[Review] สกินแคร์ “ลดสิว” ราคานักศึกษา

45 13
สวัสดีค่า นี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนนะคะว่าเราเป็นคนที่ผิวมันแต่ขาดน้ำและก็ผิวแพ้ง่ายด้วยค่ะ ในช่วง4ปีที่ผ่านมาเรามีปัญหาเรื่องแพ้น้ำที่หอค่ะ ทำให้สิวเห่อขึ้นเยอะมาก ตอนนั้นก็เครียดนะคะ แต่เราก็ไม่ได้รักษาดูแลผิวจริงจังอะไรเลยค่ะ เพราะคิดว่าไม่ต้องเจอผู้คนมาก ไปเรียนแล้วก็กลับหอ ถ้าวันไหนต้องออกไปเจอคนเยอะๆเช่นเลี้ยงสายรหัสค่อยแต่งหน้าอะไรแบบนี้ค่ะ จนกระทั่งปีที่ผ่านมาเราต้องฝึกงานแล้วเจอคนเยอะ ถ้าจะให้แต่งหน้าทุกวันก็ไม่ไหวแล้วก็กลัวสภาพหน้าจะยิ่งพังเข้าไปอีกจากการแต่งหน้า เราเลยเริ่มที่จะรักษาสิวอย่างจริงจังค่ะ ส่วนตอนนี้หน้าเราดีขึ้นมากแล้ว ถึงจะไม่หาย100% แต่ก็โอเคกับผลลัพธ์

โอเค เรามาเริ่มกันเลยนะคะ
อย่างแรกคือไม่แต่งหน้าเลยค่ะ (ซึ่งดีที่ว่าเป็นช่วงโควิดใส่แมสก็เลยยังไม่มีใครเห็นหน้าเยินๆของเรา)
ต่อมาก็สกินแคร์ค่ะ เราขอแบ่งเป็นช่วงเช้ากับช่วงเย็นนะคะ

ช่วงเช้า

ตื่นนอนมา เราจะทานวิตามินซีคู่กับคอลลาเจนตามด้วยน้ำเปล่า1แก้วก่อนค่ะ หลังจากนั้นค่อยไปล้างหน้าแปรงฟันค่ะ
1. Innisfree bija foam
ตัวนี้เป็นลูกรักของเราเลยค่ะ ใช้มาได้ประมาณ4หลอดแล้ว ตัวนี้จะช่วยลดสิวและป้องกันการเกิดสิวค่ะ ส่วนตัวเราใช้แล้วรู้สึกว่าล้างหน้าสะอาดแต่ไม่ทำให้หน้าตึงเกินไป และช่วยลดความมันบนใบหน้าด้วยค่ะ
(ตัวนี้อยู่ในห้องน้ำเลยไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เพื่อนๆสามารถsearch หาใน googleได้ค่า)

ราคา 190-360 บาท (ขึ้นอยู่กับพรีออเดอร์หรือซื้อที่ช้อปค่ะ)
เราได้มาในราคา 230 บาท (เราซื้อตอนไปเที่ยวเกาหลีค่ะ)

2. Anua Heartleaf soothing toner
โทนเนอร์พี่จุนตัวดีตัวดัง คิดว่าหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีค่ะ เราจะใช้ตัวนี้เป็นแบบน้ำตบไปเลย เพราะไม่อยากใช้ลำสีเพราะจะทำให้ระคายเคืองหน้าได้ค่ะ ซึ่งโทนเนอร์ตัวนี้ไม่ได้รู้สึกว่าเน้นในเรื่องของการลดสิวนะคะ ตัวนี้จะทำให้ผิวหน้าเราแข็งแรงขึ้นจึงทำให้ลดการเกิดสิวมากกว่าค่ะ
ราคา 350-580 บาท ปริมาณ 250 ml (เราได้มาในราคา 490 บาทในofficial shop ตอน flash sale ค่ะ)

3. Anua heartleaf soothing ampoule
ตัวนี้เป็นแอมพูลเข้มข้นค่ะ ซึ่งจะบำรุงล้ำลึกมากกว่าตัวเซรั่ม แต่ไม่ได้ซึมยากนะคะ สรรพคุณก็คล้ายกับตัวโทนเนอร์ค่ะ จะเน้นช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงมากกว่า แต่ที่ตัวนี้เด่นกว่าโทนเนอร์คือเรารู้สึกว่าเขาช่วยลดผดบนหน้าผากด้วยค่ะ
ราคา 400-600 บาท ปริมาณ 30 ml (เราได้มาในราคา 540 บาทจากร้านพรีออเดอร์ค่ะ)

4. The SAEM eco earth power sunscreen spf 50 PA++++
ครีมกันแดดตัวนี้ก็เป็นลูกรักเช่นกันค่ะ ใช้หมดไป5หลอดแล้ว ตอนนี้กำลังใช้หลอดที่6ค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราไปได้จากเกาหลีมาค่ะ เดินตามร้านนู้นนี้ไปเรื่อยๆแล้วเจอพนักงานร้านขายตรงมาว่า เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ตอนนั้นเราก็เลยซื้อมาแบบไม่ได้หวังผลอะไรค่ะ แต่พอใช้เรารู้สึกว่ามันดีเกินคาดไปเลย ตัวนี้จะช่วยปรับผิวให้สว่างขึ้นเล็กน้อยค่ะ และที่สำคัญเลยคือไม่อุดตันและไม่ทำให้เหนอะหนะหน้า ซึ่งเหมาะกับคนหน้ามันแบบเรามากๆค่ะ
ราคา 360 บาท 50 กรัม ข้อเสียคือค่อนข้างหาซื้อในไทยได้ยากค่ะ ร้านพรีออเดอร์ก็ไม่ค่อยเปิดพรีตัวนี้กัน (เราได้มาแบบ1แถม1 ตกหลอดละ180บาทที่เกาหลีค่ะ ไปหิ้วทีไรตัวนี้ก็จัดโปรทุกที ดีมากๆเลยค่ะ)
ช่วงกลางคืน

ในตอนกลางคืนจะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมา2-3ขั้นตอนนะคะ โดยเริ่มจากขั้นตอนแรกคือใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะทาแค่ครีมกันแดดแต่เราก็ควรใช้คลีนซิ่งด้วยนะคะ เพื่อลดการอุดตันจากสิ่งสกปรกภายนอกค่า

1. Nivea micellair oxygen boost acne care
เป็นคลีนซิ่งที่ถูกและดีสำหรับเราเลยค่ะ ใช้หมดมาหลายขวดแล้วค่ะ หลังเช็ดหน้าจะไม่รู้สึกแห้งตึง ไม่แสบหน้า นอกจากนี้ยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียด้วยค่ะ
ราคา : 99-249 บาท ตามขนาด สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าทั่วไป (เราได้มาตอนโปร7-11 ขวดเล็ก1แถม1ค่ะ)

2. ยาแต้มสิว Enzixid5 anti acne gel benzoyl peroxide
เป็นเจลแต้มสิวที่เรารู้สึกว่าใช้แล้วไม่ระคายเคืองผิว ไม่แสบผิว ไม่ทำให้ผิวบางค่ะ เลยชอบใช้ตัวนี้มากๆ ซึ่งเราเริ่มใช้จาก 2.5 ก่อนแล้วค่อยเป็น 5 นะคะ เราจะแต้มไว้หลังเช็ดคลีนซิ่งออก ทิ้งไว้ประมาณ15นาทีค่ะ

ราคา : 50-60 บาท น่าจะมีขายที่ร้านยาใกล้บ้าน ห้างสรรพสินค้าทั่วไปค่ะ เราซื้อร้านยาใกล้มอ จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไรนะคะ

3. ล้างหน้า ใช้ bija foam ตัวเดิมค่ะ
4. Skin 1004 madagascar centella toning toner
เป็นโทนเนอร์ที่เราเพิ่งใช้ได้ประมาณเดือนกว่าๆ แต่เป็นโทนเนอร์อีกตัวที่ใช้แล้วประทับใจมากๆค่ะ ตัวนี้ช่วยลดสิว ลดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้หน้าแข็งแรงขึ้น แต่ข้อเสียคือจะเห็นผลช้าหน่อยนะคะ ต้องอดใจรอค่ะ อย่างของเราใช้เดือนหนึ่งถึงจะเห็นผลค่ะ

ราคา : 500 กว่าบาท (210ml) หาซื้อได้ที่ style han , พรีออเดอร์เกาหลีทั่วไปจะได้ราคาถูกกว่าค่ะ (เราซื้อที่style han ตอนโปรลดเหลือ 550บาทค่ะ)

5.Skin 1004 madagascar centella ampoule
ตัวนี้ไม่อวยไม่ได้จริงๆค่ะ เป็นเดอะเบสในใจเราเลย ทั้งตัวเนื้อแอมพูล กลิ่น ความรู้สึกหลังใช้และผลลัพธ์ที่ได้ ตัวนี้ช่วยลดสิวได้ดีมากๆค่ะ โดยเฉพาะสิวไม่มีหัว (ซึ่งเรามีเยอะมาก) ตัวนี้จะทำให้สิวยุบไป ไม่ทำให้เจ็บค่ะ เวลาใช้เราจะทาทั่วหน้าก่อนแล้วค่อยเอามาแต้มเพิ่มในจุดที่เป็นสิวไม่มีหัวค่ะ ใช้สัก2-3วันแบบนี้เฉพาะกลางคืนก็จะทำให้สิวยุบแล้วค่ะ

ราคา : 400-600 บาท ปริมาณ55-100 ml หาซื้อได้ที่ร้านพรีออเดอร์เกาหลีหรือstyle han ค่ะ (เราซื้อจาก g-market ตอนโปรส่งตรงจากเกาหลีแบบแพคคู่ตกอันละ 400กว่าบาท ปริมาณ 100ml ค่ะ)

6. Corthe moisture-rx recharging
หรือทีเขาเรียกกันว่า ครีมแจฮยอน นั่นเองค่า สารภาพเลยว่าตอนแรกซื้อตามแจฮยอนนี่แหละ และก็ไม่ได้หวังผลอะไรมากเลยค่ะ ถึงจะไม่ได้ช่วยเรื่องสิวโดยตรงแต่ตัวนี้ทำให้หน้าชุ่มชื้นขึ้นพร้อมกับช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นค่ะ โดยส่วนตัวเราบีบแค่ปริมาณนิดเดียวทาทั่วหน้าเพราะจะได้ไม่เหนียวหน้าหรือหนักหน้าค่ะ
ราคา : 500 กว่าบาท (150ml) ตามร้านพรีออเดอร์เกาหลีค่ะ

6. Smooto Aloe E snail bright gel
เป็นครีมซอง7-11 ที่ดีที่สุดสำหรับเราเลยค่ะ ตัวนี้ทั้งช่วยลดผด ลดสิวอักเสบ แล้วช่วยปลอบประโลมผิวจากมลภาวะข้างนอกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหน้าด้วยค่ะ เราจะโบกใช้เหมือนเป็น sleeping mask เลยนะคะ เนื้อจะเป็นเจลเย็นๆ ซึมไวไม่หนักหน้าค่ะ
ราคา : 49 บาท ที่7-11

แถม
ตัวนี้ไม่เกี่ยวกับสกินแคร์ลดสิวแต่เป็นลิปสลีปปิ้งมาร์สราคาย่อมเยาว์ค่ะ
นั่นก็คือ Klavuu nourishing care lip sleeping pack ค่า
ตัวนี้เนื้อจะไม่เหนอะมาก สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและกลางวันเลยค่ะ ถ้าตอนกลางคืนโบกเยอะๆ ตื่นมาจะรู้สึกว่าปากนุ่มขึ้น ถ้าใช้เป็นประจำจะทำให้ริมฝีปากชมพูขึ้นด้วยค่ะ
ราคา : 200-300บาท ที่ร้านพรีออเดอร์เกาหลีทั่วไป / eve and boy

สกินแคร์ที่เราใช้ทุกวันที่ช่วยลดสิวและราคานักศึกษาจะมีประมาณนี้นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ แล้วก็ใครที่เป็นสิวเยอะๆอย่าเพิ่งท้อนะคะ เราเข้าใจค่ะ ค่อยๆบำรุงผิวเราไปเรื่อยๆจะดีขึ้นเองค่ะ
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยค่า ❤️


PPandora

PPandora

P-PANDA
1997’s
Oily and sensitive skin type

for work , contact me…
line : @434vpemt

FULL PROFILE