เกิดอะไรขึ้นกับJake Gyllenhaal เมื่อTaylor Swift ปล่อย All too well เวอร์ชั่นยาว

53 14


All Too Well อาจจะไม่ใช่เพลงที่ผู้คนที่อยู่นอก fandom ของ Taylor Swift คุ้นหูเท่ากับอีกหลายเพลงฮิตติดชาร์ทของเธอ  แต่ก็อาจจะมีผู้ที่เคยจดจำได้ว่า เคยมีผู้วิเคราะห์เนื้อหาของเพลงจนสามารถ ID อดีตคนรักที่เธอกล่าวถึงจะต้องเป็น Jake Gyllenhaal พระเอกหนุ่มหล่อคมเข้มที่เคยควงคู่กันราวๆ 2-3 เดือนในปี 2010 แล้วก็มีข่าวเลิกรากันในช่วงวันคล้ายวันเกิดครบ 21 ของเจ้าหญิงเพลงcountry  


ในขณะนั้น   อาจจะมีผู้มองว่า  ความสัมพันธ์ของพวกเค้าอยู่ในระดับ fling ตามประสาคนดังสุด hot ที่ควงกันแบบไม่จริงจัง   แต่สองปีจากนั้น   Taylor ก็ได้ปล่อย  Red    อัลบั้มที่บรรจุเพลงที่สร้างจากแรงบันดาลใจในความสัมพันธ์ในอดีต   โดยที่เจ้าตัวอธิบายว่า มันคืออัลบั้มอกหักล้วนๆ    กวาดทั้งยอดขายหลายล้านและรางวัลชั้นนำจากหลายเวที

แม้All Too Well จะทำให้หลายคนะมั่นใจว่า Jake คือชายหนุ่มที่หักอก Taylor อย่างแรง แต่พระเอก A-List ผู้นี้ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันของแฟนๆ Taylor มากนัก นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า ไม่ว่าจะอยู่วัยใด การเลิกราคือสิ่งที่อยู่คู่กับความสัมพันธ์ ทั้งเนื้อหาของเพลงก็ไม่ได้โจมตีอีกฝ่ายอย่างโจ่งแจ้ง แต่เป็นการระบายความรู้สึกอันแสนเจ็บปวดจากรักร้าวฝังใจ


แต่อีกสักพัก RadarOnline สื่อแทบลอยด์ชื่อดังก็ทำให้แวดวงกอสสิปฮือฮาด้วยการปล่อยข่าวว่า Taylor เสียความบริสุทธิ์กับ Jake และเกิดความคาดหวังล้นเหลือจนเชื่อว่า ในอนาคตจะได้แต่งงานกัน  แต่เมื่อความสัมพันธ์มีปัญหา เขากลับหนีหน้าไปจากเธอเฉยๆ ทั้งๆที่รับปากว่าจะมาร่วมพาร์ตี้ย์วันเกิดครบรอบ 21 ปี แต่เมื่อถึงวันงาน เขากลับไม่ติดต่อมาหา จนเธอคิดไปว่า เป็นการแกล้งให้เซอร์ไพรส์ภายหลัง เมื่อรู้แน่ว่า รอยังไง Jakeก็ไม่มา Taylor จึงขังตัวเองในห้องน้ำร้องห่มร้องไห้ด้วยอาการใจสลาย



นั่นทำให้แฟนๆของTaylor หรือ Swifties จำนวนไม่น้อยออกอาการหมั่นไส้พระเอกแห่ง Brokeback Mountain พิสูจน์ได้จากเหตุการณ์ในปีที่แล้ว เมื่อ Jake โชว์ภาพสมัยเด็กของตัวเองที่เป็นเด็กชายใส่แว่นตาอันโต ก็ทำดึงดูดให้ Swifties เข้าไปจิกกัดว่าเขา 'มั่นหน้ากล้าโพสต์' โดยไม่หวั่นเกรงว่าจะถูกรุมถล่ม และล้อเลียนเขาด้วย เนื้อเพลง All Too Well ที่บรรยายถึงอดีตคนคนรักที่เคยเป็นเด็กแว่นมาก่อนเกลื่อนโพสต์นั้น


