ลงรองพื้นให้ผิวสวยทำได้ไม่ยาก ซูมใกล้แค่ไหนก็ไม่มีโป๊ะ ด้วย Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10/PA++

72 33
Jeban x Estee Lauder

เครื่องสำอางที่มีความสำคัญต่อการแต่งหน้า 

อันดับต้นๆเราคิดว่าควรต้องมี “รองพื้น”


การใช้รองพื้นช่วยให้เรากำหนดแต่ละลุคให้เด่นขึ้นได้

แม้จะเป็นวันชิลๆที่อยากเปลือยผิว การเลือกรองพื้นมีส่วนทำให้แต่งหน้าได้ดีขึ้น 

หลักๆเลยควรเลือกให้ตรงกับสภาพผิว คิดว่าอันนี้หลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว

 เพราะผิวคนเราต่างกัน อีกทั้งเฉดสีด้วย 

อย่างเราจะชอปรองพื้นนี่ต้องได้ไปเลือกด้วยตัวเอง ว่าเนื้อเป็นยังไง 

เฉดสีเข้ากับผิวเรามั้ย คุณสมบัติต้องตอบโจทย์ที่เราต้องการด้วยค่ะ

“รองพื้นในตำนาน” ต้องดีแค่ไหนถึงได้ชื่อนี้มาครอง

 

หลายๆคนคงจะได้ยินชื่อของรองพื้นของเอสเต้มาบ้าง นั่นคือรุ่น  Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10/PA++ รองพื้นสูตรน้ำ ในเรื่องของความติดทน ยิ่งวันรับปริญญา เราเชื่อได้เลยว่าไม่ว่าจะแต่งหน้าเองหรือจ้างช่างแต่งหน้า 1 ในรองพื้นที่เลือกใช้กัน ต้องมีเอสเต้อยู่ในลิสต์แน่นอน 


เหตุผลว่าทำไมถึงอยู่ในลิสต์น่ะเหรอ เพราะความปกปิดยาวนาน ควมคุมความมันได้ดี ด้วยความที่รองพื้นออกแบบมาให้มีความติดทน ทนในชนิดนี้คือแม้แต่สัมผัสหน้ายังไม่เลือน ไม่ติดนิ้วออกมา ทนน้ำไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ ถ้าเหงื่อออกแล้วรอด คิดว่าใช้หน้าฝนนี่ 3 ผ่านแน่ๆ มี 20 เฉดสีที่ให้เลือก สำหรับเราใช้เป็น 1w2 Sand (Light) ที่ใกล้เคียงกับผิวเราค่ะ

ผิวจะสวยหลังแต่งหน้า อยู่ที่การเตรียมผิวมาดี และมีเทคนิค


ถ้าติดตามเราจะรู้ว่าเราชอบงานเมคอัพมาก เราจะถนัดงานทางสายฝอ เพราะเข้ากับลุคของเรา ซึ่งตอนนี้เราสนใจเมคอัพของทางฝั่งเอเชียด้วยเช่นกัน ส่วนมากก็จะโชว์งานผิว เปลือยผิวแบบสุขภาพดี แม้จะมีรอยต่างๆ คือให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ 


การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าเราว่าสำคัญมากค่ะ จะช่วยให้แต่งหน้าติด และแต่งง่ายขึ้น คีย์หลักของเราคือความชุ่มชื้นที่ดีและเพียงพอ ต้องมาอันดับหนึ่ง เพราะถ้าผิวเรามีคุณสมบัตินี้ จะแต่งลุคไหนก็รอด ช่วยประหยัดเวลาในการลงขั้นตอนด้วย

เพื่อนๆรู้มั้ยว่า Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place นี่ไม่ได้มีดีแต่ปกปิดสูงอย่างเดียวนะ เราสามารถใช้วิธีแบบ Add Layer ได้คือ อยากให้ฟินิชลุคออกมาแบบไหน ขึ้นอยู่กับปริมาณของรองพื้น อยากได้งานผิว ดูธรรมชาติ ก็สามารถทำได้ คือเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย


ในกระทู้นี้เรามี 2 ลุคมาฝากค่ะ ซึ่งคิดว่าใครๆก็ต้องแต่งหน้า ไม่มากก็น้อย นั่นคือ แต่งหน้าไปสมัครงาน และ Everyday Look โดยจะเน้นใช้เทคนิกเพื่อเสริมการใช้งานของรองพื้นเอสเต้ เน้นความธรรมชาติ แบบถ่ายรูปออกมา ผ่านไปกี่ปีก็ยังดูสดใสอยู่ประมาณนี้


มาดูรายละเอียดกันได้เลยค่า

สภาพผิว

ผิวมัน รูขุมขนกว้าง เป็นสิวง่าย มีรอยสิว



ลุคสมัครงาน

เน้นความกริบแต่ไม่หนา ดูมีมิติ แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ เพื่อความสุภาพ



  • โดยการเตรียมผิวเราจะบำรุงมาค่อนข้างดี โดยเติมความชุ่มชื้นให้พอ ก่อนวันแต่งหน้าจะลง Sleeping Mask ติดกันสัก 3 คืน และเลือกสกินแคร์ที่เนื้อไม่มัน หรือไม่ข้น โดยกันแดด ถ้าเป็นชนิดน้ำจะดีมาก แล้วใช้ไพร์เมอร์ช่วยอำพรางรูขุมขน เราเลือกเป็นไพร์เมอร์ชนิดคุมมัน เนื้อใส จะช่วยให้ลงรองพื้นได้ง่ายขึ้น และช่วยให้รองพื้นติดทน
  • หากใครมีใต้ตาที่คล้ำหรือแลดูเหนื่อยล้า หรืออาจะพักผ่อนน้อยก่อนไปทำธุระสำคัญ แนะนำให้ใช้ corrector หรือถ้าใครไม่มีแบบเรา ลองใช้ลิปสติกสีแดง เอามาประยุกต์เพื่อช่วยกลบรอยคล้ำได้ (หรือเลือกลิปที่เฉดตรงกับผิว) แล้วค่อยกลบอีกครั้งด้วยคอนซีลเลอร์ จะช่วยให้ตาดูเปล่งประกาย ไม่โทรม 
  • เราชอบบำรุงปากก่อนทาลิปสติก เพราะเป็นคนที่ปากลอกง่าย บำรุงก่อนทาลิปสติกจะได้ไม่ตกร่อง จะเป็นลิปอะไรก็ได้ ในลุคใช้ลิปบาล์มออกสีชมพูอ่อน
  • การลงรองพื้นแบบแต้มทีละจุดบางๆ รองพื้นของเอสเต้จะแห้งไว  และช่วยให้เราควบคุมการแต่งต่อได้ ยิ่งเวลาไปสมัครงาน ต้องแข่งกับเวลา ฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้จะดีกว่า จากนั้นใช้ฟองน้ำ (เราถนัดชุบน้ำหมาดๆ) ค่อยๆแท็บรองพื้นอย่างเบามือ จะช่วยให้ไม่เกิดคราบ รองพื้นจะแนบผิวมากขึ้น ไม่ควรปาดไปเลยทีเดียว แบบนั้นจะดูหนา และตกร่อง
  • การเขียนคิ้วเราจะเขียนโครงให้ชัด ใช้สีน้ำตาลกลาง จะเหมาะกว่าสีดำ (แล้วแต่เฉดสีผม) วาดไปตามโครงคิ้ว แล้วใช้สีน้ำตาลอ่อนทาบริเวณหัวคิ้ว หัวคิ้วไม่ควรหนักเพราะหน้าจะดูดุ ลุคนี้ไม่เฉดดิ้งจมูกและหน้า ชอบความธรรมชาติมากกว่า
  • จากประสบการณ์แต่งหน้าสมัครงาน เราจะใช้อายแชโดว์ใปทางโทนสีที่ธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลกลาง  สีเบจ หรือ โทนสีชมพูกุหลาบ ไม่คัดเบ้าจนชัด คิดว่าโทนนี้จะครอบคลุมกับงานทั่วไป ทั้งเอกชน และราชการด้วยค่ะ 
  • หากอยากให้อายแชโดว์ติดทนทั้งวัน ควรลงด้วยอายไพร์เมอร์ 
  • ไม่ติดขนตาปลอม แต่ใช้เป็นมาสคาร่าสีน้ำตาลแทน จริงๆจะใช้สีดำก็ได้นะ แค่อย่าปัดให้เป็นก้อน ให้ดวงตาดูสดใสขึ้น จะใส่คอนแทคเลนส์ก็ได้ค่ะ แต่ควรเป็นสีธรรมชาติ ไม่แฟชั่น แต่ลุคนี้เราไม่ได้ใส่
  • บลัชออนใช้เป็นแบบฝุ่น ออกสีคอรัล ปัดบางๆก่อนแล้วย้ำอีกที จะช่วยให้ไม่เป็นปื้นๆ หรืออาจจะทับด้วยบอรนเซอร์อีกทีก็ได้ค่ะ เอาแบบเบามือนะ 
  • ไฮไลท์จะเติมหรือไม่เติมก็ได้ ขอแบบไม่หนังปลาทูนะคะ 5555 เราจะมาพร้อมความสดใส เปล่งประกาย
  • เซ็ทฟินิชลุค ด้วยแป้ง Translucent จะให้ความเบาสบายหน้า
  • ปากที่สุภาพมีหลายเฉดเลยค่ะ ตั้งแต่นู้ด ชมพู ส้มคอรัล หรือจะแดงอมน้ำตาลก็ได้ จะได้ลุคสุขุมหน่อย แต่เราเลือกสีSafe Zone คือชมพูอมน้ำตาล 



