Natural Sunscreen 3 สูตรใหม่จาก Oriental Princess กันแดดที่เหนือกว่ากันแดดทั่วไป.. ในทุกๆ มิติ ;)

75 32
WITH <strong>Oriental Princess</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)



สวัสดีค่ะทุกคนน 

กลับมาเจอกับวิในกระทู้รีวิว..


 "ครีมกันแดด" 


ไอเท็มที่ขาดไม่ได้ ต้องทาทุกวัน 

กันอีกแล้วว



แต่วันนี้พิเศษขึ้นไปอีกก เพราะว่าวิไม่ได้มารีวิวแค่ตัวเดียว แต่หยิบครีมกันแดดตัวเด็ด (เด็ดจริงจนต้องร้องว้าวว) น้องใหม่ล่าสุด! จากแบรนด์ดัง อย่าง .. Oriental Princess ออกมารีวิวด้วยกันถึง 3 ตัวไปเลย!  ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย และลักษณะการใช้ที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละคนค่ะ ... ที่แน่ๆ น่าสนใจทุกตัวน้าา 😚





พูดมาขนาดนี้แล้ว ..เราไปยลโฉม ครีมกันแดดทั้งสามสูตร จาก 

Oriental Princess

กันเลยดีกว่าค่าา





พูดถึง “ครีมกันแดด”  เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่คิดว่าครีมกันแดดก็เหมือนๆ หรือคล้ายๆกันหมด ตรงที่กันแดดได้ ไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดก็เพียงพอแล้ว..



..แต่สำหรับ Natural Sunscreen ทั้ง 3 สูตร..จาก Oriental Princess วิบอกเลยว่า แตกต่าง และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับครีมกันแดดมากๆค่ะ ไม่ใช่เพียงแค่แตกต่างกันระหว่างสูตร แต่ทาง Oriental Princess ใส่ใจไปถึงขั้นที่ทำให้ครีมกันแดดน่าสนใจและเป็นได้มากกว่าครีมกันแดดที่เราคุ้นเคยกัน  





Natural Sunscreen ส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่ให้การปกป้องแบบไม่ธรรมดา




ด้วยความเป็น Natural Sunscreen ของทั้งสามสูตร ที่เป็นทั้ง Physical และ Chemical Sunscreen กล่าวคือ ทั้งสะท้อนและดูดซับรังสี UVA และ UVB ไม่ให้เข้าสู่ชั้นผิวแล้ว …


ทั้งสามสูตรนี้ยังมาพร้อมกับ Advanced Multi UV Guard™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของทาง Oriental Princess ที่ว้าวมากกก เพราะเค้าสามารถทำหน้าที่สองอย่างไปพร้อมๆกันได้ ทั้งปกป้องผิว (Guard) และยังบำรุงผิว (Repair) ด้วยการทาครีมกันแดดในครั้งเดียวไปเลยค่าา



และด้วยความ Natural ก็ต้องบำรุงผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่เป็นทั้ง Double Anti Oxidant (ช่วยยับยั้งการเกิดความผิดปกติของผิว เช่น ริ้วรอยหรือจุดด่างดำ) ซึ่งได้แก่ ..


  • Vitamin E : ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเนียนนุ่ม สุขภาพดี

  • Jasmine Flower Extract : ช่วยลดการอักเสบและระคายเคืองผิว


และยังมีสารสกัดจากธรรมชาติที่ทั้งบำรุงผิวแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น Pollution Shield ช่วยปกป้องผิวจากฝุ่น ควัน และมลภาวะต่างๆ ได้แก่..


  • Moringa Seed Extract : ปกป้องผิวจากรังสี UV ฝุ่นละออง รวมไปถึงมลภาวะต่างๆ ที่ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

  • Chia Seeds Oil : ลดอาการคัน ผิวแสบแดง ช่วยให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น

  • Rhodiola Rosea Extract : Anti-Oxidant ประสิทธิภาพสูง ช่วยลดอุณหภูมิของผิว ทำให้รู้สึกสดชื่นผิวหลังทา


นี่แค่ส่วนผสมที่มีอยู่ด้วยกันทั้งสามสูตรนะคะทุกคนนน อือหืออ บอกเลยว่าน่าสนใจมากสำหรับครีมกันแดด เพราะการทาหนึ่งครั้ง เค้าสามารถมอบทั้งการป้องกันและการบำรุงผิวไปในตัวได้เลย แถมทั้งสามสูตรนี้ เค้ายังกันน้ำ กันเหงื่อซะด้วยสิ (Water Resistant) ครบเครื่องจริงๆเด้ออ




และเมื่อวิลองใช้แล้ว บอกเลยว่าใช้ดีมากก สำหรับวิที่เป็นสาวผิวผสม-ผิวมัน เป็นสิว ตกหลุมรักทั้งสามตัวเลย ใช้สลับกันไป แล้วแต่ว่าอยากได้ฟีลในขณะที่ใช้และฟินิชผิวหลังใช้ในแต่ละวันเป็นแบบไหน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันที่แตกต่างกันออกไปนั่นเองค่ะ..




