[รีวิว] Dermamentor มาส์กหน้าที่คัดสรรมาเพื่อจัดการปัญหาผิวแต่ละรูปแบบ

42 15
WITH <strong>Dermamentor</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)

สวัสดีค่าทุกคน วันนี้ทรายก็กลับมากับรีวิวอีกครั้งแล้วนะคะ

วันนี้เราก็จะอยู่ในหมวดของสกินแคร์เช่นเคย แต่เป็นหมวดที่พิเศษออกมาหน่อย

กับมาส์กหน้านั่นเอง เพราะทรายเป็นคนที่ปกติมาส์กหน้าบ่อยมาก

และเป็นมนุษย์ที่ชอบตุนมาส์ก อยู่ห้องมีติดไว้เป็นตะกร้าตลอด 

เจออะไรใหม่ต้องซื้อ ยิ่งเวลาไปต่างประเทศนี่ชอบเหมากลับมาลอง 

ถึงช่วงนี้จะไปเที่ยวไหนไม่ได้ แต่ในไทยก็มีแบรนด์ใหม่ๆมาให้ลองตลอดนะ 

อย่างแบรนด์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ ก็มีคอนเซ็ปที่น่าสนใจมากๆเลยค่ะ

Dermamentor

เป็นแบรนด์มาส์กหน้าจากเกาหลี 

ที่มีคอนเซ็ปที่แปลกใหม่จากมาส์กปกติที่เราคุ้นชินกัน

เพราะเขาจะให้ความสำคัญกับการที่ user แต่ละคนรู้จักผิวของตัว 

เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง 

โดยเป็นการแก้ปัญหาในงบที่ที่ทุกคนเอื้อมถึง และขั้นตอนไม่ยุ่งยาก


โดยเขานำระบบการจำแนกผิวเป็น 16 บุคลิกผิว 

ที่อ้างอิงมาจาก Bauman Skin Types Systems มาพัฒนา 

และสิ่งที่เก๋มากๆ คือเขาเอาคาแรคเตอร์ของผิวแต่ละแบบ 

มาผูกเข้ากับนางในวรรณคดีไทย 




ในเซ็ตจะมีการ์ดคัสตอมสำหรับเราโดยเฉพาะ 

และมีสติ๊กเกอร์นางในวรรณคดีไทยให้มาด้วย 

น่ารักมากก ชอบความครีเอทีฟของเขา


โดยผลิตภัณฑ์ของเขาจะโฟกัสที่ปัญหาผิว 

โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก 

1. กระจ่างใส  (Brightening) - สีเขียว

2. ต่อต้านริ้วรอย (Wrinkle) - สีม่วง

3. ปัญหาที่เกิดจากผิวอ่อนแอ ( Problem) - สีส้ม

แต่ละกลุ่มจะมีสีของตัวเอง ทำให้จำได้ง่ายด้วย


โดยสภาพผิวทรายจะจัดอยู่ในหมวดที่ 3 

ปัญหาของผิวทรายคือ สิว รอยสิว หน้ามัน รูขุมขนกว้างค่ะ


หลังจากทำแบบทดสอบก็ได้มาเป็นตัวนี้

(สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบได้ที่เว็บ Dermamentor)


ทางแบรนด์บอกมาว่า มาส์กตัวนี้ใส่สารสกัดจากธรรมชาติมาถึง 7 ชนิด

เป็นสารสกัดที่ช่วยในการต่อต้านแบคทีเรีย 

ฟื้นฟูผิวเสีย ปรับผิวให้ชุ่มชื้นและยืดหยุ่นขึ้น

และช่วยรักษาสภาพผิวที่อักเสบ และปรับสมดุลของผิวเพื่อให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น


ส่วนประกอบ:

Lactobacillus, Soybean Ferment Extract, White Wilow Bark Extract, Cinnamomum Cassis Bark Extract, Cypress tree Leaf extract, Origanum Vulgare Leaf Extract, สารสกัดจากราก  Scutellaria Baicalensis, and Portulaca Oleracea Extract


พูดถึงจุดเด่นของมาส์กตัวนี้ คงต้องเป็นขั้นตอน 2 สเต๊ป 

ซึ่งหลายคนอาจจะแบบแล้วมันใหม่ยังไง? 

เพราะมาส์กหลายๆตัวก็มีพรีเซรั่มมาคู่กับแผ่นมาส์ก?


แต่ตัวนี้เขาต่างที่ Step 1 ไม่ได้มาในรูปแบบเซรั่ม 

แต่มาในแบบของ Capming Spot Pad 

เป็นเจ้าตัวแผ่นกลมๆสำหรับดูดซับสิ่งสกปรกในจุดที่มีปัญหาโดยเฉพาะ


วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ ลอกออกจะแผ่นแล้วแปะไปบนหน้าได้เลย 

เนื้อเขาจะคล้ายๆแผ่นมาส์ก เกาะหน้าได้ดีจนถึงตอนลอกแผ่นมาส์กออกเลย

หลังจากนั้นก็ตามด้วย Step 2 

ด้วยการแปะแผ่นมาส์กซึ่งทำมาจากเนื้อเยื่อพืชลงไป 

แผ่นมาส์กคือเกาะหน้าดีมาก ไม่ไหลจากหน้า และแนบเนียนสนิทไปกับผิว 


ซึ่งส่วนที่ 2 เขาใส่สารสกัดจากชาเขียวมาด้วย 

มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว


ส่วนใครที่ไม่คุ้นชินกับวัสดุที่ทำมาจากเนื้อเยื่อพืช 

หรือ Bio-Cellulose ที่ทางแบรนด์เลือกใช้ 

ข้อดีของตัวนี้คือเขามีโครงสร้างขนาดเล็ก คล้ายกับโปรตีนบนผิวหนังของเรา 

เวลาใช้จะรู้สึกเหมือนไม่ได้แปะอะไรบนใบหน้า สบายหน้า 

และเจ้าตัวนี้เขาทำหน้าที่ดูดซับสารสกัดได้ดีมากๆ 

ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะได้รับสารสกัดอย่างเต็มเปี่ยมแน่นอน

ทรายลองมาส์กทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที มาส์กก็ยังไม่แห้ง 

ถือว่าตัวชีทมาส์กอุ้มความชุ่มชื้นได้ดี


ผลลัพธ์หลังใช้

บริเวณที่แปะแผ่นกลมๆไว้ จะเป็นจุดที่แดง ระคายเคือง 

สังเกตุได้เลยว่าแดงน้อยลง ผิวส่วนอื่น คือชุ่มชื้นและฉ่ำมากๆ 

ทรายแนะนำว่าให้ใช้ก่อนนอนจะดีที่สุดค่ะ 

เพราะสารสกัดต่างๆจากธรรมชาติจะช่วยให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ 

จะได้หลับสบายค่ะ ?


เป็นอีกแบรนด์นึงที่นอกจากผลิตภัณฑ์จะดีแล้ว 

ยังมีแนวคิด และคอนเซ็ปที่น่าสนใจและสร้างสรรมากๆ

ทรายบอกเลยค่ะว่าห้ามพลาด ควรค่าแก่การลองสุดๆ


Zisel Beauty

Zisel Beauty

รีวิวสกินแคร์ เมคอัพตามประสาคนบ้าช๊อปปิ้งเลยต้องหาทางระบาย
Makeup/Lifestyle/Foods

FULL PROFILE