่ล็อคกุญแจที่คอ สายรัดแขนและข้อเท้า   ฟังดูต่างจากของเล่นเด็กที่พวกเราคุ้นเคย   หนูน้อยน่ารักใน campaign ล่าสุดของ  Balenciaga ไม่ได้นำเสนอสินค้า luxury แบบเด็กๆแต่เป็นการใช้คอนเสปท์ toy stories ของช่างภาพดังมาโฆษณาสินค้าผู้ใหญ่  นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่าที่ทำให้ชื่อเสียงแบรนด์ตกในสภาวะระส่ำระสาย


ชาวเน็ทโจมตีแบรนด์ดังอย่างดุเดือด
หากฟังแค่ชื่อ Holiday  campaign  ก็สร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุขสันต์  แต่สำหรับ Balenciaga วันหยุดครั้งนี้นำมาด้วยอาการปวดเศียรเวียนเกล้า เพราะไม่เพียงแต่จับเด็กตัวน้อยมาถ่ายแบบกับกระเป๋าตุ๊กตาหมีเจ้าปัญหาจนถูกก่นด่า  แต่ยังมีประเด็นฉาวเรื่องเอกสารศาลที่ระบุถึง child porn จากภาพในอีก campaign จนตัดสินใจฟ้องร้องโพรดิวเซอร์ที่เป็นฝ่ายดูแลการถ่ายทำโฆษณาจนจนภพลักษณ์ของแบรนด์ถูกสั่นคลอนอย่างแรง
ในประเทศแถบตะวันตกเรื่อง sexualisation คือเรื่องต้องห้ามสำหรับผู้เยาว์   มีเสียงถกเถียงกันมานานถึงการปกป้องดูแลเด็กที่ยังไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองให้ไกลห่างการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางเพศ     แต่ภาพของเด็กๆใน campaign ของ  Balenciaga นั้นค้านความรู้สึกของผู้คนจำนวนมาก  กระทั่งแบรนด์เองก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ยอมรับแต่โดยดีว่า ไม่ควรจับเด็กๆมาถ่ายแบบกับกระเป๋าหมีพวกนี้ และรีบถอดภาพโฆษณาออกทันควัน   แต่แม้ว่าจะประกาศขออภัยในเรื่องภาพเด็กๆใน holiday campiagn ไปแล้ว  แต่ก็ยังมีเรื่องมัวหมองอีกอย่างที่แบรนด์ต้องชี้แจงให้ชัดเจน
นอกจากจะถูกวิจารณ์เรื่องกระเป๋าหมี  ตุ๊กตากระต่ายขาวที่ปรากฏในหลายภาพยังถูกเชื่อมโยงกับทฤษฎีสมคบคิดว่าเป็นสัญลักษณ์สุด dark อย่างมนตร์ดำ     อย่างเทปที่ติดคำว่า Baalenciaga  ที่มีคนเชื่อว่า ไม่ได้มาจากพิมพ์ผิด  แต่มาจากชื่อของ Baal เทพแห่งศาสนาคานาอันโบราณ ซึ่งสาวกได้จับลูกแท้ๆของตัวเองมาเผาทั้งเป็นเพื่อบูชายัญ


นี่จะเป็นการเชื่อมโยงเรื่องราวโดยอาศัยการมโนให้เข้ากับกระแสดราม่า หรือว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะเกิดจากความบังเอิญนี้มาจากความตั้งใจส่งสารผ่านสัญลักษณ์บางอย่างจริงๆ?






ชาวเน็ทฟันธง แบรนด์จงใจชัดด้วยการใช้เอกสารศาลที่ระบุถึงกฎหมาย child porn วางประกอบฉากโฆษณาอีกตัว