ไปค่ะทุกคน 

ไปทำความรู้จักกับแต่ละตัวกันดีกว่าค่าา






Texture ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ Life Style ที่แตกต่าง  




Natural Sunscreen All Day Protection Serum For Face

SPF 40 PA++++

75g. | 345.- บาท



  Texture & Special Ingredient  : มาเริ่มกันที่ตัวแรกกันเลยค่ะ เป็นกันแดดเนื้อสบายผิว ทาแล้วให้ฟีลทาเซรั่ม เหมือนทาสกินแคร์ที่ไม่ใช่กันแดดเลยหละค่ะทุกคน ซึมไว ไม่เหนอะหนะแต่ชุ่มชื้น มีสารสกัดเฉพาะตัวอย่าง Grifola Frondosa Fruiting Body Extract ตัวนี้เค้าช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ไม่ให้หน้าดรอปทั้งวันค่ะ ยิ่งทาก่อนแต่งหน้าคือเลิศเลย แถมยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวดูเรียบเนียนอ่อนเยาว์ด้วยน้า


  Finish Look   : จะสังเกตได้ว่าหลังทาไปแล้ว ผิวดูฉ่ำๆ สุขภาพดี ตัวนี้เน้นทาเป็น     Everyday Block ค่ะ คือใช้ง่าย ทาง่ายซึมไว ไม่ได้ปรับสีผิวให้สว่างขึ้นแต่อย่างใดงับ




Natural Sunscreen Brilliant Shield Milk For Face

SPF 50+ PA++++


50ml. | 705.- บาท



  Texture & Special Ingredient   : สำหรับกันแดดตัวที่สอง เป็นครีมกันแดดเนื้อน้ำนม ที่บางเบาแบบสุดขีดค่ะ เรียกว่า ปาดปุ๊บ ซึมหายไปในผิวทันที แต่อย่างที่วิบอกไปตอนต้น เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่กันน้ำ และมีค่า SPF 50+ PA++++ สูงที่สุดในบรรดาทั้งสามหลอดนี้ มาพร้อมกับ Twisting vine orchid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เหมาะสำหรับการทาออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเลยค่ะตัวนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังออกแดดไปแล้วควรทากันแดดซ้ำทุกๆครึ่งชั่วโมงนะคะ


  Finish Look  : สำหรับเนื้อน้ำนมซึมไวแบบนี้ แต่สามารถปรับเฉดสีผิวได้ระดับหนึ่งค่ะ ไม่ทำให้ผิวขาววอก เน้นให้ความชุ่มชื้นและแลดูกระจ่างใส  




Natural Sunscreen Tinted Mousse

SPF 40 PA++++


50g. | 405.- บาท



  Texture & Special Ingredient   : มาถึงตัวที่วิชอบที่สุดกันแล้วค่ะทุกคน เพราะด้วยความเนื้อมูสสีเนื้อ ที่ทาไปแล้วเกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ ตอบโจทย์วันที่ใช้ชีวิตเร่งรีบสุดๆค่ะ เพราะทากันแดดแล้วแต่งหน้าได้เลย เสมือนการทารองพื้น เพราะเค้าช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีระดับนึงเลยค่ะ แต่ไม่ได้ทำให้ผิวขาววอกนะคะ ดีงามมาก และสารสกัดเฉพาะตัวของสูตรนี้คือ Apple Seed Extract ค่ะ ที่บำรุงผิวให้ดูเรียบเนียน ริ้วรอยดูจางลงนั่นเอง


  Finish Look   : ผิวหลังทาเหมือนผิวได้ลงรองพื้นเลยค่ะ แต่ไม่ได้ปกปิดมากนะคะ ยังให้ความผิวธรรมชาติเล็กๆ และสามารถทาแป้งหรือแต่งหน้าต่อได้เลยค่ะ ดีมากกก ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้นด้วย แอบคุมมันเบาๆ บางวันที่รีบช่วยลดขั้นตอนลงไปได้เลยย


______________________________________




พูดถึงแต่ละตัวไปแล้ว บอกเลยว่าดีงามจริงๆค่ะ สามารถใช้สลับกันไปได้ในแต่ละวันเหมือนที่วิบอกจริงๆ อยากได้ Finish ผิวแบบไหน เลือกได้เลยงับบ





เนื้อสัมผัสที่แตกต่าง แต่ให้ความบาสบายผิวและกันน้ำได้เหมือนกัน




เอามาเทียบให้ทุกคนได้เห็นกันชัดๆอีกครั้งค่ะว่า เนื้อสัมผัสดีงามทั้งสามสูตร เกลี่ยง่ายทุกตัว และหลังจากที่ซึมลงผิวไปแล้ว จะให้สีผิวที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่สบายผิวและไม่เป็นคราบทั้งสามตัวนะคะ





:: สรุปความรู้สึกหลังใช้ สิ่งที่เหมือนและแตกต่าง ของแต่ละตัว 




สิ่งที่เหมือนกันของทั้ง 3 สูตร :

สิ่งที่เหมือนกันและจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ


  • กันน้ำกันเหงื่อทั้งสามสูตร

  • เป็นกันแดดสำหรับผิวหน้า

  • ผ่านการทดสอบว่าไม่ระคายเคืองผิวหนัง จากสถาบัน Global Scientific Services Co.,Ltd. **

  • สูตร Free Formula ไม่มีสารก่อให้เกิดความระคายเคือง เด็กอายุมากกว่า 6 ปีสามารถใช้ได้ **

  • ออกแดดได้ทันทีไม่ต้องรอ 20 นาทีค่า (ข้อนี้วิชอบมาก เหมาะกับชีวิตเร่งรีบค่ะ55555)

  • บรรจุภัณฑ์ Recycle ได้

  • ไม่ทดลองในสัตว์อีกด้วยค่ะ



**แม้จะผ่านการทดสอบการระคายเคืองและปราศจากสารที่ก่อความระคายเคืองได้ แต่ผิวของคนเราไม่เหมือนกันค่ะ เราอาจจะแพ้อย่างอื่นก็เป็นได้ ดังนั้นก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใดก็ตาม ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้งนะคะ**




สิ่งที่แตกต่างกันของทั้ง 3 สูตร :

เนื้อผลิตภัณฑ์แตกต่างกันหลังจากที่ทาค่ะ และส่วนผสมเฉพาะตัว รวมไปถึงค่า SPF , PA ที่แตกต่าง



  • Natural Sunscreen All Day Protection Serum For Face SPF 40 PA++++

เหมาะสำหรับการทาทุกวัน และต้องการความชุ่มชื้น อาจจะเป็นการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า หรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแล้วผิวแห้ง ตัวนี้แนะนำค่ะ ให้ลุคผิวฉ่ำวาว



  • Natural Sunscreen Brilliant Shield Milk For Face - SPF 50+ PA++++

ทาได้ทุกวันเหมือนกันค่ะ แต่ให้ความสบายผิวมากกว่าตัวแรก และเหมาะกับการทาก่อนออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งมาก เพราะค่า SPF สูงกว่าอีกสองตัว ใครที่เล่นกีฬา ว่ายน้ำ หรือมีเหงื่อออก เหมาะมากเลยสำหรับตัวนี้ค่ะ เพราะไม่ไหลเยิ้มแน่นอน



  • Natural Sunscreen Tinted Mousse - SPF 40 PA++++

สายแต่งหน้า แต่ไม่อยากทารองพื้น หรืออยากลดขั้นตอนลง แนะนำตัวนี้เลยค่ะ เบลอรูขุมขนและรอยต่างๆลงได้ระดับนึง ส่วนตัวรู้สึกว่าแอบคุมมันด้วยค่ะ ใช้แล้วสบายผิว ให้ฟินิชลุคผิวสวยเนียนธรรมชาติน้า





ความรู้สึกหลังใช้ของวิ :


ที่เป็นคนมีสภาพผิวผสม เป็นสิว และค่อนข้างระคายเคืองง่าย บอกเลยว่าชอบทั้งสามสูตรค่ะ เพราะว่าเนื้อเค้าเกลี่ยง่าย และให้ผิวสวยแบบไม่ต้องหลายขั้นตอน มากไปกว่านั้นคือ นอกจากกันแดดแล้ว ยังบำรุงผิวไปในตัว จากเทคโนโลยีเฉพาะและสารสกัดจากธรรมชาติที่อยู่ในกันแดดแบบ Natural ไลน์นี้ บอกเลยว่าเห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์มากๆค่ะ ที่ส่งต่อสิ่งดีๆให้กับผู้บริโภค นอกจากจะใช้ดีแล้ว ยังรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมไปอีกก ได้ใจตรงนี้ไปเต็มๆ เลยงับบ




ใครที่สนใจอยากได้กันแดดดีๆสักตัวมาใช้ในช่วงนี้ วิแนะนำเลยค่ะ ว่าดีงามและควรมีมากๆ โดยสามารถซื้อได้จากเว็บไซต์ของแบรนด์หรือช่องทาง Official ของแบรนด์ ทั้งใน LAZADA หรือ Shopee ได้เลยนะคะ สะดวกมั่กก




เอาหละะ สำหรับวันนี้วิขอตัวลาไปก่อนน้า อย่าลืมทากันแดดกันทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปไหนก็ตามค่ะ เพราะแดดอยู่รอบตัวเราทู้กกกวัน 


ดูแลสุขภาพกายแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพผิวกันด้วยนะคะทุกคนน :)





เยิ้บยูววค้าบบบ

✨💗✨



W-wi Rujira

W-wi Rujira

สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อวินะค้า จะมาแชร์สิ่งที่ใช้แล้วชอบให้ทุกๆคนได้เข้ามาอ่านนะค้า สามารถแสดงความคิดเห็นได้นะคะ :)

Playhard, Work harder ?⚡️

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ ?

:: Contact ::
Line id : wirujirab.

FULL PROFILE