Taylor ยังได้เล่าถึงเหตุการณ์ถูกแฟนหนุ่มปล่อยให้รอเก้อในพาร์ตี้ย์ผ่านเพลง The Moment I Knew แต่ไม่มีการถ่ายทำ MV เพื่อโพรโมทเพลงนี้เพิ่มเติม

จะมีใครคาดคิดล่ะว่า ข่าวซุบซิบในแทบลอยด์จะปรากฏอยู่ในฉากหนังสั้นประกอบเพลง All Too Well เวอร์ชั่นยาว10 นาทีในอีกหลายปีต่อมา!   


ชื่อ Jake  กลายเป็น  trending  

ถูกตามหลอนด้วยข้อหา abusive, toxic และ gaslighting  


reaction จากชาวเน็ทต่อหนังสั้นประกอบเพลง All Too Well ที่ Taylor แสดงในรายการ SNL นั้นดูแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่มีคนเห็นพ้องต้องกันก็คือ ไม่ว่าจะตีความยังไง คนที่ถูกพูดถึงในเพลงนี้ก็ต้องเป็น Jake โดยที่ไม่ต้องเป็นคนตาไวจนพบคำบอกใบ้ หรือ Easter egg ที่แฝงในหนังเรื่องนี้ เพียงแค่ได้เห็นพระเอก Dylan O'Brien ในลุคหนวดเคราเข้มและหมวก beanie อันเป็นสไตล์ประจำตัวของ Jake ก็ทำเอาหลายคนฟันธงว่าใช่แน่!

แม้ว่าทั้งคู่จะจบกันไปแล้วยาวนานเกินสิบปี แต่บทบาทแฟนหนุ่มใจร้ายของ Dylan ก็ทำให้บรรดาชาวเน็ทวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของ Jake จนทำให้ชื่อของเขาติด trending ในแง่มุมที่ไม่ดีนัก 

ช่วงที่คบกันในปลายปี 2010 Taylor มีอายุเพียง 20 ปี ยังมีภาพลักษณ์ของสาวมหัศจรรย์ที่สดใหม่ในวงการ เมื่อเธอยิ้มร่าควงแขนพระเอกหนุ่มที่แก่กว่า 9 ปี สื่อก็แข่งขันเพื่อติดตามหาแหล่งข่าวกันให้วุ่น แต่ก็ยังหาภาพตอนที่พวกเค้าใช้เวลาอยู่ด้วยกันยาก นอกจากภาพ Taylor นัดshopping กับพี่สาวของ Jake และภาพที่ชาวเน็ทพบกับคู่นี้ตัวเป็นๆในคาเฟ่ ทำให้คนนอกคาดเดาไม่ถูกว่า พวกเค้ามีความสัมพันธ์จริงจังมากเพียงใด รู้ตัวอีกที ก่อนจะสิ้นปีก็มีข่าวเลิกราออกมาแล้ว


เมื่อ Taylor ปล่อย All Too Well เวอร์ชั่นปกติออกมาในปี 2012 ก็ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุรักร้าวอย่างแน่ชัด นอกจากการร้อยเรียงถ้อยคำเพื่อถ่ายทอดความเจ็บปวดที่ยังฝังลึกในจิตใจ เธอยังได้พูดถึงอีกฝ่ายที่ยังระลึกถึงความไร้เดียงสาและกลิ่นของเธอจนเก็บผ้าพันคอของเธอไว้ ไม่ยอมส่งกลับคืน

แต่ All Too Well เวอร์ชั่นยาว ได้เผยถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเค้าต้องจบกัน

นั่นคือ วัยที่แตกต่าง

Taylor บรรยายคำพูดของอีกฝ่ายที่บอกว่า หากอายุของพวกเค้าใกล้เคียงกันกว่านี้ ทุกอย่างอาจจะลงตัว ซึ่งมันทำให้เธอร้าวรานใจแทบตาย แต่เธอยังกรีดด้วยเนื้อเพลงที่เจ็บแสบว่า ในวันข้างหน้า เธอจะอายุมากขึ้น แต่คนรักของเขา ก็ยังจะเป็นสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธออยู่ดี!


ในจุดนี้ทำให้ชาวเน็ทยกให้ Tay เป็นตัวแม่ของความ savage เพราะแม้ว่า ในเวลานั้น Jake จะไม่ได้เป็นชายรุ่นราวคราวพ่อที่ควงกับสาวเอ๊าะที่เห็นกันดาษดื่นใน Hollywood แต่เขาก็ถูกโจมตีว่า ใช้ความเจนโลกดึงดูดให้สาวๆอายุน้อยลุ่มหลงมาแล้วหลายคน อาจจะไม่ฉาวโฉ่จนชื่อเสียงเสียหายเหมือนกับ John Mayer แต่หากเขาใช้เหตุผลเรื่องอายุที่ห่างกันเป็นเหตุผลที่ความสัมพันธ์ไปไม่รอดจริงๆ ก็ไม่ควรควงคู่กับเธอตั้งแต่แรก ชาวเน็ทหลายคนมั่นใจว่า เขาได้ใช้สถานะพระเอกดังหว่านเสน่ห์ใส่สาวๆ แล้วปั่นหัวพวกเธอให้เชื่อว่ารัก แล้วทอดทิ้งไปง่ายๆเหมือนที่ Taylor เจอ



แต่ Jake เป็นแฟนหนุ่มที่ abusive ทางอารมณ์ จนทำให้ความสัมพันธ์เป็นพิษจริงหรือ?

ถึง internet จะเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์ว่าJakeช่างย่ำแย่เป็นศัตรูของผู้หญิง แต่ก็มีผู้ทักท้วงว่า เรากำลังชมผลงานของศิลปินที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกจากประสบการณ์ในอดีตโดยที่ยังไม่ได้รับรู้เรื่องราวจากอีกฝ่ายที่ถูกพาดพิง และดนตรีไม่ได้ถูกนำเสนอในรูปแบบของสารคดีที่ต้องใช้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมาสร้างสรรค์ทั้งหมด จะแน่ใจเต็มร้อยได้เช่นไรว่า Jake คือผู้ชายร้ายกาจที่สมควรเจอคำประนาม

ศิลปินนักแต่งเพลงหลายคนอาจจะนำเรื่องราวความรักมาเขียนเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง แต่ไม่ถูกกล่าวขวัญในแง่ scandal เพราะไม่มีการบอกใบ้ในรูปแบบของ blind item ให้ผู้คนคอยคาดเดา หนังสั้น+เนื้อเพลงอาจจะทำให้ชาวเน็ทจำนวนรับไม่ได้กับพฤติกรรมผู้ชายที่ไม่แคร์ความรู้สึกของสาวคนรัก และยังมีคนที่อินกับเรื่องราวเพราะเคยผ่านประสบการณ์เดียวกันมาก่อน อย่างการขึ้นเสียงทะเลาะกัน หลังจากฝ่ายชายไม่ยอมพูดคุยกับเธอหรือแม้แต่สบตาในขณะที่กำลังสนทนากับเพื่อนๆวัยเดียวกันอย่างสนุกสนาน เมื่อพยายามจับมือเพื่อเป็นกำลังใจ ก็ถูกจับออกอย่างไม่สนใจใยดีนัก หรือจะเป็นคำพูดสร้างความหวังว่า มองเห็นอนาคตที่มีเธออยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเธออย่างให้ความนับถือนัก






อย่างไรก็ตาม เพลงนี้ไม่ได้กล่าวถึงความเจ็บปวดของเธอเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่เธอยังได้ตั้งคำถามถึงอีกฝ่ายในเนื้อเพลงว่า ยังจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีไม่ต่างกับเธอ และความรักครั้งนั้นได้ทำให้เขาเจ็บปวดเช่นกันหรือไม่


ชาวเน็ทบางคนชี้ว่า ความรักที่คนทั้งสองเข้ากันไม่ได้จนนำไปสู่จุดจบที่ไม่สวยงาม ไม่ได้แปลว่า ฝ่ายชายจะ toxic หรือเป็นผู้ร้ายเกินให้อภัยเสมอไป ที่สำคัญ แม้จะได้ชมหนังสั้นและฟังเพลงเวอร์ชั่นยาว ก็ไม่ได้หมายความว่าคนนอกอย่างเราจะมองทะลุทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ครั้งนั้น




ชาวเน็ทจิกกัด  ฝ่ายชายนิยมเคี้ยวหญ้าอ่อนเหมือน Leonardo 


casting หนังสั้นคือเรื่องหนึ่งที่ทำให้ชาวเน็ทมั่นใจว่า Taylor ต้องการชูประเด็นเรื่องความแตกต่างทางอายุ เห็นกันอย่างแจ่มแจ้งจาก Dylan O'Brien(30) และ Sadie Sink (19) อายุที่แตกต่างกัน 11 ปี ทั้งใกล้เคียงกับอดีตรักของ Taylor และยังเลือกนางเอกที่มีรูปร่างหน้าตาอ่อนวัยกว่าอายุจริง จากความเคยชินของผู้ชมที่ติดตามภาพลักษณ์ใสๆจากStranger Things เมื่อมาจับคู่กับหนุ่มวัยฉกรรจ์มาดเข้มแล้วยิ่งดูเป็นรักต่างวัย เกิดเป็นเสียงโจมตี Jake ว่า อยู่ในกลุ่มพระเอกทรงอิทธิพลที่นิยมออกเดทกับสาวอายุห่างกันมากๆ ไม่ต่างจาก Leonardo
 

คุณอาจจะจำได้ว่า ในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ     Leo เคยถูกพิธีกรปากกล้าจิกกัดด้วยมุกตลก  ประวัติศาสตร์การ'กินเด็ก'    แต่สำหรับ Jake   เขาเคยมีความสัมพันธ์กับดารานางแบบมาหลายคน  ทั้งนางเอกรุ่นพี่อย่าง Reese Witherspoon   หรือ  Ruth Wilson และ Natalie Portman  ที่อายุใกล้เคียงกัน     แต่อีกหลายรายก็มีอายุน้อยกว่า  เพียงแต่ไม่ได้มี gap ที่ห่างกันเกินสิบหรือยี่สิบปีเหมือนกับ Leo    แต่เมื่อมีข่าวJakeควงกับนางแบบ Sport Illustrated และ Victoria's Secret     ก็ทำให้พระเอกทั้งสองถูกจับมาเปรียบเทียบกันจนได้

เมื่อเขาคบหากับ Jeanne Cadieu นางแบบชาวฝรั่งเศที่อายุน้อยกว่า15 ปีก็ได้ จุดประกายกระแสวิจารณ์ทันที เพราะตอนที่ข่าวรั่วไหลมาถึงสื่อ เธอเพิ่งจะมีอายุ 22 ห่างจาก Taylor ในช่วงอดีตรักไม่มากนัก พวกเค้ารักกันมาได้ 3 ปี Jake ที่มักเก็บเรื่องความรักไว้ส่วนตัวก็ตัดสินใจเปิดตัวแฟนสาวด้วยการควงคู่ออกงานด้วยกัน


แม้จะคู่รักต่างวัย (ที่ผู้ชายแก่กว่ามาก)จะถูกมองเป็นเรื่องปกติของวงการบันเทิง ยิ่งฝ่ายชายอายุมากขึ้น แฟนสาวก็ยิ่งเด็กลงไป แต่ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า Jake ใช้สรรพนามเรียก Tom Holland ว่า 'เจ้าหนู' หรือ 'เด็ก' ในขณะที่แฟนของเขามีอายุเท่ากับ Tom ที่ยังรับบทหนุ่มมัธยมได้สบายๆ

แหล่งข่าววงในกระซิบบอกกับ US Weekly ว่า แฟนสาวของ Jake มีความเป็นผู้ใหญ่มากสำหรับคนอายุเท่านี้ ทั้งฉลาดเฉลียวด้วยโพรไฟล์การศึกษาที่มหาวิทยาลัย Columbia และพวกเค้าก็กำลังมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง



ในโลกออนไลน์ยังมีการถกเถียงต่อประเด็นความสัมพันธ์ระยะสั้นๆที่ส่งผลกระทบต่อตัวตนของศิลปินดัง แม้Taylor จะเคยเปิดเผยมาก่อนว่า นี่เป็นเวอร์ชั่นดั้งเดิมก่อนจะตัดทอนเนื้อร้องออกไปเพื่อนำมารวมในอัลบั้ม Red แต่เมื่อเธอเลือกสร้างหนังสั้นเพื่อขยายความให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งยังลงมือเขียนบทและกำกับหนังเอง ก็มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า เธอได้ move on ไปจากรักในอดีตอย่างหมดจดไม่ติดค้างใดๆแล้วหรือว่ายังฝังใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวัยยี่สิบอยู่? ทั้งคู่ต่างทำความรู้จักครอบครัวของอีกฝ่าย ไม่น่าแปลกใจว่า หญิงสาวที่ไม่มีประสบการณ์ความรักมากนักจะคาดหวังถึงอนาคตร่วมกัน เมื่อไม่เรื่องราวลงเอยที่ตรงกันข้ามจึง hurt หนัก




หลายคนชี้ว่า ความรักของTaylor และแฟนหนุ่มชาวอังกฤษ Joe Alwyn ยังไปได้สวย และเขายังเป็นแฟนในวงการที่คบหากันมานานที่สุด วันเวลาที่เปลี่ยนไปทำให้ต่างฝ่ายก็เติบโตขึ้น นี่อาจจะไม่ใช่การคร่ำครวญถึงความเจ็บปวดที่ถูกหักอกเหมือนกับตอนที่ปล่อยเพลงเวอร์ชั่นเดิมออกมาเมื่อปี 2012 แต่น่าจะมาจากความตั้งใจของเธอที่ได้รับเสียงเรียกร้องจากแฟนๆให้เผยเพลงฉบับเต็ม ตามที่เธอยืนยันไว้ว่า รับฟังความเห็นของแฟนๆเสมอ

อีกประการหนึ่ง ก็คือความเชื่อของชาวเน็ทที่ว่า นี่คือแผนการธุรกิจแบบ savvy ของ Taylor ที่ประสบความสำเร็จเสมอ นั่นคือการถ่ายทอดประสบการณ์จาก Easter egg ที่ทั้งสร้างความฮือฮาและทำให้แฟนๆมีส่วนร่วมในการค้นหาความหมายของสัญลักษณ์ที่เธอทิ้งไว้ในดนตรีและMV นั่นเอง แม้จะไม่เคยประกาศชื่อของชายหนุ่มผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงาน แต่แฟนของเธอก็ขยันหาข้อมูลจนเจอตัวได้เสมอ



Swifties ถล่ม Instagram Jake 


เนื้อเพลง All Too Well ที่พูดถึงผ้าพันคอที่ Taylor ทิ้งไว้ในบ้านของพี่สาวอดีตแฟนหนุ่ม ได้กลายมาเป็นหัวข้อสร้างความเฮฮาของชาวเน็ทที่คอยทวงถาม Jake ให้คืนผ้าพันคอผืนนั้นให้เจ้าของไปได้แล้ว! แต่เมื่อ Taylor สร้างหนังสั้นขยายความให้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น จากเดิมที่เธอไม่ได้พูดถึงสีของผ้าพันคอเจ้าปัญหา



ภาพผ้าพันคอสีแดงสดของนางเอกในหนัง All Too Well ทำให้ชาวเน็ทหลายคนมั่นใจว่ามาจากความจงใจบอกใบ้ด้วยสี ยิ่งซูมภาพผ้าพันคอเน้นชัดๆก็ทำให้หลายคนคิดถึงข่าวลือเมื่อหลายปีก่อน จากคำกล่าวอ้างจากแทบลอยด์รายงานว่า Jake คือผู้ชายคนแรกของเธอ สอดคล้องกับสีแดงที่สื่อแทนพรหมจรรย์ สีของ cherry ที่ถือเป็นผลไม้ต้องห้าม เป็นสัญลักษณ์ของเรื่องเพศ มันถูกนำเปรียบเปรยกับการเสียความบริสุทธิ์ของผู้หญิง จาก slang ว่า pop (one's) cherry ที่หมายถึงการร่วมรักกับสาวบริสุทธิ์ ซึ่งสื่อถึงเยื่อพรหมจรรย์ที่ฉีกขาดนั่นเอง


"ตกลง..ใช่หรือไม่ใช่นะ?!" คำถามนี้ดังกระหึ่มsocial media

Taylorได้บอกใบ้ถึงข้อมูลสุดส่วนตัวนี้จริงๆรึเปล่า คุณคงอยากรู้เช่นกัน!




หลังจากแยกทางกันไปแล้ว Jake เคยหยิบผ้าพันคอลวดลายสีสันเดียวกันกับผืนที่ Taylor เคยใช้มาสวมใส่ด้วยท่าทางร่าเริง (แม้จะไม่ใช่สีแดง) บวกกับคำยืนยันจากเนื้อเพลง All Too Well ที่พรรณนาถึงผู้ชายที่ไม่ยอมคืนผ้าพันคอให้เธอเพราะยังตราตรึงใจกับกลิ่นสาวใสซื่อ ก็ยิ่งทำให้แน่ใจว่า คนที่หักอกเธอแล้วยังไม่คืนผ้าพันคอให้ย่อมเป็น Jake อย่างแน่นอน ช่วงหลายปีมานี้ ชาวเน็ทจึงคอยแซวและทวงถามให้ Jake คืนผ้าพันคอให้เธอไปซะที แม้แต่คุณพี่สาวก็ถูกตั้งคำถามถึงผ้าพันคอบ่อยครั้งจนงุนงง

แต่เมื่อ All Too Well กลายเป็นประเด็นร้อนระดับ break the internet ทัวร์ Switties จึงลง Instagram ของ Jake ตามที่มีการคาดการณ์ไว้ เจ้าตัวยังปล่อยกล่องคอมเมนท์ไว้ ทำให้มีคนหลั่งไหลเข้าไปต่อว่าต่อขาน ที่จริงแล้ว หลายคนเข้าไปดักรอก่อนที่Taylor จะปล่อยเพลงเวอร์ชั่นเต็มออกมาซะอีก

เมื่อข้ามไปที่Twitter สารพัด meme ก็ถูกปล่อยมาไม่ยั้ง  โชว์อารมณ์ขันอย่างเจ็บแสบไม่น้อยหน้ากัน

 


Jake ยัง OK  


แม้ internet จะล้อเลียนว่าพระเอกดังจะต้องจุกอกกับดราม่าจนอาจจะถึงขั้นไม่อยากสู้หน้าสาธารณชน แต่เมื่อเขาปรากฏตัวในอีเวนท์เพื่อประกาศรางวัลผู้กำกับดาวรุ่งจาก Hamilton Behind the Camera Awards ซึ่ง Maggie พี่สาวของเขาเป็นผู้ชนะในสาขานี้ สื่อก็ได้จับตามองปฏิกิริยาว่าจะมีสัญญาณของผู้ที่แบกรับความกดดันอันหนักหน่วงหรือไม่

แต่ผู้ร่วมงานก็ได้กระซิบบอกสื่อว่า Jake มีท่าทางสบายๆ ดูอารมณ์ดีและให้ความสำคัญกับความสำเร็จของพี่สาวมากกว่าเรื่องอื่น ส่วน E! News ได้รายงานจากแหล่งข่าวคนวงในว่า Jake ไม่สนใจดราม่านี้แต่อย่างใด เขาไม่อ่านข่าวกอสสิปและไม่ใส่ใจกับเสียงซุบซิบนินทา

ที่ผ่านมานั้น เขาเคยถูกนักข่าวตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับนักร้องสาวผู้โด่งดังมาแล้ว แต่เจ้าตัวแสดงท่าทางกระอักกระอ่วนใจ และไม่ยอมตอบว่าเคยฟังเพลงของ Taylor หรือไม่ ในที่สุดก็บอกปัดว่า ขอไม่พูดเรื่องส่วนตัวจะดีกว่า ทั้งๆที่ผ่านมา Jake ก็เคยพูดถึงอดีตสาวคนรักคนอื่นๆมาก่อน และยังมีคนที่คบหาเป็นเพื่อหลังจากเลิกรากันอีกด้วย



สารจาก Taylor 


เคยเศร้าเสียใจอย่างแรง แต่การปล่อยผลงานดนตรี remastered ครั้งนี้ชิลสุดๆ




ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการ Late Night with Seth Meyers เมื่อพิธีกรดังปรารถว่า จะมีใครบ้างที่ระแวงว่า จะเป็นเขารึเปล่าที่ Taylor พูดถึงในเพลง เธอจึงแสดงให้ความเห็นอย่างไม่แยแสว่า จริงๆแล้ว ไม่ได้นึกถึงความคิดของคนพวกนั้นแต่อย่างใด


 "ในตอนนั้น ฉันเศร้าเสียใจมากๆค่ะ เพราะฉันต้องเผชิญกับเรื่องราวที่ได้ถ่ายทอดผ่านการขับร้องเพลงจริงๆ   แต่ในตอนนี้  ฉันมีแว่นตากันแดดและถือโมฮิโตในมือเตรียมพร้อม คราวนี้ฉันรู้สึกชิล พอได้ปล่อยอัลบั้มนี้ออกมาโดยไม่ต้องคอยจิตตกมันก็ทำให้รู้สึกดีมากเลย    ไม่ต้องสติแตกระหว่างการให้สัมภาษณ์แล้วร้องห่มร้องไห้  บอกเลยค่ะว่า ปล่อยอัลบั้มวิธีนี้มันดีกว่ากันเยอะ"





ฝ่ายหนึ่งไม่เลือกตอบโต้ หรือชี้แจงใดๆและน่าจะปล่อยให้กระแสโจมตีซาลงไปเอง
ส่วนอีกฝ่ายก็ชิลมาก move on จากความเศร้าอย่างเต็มตัว เตรียมจิบโมฮิโต้ฉลองความสำเร็จแล้ว

เชื่อว่า ดราม่าครั้งนี้คงไม่ยืดเยื้อเหมือนคู่กรณีในอดีต   แต่มันก็อาจจะทำให้คุณสงสัยว่า   ผลงานลำดับต่อไปจะเป็นใครกันนะ   ตอนนี้ทั้งสื่อและชาวเน็ทพร้อมใจชี้เป้าไปยัง John Mayerแล้ว!


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE