ลิปบำรุงมีกี่แบบ อยากปากนุ่มไม่แห้งแตกต้องเลือกแบบไหน

51 21
เชื่อว่าในยุคที่ยังมีทั้งโควิดและฝุ่น PM2.5 หลายคนก็ยังเลือกที่จะใส่แมสก์เวลาออกไปข้างนอก เพื่อนๆ หลายคนอาจเลือกใช้ลิปแมตต์หรือลิปทินต์เพื่อลดปัญหาลิปสติกเลอะแมสก์ แต่ก็กลายเป็นว่าพอใช้ติดต่อกันหลายวันก็ทำให้ปากแห้งแตก จะทาลิปอะไรก็ตกร่อง ดูไม่เรียบเนียนไปซะหมด! วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับลิปบำรุงว่ามีแบบไหนบ้าง แนะนำวิธีเลือกลิปบำรุงแบบต่างๆ รวมถึงแชร์ทริคง่ายๆ ในการดูแลริมฝีปากให้นุ่มน่าจุ๊บกันดีกว่าค่า

ปากแห้งเกิดจากอะไร


ริมฝีปากแห้งเป็นอาการที่ทุกคนจะต้องเจอไม่มากก็น้อย เพราะมันเกิดขึ้นได้ง่ายมากและบางทีเราก็ไม่สามารถป้องกันได้เสมอไป แต่ถ้าเรารู้สาเหตุว่าริมฝีปากแห้งสามารถเกิดจากอะไรได้บ้าง เราก็สามารถพยายามดูแลตัวเองได้ดีขึ้นได้จริงมั้ยคะ ซึ่งสาเหตุของอาการปากแห้งแตกที่พบได้ทั่วไป มีดังนี้

  • การเลียริมฝีปากบ่อยๆ 
  • สภาพอากาศหนาวเย็นจัด 
  • สภาพอากาศแห้งจัด 
  • ผลข้างเคียงของยาบางชนิด 
  • การทำร้ายจากแสงแดด 
  • การแพ้สารบางชนิดที่สัมผัสโดนโดยตรง เช่น จากยาสีฟัน หรือลิปสติก
  • โรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์ โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือการขาดวิตามินบางชนิด 
จะเห็นได้ว่าสาเหตุของปากแห้งแตกนั้นมีมากมาย ทั้งที่เราสามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอะไรก็ตาม การปล่อยให้ริมฝีปากแห้งแตกไว้นานๆ โดยเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลย ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตหรอก! แต่ก็อาจทำให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ยากขึ้น เพราะทำอะไรก็เจ็บไปหมด ไม่ว่าจะพูด กิน ดื่ม แถมจะทาลิปอะไรก็ไม่ติด ตกร่อง ไม่เรียบเนียน แล้วยังต้องใช้เวลานานกว่าจะกู้ปากให้กลับมานุ่มเนียนได้เหมือนเดิมอีกด้วย!

ดูแลปากยังไงให้นุ่มน่าจุ๊บุ


ริมฝีปากเป็นผิวหนังส่วนหนึ่งที่ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่ไม่ต่างกับส่วนอื่นๆ ของร่างกายเราเลย ถึงจะเรียกว่าเป็นผิวหนังแต่ริมฝีปากแตกต่างกับผิวหนังส่วนอื่นๆ ตรงที่ไม่มีต่อมน้ำมัน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมปากของเราถึงแห้งแตกได้ง่ายเสียเหลือเกิน แต่การดูแลริมฝีปากให้เฮลตี้ก็ทำได้ไม่ยากเลย ถ้าลองทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำให้ติดเป็นนิสัย รับรองว่าเตรียมบอกลาปากแห้งแตกไปได้เล๊ยย

สเต็ปที่ 1 ดื่มน้ำเยอะๆ


ทุกคนต่างรู้ดีว่าน้ำมีความจำเป็นต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายมากแค่ไหน หากร่างกายได้รับน้ำที่เพียงพอในแต่ละวันก็ทำให้การทำงานของระบบต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น รวมถึงช่วยคงความชุ่มชื้นของผิวและริมฝีปากไม่ให้เกิดอาการแห้งแตกที่เป็นผลมาจากการขาดน้ำอีกด้วย

สเต็ปที่ 2 เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก


นอกจากการดื่มน้ำให้เพียงพอแล้วก็ควรใช้ตัวช่วยอย่างลิปบำรุงเพื่อคอยเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากเป็นประจำทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปากเมื่อรู้สึกปากแห้ง เพราะน้ำลายมีเอนไซม์ในการย่อยอาหาร และเมื่อสัมผัสกับริมฝีปากจะยิ่งทำลายความชุ่มชื้นและทำให้ปากแห้งยิ่งขึ้นไปอีก ทางแก้ก็คือควรทาลิปบำรุงซ้ำบ่อยๆ หรือเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าปากเริ่มแห้ง

สเต็ปที่ 3 ขัดเมื่อจำเป็น

อาจมีบางครั้งที่ปากของเราแห้งลอกหนักซะจนการทาลิปบำรุงเพียงอย่างเดียวก็อาจเอาไม่อยู่ เมื่อนั้นการขัดริมฝีปากด้วยสครับน้ำตาลหรือใช้วาสลีนทาลงบนริมฝีปากแล้วใช้แปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วขัดเบาๆ ก็อาจช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่การสครับไม่จำเป็นต้องทำบ่อย แค่เพียงอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง หรือเมื่อปากมีอาการแห้งลอกก็พอแล้วค่า

สเต็ปที่ 4 ปกป้องจากแสงแดด


อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าริมฝีปากก็เป็นส่วนหนึ่งของผิวหนังเหมือนกัน นั่นก็หมายความว่าริมฝีปากที่ไม่ได้รับการปกป้องจากผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันแดด เมื่อโดนแดดบ่อยๆ ก็อาจทำให้ริมฝีปากคล้ำเสีย และยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังได้ไม่น้อยไปกว่าผิวบริเวณอื่นๆ เลย เพราะฉะนั้นจึงควรใช้ลิปบำรุงที่มีสารกันรังสียูวีที่มี SPF30 เป็นอย่างต่ำระหว่างวัน และทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมงเพื่อการปกป้องที่ครอบคลุมตลอดทั้งวัน

ปัญหาปากคล้ำเกิดจากอะไร


นอกจากปัญหาปากแห้งแตกแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนพบบ่อยไม่แพ้กันก็คืออาการปากคล้ำ ที่ทำให้หลายคนรู้สึกเสียความมั่นใจอย่างรุนแรงและไม่กล้าออกจากบ้านถ้าไม่ได้ทาลิปเพื่อช่วยกลบสีปากธรรมชาติให้เนียนสนิท เพื่อนๆ คงอยากจะรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง และมีวิธีไหนที่สามารถแก้ได้มั้ย เราไปดูกันเลยค้า

  • การสูบบุหรี่ 
  • การตั้งครรภ์ 
  • กรรมพันธุ์หรือเชื้อชาติ 
  • การทำร้ายจากแสงแดด 
  • การแพ้สารบางชนิดที่สัมผัสโดนโดยตรง เช่น จากยาสีฟัน หรือลิปสติก 
  • ผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะมิโนซัยคลิน (Minocycline) เป็นต้น 
  • โรคบางชนิด เช่น โรคแอดดิสัน (Addison’s Disease) เป็นต้น 

แก้ปากดำยังไงให้หายขาด


หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหลายสาเหตุที่ทำให้ปากแห้งแตกก็มีส่วนทำให้ปากคล้ำได้เหมือนกัน ไม่ว่าเป็นการแพ้สารบางอย่าง หรือ การละเลยการปกป้องริมฝีปากจากแสงแดด ซึ่งวิธีแก้ปัญหาริมฝีปากคล้ำก็รวมถึง 4 วิธีเบื้องต้นที่เราได้แนะนำไปแล้ว แต่อาจต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องดังต่อไปนี้ถ้าอยากให้ปากกลับมามีสีชมพูดูสุขภาพดีธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งลิปสติก!

  • เลิกสูบบุหรี่ 
  • ขัดริมฝีปากเป็นประจำทุกอาทิตย์อย่างสม่ำเสมอ 
  • ทาลิปบำรุงที่มีสารกันแดดเป็นประจำทุกวันอย่างเคร่งครัด และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง 
  • เลือกลิปสติกและลิปบำรุงที่ไม่มีสารทำให้เกิดการระคายเคืองง่าย 
  • การยิงเลเซอร์ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าปลอดภัยหรือไม่ 
สำหรับทริคในการเลือกลิปบำรุง อาจให้ความสำคัญกับการศึกษาฉลากอย่างละเอียดเพื่อเลือกลิปบำรุงที่มีส่วนผสมที่เรามั่นใจว่าจะไม่ทำให้แพ้แน่นอน และในตอนกลางวันควรเลือกทาลิปที่มีสารกันแดดอย่างน้อย SPF30 เป็นประจำเพื่อปกป้องปากไม่ให้คล้ำเพิ่มขึ้นไปกว่าเดิมค่า

ลิปบำรุงมีกี่แบบ


ลิปบาล์ม

ลิปบำรุงที่ทุกคนคุ้นเคยกันมากที่สุดก็คงจะไม่พ้นลิปบาล์มแน่ๆ เพราะใช้กันมาตั้งแต่สมัยวัยเรียน ลิปบาล์มส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อเรียบลื่นบางเบา เคลือบริมฝีปากเป็นเลเยอร์บางๆ ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่หนักหรือหนาข้นจนเกินไป แบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามการใช้งาน เช่น ลิปบาล์มมีสี ลิปบาล์มกันแดด ลิปบาล์มที่ทาแล้วทำให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น เป็นต้น

เหมาะกับใคร

  • คนที่กำลังมองหาลิปบำรุงริมฝีปากตอนกลางวันเพราะมีเนื้อที่ไม่หนักมาก 
  • เหมาะสำหรับทาก่อนลงลิปสติกเพื่อเติมความชุ่มชื้น ช่วยให้ทาลิปได้เรียบเนียนไม่ตกร่อง 
  • คนที่มีปากคล้ำเพราะสามารถกลบสีปากธรรมชาติได้ดีระดับนึง
  • ลิปบาล์มมีสีเป็นตัวเลือกสุดเพอร์เฟกต์สำหรับคนที่ชอบแต่งหน้าสบายๆ สไตล์ธรรมชาติ
ลิปมาสก์

ลิปมาสก์เป็นลิปที่ให้การบำรุงได้เข้มข้นกว่าลิปบาล์ม มีทั้งแบบที่เป็นแผ่นแปะทิ้งไว้ 10-15 นาที และแบบที่สามารถทาทิ้งไว้ข้ามคืนได้เลย ซึ่งแบบหลังส่วนใหญ่จะมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหนาข้นและอาจไม่เบาสบายปากเท่ากับลิปบาล์ม เพราะเค้าออกแบบมาเพื่อบำรุงริมฝีปากตอนกลางคืนในสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็นและแห้งจากเครื่องปรับอากาศ สามารถช่วยฟื้นบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตกให้กลับมามีสุขภาพดีชุ่มชื้นขึ้นได้ดีกว่าลิปบาล์ม

เหมาะกับใคร

  • คนที่มีปากแห้งแตกและต้องการการฟื้นบำรุงอย่างเข้มข้น
  • คนที่อยู่ในสภาพอากาศที่แห้งและหนาวเย็น
ลิปออยล์ 

ลิปออยล์คือไอเท็มที่เป็นที่สุดของการบำรุงริมฝีปาก เพราะสามารถให้การบำรุงได้อย่างล้ำลึกและเร่งด่วน มักผสานส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติชนิดต่างๆ เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้อย่างล้ำลึก ฟื้นบำรุงปากแห้งแตก ลอกเป็นขุยให้กลับมานุ่มชุ่มชื้นได้ทันทีที่ทา ทำหน้าที่เคลือบบำรุงและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนริมฝีปากได้ยาวนาน

เหมาะกับใคร

  • คนที่มีปากแห้งมากและต้องการการบำรุงที่เห็นผลลัพธ์แบบรวดเร็วทันใจ
  • คนที่ชอบให้ปากดูแวววาวชุ่มชื่น

ส่วนผสมที่ควรมองหา


นอกเหนือจากการเลือกชนิดของลิปบำรุงที่จะตอบโจทย์ความต้องการให้ตรงจุดแล้ว สิ่งที่ควรมองหาก็คือส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตกและสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า Hypoallergenic หรือได้ผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองง่าย โดยเฉพาะคนที่มีริมฝีปากคล้ำหรือผิวแพ้ง่ายค่า
 

ส่วนผสมที่ผิวแพ้ง่ายควรระวัง


สำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีปากดำคล้ำให้พยายามเลือกลิปบำรุงที่ไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย เพราะว่าหากเกิดอาการแพ้ก็ยิ่งทำให้ริมฝีปากแห้งแตกและมีสีคล้ำลงกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าส่วนผสมดังต่อไปนี้เป็นส่วนผสมต้องห้าม เพราะคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีผิวแพ้ง่ายก็ยังสามารถใช้ลิปบำรุงที่มีส่วนผสมเหล่านี้โดยไม่มีปัญหาอะไร ทางที่ดีก็ควรลองเทสผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่าทำให้เกิดอาการแพ้หรือไม่ค่า

พอได้รู้ทริคในการเลือกลิปบำรุงให้เหมาะกับความต้องการของตัวเองแล้วก็ถึงเวลามองหาไอเท็มที่ใช้แล้วว้าวกันต่อเลย ในโพสต์หน้าเราจะมาแชร์ลิปบำรุง 10 ตัวเด็ดที่มีรีวิวว่าปังสุดๆ มาให้ทุกคนกันค่าา ถ้าใครมีทริคอื่นๆ ในการบำรุงริมฝีปากให้นุ่มน่าจุ๊บก็มาแบ่งปันกันได้น้า เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆ ได้ไปลองทำตามกันบ้างค่าา


wararatlw

wararatlw

FULL PROFILE