แชร์ประสบการณ์เรื่องยาลดความอ้วน
Jomjam25สวัสดีค่ะ สาวๆ จริงๆ อยากเขียนกระทู้นี้นานแล้ว แต่ไม่ค่อยว่างสักที วันนี้เห็นมีกระทู้เรื่องยาลดความอ้วน เลยอยากเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังค่ะ
ตอนเด็กๆ แม่เล่าว่า กินข้าวยากมาก ต้องจ้างถึงกิน(แต่เคยดูรูปตอนผอมอยู่ เราว่าก็ปกตินะ) คราวนี้เลยพาไปพาหมอ หมอเค้าก็ให้ยาอยากอาหารมาทาน หลังจากนั้นกินเก่งมากๆๆๆ อ้วนปุ๊กทีเดียว ตัวกลม หน้าพอง คางสองชั้น จนพ่อกับแม่บอกว่า อย่ากินเยอะ เดี๋ยวอ้วนไม่สวยนะ ตอนนั้นเป็นเด็กชอบกินมาก ใครห้ามก็ไม่ฟัง แล้วก็เป็นเด็กอ้วนมาตลอด พอเอ็นทรานซ์ติด เรียนปีหนึ่งก็อยากผอมเหมือนคนอื่น แล้วพอดีมีเพื่อนเค้ากินยาลดความอ้วนของโรงพยาบาลยันฮีอยู่ เค้าก็บอก ไม่มีปัญหาอะไร คราวนี้เราก็เลยให้เค้าพาไปหาบ้าง แต่ก็แอบแม่ไปนะ เพราะแม่เราห้ามไม่ให้กินยาลดความอ้วน เพราะท่านเคยกินแล้วมีปัญหาสุขภาพมากมายจนถึงปัจจุบัน
ครั้งแรก ต้องพบหมอนะ เค้าก็วัดน้ำหนัก ส่วนสูงตามเรื่องราว เสร็จก็คุยกันว่าอยากลดกี่กิโล แล้วก็มีอะไรบ้างที่ทานได้ อะไรบ้างห้ามทาน ครั้งแรกจะได้ยาที่ออกฤทธิ์อ่อนที่สุด ถ้าคนที่กินไปแล้วน้ำหนักไม่ลง(ดื้อยา) เค้าก็จะเพิ่มสเต็บของยาให้แรงขึ้นไป การจ่ายยา ก็ให้แบบสองอาทิตย์บ้าง หรือแล้วแต่ว่าเราอยากกินกี่อาทิตย์ ถ้ากินยาหมดแล้ว น้ำหนักยังไม่ลง ก็ต้องกินต่อไป ถ้าลดน้ำหนักได้พอใจแล้ว ก็จะมียา เรียกว่า ยาหยุดมาให้กินต่อไปอีกสองอาทิตย์
ตอนที่ลดน้ำหนัก เราก็ตั้งใจมาก กินยาด้วย แล้วก็ออกกำลังกายด้วย สามเดือนผ่านไป ผอมค่ะ จากประมาณ 56, 57 กิโล ก็เหลือ 48 กิโล อาการข้างเคียงก็จะมี ท้องเสียบ่อย คือบางทีกินข้าวเข้าไป ถ้ากินเยอะ ก็ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำ จู้ด จู้ด เลยทีเดียว แล้วก็ตาโหล แต่จะไม่มีอาการหิวเลยนะ บางทีสบายมาก ทั้งวันไม่ต้องกินข้าวก็อยู่ได้ แต่เราชอบกินพวกขนมเค้ก ไอศรีมไง ก็กินแทนข้าวเลย
กินยาลดอยู่ประมาณสี่ห้าปีได้ จนเรียนจบ ทำงานเลย เพราะพอหยุดยาแล้ว เรากลับมากินปกติ น้ำหนักก็จะขึ้น ทำใจไม่ได้ก็ต้องกลับไปกินยาอีก แต่ที่เลิกเพราะว่า คิดได้แล้วว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ก็ต้องกินยาไปเรื่อยๆแน่นอน ไม่ดีแน่ พอหยุดยา น้ำหนักก็กลับไปอยู่ที่ประมาณ 57-58 กิโล ก็อวบอ้วนเลย (เราสูง 160 เซ็น) มากที่เดียว พอเลิก ก็มีเล่นกีฬาบ้าง พยายามยังไง ลดน้ำหนักได้เต็มที่เหลือ 56 กิโล ก็ช่างมัน เพราะว่ายังไงก็ไม่ลดแล้ว
ตอนนี้ แต่งงานมีลูกแล้วจ๊ะ คนโตเกือบ 5 ขวบละ อีกคนอยู่ในท้อง อิ อิ แต่ว่าก่อนท้องคนที่สอง เราก็เลี้ยงลูกเองนะ น้ำหนักก่อนคลอดคนแรกอยู่ที่ 80 กิโล เหลือ อยู่ 52 กิโล ผอมโดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะว่าเหนื่อยจากเลี้ยงลูก แล้วก็ไม่ชอบกินเค้กกับไอศรีมเหมือนแต่ก่อน
เล่าซะยาวเลย ก็อยากจะเตือนๆ สาวนะ ว่าที่เรากินยาแล้วไม่มีผลข้างเคียงอะไรมาก เพราะว่าเราไม่เคยเพิ่มสเต็บยาเลยนะ กินอยู่ที่ขั้นแรกตลอด มาคิดดูก็น่ากลัว เพราะมีข่าวอยู่บ่อยๆว่า มีคนตายจากยาลดความอ้วนอยู่มาก
ยิ่งเห็นยาลดความอ้วนจากจีน อย่ากินเลยคะ ของจากจีนไม่ได้คุณภาพมากๆ เราก็ไม่ซื้ออะไรจากจีนเลย เสียเงินเปล่า
อย่างน้องๆ ที่อยากผอม พี่ก็เข้าใจเพราะผ่านจุดนั้นมาก่อน ลองเปลี่ยนนิสัยการกินดู แล้วก็ออกกำลังกายให้มากขึ้น อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ว่าจะไม่มีอาการโยโย่แน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะจ๊ะ
ขอโทษด้วยนะค่ะ ที่กระทู้ยาวไปหน่อย
ตอนเด็กๆ แม่เล่าว่า กินข้าวยากมาก ต้องจ้างถึงกิน(แต่เคยดูรูปตอนผอมอยู่ เราว่าก็ปกตินะ) คราวนี้เลยพาไปพาหมอ หมอเค้าก็ให้ยาอยากอาหารมาทาน หลังจากนั้นกินเก่งมากๆๆๆ อ้วนปุ๊กทีเดียว ตัวกลม หน้าพอง คางสองชั้น จนพ่อกับแม่บอกว่า อย่ากินเยอะ เดี๋ยวอ้วนไม่สวยนะ ตอนนั้นเป็นเด็กชอบกินมาก ใครห้ามก็ไม่ฟัง แล้วก็เป็นเด็กอ้วนมาตลอด พอเอ็นทรานซ์ติด เรียนปีหนึ่งก็อยากผอมเหมือนคนอื่น แล้วพอดีมีเพื่อนเค้ากินยาลดความอ้วนของโรงพยาบาลยันฮีอยู่ เค้าก็บอก ไม่มีปัญหาอะไร คราวนี้เราก็เลยให้เค้าพาไปหาบ้าง แต่ก็แอบแม่ไปนะ เพราะแม่เราห้ามไม่ให้กินยาลดความอ้วน เพราะท่านเคยกินแล้วมีปัญหาสุขภาพมากมายจนถึงปัจจุบัน
ครั้งแรก ต้องพบหมอนะ เค้าก็วัดน้ำหนัก ส่วนสูงตามเรื่องราว เสร็จก็คุยกันว่าอยากลดกี่กิโล แล้วก็มีอะไรบ้างที่ทานได้ อะไรบ้างห้ามทาน ครั้งแรกจะได้ยาที่ออกฤทธิ์อ่อนที่สุด ถ้าคนที่กินไปแล้วน้ำหนักไม่ลง(ดื้อยา) เค้าก็จะเพิ่มสเต็บของยาให้แรงขึ้นไป การจ่ายยา ก็ให้แบบสองอาทิตย์บ้าง หรือแล้วแต่ว่าเราอยากกินกี่อาทิตย์ ถ้ากินยาหมดแล้ว น้ำหนักยังไม่ลง ก็ต้องกินต่อไป ถ้าลดน้ำหนักได้พอใจแล้ว ก็จะมียา เรียกว่า ยาหยุดมาให้กินต่อไปอีกสองอาทิตย์
ตอนที่ลดน้ำหนัก เราก็ตั้งใจมาก กินยาด้วย แล้วก็ออกกำลังกายด้วย สามเดือนผ่านไป ผอมค่ะ จากประมาณ 56, 57 กิโล ก็เหลือ 48 กิโล อาการข้างเคียงก็จะมี ท้องเสียบ่อย คือบางทีกินข้าวเข้าไป ถ้ากินเยอะ ก็ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำ จู้ด จู้ด เลยทีเดียว แล้วก็ตาโหล แต่จะไม่มีอาการหิวเลยนะ บางทีสบายมาก ทั้งวันไม่ต้องกินข้าวก็อยู่ได้ แต่เราชอบกินพวกขนมเค้ก ไอศรีมไง ก็กินแทนข้าวเลย
กินยาลดอยู่ประมาณสี่ห้าปีได้ จนเรียนจบ ทำงานเลย เพราะพอหยุดยาแล้ว เรากลับมากินปกติ น้ำหนักก็จะขึ้น ทำใจไม่ได้ก็ต้องกลับไปกินยาอีก แต่ที่เลิกเพราะว่า คิดได้แล้วว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ก็ต้องกินยาไปเรื่อยๆแน่นอน ไม่ดีแน่ พอหยุดยา น้ำหนักก็กลับไปอยู่ที่ประมาณ 57-58 กิโล ก็อวบอ้วนเลย (เราสูง 160 เซ็น) มากที่เดียว พอเลิก ก็มีเล่นกีฬาบ้าง พยายามยังไง ลดน้ำหนักได้เต็มที่เหลือ 56 กิโล ก็ช่างมัน เพราะว่ายังไงก็ไม่ลดแล้ว
ตอนนี้ แต่งงานมีลูกแล้วจ๊ะ คนโตเกือบ 5 ขวบละ อีกคนอยู่ในท้อง อิ อิ แต่ว่าก่อนท้องคนที่สอง เราก็เลี้ยงลูกเองนะ น้ำหนักก่อนคลอดคนแรกอยู่ที่ 80 กิโล เหลือ อยู่ 52 กิโล ผอมโดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะว่าเหนื่อยจากเลี้ยงลูก แล้วก็ไม่ชอบกินเค้กกับไอศรีมเหมือนแต่ก่อน
เล่าซะยาวเลย ก็อยากจะเตือนๆ สาวนะ ว่าที่เรากินยาแล้วไม่มีผลข้างเคียงอะไรมาก เพราะว่าเราไม่เคยเพิ่มสเต็บยาเลยนะ กินอยู่ที่ขั้นแรกตลอด มาคิดดูก็น่ากลัว เพราะมีข่าวอยู่บ่อยๆว่า มีคนตายจากยาลดความอ้วนอยู่มาก
ยิ่งเห็นยาลดความอ้วนจากจีน อย่ากินเลยคะ ของจากจีนไม่ได้คุณภาพมากๆ เราก็ไม่ซื้ออะไรจากจีนเลย เสียเงินเปล่า
อย่างน้องๆ ที่อยากผอม พี่ก็เข้าใจเพราะผ่านจุดนั้นมาก่อน ลองเปลี่ยนนิสัยการกินดู แล้วก็ออกกำลังกายให้มากขึ้น อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ว่าจะไม่มีอาการโยโย่แน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะจ๊ะ
ขอโทษด้วยนะค่ะ ที่กระทู้ยาวไปหน่อย
Discussion (25)