________ FINISH LOOK ________

สำหรับลุคสมัครงานที่เราชอบแต่ง จะเป็นประมาณนี้ 
คิดว่าใครๆก็แต่งตามได้ ไม่ยากแน่นอน 
จะเห็นว่าผิวดูสบาย ยังมีความธรรมชาติคือเห็นรูขุมขนบ้าง นั่นคือผิวมนุษย์ : )
ตรงตามคอนเซปต์ที่ไม่หนา ไม่โบ๊ะ มองระยะใกล้ก็ยังมั่นใจ 
หากไปสมัครหลายที่ในวันเดียว แนะนำใช้สเปรย์ล็อคเมคอัพอีกทีก็ได้นะคะ



Everyday Look 

ไม่ค่อยเน้นการปกปิด ปล่อยผิวชิลๆ มีความฉ่ำเล่นแสง ถ่ายรูปออกมาจะดูสดใส

  •  สำหรับลุคนี้คือง่ายสุดแล้วค่ะ แต่งและใช้ได้จริงในทุกๆวัน จะเน้นโทนชมพู แดง ม่วง หรือเพิ่มกลิตเตอร์ ชิมเมอร์ได้เลย ชิลๆ มีการเขียนไลน์เนอร์ เพื่อให้ตาดูโตขึ้น โดยลุคนี้เราใช้โทนชมพู สดใสๆหน่อยค่ะ ส่วนรอยดำต่างๆยังคงเห็นอยู่บ้าง เพราะเรามีสิวเม็ดใหญ่มากขึ้นพอดี ในความเป็นจริงก็กลบสิวบ้าง หรือบางทีก็ลืมค่ะ55 ชินกับผิวตัวเองแล้ว

  • การเตรียมผิวในวันชิลๆเราอยากให้ผิวโกลว์ขึ้น ดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ ด้วยการใช้ ANR มาผสมในรองพื้น ในปริมาณไม่ต้องเยอะเลยค่ะ หยดนิดเดียว (ถ้าแบบขวดไม่ใช่ทั้งดรอปเปอร์นะคะ เอาเท่าเม็ดชาไข่มุก ง่ายดี) หรือถ้ากะปริมาณไม่ถูก ใช้ทีละนิด แล้วผสมให้ดี ใช้เทคนิกแต้มรองพื้นทีละจุดแบบเดิม ผิวจะผ่องขึ้น ยิ่งถ้าเป็นคนผิวแห้ง ฟินิชจะสวยมากเลยค่ะ ผิวฉ่ำๆลดอายุไปได้เยอะ

  • ใต้ตาในลุค Everyday นี้จะไม่ได้ใช้ Corrector แล้วค่ะ เพราะเน้นความง่ายไว้ก่อน 5555 ยิ่งแต่งบนรถ จะได้ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะเลย ลงคอนซีลเลอร์แบบเดิมแล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ย

  • ใช้บลัชออนแบบครีม สีชมพูก่ำ แตะทีละนิดแล้วเกลี่ยด้วยนิ้ว อุณหภูมิจากนิ้จะช่วยให้สีบลัชกลืนกับผิว จะเข้มจะบาง แล้วแต่ชอบเลยค่ะ
  • สีอายแชโดว์ที่ชอบใช้ประจำคือไม่พ้นโทนชมพู ส้ม บางทีก็ม่วง แล้วแต่อารมณ์เลยค่ะ ไม่มีตายตัว ลุคนี้เราแต่งตาคล้ายลุคก่อนหน้า แต่เน้นชมพูนิดๆ แต่เพิ่มชิมเมอร์แท็บที่กลางตา เพิ่มความน่ารัก
  • ปกติเราไม่ค่อยกรีดอายไลเนอร์ นานๆที จะชอบเขียนอินไลน์เนอร์สีน้ำตาลมากกว่า ไม่อยากให้ตาดูดุตลอดเว และมันช่วยลดอายุลงไปได้ นิดนึงก็เอาอะนะ อิอิ
  • เขียนอินไลน์เนอร์ ค่อยๆลากจากกลางตา แล้วไปถมหัวตาเบาๆ แล้วใช้แปรงหัวตัดเฉียง ลากให้ฟุ้งๆตาจะดูหวาน วิงค์หางเล็กน้อย
  • เขียนคิ้วตามโครงเลยค่ะ บางวันก็อยากเขียนตรงๆหน่อยแบบสาวเกาหลี ก็น่ารักไปอีกแบบ แล้วใช้แบบฝุ่น สีน้ำตาลกลางระบายส่วนที่ว่าง
  • ใครขนตายาวแล้วทิ่มลงแบบเรา แนะนำให้ดัดขนตาแบบ 3 Step โคน-กลาง-ปลาย ทำ 2 รอบ ขนตาจะงอนเด้งทั้งวัน 
  • ใช้มาสคาร่าสีน้ำตาลเข้ม หรือจะสีดำ แล้วแต่ถนัด ปัดทั้งบน-ล่าง ขนตาได้เลย
  • สำหรับบลัชออน จากที่เราลงแบบครีมไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อความติดทน แล้วทับด้วยแบบฝุ่นบางๆอีกที
  • คอนทัวร์ตามจุดต่างๆที่ต้องการ ของเราเน้นจมูกหน่อย ชอบแบบพุ่งนิดๆ
  • ลุคนี้ทาปากแดงๆฉ่ำๆ โดยใช้ลิปเนื้อแมทลงก่อน เบลนด์สีด้วยนิ้ว แล้วทาลิปกลอสอีกทีค่ะ




________ FINISH LOOK ________



ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังใช้

 

อย่างที่เราเกริ่นไปเมื่อตอนต้น รองพื้นเอสเต้เป็นอีกแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานในการใช้งาน ซึ่งแอบหวั่นนิดนึงว่าจะหนาเกินไปมั้ย พอได้ลองอย่างจริงจัง อย่างช่วงแรกเราถนัดใช้นิ้วทารองพื้น และไม่ได้กะปริมาณ ทำให้ลงแล้วเกลี่ยไม่ไป เป็นปื้น เลยต้องเปลี่ยนวิธีลง สรุปมาลงเอยที่ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ ที่ช่วยให้ผิวรอดได้ และได้ค้นพบเทคนิกที่สามารถบอกได้ว่า เอสเต้ไม่ได้หนาอย่างที่คิด ขึ้นอยู่กับปริมาณรองพื้นที่เราเลือกใช้มากกว่า


ใครที่ผิวมันแบบเรา ควรใช้แป้งฝุ่นเซ็ตอีกที ส่วนคนผิวแห้วเราว่าใช้ได้ ถ้าใครมี ANR หยดผสมตามลุค Everyday Look ของเรา งานผิวจะสวยกว่ามาก ที่สำคัญคือต้องขึ้นอยู่กับการบำรุงและเตรียมผิวให้ดีค่ะ อย่างตอนที่เราแต่งหน้านี่บอกเลยว่าอัดความชุ่มชื้นไปเยอะ ทั้งลงมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ล็อคความชื้นไว้ แต่ต้องดูเนื้อด้วยนะว่าไปกับรองพื้นได้ไหม แล้วก็มาสก์หน้าทุกวันเลยค่ะ รวมถึงก่อนแต่ง How To ด้วย ผลลัพธ์เลยออกมาค่อนข้างดีเลย 

คำแนะนำ

  • ถ้ามือใหม่หัดใช้ แนะนำว่าควรแตะด้วยนิ้วบางๆก่อน ไม่พอค่อยเพิ่มได้ ป้องกันการเกิดคราบ จะได้ไม่ต้องแต่งหน้าใหม่

  • ใช้ฟองน้ำชุบหมาด จะได้ผิวที่เนียนกว่า เน้นการกดๆ ดีกว่าปาดทีเดียว

  • คนที่ผิวไม่เรียบ การใช้ไพร์เมอร์ลงก่อนรองพื้น จะช่วยให้ผิวดูสมูธ

  • เซ็ตด้วยแป้ง translucent จะได้ฟินิชสวย

  • ขวดแบบใหม่ จะมีฝาแบบปั๊มมาด้วย

สำหรับรองพื้น Estee Lauder ราคา 2,000 บาท ในปริมาณ 30 ml 

ชาวจีบันนิสต้า สามารถช๊อปได้ที่ เคาน์เตอร์เอสเต ลอเดอร์ สยามเซนเตอร์

 และ ออนไลน์ www.esteelauder.co.th


offochu

offochu

สวัสดีค่ะจีบันและเพื่อนๆ เราชื่อ ออฟ นะคะ ชอบสกินแคร์มากๆ ติดตามทุกอย่างเกี่ยวกับสกินแคร์ได้ก็เพราะจีบัน ส่วนเมคอัพนี่ของคู่กันค่ะ แต่งหน้าเป็นได้ก็เพราะจีบันนี่ละ อิๆ

นอกจากความสวยความงามแล้ว life style ที่ชอบคือ เรียนภาษา เป็นคลั่งเกาหลี สะสมต้นไม้

สภาพผิวหน้า : ผิวมันขาดน้ำ,รูขุมขนกว้าง,เป็นสิวบ่อย,มีรอยสิว,ริ้วรอยร่องแก้ม

สภาพผิวกาย : ผิวที่หลังค่อนข้างมัน เหงื่อออกง่าย มีสิว รอยสิวด้วย

สีผิว : NC 20-25

สภาพผม : ผมตรงเส้นเล็ก หนังศีรษะมันมาก ผมร่วง ผมทำสี

Contact Line: chutima_24

FULL PROFILE