ชาวเน็ทได้โชว์ทักษะช่างสังเกตแบบ Sherlock Holmes ด้วยการซูมภาพจากอีก campaign ของ Balenciaga ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้เยาว์อยู่ในภาพนั้น แต่เอกสารที่ซ้อนกันที่ด้านล่างกระเป๋า Hourglass กลับพิมพ์ข้อความจากคำพิพากษาคดี United States v. William ในปี 2008 ที่ศาลสูงได้ตัดสินว่า กฎหมายของรัฐบาลกลางที่ห้ามไม่ให้เผยแพร่ child porn นั่นคือ การส่งต่อ จำหน่าย ขนส่งและแลกเปลี่ยน child porn ทั้งภาพของเด็กจริงๆและภาพที่สร้างขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจากการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 1 ซึ่งต้นเหตุของคดีมาจากการจับกุม Michael Williams ข้อหาเผยแพร่จัดหา child porn เมื่อสายลับได้สืบพบว่า เขาได้เสนอแลกเปลี่ยนภาพและวีดีโอของลูกสาวกับ userในห้องแชท และส่งลิงค์ภาพโป๊เปลือยของเด็กอายุ 5-15 ปีให้คนในห้องแชทตามไปชม และแม้ว่าเขาจะขออุทธรณ์ แต่ลงท้ายก็ถูกตัดสินจำคุก 60 เดือน

ข้อความเรื่องกฎหมาย child porn มาปรากฏในภาพโฆษณาของแบรนด์ดังระดับโลกได้เช่นไร? ชาวเน็ทก็เริ่มหนาวสันหลังขึ้นมา...





เมื่อเจอ clue แรก ก็ได้จุดประกายให้บางคนค้นหาสิ่งไม่ชอบมาพากลในภาพโฆษณาของ  Balenciga จนไปพบกับหนังสือประกอบฉากที่เผยชื่อ Michaël Borremans จิตรกรเจ้าของผลงาน  Fire From the Sun  ที่นำเสนอภาพเด็กๆวัย2-3ขวบที่ร่างกายเปลือยเปล่าโชกเลือด และจับชิ้นส่วนมนุษย์มาเล่นกัน  ข้อมูลนี้ยิ่งทำให้หลายคนมองว่า มันไม่ใช่แค่ความบังเอิญ แต่คล้ายกับ  Easter eggs  ในแบบฉบับหลอน   ซ้ำร้าย Balenciaga ก็ถูกผูกติดกับคำว่าโพรโมทการทารุณเด็กไปซะแล้ว! 


ช่างภาพแจง ไม่ได้เป็นเจ้าของไอเดีย  ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น

อีกคนที่ตกเป็นเป้าหมายการพิพากษาจากโลกออนไลน์คือ Gabriele Galimberti   ช่างภาพแห่ง holiday campaign ที่อื้อฉาวนี้   ชาวเน็ทจำนวนไม่น้อยได้ติดตามไปประนามเขาทาง Instagram ทั้งเหยียดว่าเป็นคนใคร่เด็กที่น่ารังเกียจ สมควรต้องตกนรก บางคนจับผิดสิ่งที่ดูผิดปกติในภาพ  กล่าวหาว่าเขาทิ้งสัญลักษณ์ที่แฝงไปด้วยเรื่องน่ากลัวในภาพของเด็กๆที่ควรจะเต็มไปด้วยความสดใสไร้เดียงสา และยังมีแฟนๆที่ติดตามผลงานของเขามานานแสดงความผิดหวังอย่างแรง

แต่ Gabriele ผู้มีประสบการณ์ถ่ายรูปเด็กมาสิบปีจากคอนเสปท์ Toy Stories ที่มี เอกลักษณ์จากการเรียงของเล่นของเด็กๆ (ตรงกับภาพโฆษณา Balenciga แต่เปลี่ยนจากของเล่นเป็นสินค้า luxury ของแบรนด์) ได้รับแรงกดดันจากข้อความเกลียดชังเป็นร้อยๆจนต้องใช้ social media ชี้แจงตัวเองว่า

  • เขาไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงในการแสดงความเห็นเรื่องตัวเลือกในการถ่ายทำ campaign นี้  ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสินค้าวางในฉาก หรือนางแบบนายแบบ
  • ผลงานนี้แสดงถึงสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาก็จริง  แต่เขาได้รับมอบหมายให้สร้างเสริมให้ฉากที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นดูน่าสนใจ ไม่ได้มีอำนาจในการเลือกสิ่งของที่ปรากฏในฉาก
  • เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ campaign ที่ปรากฏเอกสารทางศาล และมีคนเข้าใจผิดว่ามันเป็นมีความเชื่อมโยงกับผลงานของเขา ทั้งๆที่มันเป็นผลงานของช่างภาพคนอื่น


แต่ถึงเขาจะเปิดเผยถึงวิธีการทำงานภาพโฆษณาในเชิงพาณิชย์ว่าไม่สามารถโต้แย้งใดๆกับแบรนด์ได้ แต่หลายคนชี้ว่า เขาไม่มีสิทธิ์จะเลือก prop ประกอบการถ่ายทำได้ก็จริง แต่ก็มีสิทธิ์เต็มที่ในการถอนตัวออกจากงานนี้ เพราะไม่ว่าใครก็รู้ล่วงหน้าว่า ภาพเด็กกับกระเป๋าตุ๊กตาหมีพวกนี้จะไม่ลงเอยด้วยคำสรรเสริญเยินยอ แต่จะกลายมาเป็นความมัวหมองในชีวิตของการทำงานของเขาแทน แม้แต่แบรนด์เองก็ไม่สามารถหาคำอธิบายที่ฟังขึ้นได้ ต้องยอมรับผิดและขอโทษเพียงเท่านั้น


พ่อเด็กโต้ ชาวเน็ทตีความหมายของภาพคลาดเคลื่อนกันไปเอง

พ่อของเด็กคนหนึ่งจากโฆษณาได้เปิดใจกับ Daily Mail ไว้ว่า ดราม่าร้อนแรงเกิดจากการตีความหมายกันบิดเบือนไปเอง

"ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ยินดีจะสนับสนุนลูกให้เกี่ยวข้องกับสื่อลามกหรอก ผมคิดว่ากระแสในสังคมตอนนี้มันเป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่"


เขาได้ให้รายละเอียดเพิ่มว่า เด็กๆเป็นลูกของพนักงาน Balenciaga พวกเค้าถ่ายแบบกันอย่างสนุกสนานและพ่อแม่ที่เป็นคนเปิดไฟเขียวให้กับ campaign นี้ก็อยู่ในกองถ่ายกับลูกๆด้วย เขาจึงรู้สึกสงสารช่างภาพมากที่กลายเป็นเป้าโจมตีจากชาวเน็ท ทั้งๆที่แค่ทำงานตามที่แบรนด์มอบหมายมาเท่านั้น





 Kim K ออกโรงต่อต้านโฆษณา Balenciaga

แรงกดดันยังไล่ลามไปหา Kim Kardashian พันธมิตรอันทรงอิทธิพลของ Balenciaga เธอคือราชินี internet ที่มียอดผู้ติดตามหลายร้อยล้านและสร้างกระแสฮือฮาได้แทบทุกความเคลื่อนไหว หลังจากที่แบรนด์ดังตัดขาดกับ Kanye จากกรณีเหยียดชาวยิว Kim นับเป็นพลังผลักดันทาง PR ที่แสนสำคัญของ Balenciaga สัญญาการทำหน้าที่ brand ambassador ของเธอย่อมเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาวเน็ทเรียกร้องให้ Kim ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นภาพ holiday campaign สุดฉาว
 นอกเหนือจากนั้น   ยังมีคนรอคอยให้เธอแสดงความเห็นในจากทัศนคติของแม่คนอีกด้วย

ทั้งช็อคและสะพรึงจนต้องขอทบทวนความสัมพันธ์กับแบรนด์

"ที่ฉันเงียบไปในช่วงไม่กี่วันนี้ ไม่ได้ใช่เพราะว่า ฉันจะไม่รู้สึกรังเกียจและโกรธเกรี้ยวเรื่อง campaign ล่าสุดของ Baleciaga แต่เป็นเพราะฉันต้องการพูดคุยกับทีมงานของแบรนด์เพื่อจะสร้างความเข้าใจว่า เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร"

"ในฐานะที่เป็นคุณแม่ลูกสี่ ฉันรู้สึกสะพรึงกับภาพที่ชวนตระหนก จะต้องมีการรักษาความปลอดภัยของเด็กๆในระดับสูงสุด และความพยายามใดๆก็ตามที่จะทำให้การล่วงละเมิดเด็กเป็นเรื่องที่ดูปกตินั้นจะไม่เป็นที่ยอมรับจากสังคมอย่างเด็ดขาด"

"ฉันขอชมที่ Balenciaga ลบภาพพวกนั้นออกไปและประกาศขออภัย จากการพูดคุย ฉันเชื่อว่าพวกเค้าเข้าใจถึงความร้ายแรงในประเด็นนี้และจะใช้มาตรการที่จำเป็นต่างๆในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก"

"พูดถึงเรื่องอนาคตในการร่วมงานกับ Balenciaga ตอนนี้ฉันกำลังเประเมินความสัมพันธ์กับแบรนด์ใหม่ พิจารณาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเค้าที่จะแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่แรก และข้อปฏฺิบัติในการปกป้องเด็กๆที่จะเป็นไปตามที่ฉันคาดหวังหรือไม่"


แต่การออกมาตำหนิ Balenciaga ยังดูไม่เพียงพอกับชาวเน็ทบางคน พวกเค้าเรียกร้องให้  Kim ยุติสัญญาในการทำหน้าที่ brand ambassadorให้กับแบรนด์    และชี้ว่า เธอสร้างความร่ำรวยจนเป็นมหาเศรษฐีพันล้านแล้ว   ต่อให้ไม่เกี่ยวข้องกับ  Balenciaga อีกต่อไป ก็ยังมีอีกหลายแบรนด์ดังที่เต็มใจจะทุ่มเงินจ้างเธอมาร่วมงาน  ส่วนนางเอกA list อย่าง Nicole Kidman ก็เจอแรงกดดันให้ตัดความสัมพันธ์กับ Balenciaga เช่นเดียวกัน

 Balenciaga ให้คำมั่น

ดูเหมือนว่าแบรนด์ดังพยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ พวกเค้าตัดสินใจอธิบายเรื่องราวอีกครั้ง โดยยอมรับว่า campaign ที่นำเสนอภาพเด็กๆกับกระเป๋าหมีนั้น เป็นการตัดสินใจผิดพลาดและล้มเหลวในการประเมินและตรวจสอบภาพ มันจึงเป็นความผิดของ Balenciaga เพียงผู้เดียว แต่ภาพกระเป๋า Hourglass ที่วางใกล้เอกสารที่มีคำตัดสินของศาลสูงเรื่องกฎหมาย child porn นั้น มีกลุ่มบุคคลที่สามเป็นผู้จัดหาเอกสารนี้มาประกอบภาพ ซึ่งในตอนแรก คนกลุ่มนั้นได้ยืนยันว่ามันเป็นเอกสารสำนักงานที่ปลอมขึ้นมา แต่มันกลับเป็นเอกสารศาลจริงที่น่าจะถูกใช้ในการถ่ายทำละครโทรทัศน์มาก่อน (สื่อรายงานว่า Balenciaga ได้ยื่นฟ้องโพรดิวเซอร์ที่ปล่อยให้ปรากฏเอกสารนี้ในโฆษณา โดยที่แบรนด์ไม่รับรู้)

นี่คือคำแถลงการณ์ให้คำมั่นล่าสุดจาก Balenciaga

  • เรากำลังติดตามปรับปรุงแก้ไของค์กรอย่างใกล้ชิดและใช้วิธีการทำงานด้วยการร่วมมือร่วมใจกัน
  • เรากำลังเสริมสร้างประสิทธิภาพโครงสร้างในขั้นตอนการสร้างสรรค์งานและการตรวจสอบ เพื่่อจะสร้างความมั่นใจว่า การควบคุมดูแลรูปแบบใหม่จะเข้าถึงใจกลางที่สำคัญและป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำ
  • พวกเราวางรากฐานการทำงานพร้อมกับการร่วมงานกับองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในการคุมครองเด็กและวางเป้าหมายในการยุติปัญหาทารุณเด็กและใช้เด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์


เราต้องการจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดและค้นหาหนทางที่จะช่วยแก้ไข

Balenciaga ขออภัยอย่างจริงใจอีกครั้งที่ได้สร้างความกระทบกระเทือนใจ


แบรนด์ยังได้ขออภัยซ้ำอีกครั้งที่สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับคนในสังคม รวมถึงนางแบบนายแบบ,ศิลปิน และ partners อีกด้วย


 The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE