7 ทักษะและเรียนรู้การตลาดแบบ Emily Cooper

43 15

Emily in Paris ถือว่าเป็นซีรีย์ที่กระแสดีไม่มีตกแต่อย่างใด ด้วยตัวละครอย่าง Emily Cooper นักการตลาดสาวอเมริกันที่ได้มาทำงานในเมืองปารีสเมืองแห่งน้ำหอม และฝนเชื่อว่าอาชีพนี้ยังเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันของสาวๆหลายคน แถมยังได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังสุดหรูอีกมากมาย นอกจากนี้เอมิลี่ไม่ได้เป็นแค่นักการตลาดอย่างเดียว นางยังได้เป็นอินฟลูเอนเซอร์อีกด้วยนะคะ(อย่าพึ่งเบื่อฝนนะคะ ฝนกำลังบ้าซีรีย์เรื่องนี้อยู่ค่ะ😂) แต่...ถ้าเราอยากเป็นนักการตลาดหรือเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ดีและเก่งแบบเอมิลี่ ต้องทำยังไงบ้าง???? เพราะฉะนั้นวันนี้ฝนเลยได้หาข้อมูลมาให้สาวๆเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ เตรียมสมุด ปากกาจดไว้ได้เลยยย

เริ่มแรกมาเรียนรู้การเป็นอินฟลูเอนเซอร์แบบเอมิลี่ คูเปอร์ กันก่อนค่ะ จากในภาพจะเห็บได้ว่าเอมิลี่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมงาน Duree Cosmetics ซึ่งคอนเทนต์ของเอมิลี่ คือ การทานเบอร์รีจาก Backdrop และ จุดขาย คือ ลิปสติกที่ติดทนไม่มีหลุด ซึ่งจากฉากนี้แสดงให้เห็นว่าเอมิลี่ ได้มีความคิดสร้างสรรค์จากการสังเกตสิ่งรอบตัวและนำมาปรับใช้ในคอนเทนต์ของตัวเองทำให้เป็นที่แตกต่างจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นๆ งานนี้ทำให้คอนเทนต์ของเอมิลี่เป็นที่สะดุดตาแก่เจ้าของ Duree Cosmetics นั่นเองค่ะ

ข้อสรุปของการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ แบบเอมิลี่ คูเปอร์

  1. ความเป็นตัวเอง

  2. เนื้อหาต้องสั้น กระชับ แบะ น่าสนใจ

  3. เนื้อหาต้องแตกต่างจากคนอื่น

  4. ต้องรู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับสินค้าที่เราจะนำเสนอ

ต่อมาก็เป็นนักการตลาดที่น่าสนใจเหมือนเอมิลี่ คูเปอร์ จากในภาพฉากนี้คามิลล์เพื่อนของเอมิลี่ได้ขอร้องให้เอมิลี่ช่วยโปรโมตและทำยอดขายแชมเปญและจัดการกับองุ่นที่ไม่ผ่านการคัดมาใช้ประโยชน์กันค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็มาแยกและการคิดวิเคราะห์ของฉากนี้กันนะคะ

เป้าหมาย คือ การเพิ่มยอดขายของแชมเปญ

ปัญหาที่ต้องแก้ไข คือ จัดการกับองุ่นที่ไม่ผ่านการคัดสรรค์

วิธีการจัดการแก้ไขปัญหา คือ นำเศษองุ่นที่ไม่ผ่านการคัดสรรค์ มาทำเป็นแชมเปญอีกขวดสำหรับเขย่าและเปิดฟองฟู่ขึ้นมาโดยเฉพาะและไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงรสชาติค่ะ

***สิ่งสำคัญ***
เราต้องคอยสังเกตสิ่งรอบตัวอยู่เสมอและค่อยหยิบมาสร้างสรรค์แต่งเติมค่ะ


สุดท้ายนะคะ ก็มาถึง 7 ทักษาะของการเป็นนักการตลาดแบบ เอมิลี่ คูเปอร์ ที่ต้องมีกันค่ะ

  1. เข้าใจลูกค้า (Customer Knowledge)
    ​= นักตลาดในปัจจุบันจำเป็นต้องรู้ว่า ลูกค้าต้องการอะไร? Pain Points คืออะไร? และเข้าใจว่าอะไรจะตอบสนองความต้องการ? การตอบปัญหาเหล่านี้ได้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางแผนการตลาด

  2. การเล่าเรื่อง (Storytelling)
    ​= ทุกคนชอบเรื่องราวดี ๆ การใช้ทักษะการเล่าเรื่องจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้นักการตลาดขายของได้ พร้อมทั้งการอ้างอิงด้วยตัวเลข และข้อมูลที่มีนำไปสู่การขายไอเดียที่ดึงดูดลูกค้า

  3. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
    = การตลาดเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ทั้งนั้น การเสียเวลาไปกับการวางแผน ทำงานให้ทันเวลา หรือจัดตารางเวลานั้นไม่ทำให้งานของคุณโดดเด่นที่สุด การมองหาไอเดียที่แปลกใหม่ต่างหากที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพนี้

  4. การทำงานเป็นทีม ((Team Player)
    = There is no “I” in Team” หมายถึง การทำงานเป็นทีม ต้องไม่สนใจแต่ตัวเอง แต่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม นักการตลาดไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ แต่จำเป็นต้องสื่อสาร และทำงานกับหลายทีมในองค์กรถึงจะสามารถทำงานสำเร็จได้

  5. การเขียนโฆษณา (Copywriting)
    = ไม่ว่าเนื้อหาของโฆษณาจะดีขนาดไหน แต่การเขียนแคปชั่นให้ดึงดูดและตอบโจทย์เป้าหมายมากที่สุดถึงจะประสบความสำเร็จ เน้นทำให้อ่านง่าย สั้น กระชับ ได้ใจความมากที่สุด

  6. การสื่อสาร (communication)
    = นักการตลาดจำเป็นต้องศึกษาวัฒนธรรมของบริษัท เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า เพื่อที่จะสามารถสื่อสารงานได้อย่างไม่ติดขัด และทำให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

  7. การจัดการกับเวลา (Time Management)
    = การทำงานด้านการตลาดเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และหาแรงบันดาลใจอยู่ตลอด แต่อย่าลืมว่าเราต้องมีชีวิตส่วนตัวของเราด้วย ควรจัดสรรเวลาเพื่อดูแลตัวเอง และแยกเวลางานกับเวลาส่วนตัวให้ออกเราถึงจะมีความสุขกับชีวิตแบบ Work Life Balance แบบเต็มที่

แหล่งอ้างอิง : https://www.facebook.com/493203527817609/posts/1028946564243300/?d=n

https://techsauce.co/connext/career-insight/7-skills-for-marketer-from-emily-in-paris-series










หวังว่ากระทู้นี้คงเป็นประโชน์สำหรับสาวๆนะคะ หากฝนสรุปมาผิดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ


Rainnf1994

Rainnf1994

💕 Beauty | Lifestyle | Cafe
🍋 Lemon8 : @Rainofstories
🖤 TikTok : Rainofstories

FULL PROFILE